สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา – บทที่ 195 เกลียดเธอมาก

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

เฟิงจิ้งหยวนเห็นกู้ฉางฉิงจากไป กัดฟันร้องด่า

“สมควรตาย! อย่าให้ฉันมีโอกาสได้จัดการคุณนะ!”

เฟิงจิงเหยาได้ฟังคำพูดนี้ ก็ทำเสียงกระแอมเบาๆ

“คุณอาเล็ก ฉันยังอยู่นี่นะ”

เขามองไปทางเฟิงจิ้งหยวนแล้วพูดเตือน ความหมายชัดเจนมาด คิดต้องการจะจัดการกู้ฉางฉิง ต้องถามเขาก่อนนะ

ชั่วขณะเฟิงจิ้งหยวนก็โกรธจนตัวสั่น

คิดอยากจะโกรธเขาหลายต่อหลายครั้ง แต่เมื่อคำพูดมาถึงปากคำสั่งก่อนหน้าที่จะยกเลิกคำสั่งย้ายของเขานั้น ก็ทำให้เธอออกลั้นความโกรธไว้

“หลีกไป!”

เธอพูดไม่ได้ยังหลีกหนีไม่ได้อีกใช่ไหม?

เห็นเธอใช่มือข้างที่ไม่ได้บาดเจ็บผลักเฟิงจิงเหยาย่างแรง แล้วหันกลับไปที่บ้านใหญ่ด้วยตนเอง

เฟิงจิงเหยามองภาพเธอที่จากไปด้วยความโมโห ก็หรี่ตาลง จากนั้นก็กลับไปที่บ้านใหม่ด้วยสีหน้าที่คาดเดาไม่ได้

และเฟิงจิ้งหยวนก็กลับไปที่บ้านของตน ความโกรธในใจไม่สามารถสงบลงได้ มองอะไรก็ขวางหูขวางตา

เธอเตะโซฟาระบายความโกรธ โชคร้ายขาที่เตะโซฟานั้น ฉับพลันก็เจ็บจนเธอน้ำตาไหลออกมา

“ซี๊ดด——สมควรตาย แม้แต่โซฟาของคุณนี้ยังกล้ารังแกฉัน ให้คนมา เอาโซฟานี้ไปโยนทิ้งให้ฉันหน่อย!”

เธอสั่งด้วยความพาล พูดจบก็ไม่สนใจอะไรต่อ ตรงขึ้นห้องไป

ใครจะรู้เพิ่งเข้ามาในห้อง โทรศัพท์ก็ดังขึ้น

เธอหยิบออกมาดูก็เป็นลู่ซือหยี่โทรมา ก็เลยกดรับสาย

“มีเรื่องอะไร?”

น้ำเสียงโกรธของเธอดังขึ้นยากที่จะปิดบัง

ลู่ซือหนี่ตกตะลึง จึงเอ่ยถาม : “ใครทำให้คุณโกรธ?”

เฟิงจิ้งหยวนตอบกลับอย่างอารมณ์ไม่ดี : “นอกจากนังชั่วกู้ฉางซินนั่น ในบ้านนี้ยังจะมีใครสามารถทำให้ฉันโกรธอีกล่ะ?”

ลู่ซือหยี่ได้ฟัง ถึงแม้จะอยากรู้มากว่ากู้ฉางซินทำอะไร เพียงแต่เฟิงจิ้งหยวนกำลังโกรธอยู่ เธอก็ไม่ไปแตะต้องความซวยนี้ กลับปลอบใจเธอแทน

“เอาน่า อย่าโกรธเลย โกรธคนที่ไม่คู่ควร ระวังความโกรธจะมาทำร้ายตัวเองนะ”

ได้เธอปลอบใจเฟิงจิ้งหยวนก็ค่อยๆใจเย็นลงมา นึกขึ้นได้ว่าลู่ซือหยี่ยังไม่ได้บอกเจตนาที่โทรมา

“ซือหยี่ พูดตั้งนานแล้ว ฉันยังไม่รู้เลยว่าคุณโทรหาฉันมีเรื่องอะไร?”

ลู่ซือหยี่เห็นว่าเธอดูเหมือนจะไม่โกรธขนาดนั้นแล้ว ก็เลยพูดวัตถุประสงค์ของตนเอง

“อันที่จริงก็ไม่ได้มีเรื่องอะไร ฉันไม่ได้สังสรรค์กับคุณนานแล้ว พรุ่งนี้อยากนัดคุณออกมาช๊อปปิ้งด้วยกัน”

เฟิงจิ้งหยวนได้ฟังคำพูดนี้ ก็เบะปากพูดว่า : “ฉันไม่ไปหรอก ได้รับบาดเจ็บไม่อยากเคลื่อนไหว”

ลู่ซือหยี่ได้ฟังก็ตกใจ

“คุณได้รับบาดเจ็บได้อย่างไร?”

เฟิงจิ้งหยวนได้ฟังแล้ว ความโกรธที่ถูกระงับไว้ในที่สุดก็พุ่งขึ้นอีกครั้ง

“ก็นังชั่วกู้ฉางซินนั่นแหละ”

เธอพูดจบ ดูเหมือนจะนึกอะไรได้ จึงพูดเตือนว่า : “ซือหยี่ ถ้าคุณได้นั่งตำแหน่งลูกสะใภ้ของตระกูลเฟิงจริงๆ เอาใจพี่ใหญ่กับพี่สะใภ้จะดีที่สุด มิเช่นนั้นอย่าว่าแต่กู้ฉางซินที่ขวางหูขวางตาเลย มู่เฉาเกอ ก็เพียงพอที่คุณจะรับมือด้วย”

เดิมทีลู่ซือหยี่ก็ตระหนักถึงวิกฤตดังนั้นจึงอยากหาเฟิงจิ้งหยวนเพื่อสืบเสาะหาข่าวคราว

เวลานี้เธอได้ฟังคำพูดแบบนี้ เหตุการณ์ก็กดดันขึ้นมาอีกครั้ง

ฉันทราบแล้ว ขอบคุณจิ้งหยวนที่คิดเพื่อฉัน”

เธอขอบคุณเฟิงจิ้งหยวน หลอกให้ดีใจ แล้วจึงวางสายไป

หลังจากที่วางสายไป แววตาเธอฉาบไปด้วยความเคร่งขรึม

เพียงไม่นานเธอก็ดึงกลับ เอาโทรศัพท์ต่อสายไปอีกหนึ่งเบอร์

“คุณป้าหมิง ช่วงนี้สบายดีไหม?……ฉันอยากนัดท่านออกมาช๊อปปิ้งหน่อย”

เธอได้ฟังคำพูดอ่อนโยนของคนในสาย

เดิมทีคุณนายเฟิงก็รักใคร่ลู่ซือหยี่อยู่แล้ว เป็นธรรมดาที่จะไม่สามรถปฏิเสธเธอได้

ทั้งสองคนพูดคุยกันสองสามประโยค และตกลงสถานที่และเวลาที่จะพบกัน จึงวางสายไป

……

วันต่อมา คุณนายเฟิงกับลู่ซือหยี่เจอกันที่ที่นัดกันไว้

“คุณป้าหมิง”

ลู่ซือหยี่ปิดบังปมในใจไว้ ทำเหมือนเมื่อก่อน กอดเธออย่างสนิทสนม

คุณนายเฟิงไม่ได้สังเกตถึงความผิดปกติ เริ่มพาเธอไปเดินเล่นที่ห้างสรรพสินค้า

หลังจากที่ทั้งสองคนล้าแล้ว ก็ไปนั่งที่ร้านกาแฟ ลู่ซือหยี่เห็นว่าเธออารมณ์ไม่ดี จึงเริ่มถามหยั่งเชิงอย่างระมัดระวัง

“คุณป้าหมิง ฉันได้ยินมาว่าช่วงนี้มู่เฉาเกอมาพักอยู่ที่ตระกูลเฟิง ท่านไม่ต้องการฉันแล้วใช่ไหม ต้องการให้เธอมาเป็นลูกสะใภ้ของท่านใช่ไหม?”

คุณนายเฟิงได้ฟังคำคำนี้ ก็ตกตะลึง

หลังจากเธอมีสติกลับมาก็มองใบหน้าที่หม่นหมองและไม่สบายใจของลู่ซือหยี่ จึงส่ายหน้าแล้วเผลอยิ้มออกมา

“ซือหยี่ คุณเข้าใจผิดแล้ว ถึงแม้ว่ามู่เฉาเกอจะดี แต่มันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น ให้เธอเข้ามา ก็เพียงเพราะสานสัมพันธ์กับกู้ฉางซินผู้หญิงคนนั้น”

เธอพูดจบ ก็อดถอนหายใจไม่ได้ : “ตั้งแต่หลังจากเรื่องคราวที่แล้ว ฉันพบว่าผู้หญิงคนนั้นกับเฟิงจิงเหยาดูเหมือนจะพัฒนาขึ้น ทุกๆวันทั้งสองคนไม่ห่างกันเลย ฉันกังวลใจว่าเธอจะทำให้จิงเหยาหลง ดังนั้นจึงจำเป็นต้องดำเนินการเล็กน้อย ในขณะเดียวกันก็อยากยืมความยอดเยี่ยมของมู่เฉาเกอ ให้เธอตระหนักว่าเธอไม่ดีพอสำหรับจิงเหยา ให้รู้สึกลำบากแล้วล่าถอยไป

ลู่ซือหยี่นึกไม่ถึงว่าคุณนายเฟิงจะคิดเช่นนี้ ตกตะลึงไป เมื่อสติกลับมา อดที่จะยิ้มขึ้นมาจริงๆไม่ได้

“คุณป้าหมิงดีจริงเลย ฉันเข้าใจคุณผิดไปแล้ว”

เธอออดอ้อนเอาอกเอาใจคุณนายเฟิง ทั้งสองคนหัวเราะกันอย่างสนุกสนานอยู่สักพัก เธอก็นึกถึงสถานการณ์ตอนนี้ของตนเอง ก็อดหน้านิ่วคิ้วขมวดไม่ได้

คุณป้าหมิง หลังจากตั้งแต่เรื่องครั้งนั้น พี่จิงเหยาก็ไม่อยากเจอฉันเลย ตอนนี้เดิมทีฉันก็ไม่มีทางเข้าใกล้พี่จิงเหยาได้เลย ฉันจะแย่งพี่จิงเหยาคืนมาได้อย่างไร?”

คุณนายเฟิงได้ฟังคำนี้ ใบหน้าก็เศร้าหมอง

อย่าพูดว่าจิงเหยาไม่อยากพบลู่ซือหยี่เลย แม้แต่เธอ ก็ถูกเจ้าหนุ่มนั่นทำตัวเหินห่างด้วย

เธอคิดถึงตรงนี้ ก็อดถอนหายใจไม่ได้

“ถ้าเรื่องครั้งที่แล้วสำเร็จจะดีขนาดไหน คุณก็สามารถมีลูกได้เช่นนี้ ขอเพียงแต่คุณมีลูกได้ ก็ไม่มีปัญหาอะไรอีกแล้ว”

ลู่ซือหยี่ได้ฟัง ก็เต็มไปด้วยความไม่ยินดี

ใช่ ถ้าเรื่องครั้งที่แล้วสำเร็จจะดีขนาดไหน

เธอคิดถึงจุดนี้ ก็ยิ่งเกลียดกู้ฉางซินมาก

นังชั่วคนนี้ทำลายเรื่องดีๆของเธอไปครั้งแล้วครั้งเล่า!

เธอจะไม่มีวันปล่อยเธอไปง่ายๆ

แต่ก่อนหน้านี้ เธอยังคงต้องหาวิธีที่จะมีลูกกับพี่จิงเหยาให้ได้

เธอจมลงไปในความคิด ฉับพลันก็คิดออก แผนการประกายในแววตา

……

และในเวลาเดียวกันนี้ ที่เฟิงซื่อกรุ๊ป

เฟิงจิงเหยากำลังจัดการเอกสารอยู่ที่ห้องทำงาน ชวี่ยี่ก็เคาะประตูเข้ามา

“ท่านประธาน ข่าวคราวของพวกอันธพาลก่อนหน้านั้นที่ท่านให้ไปตรวจสอบ”

เขาพูดจบก็มองไปที่เฟิงจิงเหยาด้วยความเคารพ

เฟิงจิงเหยาได้ฟัง หยุดทำงานในมือแล้วขมวดคิ้วทันที

“ใครอยู่เบื้องหลัง?”

ชวี่ยี่ได้ฟัง ก็รายงานอย่างเหงื่อตกว่า : “เอ่อ……คนที่อยู่เบื้องหลังระวังตัวมาก เราตรวจสอบแหล่งที่มาของการโอนเงินทั้งหมดแล้ว แต่การโอนเงินครั้งสุดท้าย ทว่าเป็นเพียงแค่คนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องสำคัญอะไร”

พูดจบ เขาก็มองหน้าเฟิงจิงเหยาด้วยความระมัดระวัง

“ท่านประธาน ฉันรู้สึกว่าคนนี้น่าจะเป็นคนที่เราคุ้นเคย ดังนั้นจึงพยายามซ่อนตัวตนที่แท้จริงของเขาอย่างถึงที่สุดเช่นนี้”

เฟิงจิงเหยาฟังเขาพูดประโยคแรกจบ ใบหน้าก็เคร่งขรึมแล้ว

โดยเฉพาะฟังประโยคสุดท้ายจบ ก็ยิ่งมืดครึ้มเป็นหยดหมึกเลย

เห็นได้ชัดว่าพวกเขาถูกฝ่ายตรงข้ามจูงจมูกอยู่

แต่ถึงจะเป็นเช่นนี้ เขาก็จำเป็นต้องตรวจสอบต่อไป

“คุณตรวจสอบต่อไป ให้คนจับตาดูคนโอนเงินนั้นไว้ เขาต้องรู้อะไรอย่างแน่นอน มิฉะนั้นจะช่วยโอนเงินได้ยังไง!”

ชวี่ยี่พยักหน้า แล้วกลับไปจัดการทันที

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

Status: Ongoing
ก่อนแต่งงานแทนน้องสาวเข้าไปในตระกูลเฟิง กู้ฉางชิงได้ยินว่าเฟิงจิ่งเหยาเป็นคนที่เฉยเมย ต่อมาถึงได้รู้ว่าข่าวลือล้วนเป็นเรื่องโกหก คุณเฟิงไม่เพียงแต่ไม่เย็นชา กลับเป็นคนที่อบอุ่น แต่กระตือรือร้นเป็นพิเศษในการมีทายาท มีคนพูดเป่าหูต่อหน้าเขา “คุณเฟิง ก่อนคุณจะกลับประเทศ ในทุกๆคืนภรรยาของคุณจะไม่กลับบ้าน เพราะออกไปเมาข้างนอก” เฟิงจิ่งเหยา “หลังจากฉันกลับประเทศ ตอนค่ำภรรยาของฉันจะมาอยู่ที่ห้องฉัน ปรนนิบัติฉันไม่นอนทั้งคืน” มีคนพูดอีกว่า “ก่อนคุณจะกลับมา ภรรยาของคุณช้อปปิ้งทั้งวัน เปลี่ยนรถยี่ห้อหรูไม่หยุด แถมยังมีหนุ่มคอยอยู่เธอตลอดเวลา” เฟิงจิ่งเหยา พูดต่อว่า “หลังจากฉันกลับประเทศ บัตรเครดิตทุกใบของฉัน ฉันก็อยากให้ภรรยาฉันใช้ แต่เธอไม่ต้องการ ไปกลับจากที่ทำงานก็ให้ฉันไปรับแค่คนเดียว” สำหรับคนที่เย็นชา เมื่อมีภรรยาจะคลั่งรักเป็นพิเศษ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท