สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา – บทที่ 56 ทั่วร่างกายคุณมีตรงไหนที่ผมยังไม่เคยเห็น

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

เห็นเธอยังเงียบอยู่ เฟิงจิ่งเหยาจึงอุ้มเธอไปที่ห้องอาบน้ำ

ลมหายใจแผ่วเบาที่แผ่ออกมาจากตัวเขาปกคลุมเธอไว้ กู้ฉางฉิงโอบรัดสองมือของเธอที่รอบคอเขาไว้แน่น เธอก้มศรีษะลงด้วยความเอียงอายไม่กล้ามองเขา

เสียงหัวใจของเขาดังสม่ำเสมออยู่ข้างหู รู้สึกราวกับมันกระทบไปถึงหัวใจของเธอ จนหัวใจเธอถึงกับเต้นโครมคราม

เฟิงจิ่งเหยาวางเธอลงอย่างเบามือบนขอบอ่างอาบน้ำ แล้วเอื้อมมือไปจะปลดกระดุมเสื้อให้เธอ

กู้ฉางฉิงตกใจมากจึงรีบห้ามเขา “ฉันจะทำเอง”

เมื่อเห็นเธอแลดูปกป้องตัวเอง เฟิงจิ่งเหยาก็อดไม่ได้ที่จะขำ “ทั่วร่างกายของคุณมีตรงไหนที่ผมยังไม่เคยเห็นอีก”

พอได้ฟังอย่างนั้น ใบหน้าเล็ก ๆ ของกู้ฉางฉิงก็แดงก่ำขึ้นมา จึงตอบกลับด้วยความเหนียมอายว่า “นี่มันไม่เหมือนกัน”

“ไม่เหมือนกันตรงไหน?” เฟิงจิ่งเหยาถามอย่างจริงจัง

“ก็คือ……” กู้ฉางฉิงเงยหน้าขึ้นจะตอบ แต่เมื่อสบไปที่ดวงตาที่ยิ้มแย้มของเขา เธอก็กลืนคำพูดนั้นลงไป และเปลี่ยนเป็นพูดว่า “คุณออกไปเถอะ ฉันทำเองได้ค่ะ”

เฟิงจิ่งเหยาเลิกคิ้วขึ้น “หือ? ผลักไสไล่ส่งผู้มีพระคุณ?”

“ฉันเปล่าผลักไสไล่ส่ง”

กู้ฉางฉิงจ้องเขาอย่างไม่พอใจนัก

ก็เขาอยากเข้ามาช่วยเอง เธอไม่ได้ร้องขอสักหน่อย นี่จะเรียกว่าผลักไสไล่ส่งผู้มีพระคุณได้อย่างไรกัน?

เฟิงจิ่งเหยาไม่พูดอะไร มองไปที่เธอสักพักแล้วหันหลัง “ผมรออยู่ข้างนอกนะ มีอะไรก็เรียกแล้วกัน”

พูดจบ เขาก็ก้าวเท้ายาวออกไป ทั้งยังใส่ใจที่จะปิดประตูให้เธอ

กู้ฉางฉิงยืดคอขึ้น มองไปที่ประตูที่ปิดลง แล้วถอนหายใจยาว ๆ ออกมา

ยังดีที่เขาไม่ได้คะยั้นคะยอ ไม่เช่นนั้นเธอก็ไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไร

พอคิดว่าเขารออยู่ข้างนอก เธอก็ไม่มีกะจิตกะใจจะอาบน้ำ บวกกับอาการปวดที่แผลแล้วด้วย ทำให้เธอรีบอาบอย่างลวก ๆ เสร็จแล้วสวมชุดนอน จับผนังค่อย ๆ เขยื้อนตัวออกไป

เฟิงจิ่งเหยานั่งคอยอยู่บนขอบเตียง พอเห็นประตูห้องอาบน้ำเปิดออก ก็รีบลุกขึ้นไปพยุงเธอทันที

“ขอบคุณค่ะ”

กู้ฉางฉิงหันมายิ้มให้เขา

เฟิงจิ่งเหยาขยับคิ้วและพูดอย่างเรียบ ๆ ว่า “พวกเราเป็นสามีภรรยากัน ไม่ต้องเกรงใจผมขนาดนี้ก็ได้”

เมื่อพยุงเธอไปนั่งลงที่ข้างเตียงแล้ว ก็สังเกตุเห็นว่าหัวเข่าของเธอนั้นบวมช้ำมาก คิ้วของเขาขมวดขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ ดูก็รู้ว่าบาดแผลนี้มันเจ็บปวดมาก

แต่เธอยังทำราวกับไม่มีอะไร เธอจะเข้มแข็งเกินไปแล้ว

เขารู้สึกสงสารเธอจับใจ เขาเดินไปหยิบยาครีมที่อยู่ในตู้หัวเตียง แล้วนั่งลง

เมื่อเห็นเช่นนี้ กู้ฉางฉิงก็ตกใจและรีบปรามเขาไว้ “ไม่ต้องแล้วค่ะ ฉันทาเองได้”

จะทำเองอีกแล้ว!

เฟิงจิ่งเหยาเงยหน้าขึ้นด้วยความเคืองใจ

เสื้อนอนของกู้ฉางฉิงนั้นค่อนข้างจะเว้าลึกสักเล็กน้อย เพื่อจะห้ามปรามเขา เธอจึงโน้มตัวไปข้างหน้า

พอเขายกศรีษะขึ้นมาก็สบเข้าพอดีกับเนินอกขาว ๆ ของเธอจนเขาจ้องตาไม่กระพริบ

“ฉันทาเองดีกว่าค่ะ”

กู้ฉางฉิงยังไม่รู้ตัวว่าเกิดอะไรขึ้น คว้าครีมหมับจากมือของเขา

ทีแรกนึกว่าเขาจะไม่ยอม ที่ไหนได้เธอสามารถแย่งขวดครีมมาอย่างง่ายดาย

กู้ฉางฉิงมองไปที่เขาด้วยคิ้วที่ขมวด จากนั้นถึงสังเกตเห็นสายตาของเขา

เธอก้มศรีษะลง มองตามแนวสายตาของเขา เพิ่งค้นพบว่าเธอถูกจ้องมองทะลุปรุโปร่งมานานแล้ว เธอตกใจรีบกำคอเสื้อไว้แน่น ใบหน้าของเธอแดงขึ้นจนเหมือนจะไหม้

เฟิงจิ่งเหยาเมื่อได้สติ มองเห็นปฏิกิริยาของเธอ เขาเหล่มองแล้วรีบคว้าเอาครีมกลับมา โดยไม่รอเธอตอบสนองเขาเริ่มบรรจงทาครีมให้กับเธอ

กู้ฉางฉิงอายจนขบริมฝีปากล่างไว้แน่น เขาเอาแต่ใจแบบนี้ได้อย่างไรกัน?

หลังจากทางยาเสร็จแล้ว เฟิงจิ่งเหยาเงยหน้าขึ้นแล้วสบกับสายตาคู่งามของเธอ จู่ ๆ ก็นึกไปถึงฉากวาบหวิวที่เห็นเมื่อสักครู่ เขาลุกขึ้น และผลักเธอล้มลงบนที่นอน

“นี่คุณ……”

กู้ฉางฉิงกำลังจะเปิดปากพูดก็ถูกปิดลงด้วยริมฝีปากอันร้อนแรงของเขา

การจู่โจมอันหนักหน่วง ทำให้กู้ฉางฉิงไร้เรี่ยวแรงที่จะต่อต้าน และทำให้ตกอยู่ภายใต้การรุกรานของเขาในที่สุด

ถ้าไม่ใช่เพราะเธอส่งเสียงเจ็บปวดออกมาอย่างกระทันหัน ทำให้เฟิงจิ่งเหยาดึงสติกลับมาได้ ไม่เช่นนั้นคืนนี้ทั้งสองคนคงได้ลงเอยกันแน่

“รีบพักผ่อนนะ”

เฟิงจิ่งเหยาทิ้งคำพูดนี้ไว้แล้วรีบออกไป เหลือเพียงกู้ฉางฉิงคนเดียวบนเตียงนอนที่ยังไม่หลุดออกจากภวังค์

ในคืนนี้ เฟิงจิ่งเหยานอนค้างที่ห้องหนังสือ

ทีแรกกู้ฉางฉิงตั้งใจจะใช้ช่วงเวลาก่อนนอนเกริ่นเรื่องที่กู้หงเซินฝากฝังไว้ เห็นทีต้องหาจังหวะโอกาสอื่นซะแล้ว

วันรุ่งขึ้นเฟิงจิ่งเหยาก็ไปบริษัทแต่เช้า

หลังกู้ฉางฉิงทานอาหารเช้าเสร็จ เธอก็ใช้เวลาอยู่ในห้องเพื่อการ ออกแบบ

เมื่อถึงเวลาเที่ยง กู้ฉางฉิงวางปากกาที่อยู่ในมือลง ขมวดคิ้วเล็กน้อย ท้องหิวจังเลย

หันกลับไปมองดูนาฬิกาดิจิตอลที่วางอยู่บนตู้ข้างเตียงนอน เที่ยงกว่าเข้าไปแล้ว

แต่ก็ยังไม่เห็นคนรับใช้ยกอาหารขึ้นมาให้

ตั้งแต่เธอมาที่นี่ ทุก ๆ วันแต่ละมื้ออาหารก็ตรงเวลา แต่ทำไมวันนี้ถึงมาช้านัก?

หรือว่าจะพากันลืมคนป่วยคนนี้ไปเสียแล้ว?

ด้วยความสิ้นหวัง เธอทำได้เพียงค่อย ๆ ขยับขาลงไปชั้นล่างด้วยตัวเอง

“ทำไมวันนี้สายป่านนี้แล้วยังไม่เริ่มจัดสำรับอาหาร” เธอคว้าคนใช้คนหนึ่งไว้แล้วถาม

เมื่อเช้าคุณหนูจิ้งมา บอกว่าอาหารที่พ่อครัวทำไม่ถูกปาก ก็เลยไล่พ่อครัวออก แล้วบอกว่าจะหาคนใหม่มาแทนค่ะ

เมื่อได้ยินคนใช้พูดดังนั้นแล้ว กู้ฉางฉิงโมโหจนหัวเราะออกมา

พ่อครัวทำอาหารได้ไม่ถูกปากอย่างนั้นหรือ เห็นได้ชัดว่ามีเจตนาไม่ดีต่อเธอ อยากให้เธออยู่อย่างไม่เป็นสุข

เมื่อไม่มีอาหารสดใหม่จากพ่อครัว เธอจึงพึ่งได้แค่นมและขนมปังจากในตู้เย็น

อาหารกลางวันจึงผ่านไปอย่างเรียบง่ายเช่นนี้

แต่ไม่คาดคิดว่าจนถึงเวลาอาหารค่ำแล้วพ่อครัวที่เฟิงจิ้งหยวนบอกจะหามาใหม่ก็ยังมาไม่ถึง

“นี่มันเรื่องอะไรกันแน่? คุณหนูจิ้งได้สั่งอะไรไว้ไหม?” กู้ฉางฉิงขมวดคิ้วถามคนใช้

คนใช้มีท่าทางอึดอัดใจ “คุณนายรอง ดิฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกันค่ะ ถ้าคุณนายหิวแล้วลองสั่งอาหารให้มาส่งดีไหมคะ?”

“ช่างเถอะ”

กู้ฉางฉิงปฏิเสธความหวังดีของสาวใช้ “ฉันจะเข้าครัวทำอาหารเอง”

ไม่เชื่อหรอกว่าเฟิงจิ้งหยวนจะทำให้เธออดตายได้

เมื่อเฟิงจิ่งเหยากลับถึงบ้านก็ตั้งใจจะขึ้นไปหากู้ฉางฉิง คิดไม่ถึงว่า คนที่ควรจะพักผ่อนอยู่ข้างบนนั้นกลับปรากฎตัวอยู่ในห้องครัว

อีกทั้งยังกำลังทำอาหารด้วยตัวเอง

เขาโกรธขึ้นมาทันที เดินก้าวเท้ายาวเข้าไป คว้าแขนของเธอขึ้นมา “นี่คุณกำลังทำอะไร?”

กู้ฉางฉิงตกใจ หันกลับไปมองเห็นเขาที่กำลังโกรธ เธอก็โมโหขึ้นมาบ้าง เธอกระชากแขนตัวเองกลับมา ตอบอย่างหงุดหงิดว่า “ทำกับข้าวไงคะ คุณไม่เห็นเหรอ?”

เฟิงจิ่งเหยาหรี่ตาลง “ผมถามว่าทำไมคุณถึงมาทำกับข้าวเอง? พ่อครัวไปไหนกันหมด?”

“ถูกไล่ออกหมดแล้ว” กู้ฉางฉิงเบะปาก

ถูกไล่ออก?

เฟิงจิ่งเหยาขมวดคิ้ว เมื่อถามถึงได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เขาโกรธมากจึงเรียกคนรับใช้ทั้งหมดในบ้านมาดุด่า

ฉันจ่ายเงินจ้างพวกเธอ คือให้พวกเธอมาอยู่เฉย ๆ หรือ? ไม่มีใครทำอาหารเป็นเลยหรืออย่างไร? ถึงต้องให้คุณนายรองต้องลงมือเอง?”

คนรับใช้ต่างก้มหัวตัวสั่น ไม่มีใครกล้าส่งเสียงสักคน

ด้วยความโกรธ เฟิงจิ่งเหยาจึงไล่คนรับใช้ทั้งหมดออก

เรื่องนี้รู้เข้าถึงหูของเฟิงจิ้งหยวนและคุณนายเฟิงอย่างรวดเร็ว

หลังจากได้ยินรายงานจากคนใช้ คุณนายเฟิงก็มีสีหน้าที่เปลี่ยนไปทันที ยัยกู้ฉางซินนี่ร้ายกาจจริง ๆ

เฟิงจิ้งหยวนตกใจที่เพื่อยัยผู้หญิงคนนั้นแล้วหลานชายของเธอสามารถทำได้ถึงเพียงนี้ ถึงแม้เธอจะโกรธมาก แต่ก็ไม่สามารถจะทำอะไรได้

เฟิงจิ่งเหยาติดต่อกับชวี่ยี่ ให้เขารีบจัดหาพ่อครัวมาให้

กู้ฉางฉิงรู้สึกว่าตัวเธอนั้นไม่ได้เปราะบางขนาดนั้น แค่หุงข้าวทำอาหาร เรื่องแค่นี้เธอสามารถทำได้

แต่เมื่อมองดูเฟิงจิ่งเหยาที่ทั้งสั่งสอนคนใช้และทั้งหาพ่อครัวคนใหม่ให้ จู่ ๆ เธอก็รู้สึกว่าเขาไม่ใช่คนเย็นชาอย่างที่คิด

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

Status: Ongoing
ก่อนแต่งงานแทนน้องสาวเข้าไปในตระกูลเฟิง กู้ฉางชิงได้ยินว่าเฟิงจิ่งเหยาเป็นคนที่เฉยเมย ต่อมาถึงได้รู้ว่าข่าวลือล้วนเป็นเรื่องโกหก คุณเฟิงไม่เพียงแต่ไม่เย็นชา กลับเป็นคนที่อบอุ่น แต่กระตือรือร้นเป็นพิเศษในการมีทายาท มีคนพูดเป่าหูต่อหน้าเขา “คุณเฟิง ก่อนคุณจะกลับประเทศ ในทุกๆคืนภรรยาของคุณจะไม่กลับบ้าน เพราะออกไปเมาข้างนอก” เฟิงจิ่งเหยา “หลังจากฉันกลับประเทศ ตอนค่ำภรรยาของฉันจะมาอยู่ที่ห้องฉัน ปรนนิบัติฉันไม่นอนทั้งคืน” มีคนพูดอีกว่า “ก่อนคุณจะกลับมา ภรรยาของคุณช้อปปิ้งทั้งวัน เปลี่ยนรถยี่ห้อหรูไม่หยุด แถมยังมีหนุ่มคอยอยู่เธอตลอดเวลา” เฟิงจิ่งเหยา พูดต่อว่า “หลังจากฉันกลับประเทศ บัตรเครดิตทุกใบของฉัน ฉันก็อยากให้ภรรยาฉันใช้ แต่เธอไม่ต้องการ ไปกลับจากที่ทำงานก็ให้ฉันไปรับแค่คนเดียว” สำหรับคนที่เย็นชา เมื่อมีภรรยาจะคลั่งรักเป็นพิเศษ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท