กู้ฉางฉิงพูดประโยคนี้จบ ก็มองซูตี้ด้วยท่าทีแข็งกร้าว
ชวี่ชิงหยุนกับมู่ฉิงคงก็ตกใจกับท่าทีแข็งกร้าวของเธอ
โดยเฉพาะสิ่งที่เธอพูดกับพวกเธอเมื่อกี้นี้ ในเวลาเดียวกันทำให้พวดฝกเธอรู้สึกประหลาดใจแล้วก็คลายความโกรธลงไป
เพียงแต่ซูตี้มองตรงกันข้ามกับพวกเธอ
เธอโกรธมาก อย่างไรเสียเธอก็ไม่เคยรู้สึกว่าตนเองพูดอะไรผิด
“คุณเป็นบ้าอะไร ไม่ละอายใจที่บอกให้ฉันขอโทษหรือไง!”
เธอพูดจบก็ลุกขึ้นคว้าเสื้อสูทบนเก้าอี้ แล้วเดินตรงออกไป
“ในเมื่อพวกคุณไม่ยอมรับการจัดการของฉัน ฉันเห็นว่าความร่วมมือก็ไม่จำเป็นแล้ว พวกคุณชอบใครก็ไปหาเอาได้เลย”
กู้ฉางฉิงมองดูเธอจากไป สีหน้าบึ้งตึง ช่องอกขึ้นลงไม่สม่ำเสมอ เห็นได้ชัดว่าโกรธไม่เบา
มู่ฉิงคงเห็นเช่นนี้ ขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วถามว่า : “นักออกแบบกู้ ตอนนี้คนไปแล้ว พวกเราจะทำยังไง?”
กู้ฉางฉิงไม่สนใจที่จะเรียกเธอ เม้มปากพูดว่า : “ทั้งหมดกลับไปทำงาน อะไรควรทำก็ทำ ฉันสามารถอธิยายกับบริษัททางด้านนั้นได้”
มู่ฉิงคงกับชวี่ชิงหยุนพยักหน้าแล้วออกจากห้องทำงานไป
พวกเธอออกไปแล้ว กู้ฉางฉิงก็จัดห้องทำงานให้เป็นระเบียบ
ไม่นานโทรศัพท์บนโต๊ะก็ดังขึ้นมา เธอก็หยิบขึ้นมารับ
“ผู้จัดการแผนกกู้ มาที่ห้องทำงานของผู้จัดการใหญ่ด้วย”
น้ำเสียงของหลี่ม่านดังขึ้นในโทรศัพท์
กู้ฉางฉิงได้ยิน ก็ไม่ได้เฉยเมย วางต้นฉบับในมือลงแล้วออกไปทันที
“ผู้จัดการใหญ่ คุณตามหาฉันหรอ?”
เธอเคาะประตูเข้าไปแล้วเอ่ยถาม
หลี่ม่านเห็นเธอ ก็ขมวดคิ้วถามทันที : “ฉันเพิ่งได้ยินมาว่า พวกคุณกับนักออกแบRCท่านนั้นขัดแย้งกัน ตอนนี้คนอื่นเลิกท้วงติงแล้ว เรื่องนี้เกิดขึ้นได้ยังไง?”
กู้ฉางฉิงได้ยิน แม้ว่าจะไม่รู้ว่าใครบอกเรื่องนี้กับผู้จัดการใหญ่ แต่ยังคงเล่าเรื่องราวอย่างละเอียดออกมา
“เรื่องนี้ฉันสามารถจัดการได้ แน่นอนว่า ฉันจะลองติดต่อสำนักงานใหญ่RC ดูว่าจะสามารถส่งนักออกแบบคนใหม่มาได้ไหม”
หลี่ม่านฟังคำพูดของเธอจบ ก็ขมวดคิ้วแน่น
“นีคุณเรียกว่าจัดการได้หรอ ฉันเห็นว่าคุณไม่ได้คิดถึงผลที่ตามมา”
เธอตำหนิกู้ฉางฉิงด้วยน้ำเสียงเย็นชา ทำให้กู้ฉางฉิงตกตะลึง ในแววตาเต็มไปด้วยความข้องใจสงสัย
หลี่ม่านเข้าใจได้โดยธรรมชาติว่าเธอไม่เข้าใจ จึงอธิบายว่า : “ก่อนอื่น ความร่วมมือครั้งนี้ เราเป็นฝ่ายไปติดต่อมา คุณก็รู้อยู่แก่ใจ ด้านในนี้ยังมีมิตรภาพของตัวคุณเองเล็กน้อย ตอนนี้คุณไม่พอใจกับนักออกแบบที่ส่งมา ร้องขอให้เปลี่ยนคน คุณว่าคนอื่นจะรู้สึกยังไงกับบริษัทเรา? อันดับต่อมา ก่อนหน้าคุณก็พูดแล้วว่า ในการออกแบบของเราจริงๆแล้วมีข้อบกพร่องอยู่ เช่นนั้นนี่ก็เป็นปัญหาของเรา คนอื่นที่มาไกล เป็นไปไม่ได้ที่ยังจะต้องการแนะนำพวกคุณให้ออกแบบให้”
กู้ฉางฉิงได้ฟังเหตุผลที่ยืดยาวนี้ เพราะว่าอัดอั้นตันใจเลยไม่ได้คิด เพียงแค่ฟัง
หลี่ม่านเห็นว่าเธอไม่พูดนานๆ เดาว่าไม่มากก็น้อย งั้นท้ายที่สุดก็ไม่พูดอะไรเลย เพียงแค่บอกให้เธอเกลี้ยกล่อมซูตี้กลับมา
กู้ฉางฉิงเพียงแต่โกรธเล็กน้อย ถึงแม้ว่าพวกเธอจะผิด แต่ซูตี้ก็ไม่ใช่ว่าไม่มีปัญหา
เช่นนี้ต้องรีบไปหา กลับกันดูเหมือนว่าพวกเธอต้องไปขอร้องเธอ
เธอโกรธอยู่ในห้องทำงานเป็นเวลานาน จึงค่อยๆสงบลงมา ครุ่นคิดถึงเรื่องนี้
กลับมาคิดอย่างถี่ถ้วน เธอก็พบว่าจริงๆที่ผู้จัดการใหญ่พูดก็ไม่ผิด
ลองเปลี่ยนความคิดดูแล้ว อันที่จริงก็ไม่ใช่ว่าไม่มีเหตุผลที่ซูตี้จะโกรธ
ไม่ใช่ว่าประเมินค่าตัวเธอเองต่ำ การออกแบบของพวกเขากับซูตี้ยังมีความต่างเล็กน้อย อีกทั้งองค์ประกอบสไตล์การออกแบบก็แตกต่างกันมากเช่นกัน
ตัดสิ่งเหล่านี้ออกไป วันนี้เธอก็ใช้อารมณ์ในการทำงาน
นึกถึงสิ่งเหล่านี้ เธอก็ใจเย็นลงมา จึงวางแผนที่จะรวมแนวคิดการออกแบบของแบรนด์ใหม่ให้สอดคล้องกัน
ก็ด้วยเหตุนี้ ตอนเย็นเธอจึงอยู่ที่บริษัทเพื่อทำงานล่วงเวลา
ระหว่างนั้นเธอก็เหนื่อยล้าเล็กน้อย ก็เลยไปชงกาแฟให้ตัวเอง
เธอดูการปรับแต่งในคอมพิวเตอร์ ไม่แน่ใจว่าซูตี้จะยอมรับแผนงานนี้ไหม เธอก็เลยนึกถึงมู่จิ่น ก็เลยโทรไปเล่นๆ
“คุณมู่ โทรมาหาคุณตอนนี้ไม่ได้รบกวนการพักผ่อนของคุณใช่ไหม?”
“ไม่หรอก ตื่นแล้วและกำลังจะไปบริษัท คุณโทรหาฉันมีเรื่องอะไรหรอ?”
กู้ฉางฉิงได้ยิน ก็เลยบอกวัตถุประสงค์ที่ตนเองโทรมา
“ฉันอยากสอบถามเกี่ยวกับซูตี้คนนี้กับคุณสักหน่อย”
มู่จิ่นได้ฟังแล้ว ก็ไม่ได้ปกปิด เขาก็พูดออกมาให้เข้าใจ
“ซูตี้คนนี้ จะพูดยังไงล่ะ ชีวิตส่วนตัวถึงแม้ว่าจะดูไม่เป็นระเบียบ แต่เป็นคนที่จริงจังมากในการทำงาน โดยเฉพาะความปรารถนาในการออกแบบ ทีละเข็มทีละเส้น มีความเข้มงวดมากถึงมากที่สุด”
เขาพูดถึงตรงนี้ ก็หัวเราะเบาๆ : “ฉันเดาว่าด้านพวกคุณน่าจะมีการขัดแย้งกัน”
กู้ฉางฉิงก็อดหัวเราะไม่ได้ : “ใช่ ดังนั้นฉันจึงมาสอบถามจากคุณไง”
มู่จิ่นพูดโน้มน้าวอยู่สองสามประโยค จากนั้นทั้งสองก็วางสายไป
กู้ฉางฉิงนั่งอยู่บนเก้าอี้ห้องทำงานเคาะๆโต๊ะเหมือนสูญเสียบางสิ่งไป
ถึงแม้ว่าซูตี้คนนี้จะน่ารำคาญเล็กน้อย แต่ว่าเหมือนอย่างที่มู่จิ่นบอกเช่นนั้น เธอมีศักยภาพอย่างนั้น มิเช่นนั้นเธอจะไม่สามารถนั่งตำแหน่งผู้จัดการแผนกของRCได้
เธอคิดถึงตรงนี้ พิจารณาครั้งแล้วครั้งเล่า ก็แก้ไขแผนงานใหม่อีกครั้ง
เดิมทีก่อนหน้าเธอวางแผนจะปฏิบัติตามความคิดของซูตี้ ให้การออกแบบครบถ้วนทันสมัย แต่คำพูดของมู่จิ่นก็เตือนสติเธอ เมื่อก่อนซูตี้ออกแบบต่างประเทศมาตลอด ไม่รู้ว่าตลาดในประเทศกับต่างประเทศต่างกัน
องค์ประกอบคลาสสิกที่เป็นที่ชื่นชอบในประเทศจีนในช่วงไม่กี่ปีนี้ อาจจะไม่ได้รับความนิยมจากต่างประเทศ แต่ทว่าในประเทศจีนนั้นไม่เหมือนกัน
ไม่ว่าจะเป็นปารีสแฟชั่นวีคในปีเหล่านี้ หรือมิลานแฟชั่นวีคก็เช่นกัน สามารถเห็นมีองค์ประกอบที่คลาสสิกอยู่ นี่เพียงพอแล้วที่จะแสดงให้เห็นว่ายังมีผู้บริโภคกลุ่มใหญ่ที่เริ่มให้การยอมรับแล้ว
เธอจัดการข้อมูลเหล่านี้เสร็จ เธอก็ตรงไปยังโรงแรมที่ซูตี้พักอยู่ คิดว่าจะเอาให้เธอ
“คุณมาทำอะไร?”
ซูตี้เปิดประตู เห็นกู้ฉางฉิงยืนอยู่นอกประตู ฉับพลันสีหน้าก็ไม่ค่อยดีเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“คุณซู เกี่ยวกับการขัดแย้งเมื่อตอนบ่าย ฉันคิดๆแล้ว อาจเป็นเพราะความคิดของเราต่างกัน ดังนั้นผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาจึงมีความแตกต่างกันมาก นี่คือฉันทำแผนงานขึ้นมาใหม่ ฉันหวังว่าคุณจะดูสักหน่อย”
เธอพูดจบ ส่งข้อมูลที่จัดให้เป็นระเบียบในมือไป
ผลคือซูตี้ไม่พูดอะไรรับมาพลิกดู แล้วโยนทิ้งไปพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นว่า : “ฉันบอกแล้ว เรื่องนี้ฉันจะไม่สนใจอีก คุณก็อย่าเอาขยะอะไรมาให้ฉันดูเลย”
พูดจบ เธอก็ปิดประตูดัง’ปัง’ ใส่หน้ากู้ฉางฉิง
กู้ฉางฉิงมองข้อมูลที่ทิ้งอยู่บนพื้น ก็ถอนหายใจ แล้วหยิบขึ้นมาใหม่
หากพูกว่าเหตุการณ์เมื่อกี้นี้ เธอไม่ได้โกรธ นั่นคือเป็นไปไม่ได้
เพียงแต่ก่อนที่จะมา เธอเตรียมทำใจไว้แล้ว แต่คาดไม่ถึงว่าซูตี้จะโกรธขึ้นมา ไม่ไว้หน้าใครทั้งนั้น
จนปัญญา ท้ายที่สุดเธอทำได้เพียงไปหาผู้ช่วยของซูตี้เท่านั้น
“อ้ายเวย นี่เป็นแผนงานที่ฉันปรับปรุงใหม่ รอให้พรุ่งนี้ซูตี้หายโกรธแล้ว รบกวนให้เธอดูหน่อยนะ”
แม้ว่าผู้ช่วยที่ชื่ออ้ายเวยจะไม่เต็มใจก็ตาม แต่ยังคงรับมา ถึงอย่างไรเธอยังคงมีเหตุผล
ความร่วมมือของทั้งสองบริษัทไม่ใช่ว่าซูตี้บอกว่าไม่สนใจก็จะไม่สนใจ
กู้ฉางฉิงเห็นว่าเธอตอบรับแล้ว นี่จึงโล่งใจและจะออกไป
เธอเดินมาถึงหน้าประตูโรงแรม เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เป็นเฟิงจิงเหยาโทรมา