เช้าวันรุ่งขึ้น
แสงแดดยามเช้าส่องผ่านม่านหน้าต่าง กู้ฉางชิงขยี้ตาและลุกขึ้นนั่ง
ตื่นขึ้นมาเธอก็รู้สึกปวดเมื่อยไปทั่วร่างกาย ราวกับจะหักอย่างไงอย่างงั้น
เมือคืนเธอถูกเฟิงจิงเหยาโยนอย่างแรง
เขาไม่หยุดที่จะขอครั้งแล้วครั้งเล่า จนกู้ฉางชิงเข่าสั่นไปหมดทั้งขา
เธอเองก็ไม่ได้ขัดขืน แต่ถูกข่มด้วยพลังที่ร้อนแรง
นึกถึงเรื่องนี้แล้ว กู้ฉางชิงรู้สึกทั้งเหนื่อยและง่วง เอียงศรีษะพลิกไปอีกข้างและนอนหลับไป
กู้ฉางชิงหลับเป็นเวลานาน ตื่นอีกทีก็จวนจะเที่ยงแล้ว
“ทำไมเวลาผ่านไปไวขนาดนี้! ”
กู้ฉางชิงพึมพำและลุกไปอาบน้ำแต่งตัว คนรับใช้เตรียมอาหารกลางวันเรียบร้อยแล้ว
วันนี้เธอรู้สึกขี้เกียจ จึงให้คนยกอาหารขึ้นมาที่ห้อง
ทานได้สักครู่ เสียงแจ้งเตือนในโทรศัพท์เธอก็ดังขึ้น
ตอนที่อาบน้ำก็มีแจ้งเตือนแล้วแต่กู้ฉางชิงไม่สนใจ เปิดข้อความขึ้นมา
มีข้อความใหม่กว่า10ข้อความแจ้งเข้ามา เป็นข้อความจากเฟิงจิงเหยาทั้งหมด
กู้ฉางชิงตบหน้าผาก “ซวยแล้ว! ฉันลืมไปว่าวันนี้มีนัดกับฟู่หยุนชวน”
เธอรีบวางตะเกียบและตอบกลับข้อความ “โอเค ฉันกำลังรีบไป รอฉันแปปนึงนะ”
ทานไปสองสามคำ กู้ฉางชิงก็รีบเก็บกวาดและลงไปข้างล่าง
คนขับรถรออยู่ข้างล่างแล้ว เห็นเธอเดินลงมา รีบตะโกน “คุณนายรอง! ”
“อืม ” กู้ฉางชิงตอบ ก้มลงมองนาฬิกา “ขับเร็วหน่อย ฉันต้องไปให้ทันเวลา”
“ได้ครับคุณนายรอง! ”
ได้ยินเขาตอบกู้ฉางชิงผ่อนคลายลงเล็กน้อยเอนหลังไปพิงเบาะและหลับตาลง
ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ไปตอบตกลงกับฟู่หยุนชวน แต่เธอก็ไม่อยากเป็นคนไม่ตรงต่อเวลา
นี่คือคติการใช้ชีวิตของเธอ
ทันทีที่กู้ฉางชิงออกจากบ้าน เสี่ยวเหลียนโทรศัพท์บอกลู่ซือยวี่ “คุณนายลู่! ฉันเสี่ยวเหลียน ”
“โทรหาฉันเวลานี้ทำไมงั้นหรือ?”
ดูเหมือนว่าลู่ซือยวี่กำลังยุ่ง ขณะที่กำลังถือสายโทรศัพท์ก็พูดขึ้นว่า “ถูกต้อง ชั้นวางของเอาไปไว้ทางนุ้น โต๊ะนี้ขยับไปหน่อยอย่าให้มันขวางประตู”
บริษัทที่ก่อตั้งใหม่ พื้นที่ทำงานกำลังถูกสร้างใหม่ นอกจากติดต่อภายนอกแล้วยังมีงานภายในต้องทำอีกมากมาย
ลู่ซือยวี่เพิ่งเข้ามา ก็อยากได้รับการอนุมัติจากเฟิงจิงเหยาในการรับผิดชอบทั้งเรื่องเล็กเรื่องใหญ่
ฟังดูเธอไม่ว่าง มือเสี่ยวเหลียนที่ถือโทรศัพท์เต็มไปด้วยเหงื่อ “คุณนายลู่ หากชักช้าจะไม่ทันการ คุณนายรองกำลังไปพบชายอื่นแล้ว ”
“อะไรนะ? แกแน่ใจหรอ? ”
ลู่ซือยวี่กระพริบตาเป็นวาว ตาทั้งคู่หรี่เล็กเป็นรูปสระอี
เสี่ยวเหลียนมั่นใจ “ฉันได้ยินกับหู และเห็นกับตาว่าเธอออกไปแล้ว”
“ดี ฉันรู้แล้ว แกเฝ้าดูต่อไป”
หลังจากที่วางโทรศัพท์ ใบหน้าของลู่ซือยวี่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม
ซู่ยี่บังเอิญเดินผ่านมาพบลู่ซือยวี่ ทักทายอย่างสุภาพ ” คุณนายซือยวี่ ”
ลู่ซือยวี่พยักหน้า “เธอกำลังจะไปไหน? ใบหน้าเต็มไปด้วยความกังวล”
“ออ ไม่มีอะไร ” ซู่ยี่ตอบ ” ท่านประทานเฟิงมีนัดประชุมกับเถิงหลงตอนบ่าย และให้ฉันหาสถานที่ประชุม แต่ฉันยังหาไม่ได้ว่าที่ไหนเหมาะสม กังวลมาก ”
ลู่ซือยวี่กระพริบตาและพูดใจ ไม่เสียแรงที่มาจริงๆ
“ร้านกาแฟหวงเจ๋ทางตอนใต้ของตลาดสภาพแวดล้อมไม่เลว บรรยากาศเงียบสงบเหมาะกับการสนทนา จองที่ร้านนั้นก็ได้นะ ”
ซู่ยี่หายใจเข้า “คุณนายซือยวี่ช่วยฉันไว้มาก ถ้าอย่างนั้นฉันขอตัวลาก่อน ”
ลู่ซือยวี่พยักหน้า เมื่อเห็นอีกฝ่ายเดินไปไกลแล้วจึงหยิบโทรศัพท์ออกมาและโทรหาคุณนายเฟิง
“คุณน้าหมิง ฉันซือยวี่ เพื่อนฉันเพิ่งบอกว่า เห็น….ฉางซินนัดพบชายอื่นไว้ที่ร้านกาแฟหวงเจ๋ ”
ลู่ซือยวี่พูดด้วยน้ำเสียงลำบากใจ “ฉันกำลังทำงาน ไม่รู้ว่าต้องจัดการอย่างไร”
คุณนายเฟิงถอนหายใจ “กู้ฉางซินนี่นะ! ซือยวี่แกตั้งใจทำงานเถอะไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องนี้ ฉันจะจัดการเอง ครั้งนี้ฉันพูดอะไรจะไม่ให้มันมีอิสระอีกต่อไป”
คุณนายเฟิงพูดจบและวางสายไป ฟังออกว่าเธอกำลังโกรธลุกเป็นไฟ
ลู่ซือยวี่จ้องหน้าจอโทรศัพท์ที่วางสายไปสักครู่ และยิ้มมุมปากออกมาอย่างเจ้าเล่ห์
กู้ฉางซินดูสิ้ว่าครั้งนี้แกจะแก้ตัวอย่างไร
แค่เวลาไม่นาน ก็สนิทสนมกับฟู่หยุนชวน
……
ในร้านกาแฟหวงเจ๋ ทันทีที่กู้ฉางชิงเปิดประตูเข้าไปก็เห็นฟู่หยุนชวนที่กำลังนั่งรอ
เขาสวมสูทสีฟ้าอ่อน ในมือถือแก้วกาแฟ ตาจ้องมองไปที่เข็มนาฬิกา ดูเหมือนว่าจะรอเป็นเวลานานแล้ว
กู้ฉางชิงเดินไปและก้มหัว “ขออภัยที่ให้รอนาน”
ทันทีที่นางพูดจบ ฟู่หยุนชวนถึงหันกลับมา “ไม่เป็นไร ช่วงนี้ฉันเองก็ไม่มีเรื่องด่วนอะไร ”
ในขณะที่ฟู่หยุนชวนพูดก็ลากเก้าอี้ให้กู้ฉางชิง “เชิญนั่ง! ”
กู้ฉางชิงพยักหน้ากำลังจะนั่งลง ก็มีคนเปิดประตูเข้ามา นั่นคือคุณนายเฟิง นิ่งอึ้งไปชั่วขณะ
คุณนายเฟิงเดินมาตรงหน้าและถามด้วยอารมณ์ดุเดือด “กู้ฉางซิน แกกล้าดียังไงมานัดพบชายอื่นลับหลังเฟิงจิงเหยา? ”
ผู้คนในร้านกาแฟไม่มากนัก ทุกคนหันมามอง
กู้ฉางชิงอึ้ง
นัดพบชายอื่น?
ฟู่หยุนชวนขมวดคิ้ว “คุณน้าเข้าใจผิดหรือเปล่า? ”
“เข้าใจผิด? แต่งงานแล้วแต่ยังนัดพบชายอื่นสองต่อสอง ฉันเข้าใจผิดอะไร? ”
คุณนางเฟิงถามด้วยคำพูดรุนแรง
ทันใดนั้นแขกโต๊ะอื่นรอบๆก็จ้องมองไปที่กู้ฉางชิงกับฟู่หยุนชวนด้วยสายตาที่เหยียดหยาม
กู้ฉางชิงทนไม่ได้มือกำหมัด อ้าปากจะอธิบาย “แม่ มันไม่ใช่อย่างที่คิด……”
ไม่ทันพูดจบก็ได้ยินเสียงประตูร้านกาแฟถูกคนผลักเข้ามา
เฟิงจิงเหยาพาลู่ซือยวี่ และชายวัยกลางสวมเสื้อสูทเดินเข้ามา
เห็นได้ชัดว่าชายวัยกลางเป็นลูกค้าของเฟิงจิงเหยา ทั้งสองคนกำลังสนทนากัน ทันใดนั้น สายตาก็หันไปมองทางนั้นโดยไม่ตั้งใจ……