สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา – บทที่ 72 นี่คือมุ่งเป้ามายังเธอ

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

กู้ฉางชิงได้ยินคำพูด ก็พยักหน้าแสดงการรับรู้

หลังจากนั้นก็ฟังเขาพูดเกี่ยวกับงาน นึกขึ้นได้ว่าก่อนหน้านี้กู้หงเซินส่งข่าวมาให้เธอ

“ใช่แล้ว พ่อฉันบอกฉันว่า ผ้าได้เข้ามาถึงทางด้านตัวอาคารโรงงานแล้ว ฉันวางแผนว่าพรุ่งนี้จะเข้าไปดูกับผู้จัดการใหญ่ คุณจะไปด้วยกันไหม?”

ในเมื่อเธอพูดอย่างนี้ ก็คืออยากให้เฟิงจิงเหยาไปตรวจสอบด้วยกัน จะได้ไม่เกิดปัญหาอะไรในภายหลังแล้ว มากล่าวโทษเธอ

เฟิงจิงเหยาฟังออกถึงความหมายแฝงในนี้ หลี่ตามองเธอ

“ฉันเคยบอกแล้ว เรื่องนี้เกิดปัญหาอะไรขึ้น คุณจะต้องรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว ฉันไม่สนใจอื่นใดทั้งสิ้น”

เขาปฏิเสธด้วยน้ำเสียงเย็นชา ในขณะเดียวกันก็ไม่ลืมที่จะกล่าวเร่งรัดว่า: “อีกอย่างนึง ในเมื่อวัตถุดิบมาถึงแล้ว เสื้อผ้าสำเร็จรูปล็อตแรก ฉันหวังว่าจะได้ผลผลิตที่เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้”

กู้ฉางชิงได้ยินคำพูด ก็ทำได้เพียงพยักหน้าอย่างจนใจ

“ฉันรู้ ฉันจะพยายามทำให้เสร็จ”

เฟิงจิงเหยาพยักหน้า ไม่พูดมากอีก หันเดินขึ้นชั้นบนไป

……

วันต่อมา กู้ฉางชิงไปบริษัทแต่เช้าตรู่

ถึงแม้ว่าเมื่อคืนวานเธอจะบอกเรื่องให้เฟิงจิงเหยาไปดูวัตถุดิบแล้ว แต่เธอไม่ทันได้เอ่ยถึงทางด้านหลี่ม่านนี้

ด้วยเหตุนี้ หลังจากเธอมาถึงบริษัทแล้ว ก็ตรงไปยังห้องทำงานผู้จัดการใหญ่

แต่ไม่คิดว่าจะพอดีกับที่หลู่ซือหยีรวบรวมข้อมูลการทำงานอยู่ด้านใน

เธอมองหลู่ซือหยีแว็บนึง เดิมทีก็วางแผนไว้ว่ารอให้เธอรวบรวมข้อมูลเสร็จแล้วค่อยเอ่ยถึงเรื่องวัตถุดิบ ใครจะรู้ว่าหลี่ม่านจะหยุดรวบรวมข้อมูลของหลู่ซือหยีชั่วคราว แล้วมองมายังเธอ

“นักออกแบบกู้ มีเรื่องอะไรหรอ?”

กู้ฉางชิงได้ยิน ก็นำเรื่องของวัตถุดิบพูดออกมา

“ฉันทราบว่าวันนี้โรงงานทอผ้าของตระกูลกู้จะเตรียมส่งสินค้า ฉันคิดว่าตอนบ่ายจะรอผู้จัดการใหญ่ให้ไปตรวจสอบดูด้วยกัน”

หลี่ม่านนึกถึงว่าซัพพลายเออร์คือตระกูลกู้ ก็ไม่ปฏิเสธ

“ได้ หลังจากนี้ครึ่งชั่วโมงฉันจะออกเดินทาง คุณเข้ามาหาฉันก็พอ”

กู้ฉางชิงพยักหน้า หลู่ซือหยีฟังบทสนทนาของพวกเขา ในสายตาก็เต็มไปด้วยความงุนงง

“บริษัทนำเข้าซัพพลายเออร์ใหม่อีกตั้งแต่เมื่อไรกัน ทำไมฉันถึงไม่รู้?”

กู้ฉางชิงมองเธอ กล่าวตอบรับว่า: “นี่คือทางด้านประธานกรรมการอนุญาตโดยตรง”

ความหมายโดยนัย เธอไม่รู้เป็นเรื่องปกติอย่างมาก

เป็นธรรมดาที่หลู่ซือหยีจะฟังออก จึงหน้าบึ้งในทันที

เธอไม่ได้โกรธที่ซัพพลายเออร์ใหม่ไม่ได้ผ่านการตรวจสอบจากเธอ แต่เพราะเรื่องนี้ได้รับการตัดสินใจโดยตรงจากพี่จิงเหยา ก็คือพูดได้ว่าความสัมพันธ์ของพี่จิงเหยาและตระกูลกู้สนิทชิดเชื้อกันเป็นอย่างมาก

และนี่ไม่ใช่เป็นตัวแทนที่บอกว่าพี่จิงเหยายอมรับหญิงชั่วคนนี้มากขึ้นหรอ?

ไม่ ไม่ใช่แบบนี้

ทำไมพี่จิงเหยาให้ความสำคัญกับกู้ฉางชิงผู้หญิงเลวทรามคนนี้ได้ ต้องเป็นเธอแล้วยังมีตระกูลกู้ที่หน้าด้านไร้ยางอายมาพัวพันพี่จิงเหยา เพื่อจะได้รับประโยชน์จากตระกูลเฟิง!

เธอเอาแต่หาเหตุผลปลอบใจตัวเอง ในขณะเดียวกันก็กดความโกรธภายในใจเอาไว้ กล่าวด้วยเสียวหนักแน่นว่า: “เดิมทีบริษัทได้กำหนดการร่วมมือการค้าไว้แล้ว นี่มีบริษัทนึงที่ออกมาอย่างไม่มีมูลเหตุ ฉันในฐานะรักษาการแทนหัวหน้าแผนก ก็ควรจะติดตามไปด้วยกัน”

พูดจบ เธอก็มองไปยังกู้ฉางชิงอย่างมีความหมายโดยนัยแฝงไว้อยู่ลึกๆ

“เพื่อป้องกันไม่ให้คนบางคนใช้อำนาจเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว”

กู้ฉางชิงได้ยินถึงประโยคสุดท้าย ก็รู้ได้ทันทีว่านี่คือเธอมุ่งเป้ามายังเธอ

เธอก็ขี้เกียจจะโต้เถียงกับเธอ มองไปยังหลี่ม่าน

ถ้าเธอคิดแผนอุบายส่วนตัว ก็คงไม่เอ่ยปากให้ไปด้วยกัน

หลี่ม่านมองคนทั้งสองตาต่อตาฟันต่อฟัน ก็ปวดหัวไปชั่วขณะนึง

เธอทราบถึงฐานะของคนทั้งสอง ด้วยเหตุนี้จึงไม่อยากทำให้ใครไม่พอใจ

ถึงอย่างไรก็แค่มองข้ามไป คิดๆดูแล้วก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร ก็จึงรับปากข้อเรียกร้องของหลู่ซือหยี

“เช่นนี้ อีกสักครู่ก็ไปรวมตัวกันที่ชั้นล่าง”

หลู่ซือหยีได้ยิน ก็มองไปยังกู้ฉางชิงอย่างลำพองใจ

กู้ฉางชิงก็แสร้งทำเป็นไม่เห็น หลังจากพยักหน้าแสดงเจตนาให้หลี่ม่านรับรู้แล้ว ก็ออกจากห้องทำงาน

ถึงเวลาที่ต้องออกเดินทาง คนทั้งสามก็ลงมารวมตัวกันที่ชั้นล่าง นั่งรถคันเดียวกันออกเดินทางมุ่งไปยังโรงงานทอผ้าของกู้ซื่อ

ระหว่างเส้นทาง หลู่ซือหยีก็พยายามพูดคุยกับหลี่ม่าน คล้ายกับว่าต้องการสร้างความสัมพันธ์ที่ดี

“ผู้จัดการใหญ่ ได้ยินมาว่าคุณทำงานที่เฟิงซื่อมาหลายปีแล้ว สองสามปีสั้นๆจากเบื้องต้นก็มานั่งตำแหน่งผู้จัดการใหญ่ เก่งอย่างมาก”

“หัวหน้าแผนกหลู่ชมเกินไปแล้ว ทั้งหมดคือประธานเฟิงชื่นชมก็เท่านั้นเอง”

หลี่ม่านตอบรับอย่างไม่ต้อยต่ำไม่สูงส่ง

หลู่ซือหยีก็ไม่ได้สนใจ ดึงเธอพูดคุยทุกๆเรื่อง ตั้งแต่งานยันเฟชั่น

เพียงเพราะเธออยากเปลี่ยนหลี่ม่านให้กลายเป็นคนกันเอง

อย่างไรก็ดี พี่จิงเหยาสามารถนำเธอจากสำนักงานใหญ่ย้ายเข้ามาให้รับผิดชอบที่บริษัทใหม่ ดูๆแล้วคงจะไว้วางใจเป็นอย่างมาก

ถ้าหากว่ามีเธอเป็นผู้ช่วย นับจากนี้ไปการมุ่งเป้าไปยังกู้ฉางชิง ก็จะเป็นความช่วยเหลืออย่างมากอีกแรงนึง

กู้ฉางชิงไม่รู้ถึงแผนการภายในใจของเธอ

เธอฟังบทสนทนาคนทั้งสองอย่างเงียบๆไปพลาง มองวิวท้องถนนที่ล่วงผ่านไปอย่างไม่ขาดสายนอกหน้าต่างไปพลาง

ไม่ใช่เธอไม่เข้ากับบรรยากาศ แต่เดิมทีเธอไม่ได้พูดมากอยู่แล้ว

โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีหลู่ซือหยีอยู่ เธอก็ไม่อยากจะพูดจาแล้ว

ก็เพราะแบบนี้ เธอติดตามคนทั้งสองไปโดยไม่พูดจาตลอดทาง ไม่นานก็ถึงโรงงานทอผ้านอกชานเมือง

เขตโรงงานกว้างใหญ่ สิ่งปลูกสร้างที่ตั้งอยู่ไม่น้อยของตัวอาคารโรงงาน สลับสับเปลี่ยนใหม่เก่า กระบวนการพัฒนาอุตสาหกรรมมากมาย

เธอกวาดสายตามอง พวกเขาก็ตามหลี่ม่านเดินไปยังโรงงานของตนเอง

คนที่รับผิดชอบของโรงงานได้นับการแจ้งให้ทราบก่อนหน้าแล้ว มีผู้ช่วยรออยู่ที่หน้าประตูทางเข้า

ขณะที่เขาเห็นคนทั้งสาม กระตือรือร้นเดินเข้าไปทักทาย “ผู้จัดการหลี่ หัวหน้าแผนกหลู่”

พูดจบ เขาก็จ้องมองไปยังกู้ฉางชิงที่อยู่ข้างๆ ร้องตะโกนด้วยความเคารพนบนอบอย่างมากว่า: “คุณหนู”

กู้ฉางชิงได้ยิน ก็พยักหน้าอย่างนิ่งๆ: “พาพวกเราไปดูวัตถุดิบเถอะ”

คนที่รับผิดชอบไม่กล้าเฉยเมย จึงพาพวกเขาไปที่ตัวอาคารโรงงาน

“คุณหนู วัตถุดิบเตรียมพร้อมไว้ทางด้านนี้แล้ว คุณลองดู”

เขาจี้ไปที่วัตถุดิบกองใหญ่ด้านหน้า กล่าวอย่างยิ้มประจบสอพลอ

กู้ฉางชิงพยัก เดินตรงไปแล้วเริ่มตรวจสอบ

หลู่ซือหยีเห็นสถานการณ์ ก็เดินไปตรวจสอบอีกด้านนึงไม่ยอมตกอยู่ข้างหลัง

หลี่ม่านมองคนทั้งสอง ไม่ได้ขยับเขยื้อน

ถึงอย่างไรหน้าที่เฉพาะของเธอก็ไม่ใช่สิ่งนี้ เข้าไปดู ก็ดูช่องทางอะไรไม่ออก ยังไม่ดีเท่ากับรอผลตรวจสอบของคนทั้งสอง

ไม่นาน กู้ฉางชิงก็ตรวจสอบเสร็จ

เห็นเพียงบนใบหน้าที่แสดงถึงรอยยิ้มอย่างพึงพอใจ

เดิมทีเธอก็ยังกังวลเรื่องที่กู้หงเซินจะทำชุ่ยๆ แต่คุณภาพของวัตถุดิบล็อตนี้ดีมากยังนับได้ว่ามาตรฐานสูง ทำให้เธอสบายใจไม่น้อย

“ไม่เลว หลังจากนี้ไปยึดตามการเตรียมวัสดุเหล่านี้

เธอมองไปยังคนรับผิดชอบ ชี้ไปที่ผ้าที่ทำให้เธอพอใจแล้วกล่าวชื่นชม

คนรับผิดชอบพยักหน้า: “ครับ”

หลู่ซือหยีฟังบทสนทนาคนทั้งสอง มองรอยยิ้มบนใบหน้ากู้ฉางชิงอีกครั้ง ในสายตาปรากฎความไม่พอใจ

เธอจงใจชี้ไปยังเนื้อผ้าชิ้นนึงที่วัตถุดิบค่อนข้างแข็ง กล่าวอย่างหาข้อผิดพลาดว่า: “ผ้าที่หยาบแข็งขนาดนี้ก็นับว่าไม่เลว นักออกแบบกู้ทำให้ฉันชำนาญมีประสบการณ์”

กู้ฉางชิงได้ยิน ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย

เธอตามไปดูยังทิศทางที่หลู่ซือหยีชี้ หลังจากดูวัตถุดิบชัดเจนแล้ว เธอก็มองไปยังหลู่ซือหยีอย่างกึ่งยิ้มกึ่งไม่ยิ้ม

“เนื่องจากวัตถุดิบชนิดนี้เป็นวัสดุที่หยาบค่อนข้างแข็ง โดยทั่วไปแล้วพวกเราจะนำมาออกแบบเป็นคอปกเสื้อ แน่นอนว่าเกี่ยวกับการเลือกวัตถุดิบคอปกเสื้อ มีจำนวนมาก เพียงแต่วัตถุดิบชนิดนี้ค่อนข้างจะทนทานกว่าชนิดอื่น ถึงแม้ว่าจะซักหลายครั้ง ก็จะไม่เปลี่ยนเป็นอ่อน ส่งผลต่อด้านการออกแบบของเสื้อผ้า”

หลู่ซือหยีได้ยินเธออธิบายอย่างมืออาชีพแบบนี้ ก็แค้นจนพูดไม่ออกเลยสักคำ สีหน้าดำคร่ำเครียด

เธอก็ชี้วัตถุดิบอีกหลายชิ้นอย่างไม่ยินยอม ต่างก็ถูกกู้ฉางชิงแยกแยะได้อย่างสบายๆ

เธอจ้องมองกู้ฉางชิงอย่างโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ยืดคอเถียงข้างๆคูๆว่า: “เหอะ ที่พูดดูเหมือนจะเป็นเรื่องเดียวกันจริงๆ ใครจะไม่รู้ว่าวัตถุดิบคือครอบครัวพวกคุณผลิต เป็นธรรมดาคุณก็จะต้องปกป้องคุ้มครองในทุกด้านอยู่แล้ว”

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

Status: Ongoing
ก่อนแต่งงานแทนน้องสาวเข้าไปในตระกูลเฟิง กู้ฉางชิงได้ยินว่าเฟิงจิ่งเหยาเป็นคนที่เฉยเมย ต่อมาถึงได้รู้ว่าข่าวลือล้วนเป็นเรื่องโกหก คุณเฟิงไม่เพียงแต่ไม่เย็นชา กลับเป็นคนที่อบอุ่น แต่กระตือรือร้นเป็นพิเศษในการมีทายาท มีคนพูดเป่าหูต่อหน้าเขา “คุณเฟิง ก่อนคุณจะกลับประเทศ ในทุกๆคืนภรรยาของคุณจะไม่กลับบ้าน เพราะออกไปเมาข้างนอก” เฟิงจิ่งเหยา “หลังจากฉันกลับประเทศ ตอนค่ำภรรยาของฉันจะมาอยู่ที่ห้องฉัน ปรนนิบัติฉันไม่นอนทั้งคืน” มีคนพูดอีกว่า “ก่อนคุณจะกลับมา ภรรยาของคุณช้อปปิ้งทั้งวัน เปลี่ยนรถยี่ห้อหรูไม่หยุด แถมยังมีหนุ่มคอยอยู่เธอตลอดเวลา” เฟิงจิ่งเหยา พูดต่อว่า “หลังจากฉันกลับประเทศ บัตรเครดิตทุกใบของฉัน ฉันก็อยากให้ภรรยาฉันใช้ แต่เธอไม่ต้องการ ไปกลับจากที่ทำงานก็ให้ฉันไปรับแค่คนเดียว” สำหรับคนที่เย็นชา เมื่อมีภรรยาจะคลั่งรักเป็นพิเศษ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท