สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา – บทที่ 198 เขาไม่ได้เป็นของคุณ

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

สองวันต่อมา คลื่นสงัดลมสงบ

เพราะกู้ฉางฉิงไม่ได้นึกถึงวันเกิด กับเรื่องนี้ไม่ได้นำมาใส่ใจ บวกกับเรื่องบริษัทที่มีมาก ก็ลืมเรื่องในสมองไปได้อย่างรวดเร็ว

วันนี้ พอดีเธอกำลังจะเลิกงานกลับไป แต่ก็ได้รับโทรศัพท์จากกู้หงเซิน ให้เธอเข้าไปพบเขา

ในก้นบึ้งของหัวใจกู้ฉางฉิงคือไม่อยากไปพบ แต่จะเป็นการขัดกับข้อตกลงในตอนแรก

“เรื่องอะไร?”

เธอไปตามนัดที่ร้านกาแฟ มุ่งตรงเข้าไปนั่ง ก็ไม่ได้ทักทายคนมุ่งตรงเข้าประเด็นสำคัญ

กู้หงเซินมองท่าทีนี้ของเธอ ขมวดคิ้ว

“นี่คุณทำท่าทีอะไร พบคนก็ไม่รู้จักทักทายหรอ?”

เขาแสดงท่าทีเป็นผู้อาวุโสเพื่อต้องการสั่งสอน กู้ฉางฉิงตัดบทด้วยความรำคาญ

“ถ้าคุณจะเรียกฉันมา เพื่อสั่งสอนฉัน ต้องขอโทษด้วยฉันไม่มีเวลามากขนาดนั้น”

เธอพูดจบ ก็ทำท่าทางลุกขึ้นเตรียมจะออกไป

กู้หงเซินโมโหมาก: “หยุด!”

กู้ฉางฉิงหยุดชะงัก เลิกคิ้วมองเขา: “คุณกู้อยากพูดแล้วหรอคะ?”

กู้หงเซินอึดอัดกลัดกลุ้ม แต่คิดถึงเรื่องที่จะกล่าวต่อไป ก็ทำได้เพียงอดกลั้นความโกรธไว้

“นั่งลง!”

เขามองกู้ฉางฉิงด้วยสีหน้าเฉียบขาดแล้วกล่าวสั่ง

กู้ฉางฉิงก็ไม่ดื้อรั้น นั่งลงตามคำสั่ง

ถึงอย่างไรการทะเลาะกันก็ไม่สบายใจจริงๆ คนที่เสียเปรียบก็คือเธอ

“พูดเถอะ อยากพบฉันเรื่องอะไร?”

เธอกล่าวถามอย่างเย็นชาอีกครั้ง

กู้หงเซินมองเธอด้วยสายตาที่เย็นชา พูดถึงวัตถุประสงค์ในการมาวันนี้

“อีกไม่กี่วันก็จะเป็นวันเกิดของกู้ฉางซิน วันเกิดเธอทุกปีฉันจะจัดงานให้เธออย่างยิ่งใหญ่ ปีที่แล้วแต่งงานเข้าตระกูลเฟิงไป ก็ยิ่งใหญ่!”

เขาพูดถึงตรงนี้ ก็หยุดชะงักลง: “ดังนั้นปีนี้คงจะต้องไม่แตกต่าง ที่พิเศษคือเฟิงจิงเหยากลับมาแล้ว จะต้องจัดอย่างยิ่งใหญ่แน่นอน ถึงเวลานั้นก็จะต้องเชิญคนมีเชื่อเสียงของเมืองหลวงเข้ามา ด้วยชื่อเสียงของตระกูลเฟิง ไม่ต้องกลัวว่าบุคคลเหล่านั้นจะไม่รับคำเชิญ”

กู้ฉางฉิงฟังเรื่องงานเลี้ยงวันเกิดที่เขาพูด ในใจก็ไม่มีความรู้สึกความเข้าใจ

ชัดเจนว่าเป็นลูกสาวของเขาเหมือนกัน แต่คนนึงคือฟ้า คนนึงคือดิน ถูกเขาปฏิบัติอย่างแตกต่าง เขายังไม่รู้สึกเลยแม้แต่น้อย

เธอบอกกับตัวเอง ไม่ต้องไปใส่ใจมาก ถึงอย่างไรเรื่องนี้เธอก็มองเห็นชัดมาตั้งนานแล้ว

แต่เธอก็ยังอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเยาะเย้ยอยู่ในใจ

เธอมองกู้หงเซินอย่างเย็นชา กล่าวอย่างเคร่งขรึมว่า: “คุณพูดกับฉันตั้งมากมายล้วนไม่มีประโยชน์ ขณะนี้ฉันแต่งงานเข้าตระกูลเฟิง นี่คือเรื่องที่ตระกูลเฟิงต้องกังวล ถึงที่สุดจะพะวักพะวงยังไง ก็ยังต้องให้คุณนายเฟิงที่เป็นแม่หลักของตระกูลพูดถึงจะถูก”

กู้หงเซินได้ยินคำพูดที่ตอกหน้าเล็กน้อย

หลังจากคิดๆแล้วก็จริง ถึงอย่างไรตอนนี้กู้ฉางฉิงก็เป็นลูดสะใภ้ของตระกูลเฟิง ตระกูลเฟิงคงไม่สามารถไม่ใส่ใจเรื่องนี้ได้

กู้ฉางฉิงเห็นว่าเขาเห็นด้วยกับคำพูดของตนเอง ตัดบทความคิดชี้ให้เห็นอย่างกระจ่างชัดเกี่ยวกับงานวันเกิดแล้ว ก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจอย่างโล่งอก

ไม่เช่นนั้นทำตามคำเรียกร้องแบบนี้ของเขาต่อไป เกรงว่าเธอกลับไปก็จะถูดคุณนายเฟิงพวกเธอพูดฉีกหน้าอีก

เธอคิดพลาง ก็นึกถึงเรื่องอีกเรื่องนึง เม้มปากแล้วกล่าวว่า: “แล้วก็ วันเกิดวันนั้น ฉันอยากไปเยี่ยมแม่ที่โรงพยาบาล”

กู้หงเซินได้ฟังถึงคำพูดนี้ ขมวดคิ้วเล็กน้อย ปฏิเสธโดยไม่คิด

“ไม่ได้ คุณอย่าลืมฐานะของคุณตอนนี้ แล้วเรื่องก่อนหน้านี้ก็เกือบจะถูกเปิดโปงอีก!”

กู้ฉางฉิงกัดริมฝีปาก พยายามจะขอให้ได้ แต่ยังไม่ทันได้เอ่ยปาก ก็ถูกกู้หงเซินตัดบท

“อีกทั้งวันนั้นเป็นวันสำคัญของกู้ฉางซิน ตอนนี้คุณแสดงเป็นเธอ อย่าทำเรื่องผิดพลาดจนทำให้เกิดช่องโหว่เด็ดขาด!”

เขาพูดจบ ก็ใช้น้ำเสียงที่เหมือนให้ทานกล่าวต่อไปว่า: “จะว่าไปแล้ว ถ้าไม่ใช่บารมีของฉางซิน คุณจะได้มีงานเลี้ยงวันเกิดที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ได้ที่ไหนกัน ฉันคิดว่าคุณคงทำได้แบบนี้ครั้งเดียว เสพสุขให้ดีๆเถอะ อย่าคิดจะไปทำบ้าๆบอๆ ก่อเรื่องให้ฉันเดือดร้อน”

กู้ฉางฉิงฟังถึงคำพูดที่ทำให้อับอายขายหน้านี้ ก็โกรธจนสั่นไปทั้งตัว

เธอคว้ากระเป๋าถือ ลุกขึ้นจากโซฟาทันที ยิ้มอย่างเย็นชาแล้วกล่าวกับกู้หงเซินว่า: “ต้องขอโทษจริงๆ เรื่องเหล่านี้ที่คุณพูด ฉันไม่ได้ใส่ใจเลยสักนิดเดียว!”

พูดจบ เธอก็ไม่สนใจสีหน้าที่เคร่งขรึมของกู้หงเซิน มุ่งตรงออกไป

ตลอดทางกลับถึงตระกูลเฟิงเธอโกรธจนหายใจไม่ทัน อารมณ์ยังคงไม่ดี

โดยเฉพาะคือนึกถึงคำพูดที่ทำให้อับอายเหล่านั้นของกู้หงเซิน ทำให้เธอโกรธแม้แต่ข้าวก็ทานไม่ลง ไปนั่งเหม่อลอยอยู่ที่ศาลาสวนดอกไม้ด้านหลัง

เธอกำลังคิดว่า เธอเริ่มต้นก็ผิดแล้วหรือเปล่า

ไม่ควรจะไปหาผู้ชายคนนั้น

แต่ไม่ไปหาเขา เธอก็ไม่มีลู่ทางที่จะช่วยชีวิตแม่โดยสิ้นเชิง

และอีกอย่าง ที่ในตอนแรกรับปากผู้ชายคนนั้นเพื่อมาแทนกู้ฉางซิน เธอก็รู้ว่านี่คือความร่วมมือที่ไม่เสมอภาคอย่างนึง

ดังนั้นขณะนี้จะได้รับความอับอายขายหน้าอะไรก็ตาม ล้วนไม่ได้อยู่ในความคาดหมายของเธอ เธอไม่ได้มีความเศร้าเสียใจอะไร ไม่ใช่หรอ?

ก็ไม่รู้ว่านี่คือการปลอบใจตนเองหรือเปล่า ความโกรธภายในใจกู้ฉางฉิงก็ค่อยๆสงบลงมา

จริงๆก็หวังว่าเวลาจะผ่านไปเร็วหน่อย สามารถทำให้เธอจบสิ้นกับความร่วมมืออันสุดที่จะทนนี้โดยเร็ว

เธอเงยหน้ามองความมืดยามคำคืนแล้วก็ทอดถอนใจ

มองบนท้องฟ้านั้น ดาวเต็มท้องฟ้า ดูสวยอย่างยิ่ง

เธอจ้องมองสถานที่ที่อยู่ไกลโพ้น ข้างกายมีลมพัดเย็นสบาย พัดกระจายความกลัดกลุ้มในใจของเธอได้ไม่น้อย

พอดีที่เธอคิดว่าจะเดินกลับไปช้า แต่ก็ได้เห็นรูปร่างสูงยาวเข่าดีเดินมุ่งตรงมายังเธอ

เพียงเห็นคนๆนั้นที่ค่อยๆเดินเข้ามาใกล้ ก็ปรากฎให้เห็นใบหน้าที่งดงามไร้ที่ติของเขา

แสงไฟทางเดินที่สลัวด้านหลังส่องมาบนร่างกายของเขา ราวกับข้ามผ่านแสงสีทอง ทำให้คนละสายตาไปไม่ได้

กู้ฉางฉิงมองอย่างลุ่มหลง จนกระทั่งคนๆนั้นเดินมาถึงตรงหน้า

“ได้ยินพ่อบ้านบอกว่า เมื่อเย็นคุณไม่ทานข้าวอีกแล้ว เป็นอะไรหรือเปล่า?”

กู้ฉางฉิงดึงสติกลับมา ในสายตาขัดเคือง

ชัดเจนว่าก็เห็นกันอยู่ทุกวัน ทำไมเธอมองผู้ชายคนนี้อย่างใจลอยอีกแล้วนะ

เธอแสร้งทำเป็นสงบนิ่งแล้วกล่าวว่า: “ไม่เป็นไร ก็คือสร้างผลงานเมื่อตอนกลางวัน ไม่มีแรงบันดาลใจอะไร อารมณ์เลยหงุดหงิดเล็กน้อย”

เฟิงจิงเหยาก็ไม่ได้สงสัย เขารู้ดีว่าพวกนักออกแบบจะรู้สึกโมโหมากเวลาที่แรงบันดาลใจติดขัด

“คุณไม่ต้องรีบร้อน ค่อยๆทำ ตอนนี้สถานการณ์ของบริษัทก็คงที่แล้ว อย่ากดดันตัวเองมากเกินไป”

เขากล่าวปลอบโยน กู้ฉางฉิงรู้ว่าเขากำลังเป็นห่วงตนเอง กระแสไออุ่นก็หลั่งไหลเข้ามาในใจอีกครั้ง

“ฉันรู้”

เธอพยักหน้าตอบรับ

พอดีที่เธอกำลังคิดที่จะกลับไปด้วยกันกับเฟิงจิงเหยา ก็ได้ยินเขาเอ่ยเรื่องวันเกิดขึ้นมาทันที

“เออใช่ วันเกิดคุณ ฉันได้สั่งให้พ่อบ้านไปดำเนินการแล้วนะ คุณมีอะไรที่ต้องการไหม?”

กู้ฉางฉิงนิ่งอึ้งไป มองความตั้งใจในสายตาของเขา ส่ายหน้าอย่างพูดไม่ออกว่ารู้สึกอะไรภายในใจ

“ไม่ต้องการอะไร คุณให้พ่อบ้านจัดการเถอะ”

เฟิงจิงเหยาฟังถึงคำพูดนี้ ขมวดคิ้วเล็กน้อย คล้ายกับว่าไม่ค่อยพอใจกับคำตอบครั้งนี้เล็กน้อย

รู้สึกมาตลอดว่าท่าทีของกู้ฉางฉิงกับงานเลี้ยงวันเกิดไม่ได้กระตือรือร้นเหมือนกับที่เขียนไว้ในข้อมูล

แต่กู้ฉางฉิงไม่ได้ใส่ใจ เวลานี้เธอกำลังตกอยู่ในความรู้สึกนึกคิดของตนเองอย่างจนปัญญาที่จะถอนตัว

ชัดเจนว่าเฟิงจิงเหยาจัดการงานเลี้ยงวันเกิดให้เธอ เธอควรจะดีใจ แต่เธอก็จนปัญญาที่จะยิ้มออกมา

เพราะเธอรู้ว่า สาเหตุที่เฟิงจิงเหยาดำเนินการให้ ทั้งหมดก็เพราะว่าเธอคือกู้ฉางซิน และไม่ใช่เธอกู้ฉางฉิง

เธอคิดถึงตรงนี้ ในใจก็รู้สึกหดหู่เสียใจขึ้นมาอย่างไม่สามารถอธิบายได้

เดี๋ยวนะ กู้ฉางฉิงคุณจะรู้สึกหดหู่ทำไม? เสียใจทำไม?

เธอรู้สึกว่าตนเองป่วยไม่เบาเลยจริงๆ อินกับบทมากเกินไป ก็รู้ชัดเจนอยู่ว่าสิ่งเหล่านี้ไม่ได้เป็นของเธอ แต่ก็ยังคิดเพ้อเจ้อ

กู้ฉางฉิง อย่าคิดเลย สิ่งเหล่านี้ไม่ได้เป็นของคุณโดยสิ้นเชิง!

ไม่ว่าเฟิงจิงเหยาคนๆนี้ หรือว่างานเลี้ยงวันเกิด ล้วนไม่ใช่สิ่งที่คุณควรจะวาดฝัน

อีกทั้งปีที่แล้วๆมาเธอและแม่สองคนก็ไม่ได้เป็นแบบนี้ ทำไมตอนนี้เปลี่ยนเป็นความโลภได้ขนาดนี้ล่ะ?

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

Status: Ongoing
ก่อนแต่งงานแทนน้องสาวเข้าไปในตระกูลเฟิง กู้ฉางชิงได้ยินว่าเฟิงจิ่งเหยาเป็นคนที่เฉยเมย ต่อมาถึงได้รู้ว่าข่าวลือล้วนเป็นเรื่องโกหก คุณเฟิงไม่เพียงแต่ไม่เย็นชา กลับเป็นคนที่อบอุ่น แต่กระตือรือร้นเป็นพิเศษในการมีทายาท มีคนพูดเป่าหูต่อหน้าเขา “คุณเฟิง ก่อนคุณจะกลับประเทศ ในทุกๆคืนภรรยาของคุณจะไม่กลับบ้าน เพราะออกไปเมาข้างนอก” เฟิงจิ่งเหยา “หลังจากฉันกลับประเทศ ตอนค่ำภรรยาของฉันจะมาอยู่ที่ห้องฉัน ปรนนิบัติฉันไม่นอนทั้งคืน” มีคนพูดอีกว่า “ก่อนคุณจะกลับมา ภรรยาของคุณช้อปปิ้งทั้งวัน เปลี่ยนรถยี่ห้อหรูไม่หยุด แถมยังมีหนุ่มคอยอยู่เธอตลอดเวลา” เฟิงจิ่งเหยา พูดต่อว่า “หลังจากฉันกลับประเทศ บัตรเครดิตทุกใบของฉัน ฉันก็อยากให้ภรรยาฉันใช้ แต่เธอไม่ต้องการ ไปกลับจากที่ทำงานก็ให้ฉันไปรับแค่คนเดียว” สำหรับคนที่เย็นชา เมื่อมีภรรยาจะคลั่งรักเป็นพิเศษ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท