เฟิงจิงเหยาเปิดประตูเข้าไปด้วยความสงสัย ก็เห็นเฟิงจิงเหยากำลังหาบางสิ่งบางอย่าง
มือของเขาจับท้องไว้อย่างกระวนกระวาย เปิดลิ้นชักหาทั้งหมดแล้วก็ไม่เจอ เขาสั่นไปทั้งตัว
“เป็นอะไรไหม?”
กู้ฉางชิงไม่รู้จะทำอย่างไรจึงพลักประตูเข้าไป
เธอเข้ามาก็เห็นใบหน้าที่ซีดขาวของเฟิงจิงเหยาและคิ้วที่ชนกัน มีเหงื่อที่หน้าผากไหลเต็มไปหมด เจ็บปวดจนพูดออกมาไม่ได้สักคำ
เห็นกู้ฉางชิงเดินเข้ามา จึงล้มตัวไปพิงที่ตัวของนาง
“ปวดท้องเหรอ?
เห็นเขาจับที่ท้องแน่นไม่ขยับ กู้ฉางชิงถามด้วยความความกังวล
เฟิงจิงเหยาพยักหน้าแล้วเก็บอาการไว้
“รอฉันแปปนึง! ”
เธอกระวนกระวายเล็กน้อย พยุงเขาขึ้นมานั่งบนเก้าอี้ และรีบลงไปหายาบรรเทาอาการปวดท้อง เข้าครัวไปเอาน้ำอุ่นก็รีบกลับเข้ามาที่ห้องทำงานทันที
เฟิงจิงเหยาไร้เรี่ยวแรงนอนอยู่บนโซฟา
แค่ชั่วขณะเนื้อตัวเสื้อผ้าเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ
กู้ฉางชิงดูแลเอายาและน้ำร้อนให้เฟิงจิงเหยาทาน จากนั้นก็หยิบผ้าห่มผืนเล็กๆมาห่มตัวเขา
ผ่านไปครึ่งวัน กู้ฉางชิงจึงถาม “เป็นอย่างไรบ้าง ดีขึ้นบ้างไหม? ”
เฟิงจิงเหยาไม่ตอบ แต่กลับจับมือเธอแน่นๆ
กู้ฉางชิงลูบท้องเขาและพูดปลอบเบาๆ
เสียงของเธอนุ่มนวลและผ่อนคลาย ทำให้คนรู้สึกสบายใจ
ผ่านไปพักใหญ่ เฟิงจิงเหยาดีขึ้น เขาเอียงศรีษะไปมองกู้ฉางชิงที่ดูเหนื่อยเล็กน้อยและพูดว่า “โันไม่เป็นอะไรแล้ว เธอเองก็กลับไปพักผ่อนเถอะ ”
เสียงของเขาแหบ แต่อาการก็ดีขึ้นมาก
กู้ฉางชิงพยักหน้าตอบ ” เธอก็อย่าฝืนมากสิ อย่าทำงานจนดึกๆทุกวันแบบนี้ ต้องดูแลตัวเองมากๆนะ ”
ใบหน้าเต็มไปด้วยความจริงจัง ราวกับว่าไม่ตอบตกลงเธอจะไม่ยอมไป
เฟิงจิงเหยาพยักหน้า “ฉันรู้แล้ว ”
กู้ฉางชิงจึงยอมกลับห้องไป ผ่านไปไม่กี่นาทีเขาก็เห็นเฟิงจิงเหยาเดินเข้ามา
ดูอาการแล้วดีขึ้นมาก อย่างน้อยหน้าตาก็กลับมาปกติแล้ว
กู้ฉางชิงรู้สึกประหลาดใจ
หลายวันมานี้เฟิงจิงเหยานอนที่ห้องรับแขก แต่วันนี้กลับมานอนที่ห้องนอนใหญ่
จะว่าไปห้องนอนก็เป็นของเขา รู้เรื่องน้อยก็ทุกข์น้อย กู้ฉางชิงฉลาดขึงเลือกไม่พูดอะไร
เฟิงจิงเหยายังรู้สึกมึนๆเล็กน้อย หยิบเสื้อผ้าและเดินเข้าไปอาบน้ำ เสียงน้ำไหลซ่าๆแผ่วเข้ามาในหูกู้ฉางชิง ทำให้เธอนอนไม่หลับ
จึงหยิบนิตยสารเล่มใหม่ขึ้นมา รอให้เฟิงจิงเหยามานอนไปพร้อมกัน
เธอนอนอยู่บนเตียง และมือถูๆไถๆบนเสื้อผ้าเหล่านั้น ราวกับว่ากำลังศึกษาค้นคว้าบางอย่าง
ผ่านไปสักพัก ก็ได้ยินเสียงเฟิงจิงเหยาเดินออกมา
เขาห่มผ้าเช็ดตัวสีขาวบางๆไว้ ทั้งตัวยังเปียกชุ่มไปด้วยน้ำ
เห็นกู้ฉางชิงยังไม่นอน เฟิงจิงเหยาถามขณะกำลังเช็ดผม ” ช่วงนี้เธอได้วาดออกแบบอะไรบ้างไหม? ”
กู้ฉางชิงพยักหน้า “วาดสิ! ฉันอยู่แต่บ้านไม่มีอะไรทำ”
เฟิงจิงเหยาตอบ “ว่างๆอย่าลืมเอาให้ฉันดูบ้างนะ ”
“ได้สิ ” กู้ฉางชิงตอบอย่างเต็มปากเต็มคำ
เมื่อผมแห้งแล้ว เห็นเขาขึ้นมาบนเตียง ก็วางนิตยสารลงบนหัวเตียง
เฟิงจิงเหยายื่นมือไปปิดไฟบนหัวเตียง
จากนั้นกู้ฉางชิงก็รู้สึกเหมือนมีมือโอบกอดเธอจากด้านหลัง ไออุ่นลมหายใจเบาๆที่ต้นคอ เธออดไม่ได้ที่จะเอนหลังไปใกล้ๆ เป็นค่ำคืนที่ฝันหวาน
เช้าวันรุ่งขึ้น
เมื่อกู้ฉางชิงตื่นขึ้นมาก็รู้สึกข้างกายโล่งๆ ยื่นมือไปจับพบแต่ความว่างเปล่า ดูเหมือนว่าเฟิงจิงเหยาจะออกไปข้างนอกสักพักแล้ว
กู้ชางชิงยืดเส้นยืดสาย ค่อยๆใส่รองเท้าเดินไปที่หน้าต่างและเปิดผ้าม่าน
แสงแดดข้างนอกแยงตาเล็กน้อย กู้ฉางชิงไม่รีบไม่ร้อนค่อยๆเข้าไปที่ห้องอาบน้ำ
เธอแปรงฟันเสร็จกำลังจะล้างหน้า ก็ได้ยินเสียงคนเคาะประตู
“ใคร? ” กู้ฉางชิงเดินไปหน้าประตูและถาม
“ฉันเอง คุณนายรอง นายท่านบอกให้คุณทานข้าวเช้าเสร็จให้ไปที่บ้านใหญ่ ” ผู้ดูแลบ้านพูดจากด้านนอก
“ที่บ้านใหญ่มีเรื่องอะไรงั้นหรอ? ”
กู้ฉางชิงสงสัยและถาม
ดูจากความสัมพันธ์ของเธอกับคุณนายเฟิงแล้ว ทางนั้นไม่มีทางเชิญนางไปที่บ้านใหญ่แน่นอน
ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาวุ่นวายกันจนกู้ฉางชิงไม่อยากไปพบแม่ยายคนนี้
ไม่ต้องพูดถึง ข้างตัวเธอมีลู่ซือยวี่ที่ชอบหาเรื่องอยู่ด้วยตลอดเวลา
นิสัยของเธอไม่ชอบสนใจกับเรื่องหยุมหยิมพวกนี้ เพราะงั้นอยู่ในที่ที่พวกเขาอยู่เป็นอะไรที่ต้องทนฝืนมาก
“ได้ยินว่าวันนี้เป็นวันที่คุณหนูสี่กลับมาจากเมืองฟงเฉิน ทุกคนจะไปทานข้าวพร้อมกันที่นั่น นายท่านก็จะตามไปด้วยทีหลัง ”
ผู้ดูแลบ้านตอบกลับจากประตูด้านนอก
“ฉันรู้แล้ว อีกสักพักไป ”
กู้ฉางชิงถอนหายใจ ทันใดนั้นในสมองก็นึกถึงคนคนนึงขึ้นมา
คุณหนูสี่ของตระกูลเฟิง นามว่าเฟิงจิ้งซู เป็นคุณป้าของเฟิงจิงเหยา
นายท่านมีลูกชายสามคนลูกสาวสองคน พ่อของเฟิงจิงเหยาอายุมากสุด จากนั้นก็ลุงสองคน และเฟิงจิ้งซูกับเฟิงจิ้งหยวน
เฟิงจิ้งซูอายุมากกว่าเฟิงจิงเหยา6ปี หลายปีก่อนแต่งงานกับครอบครัวฐานะดี
ปกตินานๆจะกลับมาครั้ง เธอยังมีลูกสาวหนึ่งคนอายุราวๆห้าหกขวบ
แต่ในความทรงจำของกู้ฉางชิง กู้ฉางซินนึกขึ้นได้ว่าเคยเจอคุณป้าสองครั้งในงานฉลองด้วยกัน
ด้วยเหตุลูกสาวของเฟิงจิ้งซู วิ่งเล่นซนและไม่รู้ว่าทำอะไรของกู้ฉางชิงเสียหาย กู้ฉางชิงไม่พอใจมากและโมโหใส่เด็กน้อย
แน่นอนว่าคุณป้าสี่ไม่กินมังสวิรัติ
กู้ฉางชิงไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากนี้ แต่ก็นึกขึ้นได้ว่าถ้าไม่ไปก็จะเป็นคนเรื่องมากคนนึง
คนมันจะซวยนี่มันก็ซวยจริงเลยนะเนี่ย
แต่ถ้าไม่ไปก็ไม่ได้ กู้ฉางชิงกุมขมับ