สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา – บทที่ 118 เป็นไปได้ว่าจะตั้งท้อง

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

คุณนายเฟิงได้ยินความคิดของเฟิงจิ้งหยวน สีหน้าก็ลังเล

มิน่าล่ะก่อนหน้านี้น้องสาวสามีถึงบอกเธอว่าไม่เต็มใจ

ถึงอย่างไรกู้ฉางชิงก็ยังเป็นสะใภ้คนโตของตระกูลเฟิง ถ้าเธอต้องขายหน้าก็จะส่งผลกระทบต่อตระกูลเฟิงด้วย

และถ้าหากเกิดเรื่องใหญ่โต เธอก็กังวลมากว่าเรื่องมันจะไม่จบไม่สิ้น

โดยเฉพาะนายท่าน ไม่สนอะไรทั้งนั้นเพราะกู้ฉางซินคือคนที่เขาเลือก ถ้าเกิดเรื่องน่าอับอายขึ้น ก็ไม่รู้ว่าจะอธิบายยังไง

เธอคิดอย่างนี้แล้วก็พูดออกมา

“มีเรื่องอะไรต้องเป็นกังวล ถึงตอนนั้นก็ให้คุณพ่อได้เห็นว่ากู้ฉางชิงนังสารเลวนั่นกำลังนัวเนียกับผู้ชายคนอื่น คุณคิดว่าคุณพ่อของพวกเราจะยังปกป้องเธออยู่ไหม?”

ในขณะที่เฟิงจิ้งหยวนพูด ในตาของเธอก็เปล่งประกายสะท้อนให้เห็นความชั่วร้าย

นับตั้งแต่เฟิงจิ่งเหยาทำเพื่อผู้หญิงคนนี้ โดยการมาสร้างความยุ่งยากให้เธอ เธอก็ทนไม่ได้ที่จะให้ผู้หญิงคนนี้อยู่ที่บ้านตระกูลเฟิงต่อไป

เธอมองไปที่คุณนายเฟิงที่ยังคงลังเล ในตาดูสลัวเหมือนกินยาเกินขนาด

“อีกอย่างพี่สะใภ้คิดว่านิสัยผู้หญิงสำส่อนอย่างกู้ฉางซิน คุณจะแน่ใจได้ยังไงว่าถ้าเธอตั้งท้องแล้วจะเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของพวกเราตระกูลเฟิงจริงๆ ?ฉันก่อนหน้านี้ไม่ได้พูดเพราะจิ่งเหยาไม่ได้อยู่ในประเทศจีน แต่ตอนนี้จิ่งเหยากลับมาแล้ว ให้ตายยังไงเธอก็ไม่กลับตัว แอบลักลอบนัดชู้เข้ามาถึงในบ้าน คุณคิดว่าถ้าเด็กคนนั้นเกิดออกมาจะใช่ลูกของจิ่งเหยาหรอ?”

คุณนายเฟิงได้ยินอย่างนั้นก็ลังเลใจ

กู้ฉางชิงผู้หญิงที่ทรยศจิ่งเหยา จี้ถูกจุดเธอเข้าแล้ว อย่าคิดว่าจะได้มาปะปนเป็นสายเลือดของพวกเธอตระกูลเฟิง

เธอจะไม่ยอมให้ผู้หญิงคนนั้นทำอะไรที่เป็นภัยต่อชื่อเสียงของจิ่งเหยาเด็ดขาด

“เรื่องนี้ก็ทำตามที่เธอพูดแล้วกัน ฉันจะจัดการเรื่องงานการกุศลเอง”

เธอตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่น เฟิงจิ้งหยวนก็ดีใจ และพูดคุยกับเธอเกี่ยวกับรายละเอียดของงานการกุศล

……

ที่บ้านหลังใหม่ กู้ฉางชิงยังไม่รู้ถึงอันตรายที่กำลังใกล้เข้ามา

หลังจากที่เธอกลับไปที่ห้อง แม้ว่าเธอจะบอกว่าไม่สนใจเรื่องที่เฟิ่งจิ่งเหยาพบกับฉินเป่ยหาน แต่ในใจก็อดที่จะนึกถึงไม่ได้

และก็ไม่รู้ว่าผู้ชายคนนั้นหมายความว่ายังไง จนตอนนี้ก็ยังไม่พบปัญหา

เธอนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานและคิดฟุ้งซ่าน แม้แต่ภาพวาดในมือของเธอก็ไม่มีการเคลื่อนไหว

ในขณะเดียวกันเธอก็มองไปที่ประตูเป็นครั้งคราว

แต่ข้างนอกประตูนั้นเงียบสงบ สายตาเธอที่เฝ้ารอเปลี่ยนเป็นจิตตก

ไม่นานเธอก็พบว่าตัวเองมีท่าทีผิดปกติ และส่ายหัวทันที

ทำไมเธอจิตตก เฟิงจิ่งเหยาไม่สนใจไม่ใช่ว่าเป็นเรื่องดีหรือ และพวกเขาก็ไม่ต้องทะเลาะกัน

อีกอย่างผู้ชายคนนั้นก็ไม่ได้ชอบเธอ ที่ต้องแต่งงานด้วยกันกับเขาก็เพื่อที่จะทำตามภารกิจที่คุณปู่ของเขามอบให้

คิดอย่างนี้แล้วเธอก็อดไม่ได้ที่จะเบะปากหัวเราะเยาะตัวเอง

เธอบังคับตัวเองให้สงบลงและจดจ่อกับภาพการออกแบบในมือ

ก็เป็นอย่างนี้ เธอก็ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหนแล้ว จนพ่อบ้านมาแจ้งว่าอาหารเย็นพร้อมแล้ว

กู้ฉางชิงพยักหน้า เก็บกวาดแบบง่ายๆ และเดินออกนอกประตูไป

เธอไม่คิดว่าเดินมาถึงที่บันได แล้วจะชนกับเฟิงจิ่งเหยาที่กำลังจะเดินลงไปข้างล่าง

เธอหยุดชะงักและมองไปที่ใบหน้าของเฟิงจิ่งเหยาโดยไม่รู้ตัว ราวกับว่าเธอต้องการรู้ว่าเขารู้สึกยังไงในตอนนี้

เฟิงจิ่งเหยาไม่รู้ว่าเธอยังคงให้ความสนใจกับเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้น เมื่อเห็นเธอหยุดชะงัก เขาก็ขมวดคิ้วด้วยความสงสัยและพูดว่า:“ทำไมไม่เดิน?”

น้ำเสียงไม่ใส่ใจแสดงว่าไม่ได้โกรธ ทำให้กู้ฉางชิงรู้สึกโล่งใจและอึดอัดใจในเวลาเดียวกัน

เธอไม่สามารถบอกได้ว่าทำไมเธอถึงรู้สึกแบบนี้

“ก็ไปนี่ไง”

เธอเม้มริมฝีปากและตอบกลับ

แล้วทั้งสองก็ลงไปข้างล่าง ทันทีที่พวกเขานั่งลงคนรับใช้ก็วางอาหารลงบนโต๊ะ

ในระหว่างมื้ออาหารทั้งสองก็รับประทานอาหารอย่างเงียบ ๆ

หลังอาหารคนรับใช้นำซุปบำรุงมาอีกครั้ง และวางไว้ตรงหน้ากู้ฉางชิง

กู้ฉางชิงก็ยกขึ้นมาและดื่มตามปกติ

เพียงแต่ครั้งนี้เธอจิบแล้วได้กลิ่นยาที่รุนแรงกระจายอยู่ในปากของเธอ จนทำให้เธอรู้สึกคลื่นไส้

“อึ๋ม……”

ใบหน้าเธอเต็มไปด้วยความยากลำบาก เธอเอามือปิดปากแล้วลุกขึ้นวิ่งไปที่ห้องน้ำ

“คุณนายรอง คุณไม่เป็นไรใช่ไหม?”

เมื่อคนรับใช้เห็นอย่างนั้นก็ตามไปด้วยความเป็นห่วง

เฟิงจิ่งเหยามองดูพวกเขาจากไปพร้อมกับกะพริบตาสลัวๆ และลุกขึ้นเดินตามไป

ก่อนที่เขาจะเข้าไปใกล้ เขาก็ได้ยินเสียงอาเจียนจากในห้องน้ำ

หลังจากนั้นไม่นานเสียงนั้นก็หยุดลง กู้ฉางชิงเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยสีหน้าซีดเซียว

ไม่โทษที่เธอดูยากลำบาก เป็นเพราะกลิ่นยาที่รุนแรงที่ทำให้เธอท้องไส้ปั่นป่วน

เฟิงจิ่งเหยามองหน้าที่ซีดเซียวของเธอ และเม้มริมฝีปาก:“เดี๋ยวฉันจะให้ชวี่ยี่นัดหมอให้ เธอลองไปตรวจร่างกายดูหน่อย”

“รบกวนคุณแล้ว”

กู้ฉางชิงคิดว่าเขาจะให้เธอไปตรวจเรื่องกระเพาะอาหารและลำไส้ เธอจึงยิ้มขอบคุณ

แต่ไม่รู้ว่าเฟิงจิ่งเหยาคิดต่างจากเธออย่างสิ้นเชิง

สิ่งที่เขาคิดในตอนนี้ก็คือ เกือบจะหนึ่งเดือนแล้วที่ผู้หญิงคนนี้ประจำเดือนไม่มา เป็นไปได้ว่าเธออาจจะท้อง

และผู้หญิงคนนี้ยังอาเจียนอีก นี่เป็นสัญญาณของคนท้อง จึงทำให้เขาต้องคิดใครครวญ

กู้ฉางชิงไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้เลย เธอผ่อนคลายสักพัก และกินอะไรอีกนิดหน่อย จากนั้นก็กลับห้องไปพักผ่อน

วันรุ่งขึ้นเธอก็ตื่นมาตามปกติ และลงไปข้างล่างเพื่อทานอาหาร แต่พบว่าเฟิงจิ่งเหยายังอยู่ที่บ้าน

ดูเหมือนว่าเขากำลังรอเธอมาทานอาหารเช้าด้วยกัน

“ร่างกายคุณดีขึ้นรึยัง?”

เฟิงจิ่งเหยาไม่ได้สังเกตสายตาที่ดูแปลกใจของเธอ เมื่อเห็นเธอเดินลงมาก็เลยถามด้วยความเป็นห่วง

“ก็ปกติดี”

แม้ว่ากู้ฉางชิงจะรู้สึกแปลกๆ แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรมากและนั่งลง

ถึงอย่างไรเขาก็เป็นเจ้านาย อาจจะอยากให้เธอมีวันหยุด

เมื่อคิดอย่างนี้แล้วเธอก็ทานอาหารอย่างสบายใจ

ในขณะที่ทานอาหาร คำพูดของเฟิงจิ่งเหยาก็ดังขึ้นในหูของเธออีกครั้ง

“ทานอาหารเสร็จแล้วเธอขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้า อีกเดี๋ยวฉันจะพาเธอไปโรงพยาบาล”

กู้ฉางชิงตกตะลึงและมองเฟิงจิ่งเหยาด้วยความประหลาดใจ ราวกับไม่ได้คิดว่าเขาจะทำอย่างนี้

“ไม่ต้องหรอกเรื่องเล็กน้อยแค่นี้เอง ไม่อยากให้คุณต้องลำบากพาไป ฉันไปเองได้ คุณไปทำงานที่บริษัทเถอะ?”

เธอไม่อยากให้เฟิงจิ่งเหยาไปด้วย

หรือพูดได้ว่าเธอไม่อยากได้รับความหวังดีจากผู้ชายคนนี้ เพราะถ้ารับไว้มากๆ เธอก็มักจะลืมสถานะของตัวเอง และทำให้เกิดความรู้สึกที่แปลกๆกับตัวเองด้วย

เฟิ่งจิ่งเหยาไม่รู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เมื่อได้ยินคำปฏิเสธของเธอก็หยุดการเคลื่อนไหวและมองไปที่เธออย่างเย็นชา

เดิมทีกู้ฉางชิงยังอยากที่จะยืนยัน แต่เขาจ้องมองเธอด้วยสายตาที่ลึกล้ำจนรู้สึกว่าเสียวซ่าไปถึงหนังศีรษะ

สุดท้ายเธอก็ทนไม่ไหว จึงกัดริมฝีปากและตอบตกลง

“ก็ได้ คุณอยากพาไปก็พาไป”

เมื่อเฟิงจิ่งเหยาเห็นว่าเธอตอบตกลง ก็ทำเสียงฮึออกจากจมูก และทานอาหารต่อ

กู้ฉางชิงรู้สึกว่าอาหารไม่ค่อยถูกปากนิดหน่อย

ไม่นานเฟิงจิ่งเหยาก็ทานอาหารในจานจนหมด และเห็นว่าในจานของเธอยังมีอาหารเหลืออยู่เยอะ เขาก็ขมวดคิ้วเป็นการเร่งรัด

“คุณค่อยๆกิน ฉันจะรอคุณที่รถด้านนอก!”

เขาพูดจบก็หันหลังเดินออกจากประตูไป

กู้ฉางชิงมองเขาเดินจากไปจาก ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความยุ่งยาก และก็ยิ่งไม่อยากอาหาร

แต่เมื่อนึกถึงเฟิงจิ่งเหยาที่รออยู่นอกประตู เธอกินอาหารไม่กี่คำก็หมด แล้วก็ขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าข้างบน

“ฉันเสร็จแล้ว ไปกัน”

เธอเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดลำลองที่สะดวกในการตรวจร่างกาย และขึ้นรถไปพลางพูดไปพลาง

เฟิงจิ่งเหยาไม่ได้บอกคนขับรถในทันที แต่หันไปมองเธออย่างละเอียดอีกครั้ง

“ทำไมหรอ?”

กู้ฉางชิงจ้องมองและพูดด้วยความสับสน คิดว่าตัวเองมีอะไรผิดปกติจึงก้มสำรวจดู

“ไม่มีอะไร ไปกันเถอะ”

เฟิงจิ่งเหยาไม่ได้บอกเธอว่าเขากำลังดูว่าเธอใส่รองเท้าส้นสูงที่เป็นอันตรายหรือไม่

อย่างไรก็ตามสิ่งเหล่านี้เป็นอันตรายต่อคนท้อง อาจจะทำให้เกิดอันตรายได้

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

Status: Ongoing
ก่อนแต่งงานแทนน้องสาวเข้าไปในตระกูลเฟิง กู้ฉางชิงได้ยินว่าเฟิงจิ่งเหยาเป็นคนที่เฉยเมย ต่อมาถึงได้รู้ว่าข่าวลือล้วนเป็นเรื่องโกหก คุณเฟิงไม่เพียงแต่ไม่เย็นชา กลับเป็นคนที่อบอุ่น แต่กระตือรือร้นเป็นพิเศษในการมีทายาท มีคนพูดเป่าหูต่อหน้าเขา “คุณเฟิง ก่อนคุณจะกลับประเทศ ในทุกๆคืนภรรยาของคุณจะไม่กลับบ้าน เพราะออกไปเมาข้างนอก” เฟิงจิ่งเหยา “หลังจากฉันกลับประเทศ ตอนค่ำภรรยาของฉันจะมาอยู่ที่ห้องฉัน ปรนนิบัติฉันไม่นอนทั้งคืน” มีคนพูดอีกว่า “ก่อนคุณจะกลับมา ภรรยาของคุณช้อปปิ้งทั้งวัน เปลี่ยนรถยี่ห้อหรูไม่หยุด แถมยังมีหนุ่มคอยอยู่เธอตลอดเวลา” เฟิงจิ่งเหยา พูดต่อว่า “หลังจากฉันกลับประเทศ บัตรเครดิตทุกใบของฉัน ฉันก็อยากให้ภรรยาฉันใช้ แต่เธอไม่ต้องการ ไปกลับจากที่ทำงานก็ให้ฉันไปรับแค่คนเดียว” สำหรับคนที่เย็นชา เมื่อมีภรรยาจะคลั่งรักเป็นพิเศษ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท