สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา – บทที่ 169 ไล่จับผิด

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

ผู้ช่วยพูดคำนี้จบ มองไปยังลู่ซือหยี่อย่างระมัดระวัง

“คุณหนู พวกเราต้องส่งคนเข้าไปสืบไหม?”

ลู่ซือหยี่ได้ยิน ก็หรี่ตาทั้งคู่เล็กน้อย

“ต้องทำแน่นอน เพียงแต่คุณอย่าแหวกหญ้าให้งูตื่น”

เธอพูดไปแล้วก็คล้ายกับมีแนวคิดจึงกวักมือให้ผู้ช่วยเข้ามาใกล้

เธอกระซิบข้างๆหูของผู้ช่วยสองสามคำ ผู้ช่วยก็รีบพยักหน้า

“ฉันเข้าใจแล้ว คุณหนูวางใจได้”

ลู่ซือหยี่เห็นเช่นนี้ พยักหน้าแล้วกล่าวว่า: “ไปเถอะ ต้องการเพียงแค่คุณไล่จับผิดกู้ฉางซินได้ ฉันจะตบรางวัลให้อย่างหนัก!”

ผู้ช่วยพยักหน้า หันออกไป

ทางด้านกู้ฉางฉิงก็ไม่รับรู้ว่าลู่ซือหนี่หาตำแหน่งที่ตั้งของเธอเจอแล้ว เธอกำลังตามการนำทางของเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ ในที่สุดก็พบมาในห้องพิเศษผู้ป่วย

เห็นเพียงรูปร่างของผู้ป่วยบนเตียงที่ยังคงไม่ได้สติ เพียงแต่สีหน้าดีกว่าครั้งที่แล้วที่เห็นอยู่ไม่น้อย ซีดน้อยลง มีเลือฝาดเล็กน้อย ถ้าไม่รู้ว่านี้คือผู้ป่วย เห็นสภาพนี้แล้วก็ยังนึกว่านี่เป็นเพียงการนอนหลับ

กู้ฉางฉิงมอง ภายในใจนี้ก็ปลง

เห็นได้อย่างชัดเจนว่าการขาดยาครั้งก่อนไม่ได้ส่งผลกระทบต่ออาการของแม่

เธอมองอยู่ครู่นึง แล้วก็ไปหาคุณหมอเจ้าของไข้ ต้องการที่จะรู้ว่าเมื่อไรแม่ถึงจะฟื้นขึ้นมา

“ขณะนี้ร่างกายคนไข้กำลังฟื้นคืนสภาพของตนเอง ส่วนรายละเอียดว่าจะฟื้นเมื่อไร ฉันก็ไม่กล้ายืนยัน เพียงแต่ ถ้าหากมีคนมาคอยพูดข้างๆหูเธอเสมอๆ บางทีอาจจะช่วยปลุกให้ฟื้นขึ้นมาได้

คุณหมอทราบวัตถุประสงค์ในการมาของเธอ พูดภาพรวมของอาการคร่าวๆเล็กน้อย

กู้ฉางฉิงฟังแล้วก็ขมวดคิ้วแน่น

ถ้าเป็นเมื่อก่อน เธอจะมีเวลามากที่จะอยู่เป็นเพื่อนแม่ แต่ขณะนี้ เธอจะมาโรงพยาบาลสักครั้งนึงก็จะต้องผ่านการเห็นชอบของกู้หงเซิน

เธอคิดพลาง ในใจเธอก็หมายมั่นปั้นมือจะปรึกษากับกู้หงเซินว่าจะมาอาทิตย์ละสองครั้งได้ไหม

เธอมีแนวคิด และก็ถามเขาถึงหัวข้อที่สนใจอีก แล้วจึงออกมาจากห้องทำงานหมอแล้วกลับไปห้องผู้ป่วยใหมี่กครั้ง

เธอยืนข้างเตียงคนไข้มองแม่ที่นอนเอนกายสงบนิ่งอยู่บนเตียง โค้งตัวไปจัดผมที่ยุ่งเหยิงที่ขมับของเธอเบาๆ

“แม่ คุณนอนมานานแล้วนะ”

“แม่ คุณไม่อยากเห็นลูกสาวที่กำลังเปล่งประกายในโลกแห่งการออกแบบหรอ? ตอนนี้ฉันเริ่มเข้าทำงานบริษัทแล้ว อีกทั้งการออกแบบหลายๆงานที่เผยแพร่ไปต่างประเทศก็ได้รับการชื่นชอบจากปรมาจารย์ด้วย พวกเขาเชิญฉันไปทำงานที่ต่างประเทศด้วยกันกับพวกเขา คุณดูสิว่าฉันเก่งมากเลยใช่ไหมล่ะ?”

“แม่ ฉันทำเรื่องที่รับปากคุณได้แล้วนะ แล้วเมื่อไรคุณจะทำเรื่องที่รับปากกับฉันล่ะ? รีบตื่นขึ้นมาเถอะ”

……

เธอพูดต่างๆนาๆไปไม่น้อย และก็ปกปิดเรื่องบางเรื่อง หลังจากนั้นก็เห็นว่าได้เวลาแล้ว เธอก็ไปห้องน้ำนำอ่างใส่น้ำ มาเพื่อปรนนิบัติดูแลพอสังเขป

“คุณผู้หญิง หมดเวลาเยี่มคนไข้แล้วค่ะ”

พอเธอปรนนิบัติเสร็จ ก็มีพยาบาลเข้ามาเตือน

กู้ฉางฉิงได้ฟังคำนี้แล้ว ก็หยุดการกระทำในมือเล็กน้อย จึงตอบกลับว่า: “ฉันรู้แล้ว จะรีบไปเดี๋ยวนี้”

พูดจบ เธอก็จัดเก็บอีกทีนึง จึงออกไปจากห้องผู้ป่วยอย่างอาลัยอาวรณ์

หลังจากเธอออกจากรงพยาบาล ก็วางแผนที่จะนั่งรถออกไป

เมื่อเธอกำลังเตรียมจะขึ้นรถ แต่หางตาก็กวาดไปมองเห็นรถคันนึงโดยไม่ตั้งใจ

คล้ายกับว่ารถคันนั้นจากตอนที่เธอมาโรงพยาบาลก็มาแล้ว ทำไมถึงยังอยู่ที่นี่?

เธอขึ้นรถไปอย่างครุ่นคิด จากนั้นก็แจ้งที่อยู่ให้คนขับแท็กซี่ทราบ

คนขับแท็กซี่ออกรถ แต่กู้ฉางฉิงสนใจรถเก๋งที่เห็นเมื่อกี้

ก็พบว่าหลังจากที่พวกเขาเคลื่อนไหวรถคันนั้นก็ออกรถตามออกมา

จากทิศทางเห็นได้ชัดเจนว่าไปในเส้นทางเดียวกันกับพวกเรา

กู้ฉางฉิงก็เข้าใจในชั่วขณะ นี่คือมีคนสะกดรอยตามเธอ

เธอนึกถึงตรงนี้ ใจก็หม่นหมองอย่างกะทันหัน ตึงเครียดเล็กน้อย

เพราะเธอไม่รู้ว่านี้ใครเป็นคนจัดการให้มาสะกดรอยตาม

อีกทั้งเธอมาโรงพยาบาล คนที่สะกดรอยตามต้องเข้าไปสืบอย่างแน่นอน

ไม่ได้ ไม่สามารถให้พวกเขารู้ความเป็นอยู่ของแม่ได้

ไม่อย่างนั้นทุกสิ่งทุกอย่างก็จะต้องจบ!

เธอคิดพลาง ก็หยิบมือถือมาติดต่อกู้หงเซิน

ตอนนี้ก็มีเขาเพียงคนเดียวที่สามารถจัดการเรื่องนี้ได้

“มีเรื่องอะไรอีก?”

ทันทีที่รับโทรศัพท์ เสียงที่หงุดหงิดของกู้หงเซินก็ตะคอกขึ้น

กู้ฉางฉิงเม้มปากแล้วบอกเรื่องที่ถูกสะกดรอยตามออกมา

“เหมือนฉันจะถูกคนสะกดรอยตาม พวกเขาน่าจะไปสืบที่โรงพยาบาล ทางที่ดีที่สุดคุณต้องให้ทางโรงพยาบาลนั้นระมัดระวัง อย่าให้เรื่องของแม่ฉันรั่วไหลไปได้”

กู้หงเซินฟังคำพูดนี้แล้วก็ใบหน้าเคร่งขรึม

“มือไม่พายเอาเท้าราน้ำจริงๆ ไปโรงพยาบาลก็ยังถูกคนสะกดรอยตามได้!”

เขาดุด่าไม่เหลือดี กู้ฉางฉิงอัดอั้น แต่ก็ไม่ได้ตอบโต้ออกมา

คาดไม่ถึงว่าสุดท้ายเรื่องนี้ก็เป็นเธอที่ไม่ระมัดระวังเอง

เมื่อก็กำลังคิดที่จะพูดอะไรหน่อย ทางด้านกู้หงเซินนั้นก็หงุดหงิดขึ้นมาแล้ว

“ได้ ฉันจะจัดการเรื่องนี้ ต่อไปฉันจะให้คุณไปโรงพยาบาลให้น้อย จะได้ไม่ทำให้คนสงสัย”

เขาพูดจบ ก็ไม่ให้โอกาสกู้ฉางฉิงได้แก้ตัว ก็วางสายโทรศัพท์ไปเลย

ขณะเดียวกัน ในโรงพยาบาล

หลังจากกู้ฉางฉิงออกไปได้ไม่นาน ลู่ซือหยี่และผู้ช่วยของพ่อก็เดินมาถึงหน้าเคาท์เตอร์

“สวัสดีค่ะ ฉันเห็นเด็กผู้หญิงคนนึงที่สวมชุดสีม่วงเมื่อกี้ สูงเท่านี้ เธอมาโรงพยาบาลเยี่ยมใครตรวจสอบได้ไหม?”

เขาบรรยายรูปร่างหน้าตาของกู้ฉางฉิง ถึงแม้พยาบาลที่เคาท์เตอร์ด้านหน้าจะรู้ว่าคนที่เขาถามคือใคร เพียงแต่โรงพยาบาลก็จะมีกฎระเบียบของโรงพยาบาล

“ต้องขอโทษด้วยค่ะ คุณผู้ชายท่านนี้ โรงพยาบาลของพวกเรามีกฎระเบียบ ไม่สามารถเปิดเผยความลับคนไข้รวมทั้งข่าวคราวของครอบครัวคนไข้ด้วยค่ะ”

ผู้ช่วยฟังคำนี้แล้ว ก็ไม่ยอมลดละ

“ฉันทราบถึงกฎระเบียบของพวกคุณ เพียงแต่ฉันเป็นเพื่อนกับเธอ มาโรงพยาบาลแล้วพบเธอ ก็ไม่สบายใจเล็กน้อย กลัวว่าเธอจะป่วยแล้วไม่ยอมบอกฉัน”

เขาพูดพลางบอกถึงเหตุผลและแสดงความเมตตา

พยายาลเปลี่ยนเป็นลังเลใจเล็กน้อย เวลานี้ หัวหน้าพยาบาลก็เดินเข้ามา

“ที่คุณพูดคือคุณผู้หญิงของพวกเราใช่ไหม? เธอมาเยี่ยมลูกพี่ลูกน้อง”

ผู้ช่วยฟังคำพูดนี้ ในสายตาก็ปิดบังความผิดหวังไว้ไม่อยู่ เขาคิดว่าจะสามารถจับผิดอะไรได้!

คิดพลาง ก็หาข้อแก้ตัวแบบขอไปทีสองสามคำแล้วก็ออกไป กลับไปรายงานลู่ซือหยี่

ลู่ซือหยี่รับทราบเรื่องที่ผิดพลาด ก็โมโหไม่หยุด

“ไร้ประโยชน์ สวะ!”

เธอดุด่าอย่างโกรธเดือดดาล โดยเฉพาะคิดถึงเรื่องเมื่อเช้าที่ก็ล้มเหลว ก็ยิ่งโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ

“ต่อไปนี้ทางที่ดีที่สุดคุณต้องจัดการเรื่องราวให้ฉันรู้ให้ชัดเจน แล้วมารายงานกับฉันอีกครั้ง ไม่เช่นนั้นฉันจะสงสัยในความสามารถการทำงานของคุณ!”

เธอตำหนิผู้ช่วย

ผู้ช่วยก็ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ เขาจะรู้ได้อย่างไรก็กู้ฉางฉิงไปโรงพยาบาลอย่างลับๆล่อๆขนาดนั้น สุดท้ายก็แค่ไปเยี่ยมลูกพี่ลูกน้องคนนึง

ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้น เขาก็ยังคงพยักหน้าอย่างซื่อสัตย์ กล่าวรับประกันว่า: “คุณหนูวางใจได้ ครั้งหน้าจะไม่มีแล้ว”

ขณะเดียวกัน กู้ฉางฉิงก็ได้รับการแจ้งให้ทราบจากกู้หงเซิน

“เรื่องราวได้การจัดแก้ไขแล้ว ต่อไปคุณออกจากบ้านทางที่ดีช่วยระมัดระวังให้ฉันหน่อย ไม่ใช่ฉันจะสามารถคอยจัดการเรื่องยุ่งๆของคุณได้ทุกครั้งไป!”

เขากล่าวเตือนอย่างเย็นชา

กู้ฉางฉิงอืมเบาๆ ใจที่ถือแบกไว้ก็ปล่อยวางลง

หลังจากนั้นกู้หงเซินก็บอกอีกสองสามคำ ก็วางสายไป

กู้ฉางฉิงกลับไปถึงตระกูลเฟิงอย่างปลอดภัย ใช้ชีวิตอยู่ด้วยความสงบตลอดทั้งวัน

รอจนวันที่สอง เมื่อเธอวาดต้นฉบับอยู่ที่บ้าน ด็ได้รับโทรศัพท์ของมู่จิ่น

“คุณกู้ ฉันต้องกลับไปสำนักงานใหญ่แล้ว”

กู้ฉางฉิงได้ยิน ก็ประหลาดใจเล็กน้อย

“เมื่อไร ทำไมก่อนหน้านี้ไม่ได้ยินคุณเอ่ยถึงเลยล่ะ?”

“เครื่องบินตอนบ่าย นี่ก็คือการตัดสินใจอย่างกะทันหัน”

กู้ฉางฉิวขมวดคิ้ว: “แบบนี้ งั้นพวกเราก็รับประทานอาหารเที่ยงด้วยกัน ถือเป็นการที่ฉันเลี้ยงส่งคุณ

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

Status: Ongoing
ก่อนแต่งงานแทนน้องสาวเข้าไปในตระกูลเฟิง กู้ฉางชิงได้ยินว่าเฟิงจิ่งเหยาเป็นคนที่เฉยเมย ต่อมาถึงได้รู้ว่าข่าวลือล้วนเป็นเรื่องโกหก คุณเฟิงไม่เพียงแต่ไม่เย็นชา กลับเป็นคนที่อบอุ่น แต่กระตือรือร้นเป็นพิเศษในการมีทายาท มีคนพูดเป่าหูต่อหน้าเขา “คุณเฟิง ก่อนคุณจะกลับประเทศ ในทุกๆคืนภรรยาของคุณจะไม่กลับบ้าน เพราะออกไปเมาข้างนอก” เฟิงจิ่งเหยา “หลังจากฉันกลับประเทศ ตอนค่ำภรรยาของฉันจะมาอยู่ที่ห้องฉัน ปรนนิบัติฉันไม่นอนทั้งคืน” มีคนพูดอีกว่า “ก่อนคุณจะกลับมา ภรรยาของคุณช้อปปิ้งทั้งวัน เปลี่ยนรถยี่ห้อหรูไม่หยุด แถมยังมีหนุ่มคอยอยู่เธอตลอดเวลา” เฟิงจิ่งเหยา พูดต่อว่า “หลังจากฉันกลับประเทศ บัตรเครดิตทุกใบของฉัน ฉันก็อยากให้ภรรยาฉันใช้ แต่เธอไม่ต้องการ ไปกลับจากที่ทำงานก็ให้ฉันไปรับแค่คนเดียว” สำหรับคนที่เย็นชา เมื่อมีภรรยาจะคลั่งรักเป็นพิเศษ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท