กู้ฉางชิงได้ยินเช่นนี้ ก็ให้ชีเสี่ยวจิ่วกลับไปทำงาน และเธอก็เปิดประตูเดินเข้าไปห้องทำงาน
เข้าไปถึงก็เห็นผู้หญิงอายุราวๆยี่สิบปีต้นๆ นั่งเชิดหน้าหยิ่งผยองอยู่บนเก้าอี้ กำลังนั่งดูผลงานต้นฉบับของเธอ
กู้ฉางชิงเห็นเช่นนี้ก็ขมวดคิ้ว
ทันใดนั้นผู้หญิงที่นั่งบนโต๊ะก็สังเกตเห็นเธอ จึงวางสมุดออกแบบลงและมองไปที่เธอ
เพียงสายตาเดียว แววตาเธอก็เต็มไปด้วยความริษยา
เพราะว่าเธอเห็นกู้ฉางชิงรูปร่างหน้าตาสวยกว่า
กู้ฉางชิงไม่รู้ความคิดในใจเธอ เก็บความไม่พอใจไว้และกล่าวทักทาย: “เธอคือซูตี้สินะ ฉันชื่อกู้ฉางซิน เป็นผู้อำนวยการของZARY”
ซูตี้ฟังจบก็มองไปที่กู้ฉางชิง สายตามีความดูถูกซ่อนไว้
เธอลุกขึ้น อยู่ด้านบนมองลงมาที่กู้ฉางชิง เบะปาก
“เธอก็คือกู้ฉางซิน ดีไซเนอร์อัฉริยะที่มู่จินบอกหรอ?”
คำพูดแฝงไปด้วยคำดูถูก กู้ฉางชิงเองก็ฟังออก
เธอรู้สึกได้ว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ถูกชะตะกับเธอ แต่ก็ไม่เข้าใจ
ทั้งๆที่พวกเขาเพิ่งเจอกันครั้งแรก แล้วผู้หญิงคนนี้ไม่ถูกชะตะกับเธอเพราะอะไร?
เธอขมวดคิ้ว คิดยังไงก็ไม่เข้าใจ ทำได้เพียงพยักหน้าและตอบคำถามเมื่อกี้
ซูตี้เบะปาก
กู้ฉางชิงไม่ถือสา เธอมองไปที่โต๊ะ เพิ่งเห็นว่าผู้หญิงคนนี้ดูสมุดออกแบบของเธอค้นจนของกระจัดกระจาย ความโกรธผุดขึ้นมาในใจ แต่ว่าผู้หญิงคนนี้เพิ่งมาถึง และยังเป็นหุ้นส่วนการร่วมมือครั้งนี้ เธอจึงไม่ได้โมโหออกมา
ต้องรู้ไว้ วงการดีไซเนอร์สิ่งที่ต้องห้ามเลยก็คือห้ามให้คนอื่นมายุ่งกับสมุดออกแบบของพวกเขา
แต่ซูตี้ก็สังเกตเห็นสีหน้าที่ไม่พอใจของเธอ ดูจากสายตาเธอที่มองของที่กำลังกระจัดกระจายบนโต๊ะ เธอไม่รู้สึกสะทกสะท้านเลยทั้งที่ตัวเองเป็นคนทำ
“อ่อ เมื่อกี้ฉันรู้สึกเบื่อก็เลยหยิบมาดู”
พูดจบ เธอก็ทำหน้าทำตาและถามกู้ฉางชิง: “ว่าแต่ นี่คงไม่ใช่แบบที่ใช้ทำเสื้อผ้าที่จะทำร่วมกันครั้งนี้หรอกมั้ง?”
กู้ฉางชิงได้ยินเช่นนี้ รอยยิ้มบนใบหน้าก็จางลง
“ถ้าใช่แล้วทำไม?”
เธอมองซูตี้ด้วยสายตาที่เย็นชาและพูดว่า: “ยังมีอีกเรื่อง ไม่ทราบว่าไม่เคยมีคนบอกคุณซูหรอ ว่าถ้าไม่ได้รับอนุญาตก็ไม่ควรมาค้นของของคนอื่นแบบนี้?”
ซูตี้ได้ยินเช่นนี้เหมือนกับคำสอน เลิกขมวดคิ้วและหัวเราะออกมา
“ไม่เคยมีใครบอกฉันด้วยสิ”
พูดจบ เธอก็หุบยิ้ม สีหน้าเต็มไปด้วยความดูถูกและมองไปที่กู้ฉางชิง
“ฉันรู้ว่าคุณกู้กำลังคิดอะไรอยู่ แต่ว่า คุณต้องรู้เอาไว้ ฉันอยู่ในบริษัทก็เป็นผู้อำนวยการเหมือนกัน และยังเป็นตัวเต็ง ไม่ใช่ตัวแทนแบบนี้ ลดตัวลงมาทำงานกับเธอก็ดีแค่ไหนแล้ว”
กู้ฉางชิงได้ยินเช่นนี้ก็ขมวดคิ้ว ความไม่ชอบผู้หญิงคนนี้ก็เพิ่มขึ้น
แต่ซูตี้ยังพูดไม่จบ เธอไม่สนใจสีหน้าที่ดูแย่ของกู้ฉางชิง และพูดต่อว่า: “พูดตามความจริงแล้ว ก่อนที่ฉันจะมาฉันตั้งตาตั้งตารอ ข้อมูลที่เขาให้ฉันมาบอกว่าเธอคือดีไซเนอร์ที่เก่งมีพรสวรรค์ แต่เท่าที่ฉันดูเมื่อกี้แล้ว ไม่เห็นจะมีพรสวรรค์อะไรเลย การออกแบบก็งั้นๆ”
พูดถึงตรงนี้ เธอก็กวาดตาไปมองรูปออกแบบที่อยู่บนโต๊ะและพูด: “โดยเฉพาะการออกแบบพวกนี้เธอยังใส่องค์ประกอบโบราณลงไปอีก มันไม่ตอบโจทย์ที่พวกเราส่งมาเลย ถ้าเธออยากทำงานร่วมกันจริง ฉันคิดว่างานพวกนี้เธอควรจะแก้มันซะ ไม่อย่างงั้นฉันก็คงต้องรายงานกับทางนั้นว่าการร่วมมือครั้งนี้ไม่เหมาะสม หาบริษัทอื่นจะดีกว่า”
กู้ฉางชิงฟังคำพูดยาวเยียดของเธอจบ ใบหน้านิ่งไม่มีรอยยิ้มหลงเหลือ
ซูตี้เห็นเช่นนี้ก็ไม่ได้สนใจ
เธอเดินออกมาจากโต๊ะทำงาน เดินมาข้างๆกู้ฉางชิง พูดอย่างดูถูกว่า: “เอาล่ะ ที่ฉันอยากพูดก็พูดจบแล้ว คุณกู้ก็อย่าลืมแก้งานแล้วส่งมาให้ฉันใหม่ ถ้าเกิดไม่อยากแก้ก็ช่วยบอกล่วงหน้า ฉันจะได้ไปคุยกับบริษัท จะได้ไม่ต้องมาเสียเวลา”
พูดจบ เธอก็เดินผ่านกู้ฉางชิงและจากไป
ทำท่าทีราวกับว่าเป็นเจ้านายของกู้ฉางชิง
กู้ฉางชิงดูเธอจากไปด้วยสีหน้าที่บึ้งตึง
เมื่อประตูของห้องทำงานปิดลง เธอก็เดินไปที่โต๊ะทำงานและมองสิ่งที่ผู้หญิงคนนั้นทำกระจัดกระจายไว้
เห็นได้ชัดว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่คนที่ดี
เธอคิดถึงเช่นนี้ ก็กดสายเรียกให้ชีเสี่ยวจิ่วเข้ามา
“คุณครูกู้หาฉันหรอคะ?”
ชีเสี่ยวจิ่วเข้ามาถามด้วยความสุภาพ
กู้ฉางชิงพยักหน้าและพูดว่า: “เธอช่วยฉันเก็บพวกนี้ให้เรียบร้อยหน่อย”
ชีเสี่ยวจิ่วพยักหน้า เริ่มเก็บข้าวของ
แต่กู้ฉางชิงกลับนั่งอยู่บนเก้าอี้และเริ่มค้นหาข้อมูลของซูตี้
ทันใดนั้นเธอก็เจอข้อมูลของซูตี้บนเว็บไซต์ของPC
เรียกได้ว่าผู้หญิงคนนี้ได้รับเกียรตินิยมไม่น้อย
ในปี 2003 เธอได้รับรางวัลชนะเลิศการแข่งขันการออกแบบชุดดอกไม้ในต่างประเทศและชุดเสื้อผ้าชีฟองชั้นสูงของเธอได้รับรางวัลยอดขายอันดับหนึ่งของวงการแฟชั่นแน่นอนว่ามีสไตล์คลาสสิกยอดนิยมไม่น้อย
ในเว็บไซต์ยังมีภาพการออกแบบของเธออีกด้วย มีลายเส้นที่คมชัดสวยงามสามารถดึงดูดคนได้ในพริบตา
ถึงแม้ว่าเธอคนนี้จะน่ารำคาญ แต่เธอก็มีพรสวรรค์ในการออกแบบมาก
กู้ฉางชิงดูเสร็จ หันกลับมามองภาพออกแบบของตัวเอง รู้สึกเลิ่กลั่กขึ้นมาเล็กน้อย
เธอควรแก้ตามคำขอของผู้หญิงคนนั้นไหมนะ?
แต่คำพูดของผู้หญิงคนนั้น เห็นได้ชัดว่าพยายามจะหาข้อผิดพลาดยังไงอย่างงั้น
ในขณะที่กำลังคิด โทรศัพท์ในมือก็ดังขึ้น
เธอเห็นเป็นสายเข้าของมู่จิน จึงรับสาย
“คุณมู่”
“คุณกู้ ดีไซเนอร์ที่บริษัทส่งไปพวกคุณเจอกันหรือยัง?”
กู้ฉางชิงพยักหน้าตอบ: “เจอกันแล้วค่ะ แต่ก็มีการถกเถียงทำให้ไม่พอใจกันเล็กน้อย”
มู่จินได้ยินเช่นนี้ เขาก็ทำตัวไม่ถูกและปวดหัว
“ฉันเองก็เพิ่งได้รับข่าวจากบริษัท คนที่ส่งไปที่คุณคือซูตี้ ก็เดาว่ามันต้องเป็นแบบนี้แน่นอน”
กู้ฉางชิงได้ยินเช่นนี้ ขมวดคิ้วและถามว่า: “เพราะงั้นคุณก็รู้หรอว่าทำไมเธอถึงไม่ชอบฉัน?”
มู่จินพยักหน้า: “จะว่าไปแล้วก็เป็นเพราะฉัน ฉันกับเธอมีเรื่องบาดหมางกันเล็กน้อย ตอนนั้นพวกเราแข่งขันกันเพื่อชิงตำแหน่งผู้อำนวยการ ฉันชนะเธอ แถมยัง……”
เขาพูดถึงเช่นนี้ ชะงักรู้สึกเกรงๆ: “เธอมีความรู้สึกต่อฉัน แต่ว่าฉันไม่สนใจเรื่องพวกนั้นเพราะฉะนั้นเธอทนไม่ได้เมื่อเห็นฉันชื่นชมใครเป็นพิเศษ อาจเป็นเพราะแบบนี้ที่เธอต่อต้านคุณ”
กู้ฉางชิงได้ยินเช่นนี้ ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี
เธอถูกมองว่าเป็นคู่แข่งไปซะแล้ว
“เอาล่ะ ในเมื่อคุณพูดแบบนี้ ฉันก็จะใจกว้างไม่คิดมาก ไม่ไปอคติกับเธอ”
มู่จินตอบกลับ: “ฉันเชื่อว่าคุณจัดการได้ ถึงตอนนั้นคุณก็คลี่คลายไปตามสถานการณ์ ซูตี้มีความเป็นมืออาชีพและความสามารถมาก แต่ว่าเธอชอบทำอะไรตามอารมณ์ตัวเอง บางครั้งความต้องการของเธอก็สูงเกินไป คุณไม่จำเป็นต้องทำตามทุกอย่าง”
กู้ฉางชิงพยักหน้าแสดงความเข้าใจ ทั้งสองคนก็คุยกันอีกไม่กี่คำและวางสายไป
หลังจากวางสาย กู้ฉางชิงรู้สึกไม่ผ่อนคลายเท่าเมื่อกี้
ดูจากที่มู่จินพูดแล้ว เธอรู้สึกว่าการร่วมงานกับซูตี้เธอต้องปวดหัวแน่ๆ