สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา – บทที่ 122 ไม่หวั่นใจก็คงเป็นไปไม่ได้

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

และผู้ชายนั้นตั้งแต่อดีตจนปัจจุบันก็ยังไม่เปลี่ยนเลย ชุดสูตรงานฝีมือ

แต่พูดถึงแล้วชุดที่มาเข้ากับหน้าตาดีๆของเขา ทำให้มองยังไงก็ไม่เบื่อเลย เหมือนกับเหล้าที่หมักมานาน ยิ่งนานยิ่งดี มองไปยิ่งนานยิ่งน่ามอง

เขามองลงไปดูผู้คนที่อยู่ด้านล่าง อย่างกับราชาในสมัยก่อน ที่ทำให้คนรู้สึกเกรงและกลัว

และคนที่อยู่ข้างเขา กู้ฉางชิง ชุดที่รัดรูปแขนสั้นสีม่วงทำให้ส่วนเว้าส่วนนูนของร่างกายเห็นออกมาชัดเจน

และกระโปรงที่เป็นกลีบๆขยับจามก้าวที่เธอเดิน อย่างกับดอกไม้ที่งอกงาม

และหน้าของเธอที่แต่งอย่างสวยงามละเอียด

ผมที่เหมือนกับเส้นไหมที่ปูอยู่บนแผ่นหลังของเธอ มีไรผมเล็กๆที่ห้อยอยู่ตามใบหน้าของเธอ

มุมปากของเธอดูยิ้มพอดี ควงเฟิงจิงเหยาแล้วเดินลงไปข้างล่างทีละก้าวทีละก้าว

สองคนนี้อีกคนหนึ่งแข็งอีกคนหนึ่งอ่อนโยน รู้สึกเหมือนกำลังพอดีเลยอย่างกับเป็นคู่กัน ทำให้คนทั้งงานรู้สึกอึ้ง

ลู่ซือยวี่ยืนอยู่ที่ตรงบางมุมในงานนี้ และทำให้ในใจเธอเกลียดกู้ฉางชิงมากขึ้นไปอีก

ลู่ซือยวี่ยืนอยู่ตรงมุมนั้น มองจ้องคนที่เธอเกลียดอย่างไม่หยุดไม่หย่อนด้วยความอิจฉาที่มีอยู่เต็มอก

ยิ่งมีคนมากมายกำลังคุยกันเรื่องพวกเขา ยิ่งทำให้ในใจเธอเกลียดกู้ฉางชิงเข้าไปอีก

“เค้าว่ากันว่าผู้หญิงที่แต่งงานใหม่กับเธอความสัมพันธ์ไม่ค่อยดีกันไม่ใช่หรอ ฉันดูไม่เห็นเหมือนที่เค้าลือกันเลยนิ?”

“ก็คงจะมีคนลือไปเรื่อยล่ะมั้ง คงจะเป็นช่วงนี้อาการมันดีขึ้น แล้วหน้าตาของคุณหนูกู้คนนั้นก็สวยใช่ย่อย ประธานเฟิงก็คงมีหวั่นใจบ้างแหละ”

“ใช่สิ ถึงแม้จะมีข่าวว่าตระกูลกู้นิสัยไม่ค่อยดี แต่หน้าตาเนี่ย ดูดีมากทีเดียวเลยล่ะ”

ลู่ซือยวี่ยิ่งฟังยิ่งแค้น แต่แค่วิเดียวเท่านั้น เธอก็เก็บหน้าตาที่เต็มไปด้วยความโกรธของเธอไว้

และเธอก็ถือแก้วไวน์ที่วางไว้ข้างๆถือขึ้นมา ทำหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส เดินตรงไปที่เฟิงจิงเหยา

“พี่ชายจิงเหยาคะ”

ภายใต้สายตาเธอเต็มไปด้วยความรักใคร่

แต่เฟิงจิงเหยาเย็นชา ไม่สนใจเธอด้วยซ้ำไป

ลูซือยวี่เห็นแบบนี้ ทรมานจนกัดที่ริมฝีปากเธอ เธอกวาดตาไปไกลมองที่กู้ฉางชิง และหาเรื่องเปิดประเด็นคุย : ฉางชินเธอไปไหนหรอ? ทำไมไม่อยู่กับพี่ชายจิงเหยา?”

เฟิงจิงเหยามองเธอแบบสายตาที่กัดไม่ปล่อย ขมวดคิ้ว : “เธอจะไปไหนมันไม่เกี่ยวอะไรกับเธอ เธอยังมีเรื่องอะไรอีกไหม?”

มี่เขาอยากสื่อ ก็คือถ้าไม่มีอะไรก็เดินออกไปได้แล้ว

ลูซือยวี่ทำไมจะฟังไม่ออก ในแววตาของเธอเต็มไปด้วยความน่าสงสาร

“พี่ชายจิงเหยา พี่ชายจิงเหยายัง….”

เธออยากถามเฟิงจิงเหยา ว่ายังโกรธเรื่องวันนั้นใช่มั้ย แต่ไม่ทันพูดจบก็ถูกเฟิงจิงเหยาตัดบท

ไม่ ควรจะพูดว่า เธอไม่ได้อยู่ในสายตาต่อไปอีกตังหาก

เห็นเฟิงจิงเหยาเหมือนเจอคนที่คุ้นเคย คนรู้จัก ไม่มองลูซือยวี่ด้วยซ้ำ หันหลังกลับไปทักทายคนอื่นทันที

ลู่ซือยวี่กัดปาก มองดูเขาที่ยิ้มคุยกับคนอื่นจากด้านหลัง ในแววตาเธอดูค้างคาใจ

ทำไม ทำไมมันถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้ !

ในใจลึกๆของเธอกำลังคร่ำครวญ

นั่นมันเป็นความผิดของกู้ฉางชิงทั้งหมด ถ้าไม่ใช่อีนังนั่นมาทำให้แผนของเธอแตก พี่ชายเฟิงจิงเหยาก็จะไม่รู้เรื่องนั้น

กู้ฉาง มีแกไม่มีฉัน มีฉันต้องไม่มีแก!

กู้ฉางชิงไม่รู้ด้วยซ้ำ ว่าลู่ซือยวี่ถูกเมิน แล้วเขามาโทษเธอ

ตอนนี้เธอถูกบังคับให้อยู่ข้างๆกู้หงเซิง เห็นเขาพาตัวเองกับคนอื่นมาชมกัน พูดอีกว่าความสัมพันธ์พ่อลูกของพวกเขาดียังไงๆ ในใจเต็มไปด้วยความรังเกียจ

“ประธานกู้ตอนนี้น่ะเจริญแล้ว ได้เป็นความสัมพันธ์ทางด้านการแต่งงานกับตระกูลเฟิง

“ใช่สิ ตอนนั้นน่ะ มีคนมากมายอยากจะให้ลูกสาวตัวเองแต่งงานเข้าไปในตระกูลเฟิง ไม่คิดเลยว่าบ้านนี้จะได้”

“ใช่ไง คุณหนูเฟิงเป็นคนชัดเจนอยู่แล้ว ไม่แปลกที่คนนั้นในตระกูลเฟิงจะชอบ ประธานกู้เลี้ยงลูกมาดีจริงๆ”

“ใช่ที่ไหน ลูกสาวบ้านคุณก็ดีไม่แพ้กัน แค่ไม่มีพรมลิขิตต่อกันแค่นั้นเอง อีกหน่อยต้องเจอสามีดีๆแน่ครับ”

“ฮ่าๆ ขอให้เป็นแบบที่พูดนะครับ”

มีคนแก่กลุ่มนึงคุยสนุกกันอยู่ กู้ฉางชิงยืนอยู่ข้างๆ ยิ้มจนกรามจะค้างอยู่แล้ว”

และในเวลาเดียวกัน เธอก็รู้สึกแย่หน่อย

ที่ผ่านมา เธอก็รู้ว่ากู้หงเซิงหนะรักกู้ฉางชิน แต่วันนี้เธอเนี่ยเห็นเองกับตาเลย ว่าผู้ชายคนนี้รักตามใจอย่างไม่มีขีดจำกัด

เธอไม่เข้าใจ จริงๆแล้วทั้งสองคนก็เป็นลูกสาวเขา แต่ทำไมความแตกต่างถึงมากได้ขนาดนี้

พอคิดถึงตรงนี้ เธอก็ไม่มีใจจะแสดงต่อไปอีกแล้ว

เธอเห็นคนกลุ่มนี้คุยกันไม่มีจบ เลยหาข้ออ้าง : “พ่อ ขอโทษด้วยนะคะ จิงเหยาเรียกหนูไป ฉันต้องไปก่อนแล้วค่ะ”

“ไปเถอะ อย่าให้จิงเหยารอล่ะ”

กู้หงเซิงรู้อยู่แล้ว ว่านี่เป็นข้ออ้าง แต่ก็ไม่ได้พูดไม่ดีอะไร

เพราะสิ่งที่เขาต้องการให้แสดงออกมา เขาก็ได้แล้ว

กู้ฉางชิงเห็นสถานการณ์ดีแล้ว ก็หันตัวเดินกลับ

พอเธอหันกลับมา จากหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มเปลี่ยนเป็นแววตาที่เต็มไปด้วยความเหนื่อยหน่าย

เธอมองไปทั้งสี่ด้าน คนที่เดินอยู่ และยังเรียกพลังคืนมา ไม่ให้ตัวเองดูแปลกไป

ไม่ว่าอะไรก็ตาม วันนี้เธอจะเกิดเรื่องอะไรไม่ได้

ไม่งั้นคุณนายเฟิงไม่ปล่อยเธอไปง่ายๆแน่

เธอคิดไป คนก็เดินไปฝั่งเฟิงจิงเหยา

ไม่คิดเลยว่าเฟิงจิงเหยากำลังคุยกับมู่เฉาเกอ

สองคนไม่รู้คุยอะไรกันอยู่ ยิ้มกันไม่หยุดไม่หย่อน

โดยเฉพาะมู่เฉาเกอ สวยจนทำให้คนหลง ทำให้คนมองแล้วไม่อยากละสายตาเลย

เธอเม้มปาก ก็ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ หยุดไว้ที่ตรงนั้น ไม่เดินไปรบกวน

และกลับกันกับเธอไม่แคร์อะไร ฝั่งลู่ซือหยี่โกรธจนแทบจะระเบิดอยู่แล้ว

กู้ฉางชินอีกะหรี่นั่นเธอไม่ชนะก็ช่างมันเหอะ

แต่ตอนนี้มาโผล่ผู้หญิงอีกคนหนึ่ง ทำให้เธอหมดไฟหมดแผนไปเลย

เหตุผลง่ายมาก มู่เฉาเกอที่บ้านดีเลยทีเดียว

คิดถึงเรื่องพวกนี้ ลู่ซือหยี่อึดอัดอยู่ในใจ ดื่มไวน์ที่อยู่ในมือจนหมด

แบบนี้ ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ งานกำลังจะเริ่มแล้ว เฟิงจิงเหยากับมู่เฉาเกออยากจะออกไป

“ฉางชินยังไม่กลับมา เราลองไปหาดูก่อน”

มู่เฉาเกอรู้ว่าเดี๋ยวเปิดงาน เขาเป็นคนตระกูลเฟิง ต้องขึ้นไปพูดบนเวที เลยไม่ได้ห้ามเขาไว้

เฟิงจิงเหยาออกมา แน่นอนลู่ซือหยีทก็เห็นแล้ว

ในขณะที่เธอกำลังคิดวนกับเรื่องที่ผ่านมา กลับเห็นพี่ชายจิงเหยาของเธอเดินตรงไปที่กู้ฉางชิง

“อีเลวนี่!”

เธอมองด้วยสายตาที่อิจฉาและกัดฟันแน่น

กู้ฉาชิงเห็นเฟิงจิงเหยาเลยรู้สึกประหลาดใจ

“ทำไมเธอมาแล้วหรอ?”

เธอพูดไปพลางมองไปที่มู่เฉาเกอที่อยู่หลังเฟิงจิงเหยา ตอนนี้มู่เฉาเกอไม่รู้คุยกับใครแล้ว

“เดี๋ยวก็จะถึงเวลาเปิดงานแล้ว แม่ให้พวกเราไปเตรียมตัว”

เฟิงจิงเหยาไม่พูดอยู่แล้วว่าเห็นเธอไม่กลับมานาน รู้สึกเป็นห่วง

เขาตอบอย่างปิดบังไป กู้ฉางชิงก็ไม่ได้สงสัยอะไร

“งั้นพวกเราไปกันเถอะ”

เธอพูดจบก็ยืนขึ้น เดินไปที่หลังเวที”

“ดีใจมากนะคะที่ทุกคนได้มาเจอกันในงานการกุศลคืนนี้ ตอนนี้ งานได้เริ่มขึ้นแล้วค่ะ!”

คุณนายเฟิงยืนอยู่ที่เวที ยิ้มและพูด “ในถานะที่เป็นเจ้างานนะคะ วันนี้ที่บริจาคเริ่มจากจิงเหยาของเราก่อนเลยค่ะ”

เฟิงจิงเหยาได้ยิน เลยส่งซิกให้สวีหยางเอาภาพวาดหมึกจีนออกมา

“นี่คือผลงานโซวซานจือโจ้ของอาจารย์ใหญ่หวังเหวย หวังว่าจะมีคนที่มีพรมลิขิตกับมันเอาไปรักษาครับ”

พอเขาพูดจบ สวีหยางเปิดออก

เป็นภาพวาดหนึ่งที่วาดขึ้นด้วยพู่กันจีน ปรากฎต่อหน้าทุกคน ดึงดูดคนวัยกลางคนไม่น้อยเลย

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

Status: Ongoing
ก่อนแต่งงานแทนน้องสาวเข้าไปในตระกูลเฟิง กู้ฉางชิงได้ยินว่าเฟิงจิ่งเหยาเป็นคนที่เฉยเมย ต่อมาถึงได้รู้ว่าข่าวลือล้วนเป็นเรื่องโกหก คุณเฟิงไม่เพียงแต่ไม่เย็นชา กลับเป็นคนที่อบอุ่น แต่กระตือรือร้นเป็นพิเศษในการมีทายาท มีคนพูดเป่าหูต่อหน้าเขา “คุณเฟิง ก่อนคุณจะกลับประเทศ ในทุกๆคืนภรรยาของคุณจะไม่กลับบ้าน เพราะออกไปเมาข้างนอก” เฟิงจิ่งเหยา “หลังจากฉันกลับประเทศ ตอนค่ำภรรยาของฉันจะมาอยู่ที่ห้องฉัน ปรนนิบัติฉันไม่นอนทั้งคืน” มีคนพูดอีกว่า “ก่อนคุณจะกลับมา ภรรยาของคุณช้อปปิ้งทั้งวัน เปลี่ยนรถยี่ห้อหรูไม่หยุด แถมยังมีหนุ่มคอยอยู่เธอตลอดเวลา” เฟิงจิ่งเหยา พูดต่อว่า “หลังจากฉันกลับประเทศ บัตรเครดิตทุกใบของฉัน ฉันก็อยากให้ภรรยาฉันใช้ แต่เธอไม่ต้องการ ไปกลับจากที่ทำงานก็ให้ฉันไปรับแค่คนเดียว” สำหรับคนที่เย็นชา เมื่อมีภรรยาจะคลั่งรักเป็นพิเศษ

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท