กู้ฉางชิงได้ยินคำพูด ก็พยักหน้าแสดงการรับรู้
หลังจากนั้นก็ฟังเขาพูดเกี่ยวกับงาน นึกขึ้นได้ว่าก่อนหน้านี้กู้หงเซินส่งข่าวมาให้เธอ
“ใช่แล้ว พ่อฉันบอกฉันว่า ผ้าได้เข้ามาถึงทางด้านตัวอาคารโรงงานแล้ว ฉันวางแผนว่าพรุ่งนี้จะเข้าไปดูกับผู้จัดการใหญ่ คุณจะไปด้วยกันไหม?”
ในเมื่อเธอพูดอย่างนี้ ก็คืออยากให้เฟิงจิงเหยาไปตรวจสอบด้วยกัน จะได้ไม่เกิดปัญหาอะไรในภายหลังแล้ว มากล่าวโทษเธอ
เฟิงจิงเหยาฟังออกถึงความหมายแฝงในนี้ หลี่ตามองเธอ
“ฉันเคยบอกแล้ว เรื่องนี้เกิดปัญหาอะไรขึ้น คุณจะต้องรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว ฉันไม่สนใจอื่นใดทั้งสิ้น”
เขาปฏิเสธด้วยน้ำเสียงเย็นชา ในขณะเดียวกันก็ไม่ลืมที่จะกล่าวเร่งรัดว่า: “อีกอย่างนึง ในเมื่อวัตถุดิบมาถึงแล้ว เสื้อผ้าสำเร็จรูปล็อตแรก ฉันหวังว่าจะได้ผลผลิตที่เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้”
กู้ฉางชิงได้ยินคำพูด ก็ทำได้เพียงพยักหน้าอย่างจนใจ
“ฉันรู้ ฉันจะพยายามทำให้เสร็จ”
เฟิงจิงเหยาพยักหน้า ไม่พูดมากอีก หันเดินขึ้นชั้นบนไป
……
วันต่อมา กู้ฉางชิงไปบริษัทแต่เช้าตรู่
ถึงแม้ว่าเมื่อคืนวานเธอจะบอกเรื่องให้เฟิงจิงเหยาไปดูวัตถุดิบแล้ว แต่เธอไม่ทันได้เอ่ยถึงทางด้านหลี่ม่านนี้
ด้วยเหตุนี้ หลังจากเธอมาถึงบริษัทแล้ว ก็ตรงไปยังห้องทำงานผู้จัดการใหญ่
แต่ไม่คิดว่าจะพอดีกับที่หลู่ซือหยีรวบรวมข้อมูลการทำงานอยู่ด้านใน
เธอมองหลู่ซือหยีแว็บนึง เดิมทีก็วางแผนไว้ว่ารอให้เธอรวบรวมข้อมูลเสร็จแล้วค่อยเอ่ยถึงเรื่องวัตถุดิบ ใครจะรู้ว่าหลี่ม่านจะหยุดรวบรวมข้อมูลของหลู่ซือหยีชั่วคราว แล้วมองมายังเธอ
“นักออกแบบกู้ มีเรื่องอะไรหรอ?”
กู้ฉางชิงได้ยิน ก็นำเรื่องของวัตถุดิบพูดออกมา
“ฉันทราบว่าวันนี้โรงงานทอผ้าของตระกูลกู้จะเตรียมส่งสินค้า ฉันคิดว่าตอนบ่ายจะรอผู้จัดการใหญ่ให้ไปตรวจสอบดูด้วยกัน”
หลี่ม่านนึกถึงว่าซัพพลายเออร์คือตระกูลกู้ ก็ไม่ปฏิเสธ
“ได้ หลังจากนี้ครึ่งชั่วโมงฉันจะออกเดินทาง คุณเข้ามาหาฉันก็พอ”
กู้ฉางชิงพยักหน้า หลู่ซือหยีฟังบทสนทนาของพวกเขา ในสายตาก็เต็มไปด้วยความงุนงง
“บริษัทนำเข้าซัพพลายเออร์ใหม่อีกตั้งแต่เมื่อไรกัน ทำไมฉันถึงไม่รู้?”
กู้ฉางชิงมองเธอ กล่าวตอบรับว่า: “นี่คือทางด้านประธานกรรมการอนุญาตโดยตรง”
ความหมายโดยนัย เธอไม่รู้เป็นเรื่องปกติอย่างมาก
เป็นธรรมดาที่หลู่ซือหยีจะฟังออก จึงหน้าบึ้งในทันที
เธอไม่ได้โกรธที่ซัพพลายเออร์ใหม่ไม่ได้ผ่านการตรวจสอบจากเธอ แต่เพราะเรื่องนี้ได้รับการตัดสินใจโดยตรงจากพี่จิงเหยา ก็คือพูดได้ว่าความสัมพันธ์ของพี่จิงเหยาและตระกูลกู้สนิทชิดเชื้อกันเป็นอย่างมาก
และนี่ไม่ใช่เป็นตัวแทนที่บอกว่าพี่จิงเหยายอมรับหญิงชั่วคนนี้มากขึ้นหรอ?
ไม่ ไม่ใช่แบบนี้
ทำไมพี่จิงเหยาให้ความสำคัญกับกู้ฉางชิงผู้หญิงเลวทรามคนนี้ได้ ต้องเป็นเธอแล้วยังมีตระกูลกู้ที่หน้าด้านไร้ยางอายมาพัวพันพี่จิงเหยา เพื่อจะได้รับประโยชน์จากตระกูลเฟิง!
เธอเอาแต่หาเหตุผลปลอบใจตัวเอง ในขณะเดียวกันก็กดความโกรธภายในใจเอาไว้ กล่าวด้วยเสียวหนักแน่นว่า: “เดิมทีบริษัทได้กำหนดการร่วมมือการค้าไว้แล้ว นี่มีบริษัทนึงที่ออกมาอย่างไม่มีมูลเหตุ ฉันในฐานะรักษาการแทนหัวหน้าแผนก ก็ควรจะติดตามไปด้วยกัน”
พูดจบ เธอก็มองไปยังกู้ฉางชิงอย่างมีความหมายโดยนัยแฝงไว้อยู่ลึกๆ
“เพื่อป้องกันไม่ให้คนบางคนใช้อำนาจเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว”
กู้ฉางชิงได้ยินถึงประโยคสุดท้าย ก็รู้ได้ทันทีว่านี่คือเธอมุ่งเป้ามายังเธอ
เธอก็ขี้เกียจจะโต้เถียงกับเธอ มองไปยังหลี่ม่าน
ถ้าเธอคิดแผนอุบายส่วนตัว ก็คงไม่เอ่ยปากให้ไปด้วยกัน
หลี่ม่านมองคนทั้งสองตาต่อตาฟันต่อฟัน ก็ปวดหัวไปชั่วขณะนึง
เธอทราบถึงฐานะของคนทั้งสอง ด้วยเหตุนี้จึงไม่อยากทำให้ใครไม่พอใจ
ถึงอย่างไรก็แค่มองข้ามไป คิดๆดูแล้วก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร ก็จึงรับปากข้อเรียกร้องของหลู่ซือหยี
“เช่นนี้ อีกสักครู่ก็ไปรวมตัวกันที่ชั้นล่าง”
หลู่ซือหยีได้ยิน ก็มองไปยังกู้ฉางชิงอย่างลำพองใจ
กู้ฉางชิงก็แสร้งทำเป็นไม่เห็น หลังจากพยักหน้าแสดงเจตนาให้หลี่ม่านรับรู้แล้ว ก็ออกจากห้องทำงาน
ถึงเวลาที่ต้องออกเดินทาง คนทั้งสามก็ลงมารวมตัวกันที่ชั้นล่าง นั่งรถคันเดียวกันออกเดินทางมุ่งไปยังโรงงานทอผ้าของกู้ซื่อ
ระหว่างเส้นทาง หลู่ซือหยีก็พยายามพูดคุยกับหลี่ม่าน คล้ายกับว่าต้องการสร้างความสัมพันธ์ที่ดี
“ผู้จัดการใหญ่ ได้ยินมาว่าคุณทำงานที่เฟิงซื่อมาหลายปีแล้ว สองสามปีสั้นๆจากเบื้องต้นก็มานั่งตำแหน่งผู้จัดการใหญ่ เก่งอย่างมาก”
“หัวหน้าแผนกหลู่ชมเกินไปแล้ว ทั้งหมดคือประธานเฟิงชื่นชมก็เท่านั้นเอง”
หลี่ม่านตอบรับอย่างไม่ต้อยต่ำไม่สูงส่ง
หลู่ซือหยีก็ไม่ได้สนใจ ดึงเธอพูดคุยทุกๆเรื่อง ตั้งแต่งานยันเฟชั่น
เพียงเพราะเธออยากเปลี่ยนหลี่ม่านให้กลายเป็นคนกันเอง
อย่างไรก็ดี พี่จิงเหยาสามารถนำเธอจากสำนักงานใหญ่ย้ายเข้ามาให้รับผิดชอบที่บริษัทใหม่ ดูๆแล้วคงจะไว้วางใจเป็นอย่างมาก
ถ้าหากว่ามีเธอเป็นผู้ช่วย นับจากนี้ไปการมุ่งเป้าไปยังกู้ฉางชิง ก็จะเป็นความช่วยเหลืออย่างมากอีกแรงนึง
กู้ฉางชิงไม่รู้ถึงแผนการภายในใจของเธอ
เธอฟังบทสนทนาคนทั้งสองอย่างเงียบๆไปพลาง มองวิวท้องถนนที่ล่วงผ่านไปอย่างไม่ขาดสายนอกหน้าต่างไปพลาง
ไม่ใช่เธอไม่เข้ากับบรรยากาศ แต่เดิมทีเธอไม่ได้พูดมากอยู่แล้ว
โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีหลู่ซือหยีอยู่ เธอก็ไม่อยากจะพูดจาแล้ว
ก็เพราะแบบนี้ เธอติดตามคนทั้งสองไปโดยไม่พูดจาตลอดทาง ไม่นานก็ถึงโรงงานทอผ้านอกชานเมือง
เขตโรงงานกว้างใหญ่ สิ่งปลูกสร้างที่ตั้งอยู่ไม่น้อยของตัวอาคารโรงงาน สลับสับเปลี่ยนใหม่เก่า กระบวนการพัฒนาอุตสาหกรรมมากมาย
เธอกวาดสายตามอง พวกเขาก็ตามหลี่ม่านเดินไปยังโรงงานของตนเอง
คนที่รับผิดชอบของโรงงานได้นับการแจ้งให้ทราบก่อนหน้าแล้ว มีผู้ช่วยรออยู่ที่หน้าประตูทางเข้า
ขณะที่เขาเห็นคนทั้งสาม กระตือรือร้นเดินเข้าไปทักทาย “ผู้จัดการหลี่ หัวหน้าแผนกหลู่”
พูดจบ เขาก็จ้องมองไปยังกู้ฉางชิงที่อยู่ข้างๆ ร้องตะโกนด้วยความเคารพนบนอบอย่างมากว่า: “คุณหนู”
กู้ฉางชิงได้ยิน ก็พยักหน้าอย่างนิ่งๆ: “พาพวกเราไปดูวัตถุดิบเถอะ”
คนที่รับผิดชอบไม่กล้าเฉยเมย จึงพาพวกเขาไปที่ตัวอาคารโรงงาน
“คุณหนู วัตถุดิบเตรียมพร้อมไว้ทางด้านนี้แล้ว คุณลองดู”
เขาจี้ไปที่วัตถุดิบกองใหญ่ด้านหน้า กล่าวอย่างยิ้มประจบสอพลอ
กู้ฉางชิงพยัก เดินตรงไปแล้วเริ่มตรวจสอบ
หลู่ซือหยีเห็นสถานการณ์ ก็เดินไปตรวจสอบอีกด้านนึงไม่ยอมตกอยู่ข้างหลัง
หลี่ม่านมองคนทั้งสอง ไม่ได้ขยับเขยื้อน
ถึงอย่างไรหน้าที่เฉพาะของเธอก็ไม่ใช่สิ่งนี้ เข้าไปดู ก็ดูช่องทางอะไรไม่ออก ยังไม่ดีเท่ากับรอผลตรวจสอบของคนทั้งสอง
ไม่นาน กู้ฉางชิงก็ตรวจสอบเสร็จ
เห็นเพียงบนใบหน้าที่แสดงถึงรอยยิ้มอย่างพึงพอใจ
เดิมทีเธอก็ยังกังวลเรื่องที่กู้หงเซินจะทำชุ่ยๆ แต่คุณภาพของวัตถุดิบล็อตนี้ดีมากยังนับได้ว่ามาตรฐานสูง ทำให้เธอสบายใจไม่น้อย
“ไม่เลว หลังจากนี้ไปยึดตามการเตรียมวัสดุเหล่านี้
เธอมองไปยังคนรับผิดชอบ ชี้ไปที่ผ้าที่ทำให้เธอพอใจแล้วกล่าวชื่นชม
คนรับผิดชอบพยักหน้า: “ครับ”
หลู่ซือหยีฟังบทสนทนาคนทั้งสอง มองรอยยิ้มบนใบหน้ากู้ฉางชิงอีกครั้ง ในสายตาปรากฎความไม่พอใจ
เธอจงใจชี้ไปยังเนื้อผ้าชิ้นนึงที่วัตถุดิบค่อนข้างแข็ง กล่าวอย่างหาข้อผิดพลาดว่า: “ผ้าที่หยาบแข็งขนาดนี้ก็นับว่าไม่เลว นักออกแบบกู้ทำให้ฉันชำนาญมีประสบการณ์”
กู้ฉางชิงได้ยิน ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย
เธอตามไปดูยังทิศทางที่หลู่ซือหยีชี้ หลังจากดูวัตถุดิบชัดเจนแล้ว เธอก็มองไปยังหลู่ซือหยีอย่างกึ่งยิ้มกึ่งไม่ยิ้ม
“เนื่องจากวัตถุดิบชนิดนี้เป็นวัสดุที่หยาบค่อนข้างแข็ง โดยทั่วไปแล้วพวกเราจะนำมาออกแบบเป็นคอปกเสื้อ แน่นอนว่าเกี่ยวกับการเลือกวัตถุดิบคอปกเสื้อ มีจำนวนมาก เพียงแต่วัตถุดิบชนิดนี้ค่อนข้างจะทนทานกว่าชนิดอื่น ถึงแม้ว่าจะซักหลายครั้ง ก็จะไม่เปลี่ยนเป็นอ่อน ส่งผลต่อด้านการออกแบบของเสื้อผ้า”
หลู่ซือหยีได้ยินเธออธิบายอย่างมืออาชีพแบบนี้ ก็แค้นจนพูดไม่ออกเลยสักคำ สีหน้าดำคร่ำเครียด
เธอก็ชี้วัตถุดิบอีกหลายชิ้นอย่างไม่ยินยอม ต่างก็ถูกกู้ฉางชิงแยกแยะได้อย่างสบายๆ
เธอจ้องมองกู้ฉางชิงอย่างโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ยืดคอเถียงข้างๆคูๆว่า: “เหอะ ที่พูดดูเหมือนจะเป็นเรื่องเดียวกันจริงๆ ใครจะไม่รู้ว่าวัตถุดิบคือครอบครัวพวกคุณผลิต เป็นธรรมดาคุณก็จะต้องปกป้องคุ้มครองในทุกด้านอยู่แล้ว”