หลังจากที่เฟิงจิ่งเหยาจากไป กู้ฉางชิงก็ไม่ทนเซ่ออยู่ไนห้อง
โดยเฉพาะเมื่อเธอเห็นคุณนายเฟิงปลอบลู่ซือหยี่ด้วยถ้อยคำที่อ่อนโยน เธอก็พูดถากถาง
“คุณแม่ ฉันรู้ว่าคุณชอบลู่ซือหยี่ เรื่องที่เกิดขึ้น ไม่ต้องพูดว่าจิ่งเหยาไม่อยากเห็นคุณลู่อีก ก็เพราะว่าเห็นแก่หน้าของทั้งสองตระกูล ต่อไปถ้าคุณแม่คิดถึงลู่ซือหยี่ก็ไปเจอกับเธอข้างนอกเถอะ”
หลังจากที่เธอพูดจบ ก็มองไปที่ลู่ซือหยี่ด้วยสายตาประชดประชัน:“ฉันจะไปดูจิ่งเหยาก่อน”
เมื่อพูดจบเธอก็หันหลังและจากไปโดยไม่สนสีหน้าที่บูดบึ้งของคุณนายเฟิง
ลู่ซือหยี่มองเธอจากไปจากข้างหลัง สายตาเต็มไปด้วยความโกรธ
ในขณะเดียวกันเธอก็ตื่นตระหนกอย่างมาก เพราะคำพูดของกู้ฉางชิง ทำให้เธอนึกถึงคำพูดของเฟิงจิ่งเหยาก่อนที่เขาจะจาก
“ป้าหมิง พี่จิ่งเหยาเกลียดฉันแล้วใช่ไหม?”
เธอตื่นตระหนกจนทำอะไรไม่ถูก และจับคุณนายเฟิงเพื่อเป็นการปลอบโยน
คุณนายเฟิงเห็นสีหน้าที่ตื่นตระหนกของเธอ อยากจะพูดปลอบโยน แต่มันก็ขัดความรู้สึก
คุณนายเฟิงไม่คิดว่าจิ่งเหยาจะโกรธมากขนาดนี้ และพูดว่าไม่อยากเจอเธอได้อย่างโหดร้าย
ดูเหมือนว่าในสายตาจิ่งเหยาจะผิดหวังกับเธอมาก
เธอคิดอย่างนี้แล้วก็รู้สึกว่าเรื่องนี้เป็นเรื่อใหญ่
เมื่อลู่ซือหยี่เห็นว่าคุณนายเฟิงไม่พูด ก็รู้ว่าเรื่องนี้ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้แล้ว
และทำให้พี่จิ่งเหยาโกรธเธอโดยสิ้นเชิง ต่อจากนี้เธอคงไม่มีโอกาสอีก!
แล้วเธอก็ร้องไห้ด้วยความเสียใจ
คุณนายเฟิงมีสติกลับมา และรีบปลอบเธอ
“ซือหยี่ เธอไม่ต้องร้องไห้ จิ่งเหยาคงจะโกรธมากเกินไปถึงได้พูดอย่างนั้น รอให้ความโกรธของเขาลดลงก็คงจะไม่มีอะไร”
ลู่ซือหยี่ได้ยินอย่างนั้นก็หยุดร้องไห้สะอึกสะอื้นและพูดว่า:“จริงหรอ?”
“จริงสิ ป้าหมิงเคยโกหกเธอซะเมื่อไหร่?”
คุณนายเฟิงยังคงพูดเกลี้ยกล่อมต่อ เมื่อลู่ซือหยี่อารมณ์คงที่แล้ว ก็พาเธอกลับไป
ลู่ซื่อหยี่ไม่ปฏิเสธ
เธอกับคุณนายเฟิงก็ออกจากบ้านหลังใหม่ไป และก็อดไม่ได่ที่จะเหลือบตรงที่ที่กู้ฉางซินยืนอยู่ด้วยความแค้นใจ
ความอัปยศที่เธอได้รับในวันนี้ เธอจะไม่มีวันลืม
โดยเฉพาะกู้ฉางซินที่ทำให้เกิดเรื่องนี้ เธอจะทำให้กู้ฉางซินตายไปซะยังดีกว่ามีชีวิตอยู่!
……
กู้ฉางชิงไม่รู้ว่าลู่ซือหยี่ถือว่าทุกอย่างในคืนนี้เป็นความผิดของเธอ
เธอเดินตามลู่ซือหยี่ไปที่ห้องพักแขก
เธอเห็นว่าเฟิงจิ่งเหยานั่งหน้าบึ้งตึงอยู่บนโซฟา เนื่องจากฤทธิ์ของยายังไม่หมด เขาปวดหัวมากจนขมวดคิ้วแรง และท่าทางดูดันยังไม่หายไป
อย่างไรก็ตามกู้ฉางชิงไม่ได้หวาดกลัว เมื่อเห็นว่าเขาไม่สบายจึงรีบเดินเข้าไปข้างหลังเขาแล้วช่วยบีบนวด ซึ่งฝีมือก็พอใช้ได้
เฟิงจิ่งเหยาตกตะลึง และถามว่า:“ทำไม?เธอไม่โกรธแล้วหรอ?”
กู้ฉางชิงได้ยินก็รู้ว่าเขาหมายถึงเรื่องเมื่อตะกี้ และอดไม่ได้ที่จะยิ้ม:“ไม่เห็นมีอะไรน่าโกรธ และคุณโกรธมากขนาดนั้น ถึงแม้ว่าจะโกรธก็หายโกรธแล้ว”
เฟิงจิ่งเหยาเม้มริมฝีปากและไม่พูดอะไร
กู้ฉางชิงไม่สนใจและพูดต่อ:“อีกอย่าง เห็นคุณหลับเป็นตายอย่างนั้น คิดดูแล้วคุณคงไม่สามารถทำอะไรได้ ฉันกยิ่งไม่มีอะไรจะต้องโกรธ”
เฟิงจิ่งเหยาพูดไม่ออก
เขาไม่ได้พูดอะไรเลย เอนลงนอนบนโซฟาอย่างผ่อนคลาย และเพลิดเพลินกับการบีบนวดของกู้ฉางชิง
หลังจากนั้นเขาก็พบว่าฝีมือการนวดของผู้หญิงคนนี้ใช้ได้เลยทีเดียว ใช้แรงได้พอดิบพอดี ทำให้เขารู้สึกสบาย จนกระทั่งอาการปวดหัวค่อยๆลดลง
“พวกเขาน่าจะใส่ยานอนหลับให้ฉัน”
จู่ๆเขาก็พูดขึ้นมา กู้ฉางชิงตกใจ และพูดด้วยความเป็นห่วง:“งั้นคุณยังมีตรงไหนที่รู้สึกไม่สบายไหม?ให้ฉันเรียกหมอมาดูอาการหน่อยไหม?”
เฟิ่งจิ่งเหยาโบกมือ
“ไม่ต้องหรอก”
ในขณะที่พวกเขากำลังคุยกัน ข้างนอกประตูก็มีเสียงฝีเท้าเดินออกไป ทั้งสองก็เดาได้ว่าเป็นใคร
สีหน้าของเฟิ่งจิ่งเหยาก็เย็นชา
กู้ฉางชิงเห็นอย่างนั้นก็เผลอยิ้มออกมา และพูดเกลี้ยกล่อมว่า:“เอ่าน่า อย่าโกรธเลย”
ขณะที่เธอพูดเธอมองไปที่เฟิงจิ่งเหยาอย่างล้อเลียนและพูดว่า:“จะว่าไปถ้าจะโทษก็ต้องโทษที่ตัวคุณเอง หน้าตาดีแล้วยังจะโดดเด่น แน่นอนว่าทำให้คนชื่นชอบ น่าเป็นห่วง!”
เมื่อเฟิงจิ่งเหยาได้ยินอย่างนี้แล้ว ก็อดไม่ได้ที่จะมองไปที่กู้ฉางชิง
“คุณนี่ใจกว้างมากนะ ผู้หญิงคนอื่นปีนขึ้นมาบนเตียงสามี คุณยังจะช่วยพูดแทนเธออีก”
กู้ฉางชิงเม้มริมฝีปากและไม่พูดอะไร
อันที่จริงเธอไม่ได้พูดแทนลู่ซือหยี่ เพียงแต่เธอไม่ชอบที่เขาโกรธก็เท่านั้น
เธอคิดอย่างนี้แล้วก็นึกถึงการกระทำในคืนนี้ แล้วเธอก็ต้องตกใจ
เธอ……เหมือนว่าจะเข้าถึงบทบาทของกู้ฉางซิน
และดูเหมือนเธอจะแคร์เฟิงจิ่งเหยา จนกระทั่งตาบอดไว้ใจเขา
ไม่ ไม่ควรเป็นอย่างนี้!
เธอรู้ว่าอีกไม่กี่เดือนก็ต้องจากกันแล้ว หลังจากนั้นก็คงจะกลายเป็นคนแปลกหน้า ทำไมเธอต้องสนใจ?
เธอปฏิเสธมันในใจ แต่หัวใจของเธอถูกบีบไว้แน่น ทำให้เธออึดอัดหายใจไม่ออก
จากนั้นสีหน้าของเธอก็เปลี่ยนเป็นเศร้าหมอง
เฟิงจิ่งเหยาไม่สังเกตเห็น เพราะเขารู้สึกว่าร่างกายของเขาเริ่มร้อน และยิ่งใกล้สว่างก็ยิ่งรุ่นแรงมากขึ้น
สักพักหนึ่ง เขาก็ไม่รู้ว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น สีหน้าของเขามืดมนลง
ดูเหมือนเป็นเพราะฤทธิ์ยา ไม่เพียงมีส่วนผสมที่เป็นยาเท่านั้น แต่ยังมี……
“ฮูฮู……”
เมื่อฤทธิ์ของยาเพิ่มขึ้น การหายใจของเขาก็ติดขัดมากขึ้น
กู้ฉางชิงเห็นเขาผิดปกติ และรีบถามว่า:“คุณเป็นอะไร?”
เธอเดินไปตรงหน้าเฟิงจิ่งเหยา และมองเขาด้วยความเป็นห่วง
ในตอนนี้เธอยังคงสวมชุดตามตำแหน่งหน้าที่ เอวบางร่างเล็ก มีส่วนเว่าส่วนโค้งที่เพอร์เฟค โดยเฉพาะขาที่ขาวและเรียวยาว ก็ยิ่งดึงดูดอารมณ์ทางเพศ
เฟิงจิ่งเหยาจ้องมองเธอ และหายใจติดขัดมากขึ้น ในสายตามีแต่ความต้องการ
เขาจับข้อมือของกู้ฉางชิง แล้วดึงเธอเขามาไว้ในอ้อมแขน จากนั้นจับมือของเธอไว้ แล้วค่อยๆเลื่อนลงไปที่ใต้ท้อง
“คุณว่าฉันเป็นอะไร?”
เสียงแหบยั่วยวนของเขาดังขึ้นข้างๆหูของกู้ฉางชิง
กู้ฉางชิงสัมผัสได้ถึงเร้าร้อนจากฝ่ามือของเขา และเมื่อได้ยินที่เขาพูดหน้าของเธอก็ดงขึ้นทันที
“คุณ……อ่า——”
เธอกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง ในวินาทีถัดมาคนทั้งคนล้มลงบนโซฟา
จากนั้นกลิ่นของกู้ฉางชิงก็รุกรานเข้าไปในจมูกของเขา ทำให้เขาเหมือนหมาป่าที่หิวโหย และมีความต้องการมากขึ้น
กู้ฉางชิงตกตะลึง ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น และตอบสนองเขาอย่างกระตือรือร้น
เขาหายใจแรงและปล่อยกู้ฉางชิง เขาอุ้มกู้ฉางชิงไปที่เตียงไม้ และดึงเสื้อผ้าของเธอออกอย่างไม่ลังเล
หลังจากนั้นไม่นานทั้งสองก็เข้าหากันอย่างตรงไปตรงมาและจริงใจ
ผิวที่ขาวราวหิมะ หน้าอกสูงตระหง่าน ทำให้ความมีหลักการและเหตุผลของเฟิงจิ่งเหยาพังทลายลง
คืนนี้ถึงตายก็ไม่แยกจาก!