สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา – บทที่ 136 เคยให้โอกาสคุณแล้ว

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

กู้ฉางชิงได้ยินเสียงโทรศัพท์มือถือ ถอนหายใจอย่างโล่งอกทันที

“ฉันขอรับโทรศัพท์”

เธอเอ่ยปากยิ้มๆ จี้เฟิงหยุนพยักหน้าอย่างสุภาพบุรุษ

ไม่คิดว่าหลังจากหยิบมือถือออกมา สีหน้ากู้ฉางชิงก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย

เพียงเพราะหมายเลขที่แสดงหน้าจอคือเฟิงจิงเหยา

ช่วงเวลาเดียว เธอก็ใจฝ่อไม่หยุด หันหลังให้จี้เฟิงหยุนแล้วรับโทรศัพท์

“เอ่อ….มีธุระอะไรหรอ?”

เธอกล่าวถาม คนในสายก็เงียบไปครู่นึงแล้วจึงเอ่ยปาก

“ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน?”

ก็ไม่รู้ว่าเพราะความใจฝ่อหรือไม่ กู้ฉางชิงได้ยิน มือก็อดไม่ได้ที่จะสั่นเล็กน้อย

“ฉันอยู่ข้างนอก กำลังจะกลับไป”

เธอตอบกลับจริงครึ่งหลอกครึ่งนึง ในสายก็เงียบสงัดไปอีกพักนึง

“หรอ? อยู่กับใคร?”

หลังจากผ่านไปนาน เสียงอันเยือกเย็นของเฟิงจิงเหยาจึงดังขึ้น ทำให้กู้ฉางชิงไม่สบายใจอย่างมาก

“อ่อ….อยู่กับพ่อ”

กู้ฉางชิงนึกถึงก่อนหน้านี้ที่หาข้ออ้างออกจากบ้าน กล่าวโกหก

เฟิงจิงเหยาฟังคำพูดนี้แล้ว ในสายตาก็ยิ่งเยือกเย็น

เขาชำเลืองสายตาอันเย็นชามองคนทั้งสองนอกกระจกรถยนต์ วางสายโทรศัพท์ไปโดยไม่พูดอะไรเลย

กู้ฉางชิงเห็นมือถือวางสายไป ก็ขมวดคิ้ว แฝงไปด้วยความไม่สบายใจอย่างอธิบายไม่ถูก แต่ก็ไม่พบ ว่าที่อยู่ไม่ไกลพวกเขา มีรถMercedes-Maybachสีดำคันนึงจอดอยู่บนถนน

และคนที่โกรธเป็นฟืนเป็นไฟที่นั่งอยู่ด้านในก็คือเฟิงจิงเหยา

เพียงเห็นสีหน้าที่มืดครึ้มจนสามารถกลั่นเป็นหยดน้ำฝนได้ ความกดอากาศโดยรอบก็ต่ำลงถึงขีดสุด

ราวกับหน้าหนาวเดือนสิบสอง ที่สามารถทำให้คนหนาวตายได้

ความรู้สึกของชวี่ยี่ที่นั่งอยู่แถวหน้า ก็ตกใจจนตัวสั่นงันงก

“ท่านประธาน อันที่จริงฉันคิดว่านี่อาจจะเป็นเรื่องบังเอิญก็ได้ เมื่อคุณนายรองกำลังจะกลับบ้านก็พบเพื่อน”

เขาต้องการคลี่คลายความกดดันนี้ พยายามช่วยกู้ฉางชิงอธิบาย

แต่ทันทีที่พูดจบ ก็ได้รับสายตาที่เย็นชาของท่านประธานของตนเองส่งเข้ามา

“ฉันจำได้ว่าบ้านตระกูลกู้อยู่ที่เฉิงซี ในนี้คือใจกลางเมืองไม่ใช่หรอ?”

“เอ่อ…..อาจจะเป็นคุณนายรองกับคุณกู้พวกเขามาทานข้าวข้างนอกก็ได้”

ชวี่ยี่กัดฟันอธิบาย

เฟิงจิงเหยาร้องเชอะอย่างเย็นชา: “ตามที่คุณพูดแบบนี้ ในเมื่อเธอไม่มีปัญหา แล้วทำไมเมื่อกี้ต้องพูดโกหก ว่าผู้ชายคนนั้นคือกู้หงเซินล่ะ?”

ชวี่ยี่ก็พูดไม่ออกไปทันทีทันใด

จนแล้วจนรอดเธอก็ตอบโต้กลับมา จ้องมองเฟิงจิงเหยาด้วยสีหน้าแปลกๆ

“ท่านประธาน นี่คุณกำลังหึง?”

เฟิงจิงเหยานิ่งอึ้งไป หลังจากดึงสติกลับมา สายตาก็เต็มไปด้วยความโมโห: “ฉันว่าคืนนี้คุณพูดมากแล้ว ช่วงนี้ง่วงมากแล้วใช่ไหม?”

ชวี่ยี่ได้ฟังการใช้อำนาจคุกคามในคำพูดนี้ รีบปิดปากส่ายหน้า

เฟิงจิงเหยาเห็นอย่างนี้แล้ว กล่าวด้วยเสียงเย็นชาว่า: “กลับไป”

พูดจบ เขาก็มองไปที่คนนอกหน้าต่างอีกครั้ง ดวงตาที่ดำขลับบ่งบอกถึงความอันตรายของบรรยากาศที่ตึงเครียดก่อนจะเกิดการขัดแย้ง

และทุกสิ่งทุกอย่างนี้ กู้ฉางชิงล้วนไม่รู้ตัวเลย

เธอมองมือถืองุนงง สุดท้ายเฟิงจิงเหยาถึงเงียบไป

“เกิดเรื่องอะไรหรือเปล่า? ดูสีหน้าคุณไม่ค่อยดี”

เขามองกู้ฉางชิงอย่างห่วงใย ความจริงใจในสายตาไม่มีซ่อนเร้น

กู้ฉางชิงดึงสติกลับมา แต่ไม่มีเวลาคำนึงถึง เวลานี้เธอคิดเพียงว่าต้องรีบกลับไป

ลางสังหรณ์บอกเธอ ท่าทีของเฟิงจิงเหยาผิดปกติเล็กน้อย

“จริงๆแล้วไม่มีอะไรหรอก ก็คือดึกแล้ว ครอบครัวฉันเป็นห่วงฉัน ให้ฉันกลับบ้าน”

จี้เฟิงหยุนฟังคำพูดนี้ ในสายตาก็ยากที่จะปิดบังความหดหู่ใจ

เพียงแต่เขาก็ยังยิ้มอย่างสุภาพบุรุษแล้วกล่าวว่า: “อย่างนั้นฉันไปส่งคุณกลับนะ ดึกขนาดนี้ คุณเป็นผู้หญิงตัวคนเดียว ไม่ปลอดภัย”

กู้ฉางชิงจะให้เขาไปส่งได้อย่างไร ไปส่งก็ความลับแตกพอดี

“ไม่ต้องหรอก ฉันโบกรถกลับเองได้”

เธอพูดพลาง ก็นึกถึงเพื่อนสนิทของตนเอง กล่าวไหว้วานว่า: “อย่างนั้น ฉันคงไปหาอันเฉียวไม่ทันแล้ว รบกวนคุณช่วยไปส่งเธอหน่อยได้ไหม? เธออยู่ทางนี้คนเดียว ไม่ชำนาญการดำรงชีวิต ฉันเป็นห่วงมาก”

จี้เฟิงหยุนฟังคำพูดเธอแล้ว การอบรมสั่งสอนมาอย่างสุภาพบุรุษทำให้เขาจนปัญญาที่จะปฏิเสธ ทำได้เพียงพยักหน้าแล้วกล่าวว่า: “ได้ ฉันจะช่วยคุณส่งเธอกลับไป รอมีโอกาสครั้งหน้า พวกเราค่อยรวมตัวกันอีกครั้ง”

“โอเค มีเวลา พวกเราค่อยนัดรวมตัวกันอีก”

กู้ฉางชิงรับปากตามมารยาท ไม่นานก็กล่าวลาเขาแล้วโบกรถกลับบ้านตระกูลเฟิง

ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ก็ถึงบ้านตระกูลเฟิง

เธอจ่ายเงินแล้วลงจากรถ มองไปที่สวนหย่อมที่ไฟสว่างไสวอยู่ตรงหน้า สูดหายใจเข้าลึกแล้วผ่อนออกแล้วจึงเดินเข้าไป

“คุณนายรอง”

พ่อบ้านเห็นเธอ กล่าวทักทายด้วยความเคารพนบนอบ

กู้ฉางชิงพยักหน้า นับว่าเป็นการตอบรับ

เดิมทีเธอก็วางแผนที่จะตรงขึ้นไปชั้นบน ก็ไม่รู้ว่าเธอนึกอะไรได้ จึงเห็นเธอหยุดลงอย่างกะทันหัน

“พ่อบ้าน จิงเหยากลับมาแล้วหรือยัง?”

“คุณชายกลับมานานแล้ว ตอนนี้น่าจะอยู่ที่ห้อง”

กู้ฉางชิงพยักหน้า ไม่นานก็ขึ้นชั้นบนเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่าง

เพียงเธอยืนที่หน้าประตูห้อง แต่เธอยังไม่ได้ผลักประตูเข้าไป คล้ายกับเธอกำลังสับสนอย่างมาก

หลังจากผ่านไปเป็นเวลานาน เธอจึงสูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วคลายออก เปิดประตูห้อง

ก็พบว่าในห้องขนาดใหญ่ เฟิงจิงเหยานั่งพิงหน้าต่างที่ยาวจรดพื้นดื่มเหล้าอยู่ด้วยสีหน้าที่เย็นชา

แอลกอฮอล์สีเหลืองอ่อน ที่แสงสว่างของแสงไฟดูเหมือนจะมีเสน่ห์เย้ายวนเป็นพิเศษ

ผสมผสานกับความหล่อเหลาสมบูรณ์แบบไร้ที่ติบนใบหน้านั้นของเฟิงจิงเหยา ก็ดึงดูดใจอย่างมากจริงๆ

กู้ฉางชิงใจลอยไปชั่วขณะ จึงตอบสนองกลับมา

ความสับสนในสายตาเธอ กล่าวทักทายว่า: “ฉันกลับมาแล้ว”

เฟิงจิงเหยาได้ยิน หยุดการกระทำของเหล้าไปชั่วขณะ

เขาเหลือบตามองผู้หญิงที่หน้าประตู ก็ไม่รู้ว่านึกอะไรขึ้นได้ ริมฝีปากบางกล่าวถามว่า: “ไปเที่ยวที่ตระกูลกู้สนุกไหม?”

กู้ฉางชิงหยุชะงักวางกระเป๋าชั่วพริบตา

เธอนึกถึงคำโกหกที่ให้ไว้ก่อนหน้า จึงฝืนใจตอบกลับว่า: “ก็ดี”

“งั้นหรอ? ฉันไม่ได้ไป พ่อคุณไม่พูดอะไรหรอ?”

เฟิงจิงเหยาคล้ายกับไม่เห็นความแข็งทื่อบนใบหน้าของเธอ จึงเอ่ยปากถามอีกครั้ง

หากว่ากู้ฉางชิงไม่ได้ตึงเครียดขนาดนั้น ก็จะสามารถเห็นสายตาที่เยือกเย็นของเขา

น่าเสียดายที่เธอตึงเครียดมาก เพราะเช่นนี้จึงพลาดโอกาส

“เอ่อ….พ่อรู้ว่าคุณยุ่ง ฉะนั้นเลยไม่ได้พูดอะไร”

เธอโกหกปิดบังต่อไป

เฟิงจิงเหยาจ้องมองเธอเขม็ง

เขาให้โอกาสผู้หญิงคนนี้แล้ว แต่คาดไม่ถึงว่าเธอยังคงหลอกลวงตบตาเขา!

ผู้หญิงคนนี้พูดอย่างทำอย่างจริงๆ

เขานึกถึงตรงนี้ ความโมโหในอกก็พุ่งสูงขึ้น

เสียง’โครม’ พบว่าเขาวางแก้วเหล้าลงอย่างแรง

กู้ฉางชิงถูกการกระทำนี้ของเขาทำให้ตกใจ

เธอมองผู้ชายตรงหน้าที่โกรธมากชัดเจนอย่างกระวนกระวายใจ ทันทีสายตาก็เต็มไปด้วยความงุนงงและตึงเครียด

ผู้ชายคนนี้คงจะไม่ไปเจออะไรมาแล้วใช่ไหม?

เธอคิดพลาง ก็ส่ายๆหน้า

ถ้าหากผู้ชายคนนี้รู้ว่าเธอโกหกเขา คงคิดบัญชีกับเธอไปนานแล้ว และคงไม่ใช่แบบตอนนี้

พอดีกับช่วงที่เธอกำลังคิดแต่ยังหาคำตอบไม่ได้ เฟิงจิงเหยาก็ลุกขึ้น เดินผ่านข้างกายเธอไปด้วยใบหน้าที่ขึงตึง

กู้ฉางชิงมองภาพด้านหลังเขาออกไป เอ่ยปากถามด้วยจิตสำนึกว่า: “ดึกขนาดนี้แล้ว คุณจะไปไหน?”

ร่างกายเฟิงจิงเหยาหยุดไปชั่วขณะ ทิ้งท้ายไว้ประโยคนึงแล้วออกไปอย่างไม่หันกลับมา

“ทำงาน”

กู้ฉางชิงขมวดคิ้ว รู้สึกแปลกประหลาด

พูดตามหลักแล้ว ในเมื่อเฟิงจิงเหยาไม่พบว่าเธอพูดโกหก ทำไมจู่ๆถึงโมโหอย่างไม่มีสาเหตุขึ้นมา?

หรือว่าจะเป็นสาเหตุที่เธอกลับมาดึก?

แต่เขาแค่โทรศัพท์ไป เธอก็กลับมาทันที แม้กนะทั่งจะกล่างลาอันเฉียวก็ยังไม่ได้ทำ

เอาแน่เอานอนไม่ได้จริงๆ!

กู้ฉางชิงเบะปาก หยิบชุดปลายเตียงขึ้นมาแล้วเข้าห้องอาบน้ำ

ในเวลาเดียวกันในใจของเธอก็ผ่อนคลาย

ไม่ว่าจะพูดยังไง ครั้งนี่ก็ถือว่าผ่านด้านแล้ว

เพียงแต่ภายหลังต้องหารที่จะพบกับเพื่อนในฐานะกู้ฉางชิง ก็ไม่รู้ว่าจะต้องเป็นเมื่อไรกัน

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

Status: Ongoing
ก่อนแต่งงานแทนน้องสาวเข้าไปในตระกูลเฟิง กู้ฉางชิงได้ยินว่าเฟิงจิ่งเหยาเป็นคนที่เฉยเมย ต่อมาถึงได้รู้ว่าข่าวลือล้วนเป็นเรื่องโกหก คุณเฟิงไม่เพียงแต่ไม่เย็นชา กลับเป็นคนที่อบอุ่น แต่กระตือรือร้นเป็นพิเศษในการมีทายาท มีคนพูดเป่าหูต่อหน้าเขา “คุณเฟิง ก่อนคุณจะกลับประเทศ ในทุกๆคืนภรรยาของคุณจะไม่กลับบ้าน เพราะออกไปเมาข้างนอก” เฟิงจิ่งเหยา “หลังจากฉันกลับประเทศ ตอนค่ำภรรยาของฉันจะมาอยู่ที่ห้องฉัน ปรนนิบัติฉันไม่นอนทั้งคืน” มีคนพูดอีกว่า “ก่อนคุณจะกลับมา ภรรยาของคุณช้อปปิ้งทั้งวัน เปลี่ยนรถยี่ห้อหรูไม่หยุด แถมยังมีหนุ่มคอยอยู่เธอตลอดเวลา” เฟิงจิ่งเหยา พูดต่อว่า “หลังจากฉันกลับประเทศ บัตรเครดิตทุกใบของฉัน ฉันก็อยากให้ภรรยาฉันใช้ แต่เธอไม่ต้องการ ไปกลับจากที่ทำงานก็ให้ฉันไปรับแค่คนเดียว” สำหรับคนที่เย็นชา เมื่อมีภรรยาจะคลั่งรักเป็นพิเศษ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท