สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา – บทที่ 110 อยากหย่ากับฉันหรอ

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

เมื่อกู้ฉางฉิงได้ฟัง สีหน้ายิ่งหม่นลง

เธอมองไปที่เฟิงจิ่งเหยาอย่างหมดความเชื่อถือ โกรธจนตัวสั่น

“สารเลว”

จากรู้สึกอับอายแปลเปลี่ยนเป็นความเดือดดาล จนง้างมือขึ้นมา

แต่ไม่ทันที่เธอจะได้ลงมือ ข้อมือก็ถูกเฟิงจิ่งเหยาคว้าไว้ซะก่อน

“ทำไม ฉันพูดผิดงั้นหรอ”

เฟิงจิ่งเหยาจ้องมองเธอที่โกรธมากขึ้น ด้วยใบหน้าที่หงุดหงิด

เขายังคงคิดว่ากู้ฉางฉิงแสดงละครต่อหน้าเขาอยู่

“เธอกล้าบอกไหมล่ะ ว่าเมื่อก่อนเธอไม่ได้มั่วอยู่กับคนพวกนั้น ไม่เช้าไม่กลับบ้าน”

กู้ฉางฉิงได้ฟังก็ตกใจ ที่เขาเข้าใจผิดคิดว่าเธอเป็นเหมือนกู้ฉางซินเมื่อก่อน ทำให้สีหน้ายิ่งแย่ลง

ไม่รอให้เธอได้พูดอะไร เฟิงจิ่งเหยามองหน้าเธอที่นิ่งเงียบ คิ้วก็ยิ่งขมวดแน่น “ไม่พูดอะไรหน่อยล่ะ บอกว่าเข้าใจผิดก็ได้ ถ้าเป็นแบบนี้ เธอจะให้ฉันไล่เธอกลับไปบ้านตระกูลกู้เลยไหม คนอย่างเฟิงจิ่งเหยาไม่สนใจผู้หญิงอย่างเธอยู่แล้ว”

กู้ฉางฉิงเรียกสติกลับมา โดนคำพูดของเขาเสียดแทงใจ หน้าก็ยิ่งซีดขาว

จนเธอก็อยากจะออกจากบ้านตระกูลเฟิงซะให้รู้แล้วรู้รอด ไม่อยากทนกับความอคติพวกนี้

แต่ความเป็นจริงเธอทำอย่างนั้นไม่ได้

ถ้าเธอออกกจากตระกูลเฟิงจริงๆ เกรงว่ากู้หงเซินจะไม่ยอมปล่อยเธอไป

เมื่อเธอพิจารณาเกี่ยวกับเหตุการณ์ในครั้งนี้ ก็เป็นแผนของคนตระกูลเฟิง

ยิ่งคิดเธอก็ยิ่งโกรธ จนกำมือแน่น จ้องเฟิงจิ่งเหยาด้วยสายตาโกรธเคือง

“เฟิงจิ่งเหยา คุณหมายความว่ายังไง อยากหย่ากับฉันงั้นหรอ ”

เฟิงจิ่งเหยาได้ยินคำว่าหย่า ก็คิ้วกระตุกทันที

เขาไม่ได้ตั้งใจหมายความแบบนั้น และไม่อยากได้ยินคำนี้

แม้ว่า การแต่งงานระหว่างเขาและกู้ฉางซินจะเป็นการจัดการของคุณปู่ ถ้าอยากจะหย่าก็ต้องผ่านความเห็นชอบของคุณปู่ด้วยสิ

ขณะที่เขากำลังจะพูดสิ่งที่คิดไว้ กู้ฉางฉิงก็ขัดขึ้นมาก่อน

“เหอะ ถ้าคุณอยากจะหย่า ก็ไปบอกคุณปู่เองแล้วกัน ฉันกู้ฉางฉิงไม่ใช่คนหน้าด้านหรอก อีกอย่าง คิดว่าฉันอยากมาที่นี่งั้นหรอ ถ้าไม่ใช่เพราะคุณอาเล็กบอกว่าคุณมาที่นี่ ให้ฉันมารับคุณกลับ คุณคิดว่าฉันจะมาไหมล่ะคะ”

กู้ฉางฉิงพูดไปตามที่ใจคิด

เธอรู้ว่าเฟิงจิ่งเหยาไม่เอาเรื่องหย่าไปบอกคุณปู่ เธอจึงพูดแบบนี้เพื่อเป็นข้ออ้าง เพื่อถือโอกาสอธิบาย

เพราะนิสัยผู้ชายแบบนี้ ต่อให้เธออธิบายความจริง ก็ไม่มีทางเชื่อเธอแน่ๆ

แล้วก็เป็นอย่างที่เธอคิด

เมื่อเฟิงจิ่งเหยาฟังที่เธอพูด จากที่โมโหมาก หลังจากฟังจบก็อ่อนลง และหยุดชะงักไป

ขณะที่เขาคิดอยากจะถามกู้ฉางฉิง กู้ฉางฉิงก็แกะมือเขาออก และเดินโกรธออกไป

เฟิงจิ่งเหยาอยากจะตามไป แต่พอจะก้าวไปก็ต้องถอยกลับมา

เห็นว่ากู้ฉางซินกำลังโกรธ แม้ว่าเขาจะตามไปถามก็คงไม่ได้คำตอบที่อยากรู้

เมื่อคิดแบบนี้แล้ว จึงหันกลับมาทางชวี่ยี่ที่ตามหลังมา

“เกิดอะไรขึ้นกันแน่”

ชวี่ยี่สังเกตเห็นท่าทางโมโหของท่านประธาน จึงกล้าๆกลัวๆที่จะพูดออกไป

“ผมก็ไม่ค่อยแน่ใจครับ เมื่อสักครู่ที่บังเอิญเจอคุณหนูห้าที่ทางเดิน ก็บอกว่าคุณนายรองอยู่ที่ห้องจัดเลี้ยงนั้น ฝากให้ผมไปบอกท่านประธานด้วย”

เฟิงจิ่งเหยาฟังแล้วก็คิ้วขมวด

เขาคิดถึงประโยคที่กู้ฉางฉิงพูดก่อนจะออกไป จึงพูดออกมาด้วยเสียงเข้ม “นายไปถามคนที่ห้องนั้นดูซิ ว่างานในคืนนี้ใครเป็นคนจัดขึ้นมา”

“ได้ครับ”

ชวี่ยี่รับคำสั่ง และไม่รอช้ารีบตรงไปที่ห้องจัดเลี้ยงนั้น

ณ ห้องจัดเลี้ยง บรรยากาศภายในห้องเริ่มกลับสู่ปกติ

ดื่มกันบ้าง พูดคุยกันบ้าง

แต่ก็ไม่วายจะพูดถึงเหตุกาณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อสักครู่

“ฉันคิดว่ากู้ฉางซินไม่ได้ออกมาเที่ยวนานขนาดนี้แล้ว จะเปลี่ยนนิสัยไปซะอีก ที่ไหนได้ เป็นเพราะกลัวคนที่บ้านน่ะสิ”

“แต่ว่า สายตาของประธานเฟิงคนนัั้นดูเหมือนอยากจะกินเลือดกินเนื้อพวกเราเลย”

“ฉันจะบอกให้นะ แบบนั้นถึงเรียกว่าผู้ชายไง ไม่เกรงกลัวใคร ดูมีออร่ามาก แบบนี้สิถึงเหมาะสมกับผู้หญิงแบบกู้ฉางซิน”

ขณะที่พูดคุยกันอยู่นั้น ประตูห้องก็เปิดขึ้นอีกครั้ง

ทุกคนต่างก็หันไปมอง

บางคนคิดว่าเฟิงจิ่งเหยากลับมาเอาคืน แต่เมื่อเห็นว่าไม่ใช่เฟิงจิ่งเหยาก็โล่งใจ

“น้องมาหาใครหรอ ”

เพราะเมื่อเห็นท่าทางของชวี่ยี่ ก็มีคนถามขึ้นมา

ชวี่ยี่กวาดสายตามองไปรอบๆ จึงยกยิ้มมุมปากเบาๆและกล่าวแนะนำตัวเอง “ขออนุญาตรบกวนเวลาทุกคนนิดนึงนะครับ ท่านประธานส่งผมมาสอบถามอะไรนิดหน่อย เอ่อ ท่านประธานของผมคือคุณเฟิงจิ่งเหยาครับ หวังว่าทุกคนจะให้ความร่วมมือนะครับ”

เมื่อทุกคนได้ฟัง ก็เลิ่กลั่กกันไปหมด

“ท่านประธานเฟิงอยากจะถามอะไรหรอ”

พวกเขาไม่กล้าขัดขืนเฟิงจิ่งเหยา จึงต้องให้ความร่วมมือ ไม่งั้นคงลำบากแน่

กลัวว่าเฟิงจิ่งเหยาจะมาเอาคืนพวกเขาเพราะกู้ฉางซิน

ขณะที่พวกเขาตื่นตระหนกกันอยู่นั้น ชวี่ยี่ก็ถามขึ้นว่า

“ท่านประธานอยากทราบว่างานในคืนนี้ใครเป็นคนจัดขึ้นมา และใครเป็นคนพาคุณนายรองของเรามาที่นี่”

เมื่อทุกคนได้ฟังก็ยิ่งแปลกใจ

แต่พวกเขาก็ไม่ได้คิดอะไรมาก แค่ไม่มาเอาคืนกับพวกเขาแค่นั้นก็โอเคแล้ว

“พูดถึงคนจัดงานก็เป็นคุณอาเล็กของท่านประธานเฟิงไง บอกว่าไม่ได้จัดนานแล้ว จึงชวนพวกเรามาปาร์ตี้กัน”

“พูดถึงคุณนายรองของนาย พอพวกเรามาถึงก็เห็นอยู่กับคุณหนูเฟิงกับคุณหนูลู่อยู่ที่นี่อยู่แล้ว คิดว่าคงมากับพวกหล่อนมั้ง ”

หลายคนช่วยกันตอบคำถาม ซึ่งเป็นข้อมูลที่ดีให้ชวี่ยี่ไม่น้อย

แล้วข้อมูลเหล่านี้ก็ทำให้สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย

เพราะเมื่อได้ยินแบบนี้แล้ว มันช่างแตกต่างจากที่คุณหนูห้ามาบอกเขาก่อนหน้านี้

“รบกวนทุกคนมามากแล้ว เชิญทุกคนสนุกต่อได้เลยครับ”

เขาค่อยๆแยกตัวออกมาจากห้อง แล้วตรงไปที่เฟิงจิ่งเหยา

“ท่านประธานครับ ได้ข้อมูลที่ชัดเจนแล้วครับ พวกเราน่าจะเข้าใจคุณนายรองผิดไป”

เฟิงจิ่งเหยาได้ฟัง สีหน้าก็ยิ่งเข้มขึ้น

“เกิดอะไรขึ้น”

“คนข้างในบอกว่า งานนี้คุณหนูห้าเป็นคนจัดขึ้นมา แล้วคุณนายรองก็น่าจะมากับคุณหนูห้าและคุณหนูลู่”

ชวี่ยี่ค่อยๆตอบอย่างระมัดระวัง “พวกเราน่าจะเข้าใจคุณนายรองผิดครับ”

แต่มีอีกประโยคที่เขาไม่กล้าพูดออกมา

ว่าเหตุการณ์นี้เป็นแผนของคุณหนูห้า เกรงว่าจะมีผลต่อคุณนายรอง

แต่ถึงแม้ว่าเขาไม่พูดออกมา เฟิงจิ่งเหยาก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน ดูจากสีหน้าที่เข้มขึ้น

บวกกับคำพูดของกู้ฉางฉิงก่อนที่จะออกไป เขาก็พอจะรู้ว่านี่เป็นแผนของเฟิงจิ้งหยวน

รวมถึงเหตุผลที่เฟิงจิ้งหยวนทำแบบนี้ เขารู้อยู่แก่ใจดี แต่กลัวว่าลู่ซือหยี่จะไม่พอใจ

เพราะเวลาที่ลู่ซือหยี่อยู่ที่บ้านตระกูลเฟิง เธอก็ทำตัวดีตลอด

เมื่อคิดอย่างนี้แล้ว เขาก็ยิ่งนึกถึงความรู้สึกเสียใจของกู้ฉางฉิงที่เพิ่งเดินออกไป เขารู้สึกผิดขึ้นมาทันที

เขาเข้าใจเธอผิด แถมยังพูดแรงเกินไปอีก

คงไม่แปลกที่เธอจะโกรธจนอยากจะตีเขา

ชวี่ยี่ก็ทราบดีว่าท่านประธานของเขารู้สึกผิดต่อคุณนายรอง เพราะดูจากสีหน้า เขาจึงค่อยๆถามขึ้นมาว่า “ท่านประธานครับ ตอนนี้พวกเราจะทำยังไงกันดี”

เฟิงจิ่งเหยาฟังจบ ก็หันไปมองเขา

“นายไปบอกกรรมการหวางนะ ว่าเรื่องสัญญาค่อยคุยกันวันอื่น วันนี้ฉันมีธุระ จำเป็นต้องรีบไป”

ชวี่ยี่รับคำสั่ง “เข้าใจแล้วครับ”

หลังจากที่เขารับคำสั่งแล้ว เฟิงจิ่งเหยาเม้มปากแล้วก็รีบเดินออกไปที่ประตู

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

Status: Ongoing
ก่อนแต่งงานแทนน้องสาวเข้าไปในตระกูลเฟิง กู้ฉางชิงได้ยินว่าเฟิงจิ่งเหยาเป็นคนที่เฉยเมย ต่อมาถึงได้รู้ว่าข่าวลือล้วนเป็นเรื่องโกหก คุณเฟิงไม่เพียงแต่ไม่เย็นชา กลับเป็นคนที่อบอุ่น แต่กระตือรือร้นเป็นพิเศษในการมีทายาท มีคนพูดเป่าหูต่อหน้าเขา “คุณเฟิง ก่อนคุณจะกลับประเทศ ในทุกๆคืนภรรยาของคุณจะไม่กลับบ้าน เพราะออกไปเมาข้างนอก” เฟิงจิ่งเหยา “หลังจากฉันกลับประเทศ ตอนค่ำภรรยาของฉันจะมาอยู่ที่ห้องฉัน ปรนนิบัติฉันไม่นอนทั้งคืน” มีคนพูดอีกว่า “ก่อนคุณจะกลับมา ภรรยาของคุณช้อปปิ้งทั้งวัน เปลี่ยนรถยี่ห้อหรูไม่หยุด แถมยังมีหนุ่มคอยอยู่เธอตลอดเวลา” เฟิงจิ่งเหยา พูดต่อว่า “หลังจากฉันกลับประเทศ บัตรเครดิตทุกใบของฉัน ฉันก็อยากให้ภรรยาฉันใช้ แต่เธอไม่ต้องการ ไปกลับจากที่ทำงานก็ให้ฉันไปรับแค่คนเดียว” สำหรับคนที่เย็นชา เมื่อมีภรรยาจะคลั่งรักเป็นพิเศษ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท