สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา – บทที่ 183 ไม่อยากทำก็ไสหัวไป

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

กู้ฉางฉิงไม่รู้ว่าเธอทำให้ฮั้วเฉินเกิดความสงสัยอีกครั้ง

เวลานี้เธอกับเฟิงจิงเหยานั่งอยู่บนรถ บรรยากาศนิ่งเงียบ

เฟิงจิงเหยาหน้าบึ้งตึง เห็นได้ชัดว่ายังไม่หายโกรธ

กู้ฉางฉิงแอบดูอยู่หลายครั้ง จำใจต้องยอมรับผิดอีกครั้ง : “เอาล่ะ ฉันสำนึกผิดแล้ว คุณก็อย่าโกรธได้ไหม? ฉันรับรอง ต่อไปจะไม่ออกไปไหนคนเดียวดึกดื่นแบบนี้อีก”

เธอพูดจบ ยังกอดแขนเฟิงจิงเหยาเพื่อออดอ้อน : “อย่าโกรธเลยนะ หื๊ม?”

เฟิงจิงเหยานิ่งไปพร้อมกับกิริยาท่าทางของเธอ

ถึงอย่งไรไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนกล้าปฏิบัติกับเขาเช่นนี้

เสียงที่นุ่มนวลอ่อนโยนทำให้ในใจเขารู้สึกแปลกๆ นำพาความโกรธให้หายไปไม่น้อย ได้ผลอย่างน่าประหลาด

เขาทำเสียงหงุดหงิด เพียงแต่สีหน้าก็อ่อนโยนลงมา

กู้ฉางฉิงเห็น ก็โล่งอก

เมื่อกำลังเตรียมจะพูดอะไร ก็ถูกเฟิงจิงเหยาแย่งพูดซะก่อน

เขาพูดอย่างไม่แยแสว่า : “เกิดอะไรขึ้นกับนักออกแบบของRC? ทำไมทำถึงเรื่องแบบนี้?”

“เอ่อ……น่าจะเป็นเพราะอารมณ์ไม่ดี”

เธอนึกถึงคำพูดของมู่จิ่นที่บอกเธอในตอนกลางวัน ก็ถอนหายใจ

เป็นเพียงจุดเริ่มต้น ต้องทนรับมันต่อไป

เธอคิดอยู่ในใจ แต่ไม่ได้คิดจะบอกเฟิงจิงเหยา ถึงอย่างไรเธอก็เคยบอกแล้ว ว่าเธอจัดการได้

แต่เฟิงจิงเหยาไม่เข้าใจ เพีงแต่ยังคงไม่สบายใจอย่างมาก

จากนั้นทั้งสองก็มาถึงตระกูลเฟิง เนื่องจากดึกมากแล้ว ทั้งสองคนเปลี่ยนเสื้อผ้าล้างหน้าบ้วนปาก แล้วก็เข้านอนเลย

……

วันต่อมา ทั้งสองตื่นขึ้นมาพร้อมกัน

ตอนนี้กู้ฉางฉิงเป็นรักษาการผู้จัดการแผนก จะไม่ไปบริษัทเกือบทุกวันเหมือนเมื่อก่อนไม่ได้แล้ว

หลังจากที่ทั้งสองคนล้างหน้าบ้วนปากเสร็จ ก็ลงไปทานอาหารเช้าข้างล่าง

ช่วงเวลาทานอาหาร เงจิงเหยาดื่มกาแฟเสร็จก็พูดว่า : “อีกสักครู่ฉันจะไปส่งคุณที่บริษัท”

กู้ฉางฉิงตกตะลึงเล็กน้อย มองไปทางเขาอย่างสงสัย

“วันนี้บริษัทต้องการประชุมใหญ่ใช่ไหม?”

เพราะว่าเมื่อมีประชุมใหญ่ เฟิงจิงเหยาจึงต้องกลับไปที่สำนักงานใหญ่

“ก็ประมาณนั้น ที่นี่ก่อตั้งแบรนด์ใหม่ ฉันจำเป็นต้องดูการเตรียมการของพวกคุณ แล้วก็ต้องจัดการเปลี่ยนบางส่วน”

กู้ฉางฉิงพยักหน้า ในใจก็รู้สึกว่าก็ดีที่เขาจะออกหน้าสักเล็กน้อย เช่นนี้ก็สามารถบอกกับฝ่ายความร่วมมือได้ว่าพวกเขานั้นให้ความสำคัญต่อแบรนด์ใหม่

หลังจากที่ทั้งสองคนทานอาหารเสร็จ ก็ไปที่บริษัทด้วยกัน

เพราะว่ามีเฟิงจิงเหยาอยู่ด้วย กู้ฉางฉิงไม่อยากให้คนค้นพบสถานะของเธอ ยังคงลงที่ทางแยกเหมือนเดิม

เธอเดินเท้าเข้าไปที่บริษัท หลังจากตอกบัตรเสร็จแล้วก็เดินไปที่แผนกออกแบบ

เมื่อเธอเดินเข้าไปทุกคนในแผนกออกแบบก็อยู่ที่นั่น อีกทั้งบรรยากาศก็ดูแปลกๆอย่างมาก

และเมื่อเธอปรากฏตัว ทุกคนต่างมองมาที่เธอ ด้วยสีหน้าผิดปกติ

“นี่เกิดอะไรขึ้นหรอ?”

เธอขมวดคิ้วถาม ทุกๆคนหันมองไปทางซูตี้

กู้ฉางฉิงชำเลืองมอง ก็คาดเดาว่าเรื่องราวอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้หญิงคนนี้

“คุณซู ไม่ทราบว่าคุณมีอะไรไม่พอใจหรอ?”

เธออดทนต่อความหงุดหงิดในใจ แล้วเอ่ยถาม

ซูตี้ได้ยิน ก็กอดอกไม่พอใจ : “มีหลายส่วนมากที่ไม่พอใจ”

กู้ฉางฉิงกัดฟัน เรื่องมากไม่ดีเท่ากับเรื่องน้อย สูดหายใจเข้าลึกๆแล้วพูดว่า : “งั้นรบกวนคุณซูบอกแต่ละเรื่องๆให้ฉันฟังที ฉันจะดูรูปการปรับปรุงให้ดีขึ้นเพื่อคุณ”

ซูตี้เห็นเช่นนี้ ก็เชิดหน้าขึ้นอย่างหยิ่งยโส

“อื่นๆฉันจะไม่พูดแล้ว คุณจำเป็นต้องจัดหาห้องทำงานให้ฉันใหม่อย่างทันที”

เธอพูดจบ ใบหน้าเต็มไปด้วยความรังเกียจ : “บริษัทพวกคุณยากจนหรือไม่สามารถซื้อที่ได้ ส่วนที่แบ่งให้ฉันนั่นเรียกว่าห้องทำงานหรอ? ห้องทำงานฉันแม้แต่หนึ่งในสามก็ไม่ถึง”

กู้ฉางฉิงได้ฟังคำพูดนี้ของเธอ สีหน้าบึ้งตึงทันที

ซูตี้ทว่าดูเหมือนมองไม่เห็น ออกคำสั่งต่อกู้ฉางฉิงด้วยท่าทางมั่นใจ : “ฉันเห็นสถานภาพนี้ของพวกคุณ ห้องทำงานที่ดีที่สุด ก็คืห้องของคุณ คุณจัดเก็บสักเล็กน้อย ฉันต้องการห้องทำงานนั้น”

เธอพูดคำคำนี้ออกมา สีหน้าของทุกๆคนต่างประหลาดใจ

มีความไม่พอใจ แล้วก็มีความยินดีในความโชคร้ายของคนอื่น

ในจำนวนนั้นก็คือชวี่ชิงหยุนที่ยินดีในความโชคร้ายของคนอื่น

เธอยืนอยู่ข้างๆอย่างสงบ ดูการแสดงออก

กู้ฉางฉงสายตาเคร่งขรึม พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า : “คุณซูควรพูดให้สุภาพหน่อยน่าจะดีกว่า บริษัทเพิ่งจะก่อตั้ง มีหลายส่วนยังจัดการไม่ดี หากว่าคุณไม่ชอบห้องทำงานก่อนหน้านี้ ฉันให้คนจัดเก็บที่ที่กว้างขวางให้ใหม่ก็ได้ สำหรับห้องทำงานฉันเพียงคนเดียวที่ทำไม่ได้”

“ฉันพูดไม่สุภาพยังไง?”

ซูตี้หาข้อโต้แย้งทันที : “แล้วก็ นี่คือท่าทีที่คุณพูดกับฉันหรอ? อย่าลืมนะ ว่าฉันเป็นตัวแทนความร่วมมือ!”

กู้ฉางชิงได้ฟังคำพูดนี้ ความไม่พอใจในใจก็พุ่งขึ้นทันที

เธอหัวเราะพูดว่า : “เดิมทีคุณซูยังต้องรู้ว่าตนเองมาเพื่อทำงาน ไม่ใช่เพื่อเพลิดเพลิน”

ซูตี้นิ่งอึ้งไปชั่วขณะ

กำลังคิดที่จะฉุนฉียวกลับไป แต่ยังไม่ทันได้พูดออกมา ก็ถูกตัดบทไปแล้ว

“หากคุณซูมีความไม่พอใจอะไรต่อที่นี่จริงๆ งั้นฉันจะไม่ถือสาที่จะช่วยคุณซูติดต่อกับสำนักงานใหญ่ ให้พวกเขาส่งนักออกแบบคนอื่นๆมา คุณซูจะได้ไม่ต้องอยู่ทนรับความไม่เป็นธรรมนี้”

สองสามคำสุดท้าย กู้ฉางฉิงเค้นออกมาหนักแน่นเป็นพิเศษ

ก็เพราะคำพูดนี้ ซูตี้มีสีหน้าเคร่งขรึม ทว่าพูดโต้แย้งไม่ออก

เพราะว่าเธอเข้าใจ เรื่องนี้หากวุ่นวายไปถึงสำนักงานใหญ่ ก็จะเป็นปัญหาของเธอ

เธอกัดฟันจ้องมองกู้ฉางฉิง ไม่พูดจา

กู้ฉางฉิงเห็นเช่นนั้น รู้ว่านี่คือเธออ่อนข้อให้แล้ว ขมวดคิ้วแล้วพูดว่า : “ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ก็เตรียมตัวสักเล็กน้อย ไปประชุมกับฉัน”

พูดจบ เธอก็ไม่ได้ใส่ใจซูตี้อีก เดินตรงไปที่ห้องประชุม

ซูตี้มองเธอเดินจากไป หน้าก็ดำอย่างกับสีหมึก แม้แต่สีหน้าของผู้ช่วยที่เธอพามาด้วยก็ยังไม่ดีขึ้น

ทั้งสองเดินตามกู้ฉางฉิงไปอย่างไม่เต็มใจ มาที่ห้องประชุมชั้นบนสุด

เพราะวันนี้เป็นประชุมใหญ่ ดังนั้นคนที่มาทั้งหมดจึงเป็นผู้บริหารบริษัท

เฟิงจิงเหยานั่งอยู่ก่อนแล้ว ทั้งยังดูมีพลังจนน่าทึ่ง น่ากลัวจนผู้บริหารทุกคนไม่กล้ากระดิก ทุกคนนั่งตัวตรงสง่างาม

กู้ฉางฉิงกำลังต้องการพาซูตี้เข้าไปนั่ง แต่ปรากฏว่าผู้หญิงคนนี้ยืนนิ่งไม่ขยับ สายตาจับจ้องไปที่เฟิงจิงเหยา ในแววตาเต็มไปด้วยความประหลาดใจและรักใคร่ชื่นชม ไม่ปิดบังเลยแม้แต่น้อย แทบจะทุกคนที่พบเห็นความผิดปกติของเธอ

กู้ฉางฉิงเห็นเข้า ก็ขมวดคิ้วแน่น

ผู้หญิงคนนี้ชอบมู่จิ่นไม่ใช่หรอ? ทำไมต้องจ้องมองไปที่เฟิงจิงเหยาเหมือนไม่เคยเห็นผู้ชาย?

เธอไม่เข้าใจ ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก สายตาเห็นถึงความหวุดหงิดบนใบหน้าเฟิงจิงเหยาที่เพิ่มมากยิ่งขึ้น รีบดึงเจ้าตัวไปที่ที่นั่งให้นั่งลง

“คุณซู รบกวนคุณสำรวมหน่อย”

เธอเตือนด้วยน้ำเสียงเย็นชา

เดิมทีซูตี้ไม่ได้ฟัง กลับกันยังถามเธอเกี่ยวกับเฟิงจิงเหยา

“คนนี้เป็นใครหรอ?”

เธอเอ่ยถาม ดวงตาเป็นประกาย

กู้ฉางฉิงมองเห็น ก็ไม่สบายใจอย่างมาก ขี้เกียจที่จะให้ความสนใจเธอ จึงแกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน

ซูตี้เห็นเช่นนี้ก็เบ้ปากดูถูก เดี๋ยวเดียวก็มองไปทางเฟิงจิงเหยาอย่างบ้าผู้ชาย

เฟิงจิงเหยาสังเกตเห็นสายตาของเธอ สายตาก็ประกายไปด้วยความระอา

“คนมาครบแล้วใช่ไหม? ตอนนี้เริ่มประชุมได้”

การประชุมนี้มุ่งเน้นไปที่เรื่องของความร่วมมือต่อแบรนด์ใหม่เป็นหลัก ฉะนั้นต่อให้เฟิงจิงเหยาไม่อยากเห็นซูตี้ก็หลีกเลี่ยงความจำเป็นที่จะต้องคุยถึงเรื่องความร่วมมือกับเธอไม่ได้

และขณะเผชิญหน้ากับคำถามของเขา คำตอบของซูตี้เรียกว่าได้ว่าเป็นบวก จนกระทั่งจบการประชุมเธอก็ยังคงยืนอยู่ที่หน้าประตูไม่ไปไหน

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

Status: Ongoing
ก่อนแต่งงานแทนน้องสาวเข้าไปในตระกูลเฟิง กู้ฉางชิงได้ยินว่าเฟิงจิ่งเหยาเป็นคนที่เฉยเมย ต่อมาถึงได้รู้ว่าข่าวลือล้วนเป็นเรื่องโกหก คุณเฟิงไม่เพียงแต่ไม่เย็นชา กลับเป็นคนที่อบอุ่น แต่กระตือรือร้นเป็นพิเศษในการมีทายาท มีคนพูดเป่าหูต่อหน้าเขา “คุณเฟิง ก่อนคุณจะกลับประเทศ ในทุกๆคืนภรรยาของคุณจะไม่กลับบ้าน เพราะออกไปเมาข้างนอก” เฟิงจิ่งเหยา “หลังจากฉันกลับประเทศ ตอนค่ำภรรยาของฉันจะมาอยู่ที่ห้องฉัน ปรนนิบัติฉันไม่นอนทั้งคืน” มีคนพูดอีกว่า “ก่อนคุณจะกลับมา ภรรยาของคุณช้อปปิ้งทั้งวัน เปลี่ยนรถยี่ห้อหรูไม่หยุด แถมยังมีหนุ่มคอยอยู่เธอตลอดเวลา” เฟิงจิ่งเหยา พูดต่อว่า “หลังจากฉันกลับประเทศ บัตรเครดิตทุกใบของฉัน ฉันก็อยากให้ภรรยาฉันใช้ แต่เธอไม่ต้องการ ไปกลับจากที่ทำงานก็ให้ฉันไปรับแค่คนเดียว” สำหรับคนที่เย็นชา เมื่อมีภรรยาจะคลั่งรักเป็นพิเศษ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท