เฟิงจิ้งหยวนพูดจบก็ไม่ลืมที่จะแค้นเคืองกู้ฉางฉิง
“กู้ฉางซิน ใครให้คุณกล้ามาพูดจาเหลวไหลที่นี่!”
กู้ฉางฉิงรู้สึกอัดอั้น ไม่คาดคิดว่าผู้หญิงคนนี้จะหาเรื่องเธอกลับ!
พอดีกับที่จะพูดโต้แย้งกลับ แต่ยังไม่ได้พูด ก็ถูกเธอแย่งไปก่อน
“กล่าวหากันลอยๆ คุณเอาหลักฐานออกมาสิ ถ้าฉันทำเรื่องนี้ ฉันก็จะยอมรับ!”
กู้ฉางถูกเธอตอกหน้าหงายจนพูดอะไรไม่ออก
หลักฐานหรอ?
เธอมีหลักฐานซะที่ไหน
เวลานั้นเธอตกไปอยู่ในจัดบอดของกล้องวงจรปิดพอดี เดิมทีก็ไม่มีกล้องวงจรปิดด้วย
ชั่วขณะ สีหน้าเธอก็ดูลำบากใจขึ้นมา
เฟิงจิ้งหยวนเห็นเธอไม่พูดไม่จอเป็นเวลานาน สีหน้าก็ดูภาคภูมิใจมากขึ้น
และเรื่องตลกร้ายนี้เพราะว่าไม่มีหลักฐาน จึงจบลงโดยไม่ต้องสรุป
……
วันต่อมา ประจวบกับเพราะว่าเฟิงจิ้งหยวนลงโทษกู้ฉางฉิงไปหนึ่งครั้ง ก็ฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดี ในห้องรับแขกก็มีแขกที่ไม่ได้รับเชิญ
“คุณเฟิงดูอารมณ์ดีนะ”
เฟิงจิ้งหยวนได้ยินน้ำเสียงนี้ ก็หันไปมอง อดที่จะขมวดคิ้วนิดๆไม่ได้
“มู่เฉาเกอ นี่คุณมาทำอะไร?”
มู่เฉาเกอดูเหมือนไม่เห็นใบหน้าที่ไม่ต้อนรับของเธอ เดินตรงมานั่งที่โซฟา
เฟิงจิ้งหยวนเห็น กำลังคิดจะให้คนไล่ออกไป ทว่ากลับได้ฟังคำพูดที่คาดไม่ถึง ที่ทำให้เธอต้องตกตะลึง
“ฉันแค่อยากจะมาบอกคุณเฟิง ว่าอันที่จริงเมื่อวานฉันก็อยู่ในสวน อีกทั้งยังเห็นคุณเฟิงทำร้ายคุณกู้ด้วย”
เฟิงจิ้งหยวนสีหน้าเปลี่ยนไป มองเธออย่างเคร่งขรึม
“ไม่เข้าใจคุณพูดถึงอะไร? ที่นี่ของฉันไม่ต้อนรับคุณ เชิญคุณออกไป”
มู่เฉาเกอมองไปทางเธอ ยิ้มนิดๆพูดว่า : “ถ้าคุณเฟิงลืมไปแล้ว ฉันยังมีวีดีโอ ดูเหมือนจะช่วยให้ความจำคุณเฟิงกลับมาได้”
เฟิงจิ้งหยวนได้ฟังคำนี้ ยังไม่รู้เกี่ยวกับวัตถุประสงค์การมาของเธอ ก็โมโหอย่างฉับพลัน
“ทำไม? คุณคิดจะใช้อำนาจกับฉันหรอ?”
มู่เฉาเกอเห็นเช่นนี้ ก็ไม่ได้สนใจ ค่อยๆยิ้มแล้วพูดว่า : “ได้ยังไงล่ะ? ฉันแค่อยากคุยเล่นกับคุณเฟิง แค่คิดจะผูกมิตรด้วย”
เฟิงจิ้งหยวนพูดถากถางว่า : “ฉันไม่รู้ว่าคุณมู่เฉาเกออยากผูกมิตรจนต้องอาศัยการใช้อำนาจคุกคามตั้งแต่เมื่อไหร่?
มู่เฉาเกอขมวดคิ้ว แววตาเยือกเย็น จะยิ้มไม่ยิ้มพูดว่า : “นี่คุณเฟิงหมายความว่าไม่อยากคบกับฉันใช่ไหม? ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นฉันก็ไม่รบกวนคุณเฟิงแล้ว”
พูดจบ เธอก็ทำท่าจะลุกขึ้น
เฟิงจิ้งหยวนจะให้เธอไปได้อย่างไร ชัดเจนว่าผู้หญิงคนนี้มาเพื่อใช้อำนาจกับเธอ
อีกทั้งในมือเธอยังมีจุดอ่อนของเธอ
ท้ายที่สุดเธอเพียงแค่เรียกให้หยุดเพื่อประนีประนอม : “หยุด!”
ในเวลาเดียวกัน ทางด้านบ้านใหม่นี้
เฟิงจิงเหยามองไปที่กู้ฉางฉิงที่ลุกขึ้นพร้อมกับเขา ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย พูดอย่างเย็นชาว่า : “วันนี้คุณก็อยู่บ้านเถอะ แผลตอนก่อนยังไม่หายดี เมื่อวานก็ได้แผลอีก พักฟื้นสักพักหนึ่งให้ดีขึ้นก่อนเถอะ”
กู้ฉางฉิงหยุดไปชั่วขณะ นึกถึงเรื่องเมื่อวาน รู้สึกอัดอั้นตันใจ ส่ายหัวอย่างแน่วแน่
“ช่างเถอะ อยู่บ้านก็ไม่จำเป็นจะต้องพักฟื้นได้ดีเสมอไป คราวนี้หัวกระแทก ครั้งต่อไปไม่แน่อาจจะกระดูกหัก ฉันจะไปบริษัท เหนื่อยหน่อย แต่อย่างน้อยก็ยังปลอดภัย”
เธอพาลเล็กน้อย พูดจบก็ไม่มองเฟิงจิงเหยา หันเดินเข้าไปห้องน้ำเลย
เฟิงจิงเหยามองเธอเดินหายไป ในใจก็รู้ว่าเธอเคียดแค้นกับเรื่องเมื่อวานมาก
ในที่สุดเขาก็ไม่ได้พูดอะไร แค่เสนอจะไปส่งเธอที่บริษัท
กู้ฉางฉิงไม่ปฏิเสธ ตามเขาไปที่บริษัท เพียงแต่ยังคงลงที่ทางแยก
เฟิงจิงเหยารออยู่ทางแยกเพื่อให้กู้ฉางฉิงเข้าไปในบริษัทได้อย่างปลอดภัย จึงหันรถกลับไปที่สำนักงานใหญ่
เขาเพิ่งเข้าบริษัทไป ชวี่ยี่ก็ก้าวเข้ามารายงานการเดินทางตลอดทั้งวันนี้
“อีกครึ่งชั่วโมง เป็นการประชุมผู้บริหาร สิบโมงครึ่งท่านประทานกับอันต่งนัดทานข้าวด้วยกัน……”
เฟิงจิงเหยาฟีงอย่างสีหน้าไร้อารมณ์ เขารายงานเสร็จ จึงสั่งการด้วยน้ำเย็นชา : “ฉันจำได้ว่าเฟิงจิ้งหยวนรับตำแหน่งผู้จัดการใหญ่ของบริษัทสาขาใช่ไหม?”
ชวี่ยี่ชะงักไป แล้วจึงตอบว่า : “ใช่ ดำรงตำแหน่งมาสองปีแล้ว”
เฟิงจิงเหยาพยักหน้า : “ดีมาก ต่อไปแจ้งให้ทราบด้วยว่า ย้ายเธอไปที่แอฟริกาใต้ ไปรับผิดชอบบริษัทสาขาที่แอฟริกา”
นี่ทำให้ชวี่ยี่สับสนมึนงงอย่างมาก
เพียงแต่เห็นท่านประธานของตนมีสีหน้าเย็นชา คาดการว่าคุณหนูห้าคนนี้ไปทำอะไรไว้ จึทำให้ท่านประธานโกรธมากจึงส่งเธอไปยังสถานที่ที่ลำบากอย่างนั้น
“รับทราบ”
เขาพยักหน้า ทันทีที่ลิฟท์เปิดก็ไปจัดการเลย
ตระกูลเฟิง เฟิงจิ้งหยวนได้รับข่าว ก็โกรธจนแทบระเบิด
“เฟิงจิงเหยา!”
เธอเดินทางไปที่ห้องทำงานของเฟิงจิงเหยา สองมือทุบลงบนโต๊ะของเฟิงจิงเหยา ตาทั้งคู่จ้องมองเขาอย่างโกรธสุดขีด
เฟิงจิงเหยาเพียงแค่มองเธออย่างเย็นชา ไม่ได้สนใจ ตรวจสอบเอกสารในมือต่อ
เฟิงจิ้งหยวนถูกมองข้าม ก็ยิ่งโกรธมากขึ้น
เธอแย่งเอกสารจากเฟิงจิงเหยา ถามด้วยน้ำเสียงฉียบขาด : “คุณมีสิทธิ์อะไรมาไล่ฉันไปแอฟริกา!”
เฟิงจิงเหยามองเอกสารในมือเธอ ขมวดคิ้วแน่น แววตาเต็มไปด้วยความเยือกเย็น
“ฉันคิดว่าคุณเองก็เข้าใจดี!”
เฟิงจิ้งหยวนโกรธเคืองที่เขาตอบกลับมาอย่างนี้
“ฉันเข้าใจอะไร? ฉันไม่ได้ทำอะไรเลย คุณมีสิทธิ์อะไรย้ายฉันไปสถานที่อย่างนั้น”
เฟิงจิงเหยาเห็นว่าเธอให้ตายก็ไม่ยอมรับ สีหน้าจมลงทันที พูดด้วยน้ำสียงเคร่งขรึมว่า : “เรื่องนี้ได้สั่งย้ายไปแล้ว คุณไม่ไปก็ต้องไป!”
เฟิงจิ้งหยวนก็เดือดดาล
“ฉันไม่ไป! ไม่ไป!”
เธอกัดฟันถลึงตาใส่เฟิงจิงเหยา
เฟิงจิงเหยาจ้องหน้าเธอ ในสายตาแข็งกร้าวไม่ยอม
เฟิงจิ้งหยวนกลัวเล็กน้อย แต่เมื่อนึกถึงสภาพแวดล้อมของแอฟริกา เธอก็กัดฟันแน่น
เธอไม่เข้าใจจริงๆ ทำไมต้องส่งเธอไปสถานที่ที่ยากลำบากเช่นนั้นด้วย?
กำลังคิดอยู่ ในสมองเธอก็แวบขึ้นมา ก็คาดเดาได้ในทันที
ไม่ใช่ว่าเจ้าเฟิงจิงเหยานี่เชื่อคำพูดของนังชั่วกู้ฉางซินนั่น แล้วมาแก้แค้นเธอแทนใช่ไหม?
เช่นนี้ เธอยิ่งรู้สึกอย่างนี้มากขึ้นเรื่อยๆ
ถึงอย่างไรเรื่องอย่างนี้ไม่ใช่ครั้งสองครั้งแล้ว
ชั่วขณะ ในใจเธอก็เต็มไปด้วยความโกรธ กัดฟันพูดว่า : “ฉันรู้ว่าทำไมคุณถึงต้องย้ายฉันไปอย่างกะทันหัน ผู้หญิงคนนั้นฟ้องกับคุณใช่ไหมล่ะ เฟิงจิงเหยา คาดไม่ถึงว่าคุณจะเชื่อคนนอกแต่ไม่ยอมเชื่อฉัน!”
เฟิงจิงเหยาได้ฟังคำนี้ของเธอ ก็กวาดสายตามองเธออย่างเยือกเย็น
“ต้องการจะให้ฉันเชื่อคุณก็ได้ แต่อย่างน้อยคุณก็ควรจะแสดงท่าทีของผู้ใหญ่ออกมาหน่อย”
พูดจบ เขาหยุดไปสักพักแล้วพูดต่อว่า : “เวลานั้นในสวนมีแค่คุณกับฉางซิน ฉางซินยังได้รับบาดเจ็บ เธอคงจะไม่ลงไปเองหรอกว่าไหม?”
เฟิงจิ้งหยวนโกรธมากที่ถูกเขาถามอย่างนี้ เธอหมดคำที่จะพูด
บวกกับเมื่อเช้าเธอยังถูกมู่เฉาเกอวางอำนาจเพราะเรื่องนี้ ฉับพลันก็โมโหอย่างสุดขีด
แต่เธอไม่ยอมรับ มิเช่นนั้นความอคติของหลานชายของเธอ จะไม่ส่งผลดีกับเธออย่างแน่นอน
“พูดไม่หมดแล้วว่าไม่ใช่ฉัน คาดไม่ถึงว่าคุณยังเชื่อคำพูดของผู้หญิงคนนั้น ฉันว่าคุณลุ่มหลงเล่ห์เหลี่ยมของนังจิ้งจอกนั่นแล้ว!”
พูดจบ เธอก็โยนเอกสารในมือทิ้ง เดินออกไปด้วยความโกรธ
ก็ไม่รู้ว่าเธอทั้งเดินเร็วเกินไปแรงเกินไปหรือเปล่า เธอกำลังจะลงบันได ส้นรองเท้าก็ลื่นไป ทั้งตัวคน
โอนเอียงไปข้างหน้า กลิ้งจากบันไดล้มลงไป
“อ๊ายยยย——”