ตัวเอกพวกนั้นฉันฆ่าเองแหละ – ตอนที่ 9

ตอนที่ 9

เมื่อไหรก็ตามที่มันเป็นงานฉันจะทำมันอย่างสุดความสามารถ

ฉันจะทำมันอย่างเอาจริงเอาจังแม้ว่างานนั้นจะเป็นการเล่นกับแมวจรจัดก็ตามและฉันก็จะรับเงินมาอย่างระมัดระวังด้วย

“เธอจะให้อุปกรณ์ต่อสู้เกรด 2 สามชิ้นกับฉันงั้นหรอ?”

“ใช่ค่ะ”

นี้เป็นการเปิดตัวของเธอในการเป็นฮันเตอร์และในการเป็นฮันเตอร์อาวุโสของเธอฉันจะได้รับอุปกรณ์ต่อสู้เกรด 2 สามเป็นค่าตอบแทน

“อืม”

เซเลสเต้ได้ทำการรวบรวมข้อมูลจำนวนมากเกี่ยวกับยูซอดัมดังนั้นแล้วเธอจึงรู้;jk

ในความเป็นจริงเขาจะแสดงสนใจออกมาอย่างชัดเจนเมื่อได้เห็นอุปกรณ์อีเทอร์ต่าง ๆ

ดังนั้นแล้วเธอได้ให้มันกับยูซอดัมเหมือนกับว่ามันเป็นของขวัญที่ให้เขาด้วยความบังเอิญ

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมประสิทธิภาพในการสอนของยูซอดัมถึงได้เพิ่มขึ้น

เช้าในวันหยุดสุดสัปดาห์

มีการรวมตัวกันที่กึมกังยิม ซอดัมและเซเลสเต้นั่งข้าง ๆ กันที่เครื่องออกกำลังกายที่ไม่มีใครกำลังใช้งานและมองไปที่แท็บเล็ต

ฉันรู้ว่านี้เป็นพฤติกรรมที่หยาบคายแต่มันไม่มีคนในวันเสาร์-อาทิตย์อยู่แล้วนี่น่า

ทั้ง ๆ ที่ยังไม่มีการนัดวันสำหรับการเปิดตัวของพวกเขาเหล่านั้น กลุ่มวอนนาบีฮันเตอร์ก็ยังดูเหมือนว่าจะยุ่ง ๆกับการเตรียมตัวสำหรับการเปิดตัวของพวกเขา

เซเลสเต้ต้องการที่จะได้เจอและพูดคุยกันอย่างเงียบ ๆ ที่คาเฟ่ไม่ใช้ที่ยิมแต่มันค่อนข้างที่จะยุ่งยากสำหรับยูซอดัม

การเปิดตัวของเธอในการเป็นฮันเตอร์จะจัดขึ้นที่ดันเจี้ยนระดับแรงค์ C ‘ยอดภูเขาหิมะเพาโลเนีย’

“เธอรู้ใช่ไหมว่ามันจะไม่มีมาตรการรับมือสำหรับการช่วยเหลือใด ๆ จากภายนอก? เทคนิคอะไรหละที่เธอจะใช้ในข้างดันเจี้ยนแรงค์ C นี่?”

เขาค่อย ๆ เริ่มที่จะทำตัวสบาย ๆ กับเซเลสเต้อย่างช้า ๆ และพูดสิ่งที่อยู่ในใจออกมาแต่ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ได้สนใจมันมากเท่าไหร

มันดูเหมือนว่าเธอต้องการที่จะเป็นกันเองกับซอดัม

“มันไม่ใช่เรื่องปกติที่คนที่เด็กฝึกจะเข้าดันเจี้ยนในแรงค์นี้”

“ไม่ค่ะ ฉันรู้ดี”

โดยปกติแล้วเป้าหมายโดยทั่วไปของคนกลุ่มนี้จะเป็นดันเจี้ยนหรือเกตแรงค์ D ไม่ก็แรงค์ E

แต่มันก็มีหลายครั้งหลายคราวอยู่เหมือนกันที่เป้าหมายจะเป็นดันเจี้ยนแรงค์ C สำหรับพวกที่มีแนวโน้มจะได้เป็นผู้มีพลังพิเศษชั้นสูง ซึ่งเป็นในกรณีเดียวกันกับของเซเลสเต้

อย่างไรก็ดีมันจะเป็นไปได้ถ้าฮันเตอร์อาวุโสที่ดูแลมีแรงค์อย่างน้อยระดับ A เท่านั้น

“เธอรู้ใช่ไหมว่าการเปิดตัวจะถูกตัดสินคะแนนโดยการกระทำของเธอเองสิ่งที่ฉันทำจะไม่ถูกนั้นรวมไปด้วย?”

ในอีกความหมายก็คือถ้ายูซอดัมและเซเลสเต้เข้าไปในดันเจี้ยนด้วยกันคะแนนจะถูกตัดสินเพียงแต่การล่าที่เกิดขึ้นจากเซเลสเต้เท่านั้น

มันไม่ได้เป็นปัญหาใหญ่อะไรหรอกแต่มันกลับทำให้มีข้อจำกัดจำนวนมากขึ้นสำหรับ ‘การล่าแบบโซโล่’

มันมีข้อห้ามอย่างเป็นทางการสำหรับการที่คนจะเข้าไปในดันเจี้ยนด้วยตัวคนเดียวด้วย

ในความหมายที่เฉพาะเจาะจงลงไปคือคุณไม่ได้รับอนุญาตในเข้าไปในดันเจี้ยนคนเดียวและคุณจะได้รับการอนุญาตที่จะเข้าไปในดันเจี้ยนที่มีระดับเหนือกว่าตัวคุณแค่เพียงหนึ่งหรือสองระดับที่มากกว่าคุณเท่านั้น แล้วคุณต้องได้รับการอนุญาตเป็นแบบพิเศษด้วยอะนะ

ฮันเตอร์แรงค์ F ไม่ได้รับอนุญาตในเข้าสู่ดันเจี้ยนแรงค์ F เพียงลำพัง

ถึงอย่างงั้นก็แล้วมันก็ยังมีข้อยกเว้นอยู่ในทุก ๆ ที่

1.ฮันเตอร์แรงค์ A พร้อมด้วยประสบการณ์สามปี

2.ฮันเตอร์คนที่มีชีวิตรอดมาจากการสำรวจภายในเฮลเกตที่ใจกลางมหาสมุทรแปรซิฟิก

3.ฮันเตอร์ผ่านศึกที่มีประสบการณ์มามากกว่า 10

ไม่ว่าใคร ๆ ก็ตามที่ตรงกับเงื่อนไขด้านบนข้อใดข้อหนึ่งการโซโล่ก็เป็นไปได้สำหรับการเข้าดันเจี้ยนที่แรงค์เดียวกัน

“โชคยังดีที่ดันเจี้ยนนี้มีขนาดใหญ่พอ เพราะงั้นเธอจะได้เข้าร่วมจู่โจมพร้อมกับพวกเด็กฝึกคนอื่น ๆ มีทั้งหมดหกทีมที่จะเข้าไปดังนั้นเราจะต้องรอ เธอนี่โชคดีจริง ๆ”

“…”

แต่

เซเลสเต้เป็นคนที่พิถีพิถันและรู้ได้โดยธรรมชาติเกี่ยวกับข้อจำกับในการล่าคนเดียว

บนเว็บไซด์ทางการของสหพันธ์ฮันเตอร์นานาชาติคุณจะสามารถค้นหาข้อมูลของฮันเตอร์คนใดก็ได้ที่คุณต้องการและเข้าไปดูข้อมูลส่วนตัวแบบสาธารนะของพวกเขาเหล่านั้นได้ โดยที่เธอได้ทำมันไปล่วงหน้าเรียบร้อยแล้ว

[ฮันเตอร์แรงค์ F ยูซอดัม]

[ที่ได้รับอนุญาตให้เข้าสู่ดันเจี้ยนระดับแรงค์ SSS ได้]

พูดได้อีกอย่างว่าซอดัมนั้นได้รับสิทธิในการเข้าไปในดันเจี้ยนที่น่าสะพรึงกลัวมากที่สุดและยากที่สุดที่มีอยู่ในตอนนี้

มันหมายความว่าเขาได้เป็นเจ้าของ ‘บัตรผ่านเข้าดันเจี้ยนอิสระ’ ที่มีไม่กี่คนบนโลกนี้ที่มีมัน

กลับมาคิดอีกทีมันก็แปลกนิดหน่อยนะ

ยูซอดัมเป็นแค่แรงค์ F แล้วเขาจะไปมีบัตรผ่านดันเจี้ยนอิสระได้ยังไงกัน

เธออยากรู้เป็นอย่างมากแต่ไม่ได้ต้องการที่จะถามเพราะเธอไม่คิดว่าซอดัมจะอธิบายมันออกมาตรง ๆ

“มอนสเตอร์ที่จะปรากฏตัวภายใน…สปริงวูฟ,ฮุกสไปเดอร์,….”

มันผ่านมามากกว่าทศวรรษแล้วตั้งแต่ที่ได้มีการประดิษฐ์โดรนสำรวจขึ้นที่ซึ่งสามารถส่งเข้าไปภายในดันเจี้ยนเพื่อการตรวจสอบเบื้องตนและเก็บรวบรวมข้อมูลได้

“อาจจะเป็นไปได้ที่การเปิดตัวของเธอจะได้รับการถ่ายทอดสดบนยูทีวีและในอีกหลาย ๆ ช่องทางเธอรู้ใช่ไหมว่าการเปิดตัวของเธอจะไม่ได้มีแค่เธอนะ?”

มีฮันเตอร์อาวุโสทั้งหมดทั้งสิ้นจำนวนเจ็ดคนและผู้ที่มีแนวโน้มในระดับสูงอีกเจ็ดคนที่จะเข้ารวมในดันเจี้ยนแรงค์ C ‘ยอดภูเขาหิมะเพาโลเนีย’

ส่วนมากของคนทั้งหมดเป็นคนของกิลด์ขนาดใหญ่และค่อนข้างจะเป็นที่รู้จักบนอินเตอร์เน็ตก่อนที่พวกเขาจะได้เปิดตัว

ซอดัมได้เคยพูดไว้แล้วว่าในกรณีที่เป็นการเปิดตัวของเหล่าคนที่โดดเด่นมันจะได้รับการถ่ายทอดสในหลาย ๆ ช่องทางและเธอควรจะเตรียมตัวเองให้ที่จะได้รับการตัดสินแบบสด ๆ นี้

“กับการเปิดตัวอื่น ๆ จะมีฮันเตอร์อาวุโสหนึ่งหรือสองคนจะเป็นผู้บันทึกผู้เข้าร่วมประมาณสิบคนดังนั้นแล้วพวกเขาเลยแทบที่จะไม่มีโอกาสเพิ่มมูลค่าในกับตัวเองได้ พูดตรง ๆ ก็คือมันน่ารำคาณที่จะต้องมาตรวจสอบคลิปวิดีโอพวกนี้ทุก ๆ อันใช่ไหมค่ะ?”

อย่างไรก็ตามสำหรับการเปิดตัวพวกระดับสูงหน้าใหม่ที่เหมือนกับเซเลสเต้จะอยู่ในระดับที่แตกต่างกันออกไป

มันจะได้รับการแสดงต่อหน้าชาวเน็ตจำนวนมหาศาลผ่านช่องทางการถ่ายทอดสด

“ทั้งหมดนี้เกี่ยวข้องกับการเพิ่มมูลค่าของตัวเธอ”

ไม่ว่าจะใครก็ตามที่มีทักษะที่สามารถต่อสู้กับระดับเดียวกันได้นั้นมีมูลค่าสูงถึงสิบล้านเหรียญดอลล่าในขณะที่คนทั่ว ๆ ไปแทบจะไม่สามารถไปแตะจุดนั้นได้แม้จะตายไปแล้วก็ตาม

มันจะเป็นครั้งแรกในการกำหนดมูลค่าของฮันเตอร์หลังจากที่ได้รับการเปิดตัว

หลังจากมหาสงครามมันเป็นขั้นที่สำคัญที่สุดของฮันเตอร์ในยุคนี้ที่ทุกสิ่งทุกอย่างนั้นมั่นคงแล้ว

“เพื่อให้เธอโดดเด่นเธอออกมา เธอจะต้องแสดงบางอย่างที่แตกต่างไปจากผู้มีแนวโน้มคนอื่น ๆ”

ฉันรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองเป็นพวกอาจารย์ขี้เกียจที่เอาแต่ชี้ไปที่คำถามหนึ่งสัปดาห์ก่อนการสอบเข้ามหาลัย

อย่างไรก็ตามเซเลสเต้นั้นได้กำลังฟังอย่างตั้งใจในทุก ๆ รายละเอียดของเรื่องที่ซอดัมพูดออกมา

“…คุณได้นำฮันเตอร์ฝึกหัดมาแล้วมากมายในอดีตใช่ไหมค่ะ?”

“มันเป็นที่ต่างประเทศนะ อืม เธอเคยได้ยินชื่อ มิเชล โรเนียรา? ฮาจีซอง,และโทเซฟ…”

“ค-เคยค่ะ”

เมื่อเหล่าชื่อของบุคคลที่มีชื่อเสียงจำนวนมากออกมาจากปากของซอดัมเซเลสเต้เบิกตากว้างด้วยความตกตะลึง

เพราะคนเหล่านั้นทั้งหมดเป็นฮันเตอร์แรงค์ S ที่ยังทำงานอยู่และมีชื่อเสียง

“พวกเขาต้องการพนักงานขนของนะเพราะงั้นฉันเลยพาพวกเขาไปรอบ ๆ แต่อยู่ดี ๆ ไม่รู้เป็นเพราะอะไรกันมันเลยกลายเป็นการเปิดตัวเฉยเลย”

ในตอนที่ฮันเตอร์คนอื่นสอนคนพวกนั้นว่าจะล่าได้อย่างไรซอดัมสอนพวกเขาว่าจะมีชีวิตรอดได้อย่างไร

ด้วยการที่พวกเขามีพรสวรรค์ตั้งแต่จุดเริ่มต้นพวกเขาได้เรียนรู้วิธีการเอาชีวิตรอดอย่างหวงแหนและกลายมาเป็นคนที่มีชื่อเสียงด้วยตัวพวกเขาเองในตอนนี้

แน่นอนว่าพวกเขาในตอนนี้แข็งแกร่งและมีชีวิตที่ดีกว่าซอดัม

ฉันไม่เหมาะที่จะนำตัวเองไปเทียบกับคนพวกนั้น

เขาหัวเราะในตอนที่คิดถึงคนเหล่านั้นที่เคยอยู่กับเขาด้วยเหตุผลบางอย่างแต่ในตอนนี้นั้นได้อยู่ไกลออกไป

“เธอมีสามารถที่จะสู้ได้อย่างสมน้ำสมเนื้อกับมอนสเตอร์แรงค์ D ด้วยตัวเธอเองแต่อันดับแรกเริ่มจากมองไปที่สปริงวูฟ…มันมีรูปแบบการโจมตีที่ธรรมดามันจะตะครุบไปที่เธอจากด้านหน้าและพยายามที่จะกัดที่แขนของเธอจากทางด้านข้างเธอจะไม่สามารถสู้กับได้โดยการหลบไปด้านข้างเพราะว่ามันจะตะครุบใส่ เธอจะต้องก้าวถอยหลังแทน”

“ก้าวถอยหลังเมื่อมันกำลังจะตะครุบมาด้านหน้าฉันหรือคะ?”

“ใช่แล้ว สปริงวูฟนั้นมีลักษณะพิเศษเพราะว่าเมื่อมันถึงเธอแล้วครั้งหนึ่งมันจะเฉื่อยลงจนกระทั้งมันสามารถกระโจนใส่เธอได้อีกครั้ง…”

ยิ่งไปกว่านั้นซอดัมได้แสดงท่าทางประกอบในเห็นถึงรูปแบบของมอนสเตอร์ที่ซ่อนอยู่ด้วยดาบไม้ของเขา

มากไปกว่านั้นแม้ว่าจะมีมอนสเตอร์ที่โดรนไม่สามารถตรวจพบได้เขาก็สอนลักษณะของพวกมันและแนวทางเฉพาะที่จะต่อสู้กับพวกมันไว้ด้วย

นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตของเซเลสเต้ที่เธอได้เรียนรู้แนวทางที่แตกต่างกันเป็นจำนวนมากที่สามารถในการที่จะต่อสู้ได้

เธอนั้นเหมือนกันชนชั้นสูงที่อยู่ท่ามกลางพวกชนชั้นสูงอีกที “แกน” พวกนี้ที่ได้ถูกสอนโดยซอดัมได้ฝังแน่นเข้าไปในสมองของเธอ

อย่างไรก็ตามวิธีการของซอดัมนั้นต่างออกไป

อีกนัยหนึ่งก็คือมันเป็นเอกลักษณ์

“ถ้านั้นแล้วอะไรที่เธอจะทำเมื่อมันไร้การป้องกันอยู่บนพื้น? เธอต้องเตะไปที่เป้าของมัน”

“อ้า ดีที่ได้รู้…”

ฮันเตอร์ทั่วไปไม่จำเป็นต้องรู้เรื่องเล็กน้อยพวกนี้

แต่เพื่อที่จะอยู่รอดให้ได้โดยที่เป็นฮันเตอร์แรงค์ F สิ่งเหล่านี้จำเป็นที่จะต้องจำไว้ให้ขึ้นใจ

เนื้อแท้ของฮันเตอร์ผ่านศึกคือคนที่มีชีวิตอยู่อย่างสิ้นหวังและใช้วิธีใดก็ได้เพื่อที่จะอยู่รอดโดยปราศจากพลังพิเศษแม้แต่นิดเดียว

ก่อนหน้านี้เซเลสเต้คิดว่ามีแค่สิ่งเดียวเท่านั้นที่เธอจะได้เรียนรู้จากยูซอดัม

อย่างไรก็ดีมันเป็นเพียงแต่ความเข้าใจผิดของเธอเอง

ดาบนั้นของยูซอดัมเป็นเพียงแค่ส่วนเล็ก ๆ ในพรสวรรค์ของเขาเท่านั้น

ความแข็งแกร่งที่แท้จริงของเขาอยู่ที่ประสบการณ์ชีวิตจำนวนนับไม่ถ้วนของเขาในการเป็นฮันเตอร์

……………………………………………………..

ก็เหมือนกับที่ฉันที่เป็นครูที่เธอชอบเธอ เซเลสเต้ก็เป็นนักเรียนในดวงใจครูเช่นกัน

เธอฟังสิ่งที่ฉันสอนโดยไม่มีการบ่นและเพียงแค่สอนไปหนึ่งอย่างเธอจะเห็นเป็นสิบอย่าง

ยอดเยี่ยมในความเป็นจริงฉันไม่ได้เป็นฮันเตอร์ที่แข็งแกร่งเพียงพอที่เป็นครูของเธอแต่ฉันรู้สึกภูมิใจที่ได้เห็นเจ้าเด็กน้อยคนนี้ที่ฉันสอนเติบโตขึ้นเป็นอย่างดี

ด้วยความประหลาดใจ ฉันบ่นพึมพำออกมา “หรือว่าฉันควรจะไปเป็นครูกันนะ?”

“นี่คุณกำลังเครียดใช่ไหมคะ?”

6 โมงเย็น

ตามเวลานี้คนส่วนใหญ่จะเลิกงานแต่ฉันและเซเลสเต้พึ่งจะมาถึงที่ทำงานของพวกเรา

ฉันหัวเราะออกมาในตอนที่เซเลสเต้พยักหน้าอย่างเงียบ ๆ

“ครั้งแรกก็แบบนี้แหละ”

ด้านข้างของดันเจี้ยนนี้อยู่ใกล้กับอุทยานแห่งชาติที่เรียกว่าอึยจองบูที่ที่มีรถสีดำหลายคัน กล้อง และผู้สังเกตการณ์ณ์ได้รวมตัวกันเต็มพื้นที่แล้ว

ฉันรู้สึกได้อีกครั้งหนึ่งว่าทุกวันนี้ผู้คนดูไร้กังวลกันซะจริง

ถ้าเราล้มเหลวที่จะเคลียร์ดันเจี้ยนพื้นที่โดยรอบนี้จะเปิดออกไปสู่ ‘ต่างโลก’

นี่พวกเขาไม่กลัวกันบ้างเลยหรือไงกันนะ?

เมื่อฮันเตอร์อาวุโสทั้งเจ็ดและผู้มีแนวโน้มทั้งเจ็ดมารวมตัวกับในพื้นที่แล้ว ผู้สื่อข่าวคนที่กำลังถ่ายทอดสดบนยูทีวีก็ได้เข้ามา

ตามปกติฉันไม่ใส่ใจเกี่ยวกันการดำเนินการพวกนี้แต่ในครั้งนี้ฉันต้องเริ่มที่จะยุ่งเกี่ยวกับมันเพราะว่าฉันต้องการให้ทุก ๆ คนได้เห็นการเปิดตัวของเซเลสเต้

“ฮาฮา ในที่สุด เหล่าซุปเปอร์สตาร์ทั้งหลายของวันนี้ก็ได้มารวมตัวกันอยู่ที่นี้แล้วครับ ลองไปฟังความรู้สึกของพวกเขาเหล่านั้นกับการเปิดตัวครั้งนี้กันดีกว่าครับ”

เป็นไปดังที่คาดไว้ นักข่าวพวกนี้ไม่ได้ตามเราไปข้างในดันเจี้ยน

เหตุผลแรก ๆ น่าจะเป็นเพราะว่าพวกเขาน่าจะโดนหมักเป็นปุ๊ยคอกในดันเจี้ยนโดยฮันเตอร์อาวุโสเนื่องจากเข้ามาวุ่นวายมากเกินไป

“ว้าวว มิสเซเลสเต้ช่างงดงามสมดั่งคำเล่าลื่อจริง ๆ คุณมีแอคเค้าท์โซเชียลมีเดียไหมครับ? ผมอดใจไม่ไหวที่จะฟอลโล่เดียวนี้เลย! ”

ฉันคิดว่าเขาพยายามที่จะโปรโมทโซเชียลมีเดียของเหล่าผู้มีแนวโน้ม

ที่น่าจะมีคนมากมายที่อยากจะรู้โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ามันเป็นโซเชียลมีเดียของเซเลสเต้อะนะ

แล้วทักษะของนักข่าวคนนี้ก็ได้ถูกเปิดเผยออกมา

“ไม่ค่ะ”

“โอ้ว คงเป็นไปได้ไม่สำหรับคนอย่างฉัน ผมขอประทานโทษด้วยครับ”

ฉันไม่แน่ใจแต่น่าจะมีคอมเม้น ‘555555’ ในช่องแชทไลฟ์สดของนักข่าวคนนี้ในตอนนี้แน่นอน

เซเลสเต้มีท่าทางที่ดูกระอักกระอวนเล็กน้อยพูดขึ้น

“ไม่ค่ะมันคือ..ฉันไม่มีแอคเค้าท์โซเชียลมีเดียค่ะ…”

“หืม? คุณแน่ใจนะครับ? มันไม่ใช่ว่าวัยรุ่นทุกคนในช่วงอายุ 20 ปีมักจะเล่นโซเชียลมีเดียกันนิครับ?”

ฉันก็ไม่มีเหมือนกันนะโว้ย

โดยไม่รู้ตัว ใครบางคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เธอค้างไปแล้วเพราะโดน ‘การโจมตี’ ที่แฉลบมาโดนตัวเอง

นักข่าวคนนี้มุ่งความสนใจไปที่เซเลสเต้เป็นเวลานานและทำการสัมภาษณ์ต่อเลย

มันดูเหมือนว่าคนดูจะชอบใจกันเป็นอย่างมากเพราะว่ามันเป็นทัศนียภาพที่สวยสดงดงานที่โดดเด่นออกมาจากท่ามกลางหมู่ผู้คนที่มีหน้าตาชาวบ้าน ๆ ที่มาร่วมกันที่นี่

ทันทีที่เซเลสเต้แสดงออกมาว่าหมดแรงแล้ว นักข่าวคนนี้ก็หันเหความสนใจของเขาไปที่ผู้มีแนวโน้มคนอื่นและในเวลาเดียวกันกับตอนที่เขามองดูไปรอบ ๆ

ลอสเตย์,บลูวอเตอร์ดรอป,เรดซันฟาวเวอร์และกิลด์อื่น…เหล่าชายฉกรรย์ที่น่ากลัวได้มารวมตัวกัน

แล้วในทันได้นั้นเองฉันก็ได้เห็นใบหน้าที่คุ้นเคยมันทำให้ใบหน้าของฉันมืดครึ้มลง

บริษัทเภสัชกรรมคิเนติก

บางทีไอ้เจ้าบริษัทที่น่าสยองขวัญนี้น่าจะมีข้อตกลงบางอย่างกับลอสเดย์ที่นี้

ฉันเคยได้ยินมาว่ามันเป็นบริษัทสาขาของลอสเดย์นั้นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมพวกมันถึงได้มาที่นี้ใช่ไหม?

แล้วเมื่อผู้สัมภาษณ์ตรงไปทางผู้มีแนวโน้มของลอสเดย์ฉันได้หันหน้าไปมอง

“ฮันเตอร์อียอนจุน คุณเป็นคนได้รับความนิยมมากที่สุดเป็นอันดับสองของที่นี้ คุณรู้ใช่ไหมครับ?”

“ฮ่าฮ่า ผมรู้ครับ”

“ใช่แล้วครับ มันเป็นครั้งแรกที่เราได้รับการรายงานว่าคุณคือคนธรรมดาที่มีอัตราการดูดซึมอีเทอร์อยู่ที่ 0% แต่สามารถที่จะปลุกพลังไปเป็นแรงค์ C ได้ประสบความสำเร็จ อะไรคือความลับสู่ความสำเร็จนี้ครับ?”

อะไรนะ?

ในจังหวะที่นักข่าวสัมภาษณ์เขาฉันได้หรี่ตาของฉันลงและมองสำรวจดูร่างกายของของอียอนจุน

มันเป็นเพราะว่าฉันไม่เชื่อที่ว่าคนธรรมดาที่มีอัตราการดูซึมอีเทอร์เป็นศูนย์จะสามารถปลุกพลังไปเป็นแรงค์ C ได้

ฮะ กล้ามเนื้อที่ผิดธรรมชาติรวมไปถึงการหายใจ

และมีความบ้าคลั่งที่ซ่อนอยู่ภายใต้สายที่สงบเยือกเย็น

เขาเป็นตัวบ้าอะไรกันแน่เนี่ย?

“มันไม่มีความลับอะไรครับ มันเป็นเพราะว่าผมได้ผ่านกระบวนการฝึกฝนที่แสนพิเศษของลอสเดย์ ผมได้ฝึกฝนอย่างหนักเป็นอย่างมากและมันทำให้ผมได้ปลุกพลังพิเศษของตนเองขึ้นมาครับ”

“โอ้ว นั้นเยี่ยมไปเลย คุณอียอนจุนคือความหวังของประชาชนทั่วไปในตอนนี่นะครับที่ตามมาหลังจากที่ฮันเตอร์ยูซอดัมได้แสดงความสามารถออกมา”

“คุณนักข่าวชมผมเกินไปแล้วครับ ผมไม่ใช่ความหวังอะไรหรอกครับ ผมแค่ต้องการที่จะให้ผู้คนรู้ว่าไม่ว่าใครก็ตามสามารถที่จะเป็นเหมือนผมได้ถ้าพวกเขามีพยายามที่จะทำมันครับ”

ฉันสงสัยว่าทำไมต้องพูดชื่อของฉันขึ้นมาด้วย

ก็นะเมื่อในกระแสที่ร้อนแรงของวิดีโอนั้นที่ได้กระจายไปทั่วและยังคงปรากฏในโซเชียลมีเดียจนถึงทุก ๆ วันมันยังไม่สงบลงนะสิ

ฉันรู้สึกอายมากจนฉันอยากที่จะขอร้องให้ยูทีวีลบมันออกไปแต่ฉันก็ได้ยอมแพ้ไปเรียบร้อยแล้วเพราะว่าฉันคิดว่ามันไม่มีความหมายอะไรที่จะทำมันในตอนนี้

เดี่ยวอีกไม่กี่เดือนมันก็คงเงียบหายไปเองมั้ง….

“คุณเป็นคนที่ถ่อมตัวมากเลยนะครับ แล้วสำหรับคุณผู้ชมทุกคน พวกคุณคงจะผิดหวังถ้าเราจะได้สิ้นสุดบทสัมภาษณ์กับผู้มีแนวโน้มที่คนสุดท้ายนี้ใช่ไหมครับ?”

มันก็ไม่นะ

ในทางตรงกันข้ามกับอะไรก็ตามที่ฉันคิด ‘ช่ายยย!!’ มาจากทุก ๆ ด้าน

เมื่อได้รับแรงขับเคลื่อนโดยการตอบสนองของผู้ชม นักข่าวได้ยืนไมโครโฟนของเขาไปที่ด้านขวา

“ผมอยากจะได้ยินคำพูดอะไรสักอย่างจากยอดมนุษย์แรงค์ S ของเรา ฮันเตอร์ จางฮยอนซอกหน่อยครับ!”

แล้วเสียงเชียร์ก็ดังขึ้นมากจากทุก ๆ ทิศทาง

เฮฮฮฮฮ!!

อ้ายยย ฉันคิดว่าฉันกำลังจะเป็นลม

ฉันต้องการมีลูกกับคุณค่ะ

และคำพูดประหลาด ๆ อีกมากที่มีให้กับ

ยอดมนุษย์แรงค์ S จางฮยอนซอก

ดูเหมือนว่าฐานแฟนคลับกลุ่มนี้นั้นจะใหญ่มากบางทีคงเป็นเพราะผลของภาพลักษณ์ที่น่าเกรงขามของกิลด์ลอสเดย์นั้นแหละ

ยอดเยี่ยม มันก็เป็นแบบนี้กันทุก ๆ กิลด์นั้นแหละที่จะใช้พวกยอดมนุษย์ในกิลด์ของเขาเป็นเสมือนมาสคอต

“ไม่ว่าจะในกรณีใด ๆ ก็ตามวันไม่ใช่วันที่ของผมครับ แต่เป็นของฮันเตอร์ทั้งหมดที่มารวมตัวกันที่นี้เป็นบุคคลที่ยอดเยี่ยมและพวกเขาก็จะกำลังต่อสู้เพื่อพวกคุณครับ”

ฉันคิดว่าฮันเตอร์หลาย ๆ คน ยิ่งคล้ายดารามากยิ่งไปกว่าฮันเตอร์ในสมัยก่อนซะอีก

จากอะไรก็ตามที่ฉันเคยจำได้เกี่ยวกับจางฮยอนซอก เขาเคยเป็นคนที่พูดติดอ่างแต่ตอนนี้เขากลับดูเป็นผู้ชายที่สงบนิ่งเป็นอย่างมาก

จางฮยอนซอกมองมาที่ฉันผ่านการสัมภาษณ์นี้แต่ฉันไม่รู้จุดประสงค์ของเขา

และในทันทีที่การสัมภาษณ์สั้น ๆ นี้จบลง

มันก็ถึงเวลา

มันถึงเวลาแล้วที่จะต้องเข้าไปภายในดันเจี้ยน

“เยียมไปเลยครับ โชคดีนะครับ ฮันเตอร์ทุก ๆ คน”

และก็เป็นไปดังคาดที่มีตากล้องคนที่ปลุกพลังมาแล้วในระดับยอดมนุษย์แรงค์ E จะตามเรามาด้วยในขณะที่ผู้สื่อข่าวหลักได้จากไป

มันเป็นการถ่ายทอดสดที่คนในระดับสูง ๆ จะเข้ามาดูดังนั้นแล้วมันเลยดูเหมือนว่าพวกเขากำลังจะเป็นถ่ายหนังกับตากล้องทั้งหลายนั้นแทน

นอกจากนี้ยังมีกล้องฮันติ่งแคม(ผู้แปล : คิดซะว่าเป็นโกโปรนะครับ)ติดอยู่ที่อกพวกเขาแต่ละคนที่จะถ่ายให้เห็นมุมมองของคน คนนั้นเองและมีแม้กระทั้งโดรนขับเคลื่อนอัตโนมัติเจ็ดลำที่กำลังบินอยู่บนท้องฟ้า

ฮันเตอร์อาวุโสทั้งหมายมีสีหน้าที่ผ่อนคลายตรงกันข้ามกับกลุ่มผู้มีแนวโน้มที่มีสีหน้าที่ตึงเครียด

พวกเขาได้เริ่มเดินเข้าไปในเกตสีดำทีละคนทีละคน

ในจังหวะนั้นเองที่อียอนจุนได้เข้าไปในดันเจี้ยน

ทันใดนั้นเอง ข้อความจำนวนนับได้ถ้วนก็ได้ปรากาฎขึ้นมาในหัวของฉัน

[ฉุกเฉิน ฉุกเฉิน!]

[พล็อตเรื่องที่แข็งแกร่งได้เกิดขึ้นใกล้ ๆ นี้ ‘อารัมภบท’ ของตัวเอกได้เริ่มขึ้นแล้ว]

[อย่างไรก็ตามเนื่องจากได้มีตัวเอกคนอื่นอยู่ก่อนแล้วในพื้นที่]

[ดังนั้นถ้าตัวเอกทั้งคู่ได้มาเจอกันพล็อตเรื่องของพวกเขาจะปะทะกันเองและจะทำให้พรที่ตัวเอกได้รับพังทลายลงซึ่งจะนำไปสู่ ‘บทส่งท้าย’ ของตัวเองทั้งคู่ในทันที]

“อะไรนะ? เดี่ยวก่อนซิ”

นี่มันกะทันหันเกินไปจนทำให้ฉันไม่สามารถเข้าใจมันได้

อะไรคือบทส่งท้ายที่เธอหมายถึง? มันคงไม่ใช่…

[มันเป็นเพราะว่าตัวเอกได้บังคับเพื่อที่จะเติมเต็มพล็อตเรื่องของตนเองซึ่งจะทำให้โลกของพวกเขาสิ้นสุดลง]

ชิบหายแล้วไงหละครับ

ดันเจี้ยนแรงค์ C ตรงหน้าฉันไม่เป็นปัญหาอะไรเลย

พวกเขาก็ยังคงสบายดีไม่ว่าฉันจะอยู่กับพวกเขาหรือไม่ก็ตาม

แต่โลกนี้ที่มีเป็นที่ตั้งของดันเจี้ยนนี้สิที่จะพังทลายลง

<ภารกิจฉุกเฉินสำหรับฮันเตอร์ยูซอดัม!>

<ในตอนที่คุณทำภารกิจฉุกเฉินสำเร็จ คุณจะสามารถดูดซับทักษะหรือพรสวรรค์ได้มากกว่าหนึ่งอย่างจากตัวเอกคนนั้น>

<กำลังดำเนินการประมวลผลแฮชแท็กของตัวเอกนี้>

#โดป_ยา_จน_แข็งแกร่ง_ระดับ_ฮันเตอร์_แรงค์ S

#ฟิวชั่น_แฟนตาซี #ยา #ขมขื่น #คอมมาดี้

#เติบโต_อย่าง_รวดเร็ว

<คุณจะรับภารกิจนี้หรือไม่?>

ฉันเบิกตากว้างในตอนที่ได้เห็นแฮชแท็กเหล่านั้น

มันเห็นได้ชัดเจนมากที่รายการของกลุ่มแฮชแท็กมันทำให้ฉันเข้าใจพล็อตเรื่องในทันที

ฉันมองไปที่ดันเจี้ยนเกตที่อียอนจุนเข้าไปและแน่ใจได้ในทันที

ฉันได้ยอมรับภารกิจไปโดยสัญชาตญาณ

“…ฉันยอมรับภารกิจ”

“กำลังเดินทาง สู่ ยอดภูเขาหิมะเพาโลเนีย โลกของตัวเอก อียอนจุน”

[10…9…8…]

ตัวเอกพวกนั้นฉันฆ่าเองแหละ

ตัวเอกพวกนั้นฉันฆ่าเองแหละ

ไม่ว่าจะเป็นคนที่กลับชาติมาเกิด,คนที่ย้อนเวลากลับมา,คนที่วนลูปได้,พวกที่ไปยึดร่างคนอื่นมา,นักเดินทางต่างมิติ,คนรู้อนาคตมากจากทางไหนสักทาง

ฉันจะล่าเจ้าพวกตัวเอกเหล่านี้เอง ไอ้พวกคนที่มีตัวตนอยู่ในโลกใบต่าง ๆ ที่มีอยู่มากมายนับไม่ถ้วนแล้วฉันก็จะดูดกลืนพรสวรรค์ของพวกเขาซะ

เหล่าพวกตัวเอกทั้งหลายที่ไม่ว่าจะเป็น

ความหวังของทวีป

ฮีโร่ที่จะช่วยโลกไว้ได้อนาคต

ฮีโร่ที่ในตอนนี้มีหลุมอยู่ตรงกลางอก!

ปาร์คแทรยอง คนที่จะปลดปล่อยเหล่าคนแคระให้เป็นอิสระและได้รับความเชื่อถือจากคนพวกนั้น

ชำระล้างสิ่งปนเปื้อนที่เป็นพิษในป่าแห่งจิตวิญญาณและได้กลายมีเป็นผู้มีพระคุณของเหล่าแฟรี่

ทวงคืนรูปปั้นหินโบราณที่เคยถูกปิดผนึกอยู่ในซากปรักหักพังในยุคอดีตกาล

กำจัดงูทะเลยักษ์ที่โผล่ออกมาจากทะเล

ปราบจักพรรดิปีศาจของโลกใต้พิภพตนที่ 47 ลงได้

“นอกเหนือไปจากการข่มขืนและฆาตกรรมแล้วยังมีเหตุการณ์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของคนจำนวนมากไม่ว่าจะเป็นการฆ่าอันป่าเถือน,การลอบวางเพลิง และ……”

“ช-ช่วยฉันด้วย..”

แกร๊ก!

นี้ก็เป็นตัวเอกเช่นกัน

แต่ในตอนนี้เขาได้ตายคามือฉันซะแล้วหละ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท