“น้าหมิง ทำไมมาอยู่ที่นี่ได้? ”
ลู่ซือยวี่เดินเข้ามาก็เห็นโต๊ะของกู้ฉางชิงโต๊ะแรก แกล้งทำเป็นตกใจ
ทั้งสองฝ่ายพบเจอกัน บรรยากาศค่อนข้างเงียบและอึดอัด
ลู่ซือยวี่ไม่ทันตั้งตัวหัวไปมองเห็นฟู่หยุนชวน “หยุนชวน? ก็อยู่ที่นี่ด้วยหรอ? ”
ฟู่หยุนชวนที่กำลังลากเก้าอี้ให้กู้ฉางชิง ทั้งสองคนยืนอยู่ด้วยกัน ราวกับว่ามีความสัมพันธ์ต่อกัน
คุณนายเฟิงยืนอยู่หน้าทั้งสองคนด้วยความโกรธ
เฟิงจิงเหยาเห็นฉากนี้ สายตาเย็นชามองไปที่กู้ฉางชิงกับฟู่หยุนชวน ใบหน้าเศร้าหมองไปไม่กี่นาที
ราวกับว่ากำลังมีพายุลูกใหญ่ที่พร้อมถล่มทุกเมื่อ!
กู้ฉางชิงมองไปที่ทุกคน และรู้สึกถึงความไม่พอใจของเฟิงจิงเหยา อดไม่ได้ที่จะตกใจ
ต่อมานึกย้อนขึ้นได้ว่า……เรื่องราวทั้งหมดของวันนี้ช่างบังอิญเสียจริง!
ไม่ใช่แค่เธอกับฟู่หยุนชวนนัดพบ คุณนายเฟิงก็มาและเฟิงจิงเหยากับลู่ซือยวี่ก็ยังมาด้วย!
ในขณะที่กู้ฉางชิงกำลังคิดสายตาก็เหลือบไปเห็นลู่ซือยวี่กำลังยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์
เธอรับรู้ขึ้นมาทันที
ที่แท้ก็วางแผนไว้แล้ว!
เหอะ ลู่ซือยวี่นังตัวดี!
กู้ฉางชิงขำในใจ แต่ก็ไม่อยากเล่นตามแผนของลู่ซือยวี่
“ฉันแค่มาคุยเรื่องธุรกิจกับคุณฟู่” นางตอบด้วยใบหน้าที่นิ่งไม่แยแส
ร้านกาแฟใหญ่ขนาดนี้ ต่อให้ทำเรื่องที่น่าอับอาย เธอก็คงไม่เลือกสถานที่นี้หรอก
คุณนางเฟิงขำแห้งและพูดว่า “คุยธุรกิจ? แกนี่มันโกหกไม่เนียนเลย ”
“คุณนายเฟิง เรามาที่นี่เพื่อคุยเรื่องธุรกิจจริงๆ ”
ฟู่หยุนชวนเห็นเช่นนี้จึงพูดขึ้นว่า “ฉันเห็นถึงความสามารถของคุณฉางและอยากจะเชิญเข้าร่วมทำงานกับบริษัทใหม่ของเรา มันไม่ใช่อย่างที่คุณคิดเลย โปรดอย่าเข้าใจผิด ”
ในขณะที่เขากำลังพูดก็ได้หยิบสัญญาขึ้นมา “ฉันได้ร่างสัญญาหุ้นไว้ก่อนแล้ว แค่เพียงคุณฉางเซ็นตกลง เราก็จะทำงานร่วมกันทันที ”
สัญญาหลายฉบับก็ถูกวางเอาไว้บนโต๊ะ
ดูเหมือนว่าจะเป็นการคุยเรื่องธุรกิจที่แท้จริง
ลู่ซือยวี่และคุณนายเฟิงสบตากัน หัวใจเต้นเร็วทันที
เป็นไปได้อย่างไร?
ฟู่หยุนชวนนัดพบกับกู้ฉางชิงเพียงเพื่อหารือเรื่องธุรกิจ?
แต่ว่าเสี่ยวเหลียนไม่ได้บอกกับฉันเช่นนี้
คิดๆแล้ว เสี่ยวเหลียนแค่บอกว่าออกไปพบชายอื่นแต่ไม่ได้บอกว่าเรื่องอะไร?
พวกเขาไม่ทันคิดก็นึกว่ากู้ฉางชิงออกไปทำตัวมั่ว
ตบหน้าเบาๆ คุณนายเฟิงรู้สึกร้อนรนที่ใบหน้า มองไปที่ตาของกู้ฉางชิงเต็มไปด้วยความบริสุทธิ์
เธอมีความสามารถแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นที่ต้องการของบริษัทอื่น?
ความสามารถของกู้ฉางชิงนี้มาจากไหน?
สายตาของทุกคนจ้องมองไปที่กู้ฉางชิงด้วยความสงสัย
“เซ็นตกลงหรือยัง? ”
เสียงของเฟิงจิงเหยาถามขึ้นจากข้างๆ เขารู้จุดประสงค์ของฟู่หยุนชวนที่นัดพบกู้ฉางชิงแต่แรกแล้ว แต่ใบหน้าก็ยังเต็มไปด้วยความไม่พอใจ
กู้ฉางชิงยังไม่ทันตอบ ก็ถูกลู่ซือยวี่ขัดจังหวะ “ไม่คาดคิดว่ากู้ฉางชิงจะมีความสามารถขนาดนี้ แถมยังเป็นที่ชื่นชอบของคุณฟู่ สายตาคุณฟู่นี่ดีจริงๆ ”
คำพูดของนาง เหมือนกำลังยกย่องกู้ฉางชิง
แต่กู้ฉางชิงรู้ว่าเรื่องคงไม่จบแค่นี้
ปรากฏว่าไม่กี่นาทีต่อมาลู่ซือยวี่ก็เปลี่ยนเรื่องและพูดว่า “พี่จิงเหยา ในวงการเสื้อผ้าฟู่ซื่อกรุ๊ปก็ถือว่าเป็นบริษัทที่เก่าแก่ของวงการ ถ้าหากฉางชินได้เข้าไปพัฒนาดีๆ อนาคตอาจฝีมือดีไร้ขีดจำกัด ฉันว่าพี่ยอมให้เธอตอบตกลงเถอะ เธอจะได้ไม่ต้องทำตัวลับๆล่อๆ ให้พวกเราเข้าใจผิดอีก ”
คำพูดที่ลึกซึ้งของลู่ซือยวี่ดูเหมือนอยากช่วยกู้ฉางชิง
เฟิงจิงเหยาไม่ได้สนใจคำพูดของเธอ เดินไปข้างหน้าสองสามก้าวและหยิบสัญญาบนโต๊ะขึ้นมา ยื่นไปที่กลางอกของฟู่หยุนชวน “คุณฟู่ เฟิงซื่อกรุ๊ปของเราก็กำลังก่อตั้งบริษัทออกแบบ ภรรยาของฉันต้องมาช่วยที่บริษัทขอบคุณคุณฟู่ที่ชื่นชมความสามารถของเธอแต่ก็คงต้องทำให้คุณผิดหวัง ตามสบายนะ! ”
เฟิงจิงเหยาคืนสัญญาใส่ในมือของฟู่หยุนชวน
ลู่ซือยวี่ไม่คิดว่าเฟิงจิงเหยาจะทำแบบนี้ ทันใดนั้นหน้าก็แดงราวกับว่าโดนใครบางคนตบมา
คุณนายเฟิงจับมือของลู่ซือยวี่ หน้าตาบูดบึ้ง ต้องการหยุดเฟิงจิงเหยา
แต่ด้วยใบหน้าที่เย็นชาของเขา ทำได้เพียงกลืนมันกลับไป
กู้ฉางชิงก็ไม่คาดคิดว่าเฟิงจิงเหยาจะให้เธอเข้าบริษัทเวลานี้ เพราะข้อต่อรองของเธอสำหรับเฟิงจิงเหยาถือว่ารุนแรงมาก
“ไม่พิจารณาอีกครั้งจริงหรือ? ”
ฟู่หยุนชวนรับสัญญาคือ มองไปที่กู้ฉางชิงอย่างไม่ยอมแพ้
ในเวลาเดียวกัน สายตาของเฟิงจิงเหยามองตรงมา
ราวกับสายตาคู่นั้นกำลังบอกว่า “ถ้าเธอกล้าก็ลองดู!”
กู้ฉางชิงไม่กล้าสบตา ทำได้เพียงยิ้มให้กับฟู่หยุนชวน “ขอบคุณคุณฟู่มากที่ชื่นชมข้า แต่ฉันคงต้องเสียน้ำใจต่อความหวังดีของคุณต้องขออภัยด้วยจริงๆ! ”
ฟู่หยุนชวนได้ยินเช่นนี้ ก็หัวเราะออกมาก “โอเค ช่างน่าเสียดายจริงๆ แต่ว่าหากคุณเปลี่ยนใจ ประตูของฟู่ซื่อกรุ๊ปยินดีต้อนรับคุณเสมอ! ”
ขณะที่เขากำลังพูดก็ได้จัดระเบียบเสื้อผ้า หยิบสัญญาฉบับนั้นพร้อมกับอำลากู้ฉางชิงและจากไป
มองจากด้านหลังของเขาเขาดูเป็นคนมีสง่างดงามและสุภาพมาก
คุณนายเฟิงเห็นสถานการณ์เช่นนี้ กัดฟันพูด “ฉันยังมีธุระ ขอตัวก่อน”
“กลับดีๆนะคุณน้าหมิง ” ลู่ซือยวี่พูดต่อทันที
คุณนายเฟิงพูดจบก็กลับออกไปเลยทันที
เฟิงจิงเหยาหันไปมองกู้ฉางชิงและพูดว่า “เธอกลับไปก่อน รอตกดึกข้ากลับไปค่อยคิดบัญชี”
กู้ฉางชิงรู้สึกสับสนเล็กน้อยพร้อมพยักหน้าตกลง
เห็นเธอตกลงแล้ว เฟิงจิงเหยาหันกลับไปพูดกับคนที่เงียบมาตลอดว่า ” ผู้จัดการหลิว เราไปกันต่อเถอะ! ”
“ได้ครับได้ครับ ” ผู้จัดการหลิวรีบตอบ เฟิงจิงเหยาหันหลังกลับไป
ลู่ซือยวี่ที่อยู่ด้านหลัง เอาแต่จ้องมองไปที่กู้ฉางชิง ดวงตาคู่นั้นปานจะกลืนกินนาง
กู้ฉางชิงขำแห้ง ไม่อยากที่จะสนใจเธอ เก็บของและหันหลังเดินออกไปข้างนอก
เห็นเธอทำเช่นนี้แล้วลู่ซือยวี่ยิ่งไม่เห็นด้วย กัดฟันจนฟันแทบหัก