สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา – บทที่ 201 เอะอะก็ทำสีหน้าไม่พอใจใส่เขา

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

วันที่สอง กู้ฉางฉิงเตรียมพร้อมที่จะมาบริษัท

เธอเข้าไปที่ห้องทำงานก่อน จากนั้นก็เรียกชีเสี่ยวจิ่วมา

“เสี่ยวจิ่ว คุณช่วยฉันหาป้าแม่บ้านคนนี้หน่อย”

เธอพูดจบ ก็ส่งรูปถ่ายเมื่อคืนให้ชีเสี่ยวจิ่ว

ชีเสี่ยวจิ่วมองดูแล้ว ถึงแม้ว่าจะสงสัย แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรมาก รับรูปภาพแล้วออกไป

กู้ฉางฉิงรอเธอเดินออกไป ก็เริ่มเตรียมข้อมูลในมือ

เธอวางแผนที่จะรอพบใครสักพักหนึ่ง มาเผชิญหน้ากับเธอโดยตรง

ใครจะรู้ เธอจ้องมองอยู่พักใหญ่ ทว่าเห็นชีเสี่ยวจิ่วกลับมาคนเดียว

“แล้วคนล่ะ?”

เธอจ้องมองชีเสี่ยวจิ่ว แล้วเอ่ยถาม

“คนทำความสะอาดด้านนั้นบอกกับฉันว่า แม่บ้านคนนี้ลาออกไปเมื่อสองวันก่อน บอกว่าลูกสะใภ้ที่บ้านเกิดจะคลอดลูก ต้องกลับไปดูแลลูกสะใภ้และหลานชาย

ชีเสี่ยวจิ่วตอบตามความจริง

กู้ฉางฉิงได้ฟัง จิตใจก็หม่นหมองลงทันที

เห็นได้ชัดว่านี่คือทำผิดแล้วคิดหนี

“คุณไปที่ฝ่ายบุคคลเดี๋ยวนี้เลย ตรวจสอบที่อยู่และเบอร์โทรศัพท์ของป้าแม่บ้านคนนี้ให้ฉัน”

เธอสั่งอย่างเข้มงวด ชีเสี่ยวจิ่วเห็นสีหน้าของเธอไม่สู้ดี ก็ไม่กล้าเฉยชา หลังจากตอบรับก็ไปตรวจสอบทันที

ต่อมา กู้ฉางฉิงก็ได้รับข้อมูลจากในมือเธอ เพียงแต่โทรศัพท์ติดต่อไม่ได้

หมดหนทางแล้ว สุดท้ายเธอสามารถไปที่บ้านของป้าแม่บ้านด้วยตนเองเท่านั้น

นี่เป็นบ้านที่เก่ามากๆหนึ่งหลัง

กู้ฉางฉิงเดินนำชีเสี่ยวจิ่วอย่างระมัดระวังไปที่ประตูบ้านที่เขียนไว้ในข้อมูล

“อาจารย์กู้ คือที่นี่แหละ”

ชีเสี่ยวจิ่วมองไปที่กู้ฉางฉิงแล้วพูด

กู้ฉางฉิงพยักหน้า เดินไปด้านหน้าแล้วเคาะประตู

‘ก็อกก็อก”

แต่เธอเคาะประตูอยู่นาน ก็ไม่เห็นมีคนมาเปิด

เธอจ้องมองประตูใหญ่ที่ปิดแน่น แล้วขมวดคิ้ว

“อาจารย์กู้ พวกเขาย้ายบ้านไปแล้วหรือเปล่า?”

ชีเสี่ยวจิ่วคาดเดาอย่างสงสัย

กู้ฉางฉิงรู้สึกว่าอาจจะเป็นไปได้ พอดีกับพวกเธอกำลังจะกลับมาอีกครั้งในช่วงบ่าย หญิงชราคนหนึ่งก็เดินเข้ามาจ้องมองพวกเขาอย่างแปลกประหลาดใจ

“พวกคุณมาหาจางฉีและครอบครัวของพวกเขาหรอ?”

กู้ฉางฉิงมองหญิงชรา ชี้นิ้วไปยังประตูที่ปิดแล้วถามว่า : “คุณป้า ท่านรู้จักครอบครัวนี้ด้วยหรอ?”

“รู้จัก เป็นเพื่อนบ้านกันมาสิบปีแล้ว จะว่าไปพวกเขาสองสามีภรรยาก็มีวาสนา ลูกชายที่อยู่ด้านนอกทำธุรกิจจนมีเงินมีทอง นี่ไม่ใช่ ได้ผลกำไรแล้ว ก็ให้สองสามีภรรยานี้ออกจากบ้านไปเสวยสุขกับเขา”

กู้ฉางฉิงกับชีเสี่ยวจิ่วได้ยิน ก็มองหน้ากัน

“คุณป้า คุณบอกว่าพวกเขาย้ายบ้านไปแล้วหรอ?”

“ใช่สิ ย้ายไปเมื่อสองวันก่อน”

หญิงชราพยักหน้า ทันทีที่เห็นกู้ฉางฉิงแต่งตัวดีมีราคา จึงมองพวกเขาอย่างสงสัย : “ทำไมหรอ? สาวน้อยคุณตามหาพวกเขาอยู่หรอ?”

กู้ฉางฉิงพยักหน้า : “ใช่ค่ะ คุณป้า งั้นคุณรู้ไหมว่าบ้านหลังใหม่ของพวกเขาอยู่ที่ไหน?”

หญิงชราคนนั้นส่ายหัว

“อันนี้ผ็ไม่แน่ใจ ในตอนนั้นพวกเขาย้ายบ้านไปอย่างรีบร้อน ไม่ได้บอกลาเพื่อนบ้านเก่าอย่างพวกเราเหล่านี้เลย”

กู้ฉางฉิงได้ฟัง ในแววตาก็ผิดหวังไม่หยุด

หลังจากที่เธอขอบคุณหญิงชราคนนั้น ก็พาชีเสี่ยวจิ่วกลับมาที่บริษัท

“อาจารย์กู้ งั้นตอนนี้ก็ไม่มีวิธีตรวจสอบเรื่องนี้เลยใช่ไหม?”

ยุ่งกับงานตลอดทั้งเช้า เธอยังคงรู้ว่ากู้ฉางฉิงทำอะไรอยู่ เวลานี้เบาะแสที่มีเพียงอย่างเดียวก็ถูกตัดขาดไปแล้ว ก็อดไม่ได้ที่จะกังวลใจขึ้นมา

กู้ฉางฉิงมองเธอ ความคิดก็ยุ่งเหยิงเช่นกัน

“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน คุณไปทำงานก่อนเถอะ มีเรื่องอะไรแล้วฉันจะเรียกคุณ”

เธอไล่ให้ชีเสี่ยวจิ่วออกไป คิดๆอยู่ในห้องทำงาน ลุกขึ้นแล้วไปหาซูตี้

ไม่ว่ายังไง ขณะนี้ก็ตรวจสอบได้ถึงคนที่ลงมือเรื่องนี้แล้ว เธอก็ควรจะบอกซูจี้สักคำ

เพียงแต่ เบื้องหลังคนที่ลงมือนี้ยังมีคนที่คอยบงการอยู่เบื้องหลัง

ไม่เช่นนั้นเพียงแค่สองสามวันสั้นๆ คนสูงอายุที่ใช้ชีวิตอยู่คนเดียวในเมืองหลวงจะย้ายบ้านอย่างกะทันหันได้ยังไง?

กู้ฉางฉิงคิดพลาง ก็เดินถึงห้องทำงานของซูตี้แล้ว

ซูตี้เห็นเธอ ก็ไม่จำเป็นต้องมอง เพียงแค่กว่ดสายตา ก็ไม่สนใจทำงานในมือต่อไป

กู้ฉางฉิงเห็นเช่นนี้ก็ไม่ใส่ใจ สูดลมหายใจเข้าลึกๆ กล่าวว่า: “หาคนลงมือทำได้แล้ว คือป้าแม่บ้านคนนี้”

พูดจบ เธอก็นำข้อมูลที่ตรวจสอบได้ในมือวางลงบนโต๊ะทำงานของซูตี้ และยังนำการคาดเดาของเธอพูดให้ฟังรอบหนึ่ง

“ฉันสงสัยว่าเบื้องหลังนี้ยังมีคนที่บงการอยู่เบื้องหลัง”

ซูตี้ฟังคำพูดของเธอไปพลาง ตรวจสอบข้อมูลบนโต๊ะไปพลาง

ผ่านไปสองสามอึดใจ ก็เห็นว่าเธอนำข้อมูลโยนลงไปบนเท้ากู้ฉางฉิงอย่างเหยียดหยาม

“กู้ฉางซิน ที่ฉันต้องการคือผลสรุป คุณให้ฉันแค่คนที่กายสาบสูญไปคนหนึ่ง หมายความว่าอะไร?”

เธอพูดจบ ก็มองกู้ฉางฉิงอย่างถากถาง

“ฉันว่านี่คุณกำลังปัดความรับผิดชอบใช่ไหม? คนไปแล้ว คุณก็บอกว่าเธอเป็นคนทำ? ใส่ร้ายยัดของกลางก็ไม่ใช่ที่คุณเล่นแบบนี้หรอ”

กู้ฉางฉิงมองดูข้อมูลที่เท้า แล้วก็กวาดสายตาไปบนใบหน้าที่เย้ยหยัน ในใจโกรธเดือดดาล

เพียงแต่เธอขี้เกียจจะโต้เถียงความจริงความเท็จของเรื่องนี้กับเธอ เลยถือโอกาสพูดอย่างตรงไปตรงมาว่า: “ได้ ฉันจะพาคนมายังตรงหน้าคุณ แบบนี้พอใจแล้วใช่ไหม?”

ซูตี้ยักไหล่ไม่ได้ปฏิเสธ

กู้ฉางฉิงเม้มริมฝีปาก หยิบข้อมูลขึ้นมาจากพื้นแล้วก็หันตัวออกไป

หลังจากเธอกลับมาถึงห้องทำงาน มองข้อมูลบนโต๊ะก็อดไม่ได้ที่จะโกรธเล็กน้อย

รู้ว่าเมื่อกี้ไม่ควรจะพูดไปแบบนั้น ตอนนี้คนก็ย้ายหนีไปแล้ว เธอจะไปหาคนกลับมาได้ยังไง

กำลังคิดพลาง มือถือของเธอก็ดังขึ้นมา

เธอกวาดสายตามอง พบว่าเป็นกู้หงเซินโทรเข้ามา กดรับอย่างหงุดหงิดมาก

“ฉันบอกแล้ว เรื่องงานเลี้ยงวันเกิดฉันไม่มีส่วนร่วม ถึงเวลาคุณฟังตระกูลเฟิงแจ้งให้ทราบก็พอ”

เดิมทีหลังจากการสนทนาสั้นๆในวันนั้น กู้หงเซินไม่วางใจที่จะส่งมอบงานเลี้ยงให้คุณนายเฟิง ติดต่อเธอมาหลายครั้ง ต้องการให้เธอนำอำนาจในการจัดงานเลี้ยงกลับมา

ใครจะรู้ว่า ที่แท้ครั้งนี้กู้หงเซินไม่ได้มาเพื่อเรื่องนี้

“ฉันได้ยินว่าคุณกำลังเกิดปัญหาที่บริษัทหรอ?”

เขาไม่สนใจน้ำเสียงที่หงุดหงิดของกู้ฉางฉิง กล่าวถามด้วยเสียงที่เยือกเย็น

กู้ฉางฉิงแปลกใจเล็กน้อย พูดอย่างตรงไปตรงมา

กู้หงเซินทอดถอนใจเบาๆ กล่าวด้วยเสียงเย็นชาว่า: “คนฉันช่วยคุณหาเจอแล้ว”

ครั้งนี้กู้ฉางฉิงตกตะลึงเป็นที่สุด

“คุณหาเจอได้ยังไง?”

กู้หงเซินกล่าวอย่างเคร่งขรึมว่า: “ฉันเคยบอกแล้ว เกี่ยวกับเรื่องของฉางซิน ฉันเอาใจใส่มาโดยตลอด โดยเฉพาะบริษัทนี้ ยังมีหุ้นส่วนของฉางซิน ฉันไม่อยากให้ของของฉางฉิงถูกคนทำให้ยุ่งเหยิง รอฉางซินกลับมา จะไม่มีอะไรทั้งนั้น”

กู้ฉางฉิงฟังคำพูดนี้แล้ว เดิมทีอารมณ์ที่เคยมีความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ หายไปในพริบตา กลายเป็นเจ็บปวดกลัดกลุ้มใจขึ้นมา

เธอยังคิดว่าผู้ชายคนนี้จะมีคุณธรรมหลงเหลืออยู่ ที่จะช่วยเธอ

ที่แท้ก็เพียงแค่กลัวว่าจะทำให้ของของกู้ฉางซินเสียหาย

แกน่ะ ไม่ควรคิดเข้าข้างตัวเอง

เธอเย้ยหยันอยู่ในใจ พร้อมกับใบหน้าที่เย็นชา

“เช่นนั้น งั้นคุณก็ต้องดูให้แน่นอน อย่าให้ถึงเวลาแล้วอย่าให้มีข้อผิดพลาดอะไรมาถึงฉัน

เธอตอบโต้อย่างเย้ยหยัน

กู้หงเซินฟังแล้วไม่สบายใจอย่างมาก กำลังคิดจะตำหนิสองสามคำ ผลสุดท้ายยังไม่ทันได้เอ่ยปาก ทางด้านกู้ฉางฉิงนี้ก็ไม่มีความอดทนที่จะสนทนากับเขาต่อไป

“ในเมื่อคุณจับคนได้แล้ว ตอนบ่ายก็ส่งเข้ามาให้ฉัน!”

พูดจบ เธอก็ไม่ได้สนใจว่ากู้หงเซินจะเห็นด้วยหรือไม่ ก็วางสายไปโดยตรง

กู้หงเซินเห็นมือถือถูกตัดสาย บนใบหน้าก็อดไม่ได้ที่จะโกรธขึ้นมา

ยัยเด็กนี่ตั้งแต่เข้าไปในตระกูลเฟิง นิสัยทะนงตัวขึ้นทุกวันๆ!

เดี๋ยวนี้เอะอะก็ทำสีหน้าไม่พอใจใส่เขา

ดูท่าเขาจะต้องหาเวลาสั่งสอนสักหน่อยแล้ว!

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

Status: Ongoing
ก่อนแต่งงานแทนน้องสาวเข้าไปในตระกูลเฟิง กู้ฉางชิงได้ยินว่าเฟิงจิ่งเหยาเป็นคนที่เฉยเมย ต่อมาถึงได้รู้ว่าข่าวลือล้วนเป็นเรื่องโกหก คุณเฟิงไม่เพียงแต่ไม่เย็นชา กลับเป็นคนที่อบอุ่น แต่กระตือรือร้นเป็นพิเศษในการมีทายาท มีคนพูดเป่าหูต่อหน้าเขา “คุณเฟิง ก่อนคุณจะกลับประเทศ ในทุกๆคืนภรรยาของคุณจะไม่กลับบ้าน เพราะออกไปเมาข้างนอก” เฟิงจิ่งเหยา “หลังจากฉันกลับประเทศ ตอนค่ำภรรยาของฉันจะมาอยู่ที่ห้องฉัน ปรนนิบัติฉันไม่นอนทั้งคืน” มีคนพูดอีกว่า “ก่อนคุณจะกลับมา ภรรยาของคุณช้อปปิ้งทั้งวัน เปลี่ยนรถยี่ห้อหรูไม่หยุด แถมยังมีหนุ่มคอยอยู่เธอตลอดเวลา” เฟิงจิ่งเหยา พูดต่อว่า “หลังจากฉันกลับประเทศ บัตรเครดิตทุกใบของฉัน ฉันก็อยากให้ภรรยาฉันใช้ แต่เธอไม่ต้องการ ไปกลับจากที่ทำงานก็ให้ฉันไปรับแค่คนเดียว” สำหรับคนที่เย็นชา เมื่อมีภรรยาจะคลั่งรักเป็นพิเศษ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท