สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา – บทที่ 114 เธอไม่คู่ควรกับเขา

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

สองวันต่อมาทุกอย่างก็เป็นไปด้วยความเรียบร้อย

หลังจากที่กู้ฉางชิงได้รับการดูแลรักษาอยู่ที่บ้าน เธอก็สามารถกลับไปทำงานได้แล้ว

ทางด้านบริษัท มู่เฉาเกอได้เผยแพร่การผลิตสำเร็จเสร็จสิ้นแล้ว

สองสามวันมานี้การเผยแพร่นี้เป็นไปอย่างคึกคัก

ประสิทธิผลดีมาก เหนือความคาดหมายของบริษัท

เนื่องจากบริษัทมีเสถียรภาพสูง ฐานลูกค้าล้วนเป็นไฮโซผู้หญิงและดารานักแสดง หลังจากที่มู่เฉาเกอเผยแพร่ ก็พูดได้ว่าในการวางตลาดเป็นครั้งแรกนี้ ยอดการสั่งจองทางโทรศัพท์นั้นทะลุเป้า

แต่แค่นี้ยังไม่พอเนื่องจากทุกคนรู้ชัดเจนดี ลูกค้าส่วนใหญ่เหล่านี้ล้วนมาเพราะมุ่งเป้าไปที่มู่เฉาเกอ

ถึงอย่างนั้นเสื้อผ้าสำเร็จรูปของบริษัทก็ยังขาดตลาด และบางส่วนก็ไม่มีจำหน่ายแล้ว จึงจำเป็นต้องผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูปชุดต่อไปอย่างเร่งด่วน

นอกจากนี้ยังมีหน้าร้านออฟไลน์ ซึ่งต้องเริ่มตรวจสอบสินค้าคงเหลือด้วย จึงไม่สามารถทำออนไลน์ได้

แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้ไม่เกี่ยวข้องกับกู้ฉางชิง

ในขณะที่เธอกำลังดูข้อมูลการขาย โดยเห็นว่าผลงานที่เธอออกแบบนั้นได้รับความนิยมมาก ในใจเธอไม่สามารถเก็บซ่อนความดีใจไว้ได้

“ดีไซเนอร์กู้ ตอนนี้คุณกำลังฮอตสุดๆ บนเว็บบอร์ดดีไซเนอร์ของต่างประเทศมากมาย ชื่นชมการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ของคุณ”

ชีเสี่ยวจิ่วมองเธอแล้วยิ้ม และอดไม่ได้ที่จะดีใจไปด้วยกัน

เธอชี้ไปที่เว็บบอร์ดบนคอมพิวเตอร์และกล่าวชื่นชม

กู้ฉางชิงได้ยินเธอพูดก็อึ้ง

เธอระยะนี้ยุ่งอยู่กับการออกแบบและเสื้อผ้าสำเร็จรูป แต่เบื้องหลังก็เกิดเรื่องขึ้นไม่น้อย เป็นเวลานานแล้วที่ไม่ได้ไปดูเว็บบอร์ด

เมื่อนึกถึงสิ่งนี้เธอก็อดไม่ได้ที่จะมองไปที่คอมพิวเตอร์ตามมือของชีเสี่ยวจิ่ว ไม่รู้ว่าใครบนเว็บบอร์ดพาบริษัทของพวกเธอไปถ่ายทอด ทำให้มีข้อความเรียงรายกันขึ้นมา

“พระเจ้า Longจริงๆด้วย นี่เป็นสมบัติล้ำค่าเลยนะ แต่ไหนแต่ไรไม่คิดว่าจะมีคนสามารถรวมองค์ประกอบหลายอย่างเข้าด้วยกัน ทำไมช่างเข้ากันขนาดนี้!”

“ใช่แล้ว มีเสน่ห์แบบย้อนยุค เพียงแค่มองก็ดึงดูดสายตา ถ้าสวมใส่นะ ไม่อยากจะเชื่อเลย”

“โชคดีที่ฉันมือไว้ ตอนนี้สินค้าหมดเรียบร้อยแล้ว”

“ดูฉันสิน่าสงสาร ยังอยากซื้อชุดใส่ไปงานเลี้ยงวันเกิดสักชุด ใครจะรู้ว่ามันหมดแล้ว แล้วก็ไม่รู้เมื่อไหร่จะมีมาใหม่”

ด้านหลังข้อความจะเบี้ยวและไม่สามารถอ่านได้

แต่ถึงอย่างไรกู้ฉางชิงก็ดีใจมาก และมีอารมณ์ดีอยู่สองสามวัน

และยอดขายของบริษัทก็ค่อยๆเป็นไปตามลำดับ แล้วทุกอย่างก็ไปได้ดี

และวันนี้ก็เป็นวันที่คุณแม่ลู่กับมาดามเฟิงนัดกันไว้

ทั้งสองมาที่คลับสปาที่นัดกันไว้แต่เช้า

หลังจากที่ช่างให้บริการเรียบร้อยแล้ว คุณแม่ลู่ก็โบกมือให้พวกเขาออกไป

“คุณนายเฟิง วันนี้นัดคุณออกมา อันที่จริงมีเรื่องอยากจะพูดกับคุณ”

คุณนายเฟิงได้ยินก็กระพริบตา ยิ้มแล้วพูดว่า:“คุณนายลู่เกรงใจกินไปแล้ว ความสัมพันธ์ระหว่างสองครอบครัวของเราเป็นยังไง ถ้าคุณมีอะไรจะพูดก็พูดมาเลยไม่เป็นไร”

คุณแม่ลู่กับเธอก็พูดสรรเสริญเยินยอกันอีกครั้ง จากนั้นก็พูดถึงความตั้งใจจริงของเธอ

“จะว่าไปคุณนายเฟิงกับลู่ซือยวี่ของบ้านเราก็ถูกชะตากัน หลักจากกลับมาถึงที่บ้าน นังหนูนั่นก็จะเป็นห่วงเป็นใยคุณนายเฟิงและพี่จิ่งเหยาของเธอ ถ้าให้ฉันพูดก็น่าเสียได้ เราสองครอบครัวเกือบจะได้ดอกกัน นังหนูนั้นตั้งแต่เด็กก็เฝ้านึกเฝ้าฝันจะได้แต่งงานกับจิ่งเหยาของพวกคุณ ใครจะรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น และก็ไม่รู้ว่าวันข้างหน้าจะมีโอกาสไหม?”

หลังจากที่เธอพูดจบเธอก็มองไปที่คุณนายเฟิง

คุณนายเฟิงแน่นอนว่าฟังคำพูดของเธอออก ในใจก็เดาได้คร่าวๆว่าคุณนายลู่หมายถึงอะไร และรอยยิ้มก็เปล่งประกายในดวงตาของเธอ

“โอกาสแน่นอนว่ามี คุณนายลู่วางใจได้”

เธอตอบกลับโดยเป็นการให้คำตอบ

แต่คำตอบนี้ไม่ใช่สิ่งที่คุณนายลู่ต้องการ

เธอต้องการเวลาที่แน่นอน ไม่อย่างนั้นลูกสาวของเธอก็ต้องรอต่อไปหรือ?

เมื่อไหร่พวกเขาจะทำให้กู้ฉางชิงออกไป นายท่านจะได้มาที่ตระกูลลู่อีกครั้ง

“คำพูดของคุณนายแน่นอนว่าวางใจ แต่ซือยวี่เด็กคนนี้ก็โตมากแล้ว จะล่าช้าไม่ได้ ไม่รู้ว่าจะสามารถให้เวลาที่แน่นอนได้ไหม พวกเราจะได้เตรียมตัว”

คุณนายเฟิงได้ยินอย่างนั้นก็ขมวดคิ้ว

สายตาสั่งให้เธอให้เวลา แต่เธอก็ไม่สะดวกที่จะให้

จิ่งเหยากับกู้ฉางซินผู้หญิงคนนั้นยังอยู่ในการแต่งงาน และจิ่งเหยายังคงปกป้องผู้หญิงคนนั้นเป็นอย่างดี อยากจะแยกพวกเขาออกจากกันคงต้องใช้เวลาสักพัก

ถ้าให้เวลาไปแล้ว และทั้งสองไม่ได้หย่าร้างกัน ตระกูลลู่จะไม่โกรธเคืองหรือ?

คิดอย่างนั้นแล้วเธอก็พูดออกมาด้วยความกังวล

“ไม่ใช่ว่าฉันไม่อยากให้เวลาที่แน่นอน แต่ฉันยังไม่รู้ว่าจะจัดการยังไงเพื่อแยกพวกเขาออกไปกัน และเบื้องหน้ายังมีนายท่านค่อยกดดันอยู่ ซึ่งจะเพิ่มความยุ่งยากให้กับเรื่องนี้มาก”

คุณแม่ลู่ฟังจบ ก็รู้ว่านี่ไม่ใช่การหลบเลี่ยงของคุณนายเฟิง

สถานการณ์ของตระกูลเฟิง เธอก็ฟังจากลูกสาวของเธอมาเยอะพอสมควร

เธอครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง ก็คิดออก

“จริงๆ เรื่องนี้นายท่านเป็นคนกำหนด อยากจะเปลี่ยนแปลงเกรงว่าจะเป็นเรื่องยาก เพียงแต่ว่า……”

ขณะที่เธอพูดก็หันหน้าไปมองคุณนายเฟิง และพูดด้วยรอยยิ้ม:“หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งทำผิดอย่างไม่น่าให้อภัย ฉันคิดว่าต่อให้เป็นนายท่านก็ต้องพิจารณาสถานการณ์โดยรวมด้วย”

คุณนายเฟิงได้ยินอย่างนั้นก็ครุ่นคิด

“คุณนายลู่เตือนให้ฉันได้สติ เอาอย่างนี้ ฉันกลับไปปรึกษาหารือกับคุณผู้ชายที่บ้านก่อน ได้รับการยืนยันแล้วฉันจะขอนัดคุณนายลู่ออกมาอีกครั้ง”

คุณแม่ลู่แน่นอนว่าไม่ปฏิเสธ

จากนั้นทั้งสองก็เปลี่ยนเรื่อง และคุยกันเรื่องจุกจิกโดยทั่วไป

หลังจากเสร็จสิ้นการทำสปา พวกเขาก็แยกย้ายกัน

คุณนายเฟิงกลับไปที่บ้านหลัก พร้อมกับใบหน้ายิ้มแย้ม

เฟิงซู่กลับมาแล้วเห็นเข้าพอดี จึงเอ่ยปากถาม

“วันนี้ไปเจอเรื่องอะไรมา?ยากกว่าจะได้เห็นคุณอารมณ์ดีสักครั้ง”

คุณนายเฟิงเห็นอยางนั้น ก็เล่าว่าวันนี้เธอออกไปข้างนอกกับคุณแม่ลู่ และนึกถึงสิ่งที่พวกเขาคุยกันก่อนหน้านี้ แล้วก็ยิ้ม

“คุณกลับมาพอดี ฉันมีเรื่องจะปรึกษาหารือกับคุณหน่อย”

เธอพูดและโบกมือให้คนรับใช้ที่อยู่รอบๆออกไป

เฟิงซู่จ้องมองด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความสงสัย

“เรื่องอะไร ทำลึกลับอย่างนี้”

คุณนายเฟิงได้ยินอย่างนั้น เธอก็ยิ้มแล้วเดินมาข้างๆเขา และพาเขาไปนั่งแล้วพูดว่า:“คุณว่าถ้าให้ลู่ซื่อยวี่มาเป็นลูกสะใภ้ของพวกเราเป็นไง?”

เฟิงซู่ได้ยินอย่างนั้นก็ขมวดคิ้ว

“คุณหมายความว่ายังไง?คุณลืมไปแล้วหรา จิ่งเหยาแต่งงานแล้ว”

คุณนายเฟิงเม้มริมฝีปาก:“ฉันจะลืมได้ยังไง แต่ฉันไม่ชอบกู้ฉางซิน คุณดูสิว่าตั้งแต่เธอเข้ามาในตระกูลเฟิงของพวกเรา ก่อเรื่องวุ่นวายขนาดไหน?ก่อนหน้าที่จิ่งเหยาจะกลับมาก็อยู่แต่ข้างนอกมั่วไปวันๆ ผู้หญิงแบบนี้คู่ควรกับลูกชายของพวกเราหรอ?”

ในตอนท้ายของการพูดคุยเธอยิ่งพูดก็ยิงโมโห

เฟิงซู่ไม่ได้โต้แย้ง และดูเหมือนจะเห็นด้วยกับเธอ

“พูดอย่างนั้นก็ไม่ผิด แต่อย่าลืมว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัวของจิ่งเหยา ในเมื่อเขาไม่พูดอะไรก็แสดงว่าเขาไม่ได้สนใจ ถ้าคุณใช้การบีบบังคับ ก็ระวังว่ามันจะกลับตาลปัตร อย่าลืมสองสามครั้งก่อนหน้านี้ที่คุณให้เขากลับมาจัดการปัญหาของกู้ฉางซิน พวกคุณแม่ลูกเกือบจะทะเลาะกัน”

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

Status: Ongoing
ก่อนแต่งงานแทนน้องสาวเข้าไปในตระกูลเฟิง กู้ฉางชิงได้ยินว่าเฟิงจิ่งเหยาเป็นคนที่เฉยเมย ต่อมาถึงได้รู้ว่าข่าวลือล้วนเป็นเรื่องโกหก คุณเฟิงไม่เพียงแต่ไม่เย็นชา กลับเป็นคนที่อบอุ่น แต่กระตือรือร้นเป็นพิเศษในการมีทายาท มีคนพูดเป่าหูต่อหน้าเขา “คุณเฟิง ก่อนคุณจะกลับประเทศ ในทุกๆคืนภรรยาของคุณจะไม่กลับบ้าน เพราะออกไปเมาข้างนอก” เฟิงจิ่งเหยา “หลังจากฉันกลับประเทศ ตอนค่ำภรรยาของฉันจะมาอยู่ที่ห้องฉัน ปรนนิบัติฉันไม่นอนทั้งคืน” มีคนพูดอีกว่า “ก่อนคุณจะกลับมา ภรรยาของคุณช้อปปิ้งทั้งวัน เปลี่ยนรถยี่ห้อหรูไม่หยุด แถมยังมีหนุ่มคอยอยู่เธอตลอดเวลา” เฟิงจิ่งเหยา พูดต่อว่า “หลังจากฉันกลับประเทศ บัตรเครดิตทุกใบของฉัน ฉันก็อยากให้ภรรยาฉันใช้ แต่เธอไม่ต้องการ ไปกลับจากที่ทำงานก็ให้ฉันไปรับแค่คนเดียว” สำหรับคนที่เย็นชา เมื่อมีภรรยาจะคลั่งรักเป็นพิเศษ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท