สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา – บทที่ 103 กลัวถูกเปิดโปง

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

กู้ฉางฉิงนั่งลงที่เดิม ก้มหน้าลง พยายามปิดบังความผิดปกติเอาไว้

หลังจากคุ้นเคยกับความร้อนแรงที่ผ่านไปในคอ เธอก็เงยหน้าขึ้นมา ทุกคนรอบๆต่างพูดคุยกันอยู่

เธอไม่ได้คิดเข้าร่วมวงสนทนาด้วย เพราะพวกเขาล้วนกำลังดื่มกันอยู่

แค่เพียงดื่มแอลกอฮอล์ เธอก็สามารถเผยความลับออกมาได้แล้ว เพราะงั้นเธอจึงนั่งทานอาหารอยู่เงียบๆดีกว่า

ใครจะรู้ ว่าแบบนี้ก็หลบการดื่มเพื่อฉลองไปไม่ได้

ไม่รู้ว่าใครเป็นคนเริ่มการดื่มเพื่อฉลองนี้ เธอดื่มไปไม่รู้กี่แก้ว เมื่อเริ่มจะเมา สีหน้าเธอยังไม่เปลี่ยน แต่เธอเริ่มจะเวียนหัวเล็กน้อย

กู้ฉางฉิงรู้ตัวว่าตัวเองควรไปล้างหน้าสักหน่อย เพื่อให้ตื่น

ไม่งั้นการแสดงของเธอต้องจบแน่ๆ เธอคิดว่าถ้าฟุบลงไปคงกลับมาไม่ได้แน่

เมื่อคิดแบบนี้แล้วเธอจึงขยับตัว

“ขอโทษนะคะ ฉันขอไปห้องน้ำสักครูค่ะ”

เธอพูดจบ ก็ค่อยๆปลีกตัวออกไป

ที่ห้องน้ำ เธอยืนล้างหน้าอยู่ที่อ่างล้างมือ

เธอยืนนิ่งอยู่ครู่ใหญ่ แต่ไม่เป็นผล

กลุ่มความร้อนแล่นไปที่หัวของเธอ

กู้ฉางฉิงเห็นว่าอาการไม่ดีแบนี้ เกรงว่าเธอคงจะเมาจริงๆ

อีกเดี๋ยวคงต้องกลับไป เกรงว่าจะมึนหัว จนถึงตอนนั้นแล้วจะถูกเปิดโปง

เธอคิดได้แล้วก็พยายามหาทางออกจากห้องอาหารไป เพื่อหาที่นั่งพักที่ด้านนอก นั่งพักสักครู่ รอให้เธออาการดีขึ้นก็จะกลับเข้าไป

ขณะที่เธอกำลังจะออกไป ก็เจอกับคนที่ไม่อยากเจอ ลู่ซือหยี่

เธอโดนขวางไว้ไม่ให้ออก

“ลู่ซือหยี่ เธอคิดจะทำอะไร”

เธอทำได้เพียงหยุด แล้วพูดด้วยเสียงเย็นชา

ลู่ซื่อหยี่จ้องเธอ อมยิ้มเบาๆ “ทำอะไรหรอ กู้ฉางซิน เมื่อก่อนเธอเป็นแม่เสือสาวมีเขี้ยวเล็บไม่ใช่หรอ ทำไมพอเจอมู่เฉาเกอเข้าไป กลายเป็นแมวซะแล้วล่ะ เห็นอยู่ชัดๆว่าหล่อนอยากจะงาบพี่จิ่งเหยาไป แต่เธอกลับไม่ตอบโต้อะไรเลย นี่มันไม่ใช่นิสัยเธอหรือเปล่ากู้ฉางซิน”

กู้ฉางฉิงได้ฟัง ก็กระพริบปริบๆ ในใจก็เข้าใจความหมายของเธอ แต่แสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง “คุณพูดอะไรของคุณ ทุกคนเขาก็เห็นว่าคุณมู่น่ะทำงาน”

ลู่ซือหยี่ยังคงนิ่ง พูดเสียดสีออกมา “อย่ามาเสแสร้ง จุดประสงค์ของมู่เฉาเกอน่ะ ฉันไม่เชื่อหรอกว่าเธอดูไม่ออก”

กู้ฉางฉิงยักไหล่ไม่สนใจ

“ฉันดูออกแล้วยังไรหรอ ทำไมล่ะ คุณเดือดร้อนหรอ แต่ฉันไม่ได้เดือดร้อนอย่างคุณลู่นะคะ…….”

เธอพูดจบ ก็ยิ้มเยาะเหมือนไม่ได้สำคัญอะไร ลู่ซือหยี่โกรธจนตัวสั่น

กู้ฉางฉิงไม่สนใจ หมุนตัวเตรียมจะเดินออกไป

เธอไม่เข้าใจผู้หญิงคนนี้จริงๆ

ว่าจะมายุยงให้เธอทะเลาะมู่เฉาเกอทำไม

เธอจะบ้าหรือเปล่า

ลู่ซือหยี่ไม่รู้ว่าภายในใจเธอคิดอะไรอยู่ แต่เธอโดนท่าทางของกู้ฉางฉิงดูถูกแบบนี้ เธอโกรธมาก

ทันใดนั้นเธอก็เดินไปดักกู้ฉางฉิงไว้ ถามเสียงดัง “กู้ฉางซิน เธอมันโอหัง ”

กู้ฉางฉิงโดนอีกคนจับไว้ ทั้งตกใจและโมโห

“ปล่อย”

เธอดิ้นขัดขืน แต่ลู่ซือหยี่กลับยิ่งจับแน่นขึ้น

“กู้ฉางซิน เธอมีอะไรให้ทำตัวยโสโอหังแบบนี้ได้ ถ้าไม่ใช่เพราะพี่จิ่งเหยา เธอคิดหรอว่าเธอจะชนะฉันได้ ดูอย่างวันนี้ที่มู่เฉาเกอเข้ามายุ่งสิ ฉันจะรอวันที่เธอโดนพี่จิ่งเหยาทิ้ง”

เธอตวาดออกมาเหมือนเสียสติ

กู้ฉางฉิงก็อึ้งไปเลยทันที

ตอนแรกเธอไม่สมใจมู่เฉาเกอมากนัก แต่ว่าโดนเธอพูดกระตุ้นให้ฉุกคิดแบบนี้ ก็รู้สึกใจกระตุกขึ้นมาทันที

แต่ไม่รอให้เธอจมอยู่กับความคิดนาน ลู่ซือหยี่เห็นว่าอีกคนดูแปลกไป จึงพูดว่า “เป็นไง กลัวขึ้นแล้วล่ะสิทีนี้ กู้ฉางซิน เธอยอมรับเถอะ ว่าถ้าไม่มีพี่จิ่งเหยา เธอก็ไม่เหลืออะไรแล้ว”

กู้ฉางฉิงมองเธอ ในแววตาหงุดหงิด

“ลู่ซือหยี่ เธอบ้าหรือเปล่า คิดอะไรเสื่อมๆ ถ้าวันนี้จะมีมือที่สามเข้ามายุ่ง ยังไงเธอก็ไม่สมหวังหรอก เสียใจด้วย แล้วช่วยอย่ามายุ่งกับฉัน ฉันเห็นแล้วจะอ้วก แล้วฉันก็ไม่มีเวลามาทะเลาะกับเธอหรอกนะ ฉันขี้เกียจมาทะเลาะเรื่องไม่เป็นเรื่องกับเธอ เกรงว่าจะเสียเวลาเปล่า”

ลู่ซือหยี่ได้ฟัง คำก็มือที่สาม คำก็ไม่สมหวัง เธอโกรธจนสติหลุด

“นังผู้หญิงต่ำ เธอว่าใครเป็นเมียน้อย ใครไม่สมหวังแล้วจะเสียใจ”

เธอคาดคั้น จ้องไปที่หน้าของกู้ฉางฉิง

กู้ฉางฉิงที่ก่อนหน้านี้เวียนหัวอยู่แล้ว ตอนนี้ต้องพยายามไม่แสดงอาการออกมา แต่ก็ยังเซไปมาบ้างอยู่หลายครั้ง จนแทบจะยืนไม่ไหว

เธอมองลู่ซื่อหยี่ด้วยแววตาหงุดหงิด ประชดออกไปว่า “ลู่ซือหยี่ เธอกล้าเผยธาตุแท้ออกมาแล้วงั้นหรอ ฉันเข้าใจแล้วว่าทำไมจิ่งเหยาถึงไม่ชอบเธอ ตีสองหน้าแบบนี้ ไม่กลัวจิ่งเหยาจะจับได้หรอ สมแล้วล่ะที่เธอจะเป็นแบบนี้”

ลู่ซือหยี่โดนอีกคนพูดยั่วโมโห เธอก็ยิ่งกัดฟันแน่นจ้องไปที่กู้ฉางฉิง

“เหอะ ฉันตีสองหน้างั้นหรอ เธอก็ไม่ต่างกันหรอก ตอนที่พี่จิ่งเหยาไม่อยู่ ไม่รู้ว่าใครกันที่ไปเที่ยวกลางคืน มั่วกับผู้ชายคนโน้นคนนี้ พอพี่จิ่งเหยากลับมา เธอก็กลับมาเสแสร้งอยู่แบบนี้”

พูดจบ ไม่รู้ว่าเธอคิดอะไรอยู่ จึงพูดออกไปอีกว่า “กู้ฉางซิน เธออย่าเสแสร้งว่าเป็นคนดีต่อหน้าฉันดีกว่า เร็วสิ ก่อนที่จะมีคนมาเห็นเข้า ฉันอยากรู้จริงๆ ว่าจะอธิบายให้พี่จิ่งเหยาฟังว่าอะไร ”

เธอพูดเสร็จ เธอก็กวาดสายตามองกู้ฉางฉิงอย่างดูถูก ยิ้มเยาะ แล้วผละออกไป

กู้ฉางฉิงมองข้างหลังเธอที่เดินออกไป คิดถึงคำที่เธอพูดเมื่อครู่ ก็สังหรณ์ใจไม่ค่อยดี

กลัวว่าผู้หญิงคนนี้จะทำอะไรที่คาดไม่ถึง

ทันใดนั้น ก็มีเสียงล็อคประตูดังขึ้นเรียกสติเธอกลับมา

เธอรีบวิ่งไปเปิดประตู แต่ปรากฎว่าประตูห้องน้ำถูกล็อคจากด้านนอก

ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเป็นฝีมือใคร

“ลู่ซือหยี่ เปิดประตูให้ฉันนะ”

ลู่ซือหยี่ได้ยินเสียงเรียกจากด้านใน แต่เธอไม่สนใจ นำป้ายปิดปรับปรุงมาตั้งไว้หน้าประตู แล้วหมุนตัวเดินออกไป

กู้ฉางฉิงทุบประตูอยู่ครู่ใหญ่ จนเริ่มจะหมดแรง บวกกับอาการเมา ทำให้ทั้งร่างล่วงลงไปกองที่พื้น

………

ที่ห้องวีไอพี บรรยาครึกครื้น

เฟิงจิ่งเหยานั่งเป็นประธานอยู่ เขานิ่งเงียบ เอาหลังพิงเก้าอี้อย่างเหนื่อยอ่อน ไม่ได้สนใจพนักงานหญิงที่มาบริการ

แต่เขาก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน สองจิตสองใจ ใจหนึ่งก็ต้องคอยรับมือกับมู่เฉาเกอ อีกใจหนึ่งก็มองไปที่ประตูตลอด

เวลานี้นับจากที่กู้ฉางฉิงแยกไปเข้าห้องน้ำก็นานมากแล้ว แต่ทำไมยังไม่กลับเข้ามา ทำให้เขาขมวดคิ้วแน่น

“ผมออกไปข้างนอกสักครู่นะครับ”

เขาขอนุญาตมู่เฉาเกอ แล้วแยกตัวออกไป

มู่เฉาเกอรู้ทันทีว่าเขาออกไปทำอะไร เธอไม่ได้ลุกตามออกไป แล้วหันกับมาสนทนากับเหล่าคนที่ยกแก้วชวนดื่ม

ด้านเฟิงจิ่งเหยาที่แยกออกมา ไม่นานก็เจอกับลู่ซือหยี่

เขาเห็นว่าเธอเดินมาจากทางห้องน้ำ ก็ถามขึ้นมาก่อน “ตอนที่เธอออกมา เห็นกู้ฉางซินหรือเปล่า”

ตอนแรกที่เห็นเฟิงจิ่งเหยาเธอดีใจมาก แต่เมื่อฟังที่เขาถามแล้ว ก็หุบยิ้มทันที

เธอกรอกตาหนึ่่งที แล้วชี้ไปที่ทางเดิน “ฉันเพิ่งมาจากทางด้านนู้นค่ะ ไม่เจอเลย ไม่แน่ว่าฉางซินอาจจะไปห้องน้ำอีกฝั่งก็ได้นะคะ ”

เฟิงจิ่งเหยามองตามที่เธอชี้ ไม่คิดอะไรมาก ก็เดินไปตามทางนั้น

ลู่ซือหยี่มองตามหลังเขาที่เดินออกไป ยกยิ้มมุมปากที่ทุกอย่างเป็นไปตามแผน

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

Status: Ongoing
ก่อนแต่งงานแทนน้องสาวเข้าไปในตระกูลเฟิง กู้ฉางชิงได้ยินว่าเฟิงจิ่งเหยาเป็นคนที่เฉยเมย ต่อมาถึงได้รู้ว่าข่าวลือล้วนเป็นเรื่องโกหก คุณเฟิงไม่เพียงแต่ไม่เย็นชา กลับเป็นคนที่อบอุ่น แต่กระตือรือร้นเป็นพิเศษในการมีทายาท มีคนพูดเป่าหูต่อหน้าเขา “คุณเฟิง ก่อนคุณจะกลับประเทศ ในทุกๆคืนภรรยาของคุณจะไม่กลับบ้าน เพราะออกไปเมาข้างนอก” เฟิงจิ่งเหยา “หลังจากฉันกลับประเทศ ตอนค่ำภรรยาของฉันจะมาอยู่ที่ห้องฉัน ปรนนิบัติฉันไม่นอนทั้งคืน” มีคนพูดอีกว่า “ก่อนคุณจะกลับมา ภรรยาของคุณช้อปปิ้งทั้งวัน เปลี่ยนรถยี่ห้อหรูไม่หยุด แถมยังมีหนุ่มคอยอยู่เธอตลอดเวลา” เฟิงจิ่งเหยา พูดต่อว่า “หลังจากฉันกลับประเทศ บัตรเครดิตทุกใบของฉัน ฉันก็อยากให้ภรรยาฉันใช้ แต่เธอไม่ต้องการ ไปกลับจากที่ทำงานก็ให้ฉันไปรับแค่คนเดียว” สำหรับคนที่เย็นชา เมื่อมีภรรยาจะคลั่งรักเป็นพิเศษ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท