สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา – บทที่ 194 กรรมตามสนอง

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

เสียงกรีดร้องอันแสบแก้วหูของผู้หญิงดังขึ้นในสถานที่ที่เงียบสงบของเฟิงซื่อกรุ๊ป

ร.ป.ภ.หนุ่มที่ยืนยามอยู่ประตูทางเข้าถูกภาพที่เห็นอยู่เบื้องหน้าทำให้ตื่นตระหนก

เขามองคุณผู้หญิงที่แต่งตัวสวยงามคนนั้นกลิ้งตกลงจากบันไดอย่างตกตะลึง แล้วยังมีเสียงกระดูกหลุด

สิบกว่าวินาทีต่อมาเฟิงจิ้งหยวนจึงหยุดลง ใบหน้าที่งดงาม เวลานี้กลายเป็นไม่เข้าที ในสายตาเต็มไปด้วยความเจ็บปวดทรมาน

ร.ป.ภ.หนุ่มรับรู้อย่างรวดเร็ว เข้าไปประคองทันที

“เจ็บ! เจ็บ! คุณประคองคนเป็นไหมเนี่ย!”

ถึงจะได้รับบาดเจ็บเธอก็ยังไม่มีทางที่จะเก็บนิสัยหยาบคายเอาแต่ใจของเธอ

ถึงแม้ว่า ร.ป.ภ.หนุ่มจะไม่พอใจ แต่สุดท้ายก็ยังคนส่งไปยังโรงพยาบาล

ขณะเดินทาง เฟิงจิ้งหยวนสามารถพูดได้ว่าสีหน้าไม่พอใจทุกอย่าง ไม่ใช่ความเชื่องช้าของรถ แต่คือ ร.ป.ภ.หนุ่มที่ประคองเธอทำให้เธอเจ็บ

ถึง ร.ป.ภ.หนุ่มจะนิสัยใจคอดีแค่ไหน เวลานี้ถูกเธอทำอย่างนี้ก็อยากจะสะบัดแขนไม่ทำแล้ว

แต่นึกถึงว่าเธอเป็นผู้จัดการของบริษัท เวลานี้ถ้าเขาทำหน้าบูดบึ้งให้คนดู กลังว่าภายหลังจะทำให้เขาทำมาหากินไม่ได้

ในที่สุด ร.ป.ภ. หนุ่มก็นำเธอมาส่งถึงโรงพยาบาล หลังจากส่งถึงมือหมอพยาบาล ก็ออกมาอย่างไม่รีรอ

แน่นอนว่าเขาก็ไม่ลืมที่จะบอกเพื่อนร่วมงานในบริษัทให้แจ้งท่านประธาน

ทางด้านเฟิงจิงเหยา ได้รับข่าวที่เฟิงจิ้งหยวนตกลงมา และคนก็ยังอยู่ที่โรงพยาบาล ก็แปลกใจเล็กน้อย

แต่เขาก็วางงานที่อยู่ในมือ แล้วไปโรงพยาบาล

เพียงแต่เขายังไม่ทันได้เข้าไปในห้องพยาบาล ก็ได้ยินเสียงเฟิงจิ้งหยวนด่าคนมาแต่ไกล

พอดีเขาเตรียมจะเข้าไป ด้านข้างก็มีพยาบาลสองสามคนเดินเข้ามาอย่างเร่งรีบ

“เฮ้อ เริ่มด่าอีกแล้ว เอาใจยากจริงๆ ก็ไม่รู้ถูกอบรมสั่งสอนดูมาแบบไหนถึงได้ปากคอเราะร้ายแบบนี้”

“ใช่ พยาบาลในแผนกก็ล้วนโดนเธอจู้จี้จุกจิกไปรอบนึงแล้ว”

“อย่าพูดเลยเร็วเข้าเถอะ รีบเข้าไป ถ้าเข้าไปช้า ก็ถูกด่าอีก”

เฟิงจิงเหยาได้ยินคำพูดนี้ สีหน้าก็ดำคร่ำเครียดไม่หยุด อยากที่จะเดินกลับไป

ปกติคนตระกูลเฟิงของพวกเขาไปที่ไหนก็ถูกคนต้อนรับ เคยถูกคนรังเกียจแบบนี้ซะที่ไหนกัน

และไม่ต้องพูดถึงพยาบาลสองสามคนนั้น เวลานี้ที่ได้ฟังคำด่าของเฟิงจิ้งหยวน เขาก็รู้สึกว่าขายหน้า

ทางกลับกันเธอยังมีกำลังที่จะด่าคนได้ คิดๆแล้วก็คงไม่ได้เป็นอะไร

พอดีที่เฟิงจิงเหยากำลังคิดว่าจะออกไป ห้องพยาบาลก็มีเสียงด่าหยาบคายของเฟิงจิ้งหยวนออกมาอีกครั้ง

“นี่มันโรงพยาบาลบ้าอะไรของพวกคุณห๊ะ บอกว่าอีกพักนึงก็ไม่เจ็บแล้วไม่ใช่หรอ ทำไมจนถึงตอนนี้แล้วยังเจ็บอยู่ล่ะ ไปเรียกหัวหน้าของพวกคุณมาให้ฉัน ฉันจะฟ้องว่าพวกคุณใช้ยาปลอม!”

เฟิงจิ้งหยวนพาลใส่พยาบาลที่อยู่ตรงหน้าสองสามคน ระบายความโกรธที่ได้รับมาจากเฟิงจิงเหยาแล้วก็มู่เฉาเกอใส่กับคนสองสามคน

“แล้วก็พวกคุณ พันฉันทำบ้านอะไร นี่แขนฉันนะ ไม่ใช่ขาหมู พันจนเป็นแบบนี้ พวกคุณจะให้ฉันไม่เจอคนข้างนอกได้ยังไง พวกคุณรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร?”

เฟิงจิงเหยาฟังถึงตรงนี้ เส้นเลือดที่หน้าผากก็เต้นขึ้นมา

ขณะที่กำลังจะเอาฐานะทางสังคมออกมาขู่ขวัญพยาบาล เขาหน้าดำคร่ำเครียดกลับเข้าไปถึงห้องพยาบาล

“เฟิงจิ้งหยวน! คุณช่วยหุบปากด้วย!”

เรียกชื่อเต็ม สามารถเห็นได้ถึงว่าเขาโกรธมาก

และเฟิงจิ้งหยวนก็ตกใจเล็กน้อย หลังจากคิดถึงเรื่องที่เขาทำ จึงค้ำหลังเหยียดขึ้นมาแล้วกล่าวด้วยอารมณ์ไม่ดีว่า: “คุณมาทำไม?”

เดิมทีเฟิงจิงเหยาก็มิ่ยากจะสนใจเธอ กวาดสายตาที่เย็นชามองเธอ หันหน้าไปถามพยาบาลที่สีหน้าซีดทางด้านนั้น

“เธออาการเป็นยังไง ต้องนอนโรงพยาบาลไหม?”

ในที่สุดเหล่าหมอพยาบาลก็ชำเลืองมองคนที่สามารถควบคุมคนไข้คนนี้ได้ ก็เป่าปากโล่งอกในทันที

“คุณผู้หญิงท่านนี้ไม่เป็นอะไรมาก เพียงแค่ข้อต่อหลุด พันไว้มั่นคงดีแล้ว เพียงแค่ต้องกลับไปพักฟื้นสักพักก็จะดีขึ้น”

เฟิงจิงเหยาพยักหน้า กล่าวคำว่ารบกวนแล้วกับหมอพยาบาลสองสามคน แล้วก็หันสายตาไปยังเฟิงจิ้งหยวน

“คุณอาเล็ก ไปกันเถอะ”

เปรียบเทียยการพูดอย่างเกรงใจกับหมอพยาบาลแล้ว คำพูดนี้เย็นชาอยู่ไม่น้อย

เฟิงจิ้งหยวนอึดอัดไม่พอใจกับคำสั่ง แต่ไม่กล้าโมโห ทำได้เพียงเดินตามหลังเขาออกไป

และหลังจากกเฟิงจิงเหยาไปรับเธอแล้ว ก็ตรงกลับตระกูลเฟิง

คนทั้งสองเดินทางมาถึงตระกูลเฟิงโดยไม่พูดจา

พอลงจากรถ ไม่คิดว่าจะพบกู้ฉางฉิงที่เลิกงานกลับมา

“จิงเหยา”

กู้ฉางฉิงมองเฟิงจิงเหยา กล่าวทักทายด้วยความดีใจ พอเตรียมที่จะกลับบ้านใหม่กับเขา แต่ก็ต้องหยุดชะงักลงหลังจากก้าวเท้าไปก้าวนึง

เธอก็มองเฟิงจิ้งหยวนที่ลงมาจากในรถของเฟิงจิงเหยาอย่างตะลึงงัน

เห็นมือที่ห้อยอยู่กับคอ และแขนนั้นยังบวมใหญ่อย่างมาก คล้ายกับขาหมูที่แช่น้ำ

เวลานี้เฟิงจิ้งหยวนก็เห็นเธอ สีหน้าก็ไม่น่าดูขึ้นมาอย่างฉับพลัน

เธอสีหน้าเคร่งขรึมตามเฟิงจิงเหยาเข้าประตูใหญ่ไป

กู้ฉางฉิงเห็นพวกเขาเข้ามา ก็เดินไปด้านข้างเฟิงจิงเหยา

เธอกวาดสายตาไปที่เฟิงจิ้งหยวน อดกลั้นความอยากรู้อยากเห็นภายในใจไว้ไม่อยู่ ดึงๆมุมเสื้อเฟิงจิงเหยา กระซิบถามเบาว่า: “นี่คุณอาเล็กเป็นอะไรหรอ?”

เฟิงจิงเหยาได้ยิน มองเปรยๆไปยังเฟิงจิ้งหยวน กล่าวอย่างเย็นชาว่า: “ตกลงมาจากบันได”

“คิกๆ——”

กู้ฉางฉิงไม่อดกลั้น หัวเราะออกมา

เฟิงจิ้งหยวนที่เดิมทีสนใจคนทั้งสองอยู่ จึงไม่พลาดบทสนทนาของพวกเขา เวลานี้เห็นกู้ฉางฉิงหัวเราะ ก็ระเบิดอารมณ์ทันที

“หัวเราะอะไรห๊ะ!”

เธอตำหนิเสียงลั่น

กู้ฉางฉิงไม่เกรงกลัวแม้แต่น้อย มองเธออย่างมีควาทสุขบนควาททุกข์ของผู้อื่น

“ก็เพราะมันตลกก็เลยหัวเราะ”

พูดจบ เธอมองบนแขนของเฟิงจิ้งหยวน กล่าวยิ้มยิงฟัน: “เห็นคุณอาเล็กแบบนี้ มันทำให้ฉันนึกถึงคำพูดนึงขึ้นมา ไม่รู้ว่าคุณอาเล็กจะเคยได้ยินหรือไม่เคย”

“คำว่าอะไร?”

เฟิงจิ้งหยวนกล่าวถามด้วยจิตสำนึก

กู้ฉางฉิงยกมุมปากขึ้นอย่างยิ้มเยาะ: “ก็คือกรรมตามสนอง พระเจ้าเคยให้อภัยกับใคร เดิมทีแต่ก่อนฉันก็ไม่เชื่อ แต่พอเห็นคุณอาเล็กแล้ว ฉันเชื่อแล้ว”

เฟิงจิ้งหยวนได้ฟังคำพูดนี้ เดิมทีก็โมโหอยู่แล้ว ก็เดือดดาลขึ้นมาทันที

เธอจะฟังไม่ออกได้ยังไงว่านี่คือกู้ฉางฉิงกำลังเยาะเย้ยเธอ

“กู้ฉางซิน!”

เธอเรียกอย่างกัดเขี้ยวเคี้ยวฟัน อยากจะฉีกผู้หญิงคนนี้ด้วยมือของตัวเอง!

เฟิงจิงเหยาเห็นคนทั้งสองจะทะเลาะกันขึ้นมา ขมวดคิ้วแล้วดุอย่างเย็นชาว่า: “ฉางซิน ทำไมถึงพูดกับคุณอาเล็กแบบนี้?”

กู้ฉางฉิงที่เดิมทีก็คิดว่าผู้ชายคนนี้จะต้องช่วยเฟิงจิ้งหยวน ในใจก็นิ่งไป ผลสุดท้ายพอมองไปที่หน้าเขาก็คือจงใจแสร้งทำเป็นพูดเฉียบขาดออกมา สายตาที่ดำขลับเคร่งขรึมนั้นอำพรางไปด้วยรอยยิ้ม

ชัดเจนว่าเขาไม่ได้โกรธจริงๆ และทำท่าทีเพื่อให้เฟิงจิ้งหยวนเห็น

ชั่วพริบตา กู้ฉางฉิงก็เข้าใจในความหมายของผู้ชายคนนี้

“เอาเถอะ ฉันผิดไปแล้ว คุณอาเล็ก ฉันไม่ควรหัวเราะเยาะคุณแบบนี้”

เฟิงจิ้งหยวนถูกเธอกล่าวขอโทษแบบนี้ก็หยุดชะงักไปเล็กน้อย

ยังไม่ทันรอให้เธอได้ตอบโต้ ก็ได้ฟังกู้ฉางฉิงกล่าวต่อไปว่า: “ในเมื่อผิดแล้ว ก็ควรถูกลงโทษ คุณอาเล็ก ตอนนี้ฉันก็จะกลับห้องไปพิจารณาตัวเอง ไปก่อนนะ”

พูดจบ เธอก็หยิบตาอย่างเจ้าเล่ห์ไปยังเฟิงจิงเหยา หันเดินหนีไปโดยตรง

เฟิงจิงเหยาเห็นภาพด้านหลังเธอออกไป ความเย็นชาบนใบหน้าก็อดไม่ได้ที่จะอ่อนโยนลงมา

เขาคาดไม่ถึงเลยว่าผู้หญิงคนนี้จะดื้อซนขนาดนี้ เขามองทิศทางที่กู้ฉางฉิงจากไปแล้วหัวเราะออกมาเบาๆ

เพราะเสียงนี้ เฟิงจิ้งหยวนจึงค่อยๆดึงสติกลับมา

เธอมองหลานชายข้างๆที่คล้ายกับอารมณ์ดี แล้วก็มองหญิงชั่วที่หนีไปจนไม่เห็นเงาอีกครั้ง ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเธอถูกกู้ฉางซินหญิงชั่วคนนั้นยั่วเย้า

ทันที เธอก็เดือดเป็นฟืนเป็นไฟ

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

Status: Ongoing
ก่อนแต่งงานแทนน้องสาวเข้าไปในตระกูลเฟิง กู้ฉางชิงได้ยินว่าเฟิงจิ่งเหยาเป็นคนที่เฉยเมย ต่อมาถึงได้รู้ว่าข่าวลือล้วนเป็นเรื่องโกหก คุณเฟิงไม่เพียงแต่ไม่เย็นชา กลับเป็นคนที่อบอุ่น แต่กระตือรือร้นเป็นพิเศษในการมีทายาท มีคนพูดเป่าหูต่อหน้าเขา “คุณเฟิง ก่อนคุณจะกลับประเทศ ในทุกๆคืนภรรยาของคุณจะไม่กลับบ้าน เพราะออกไปเมาข้างนอก” เฟิงจิ่งเหยา “หลังจากฉันกลับประเทศ ตอนค่ำภรรยาของฉันจะมาอยู่ที่ห้องฉัน ปรนนิบัติฉันไม่นอนทั้งคืน” มีคนพูดอีกว่า “ก่อนคุณจะกลับมา ภรรยาของคุณช้อปปิ้งทั้งวัน เปลี่ยนรถยี่ห้อหรูไม่หยุด แถมยังมีหนุ่มคอยอยู่เธอตลอดเวลา” เฟิงจิ่งเหยา พูดต่อว่า “หลังจากฉันกลับประเทศ บัตรเครดิตทุกใบของฉัน ฉันก็อยากให้ภรรยาฉันใช้ แต่เธอไม่ต้องการ ไปกลับจากที่ทำงานก็ให้ฉันไปรับแค่คนเดียว” สำหรับคนที่เย็นชา เมื่อมีภรรยาจะคลั่งรักเป็นพิเศษ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท