สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา – บทที่ 202 คุณมีหลักฐานอะไร

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

กู้ฉางฉิงไม่รู้ว่าท่าทีของตนเองยั่วโมโหกู้หงเซิน และยังคิดจะสั่งสอนตนเอง

ได้ทราบว่าเขาช่วยตนเองจับคนได้ หินก้อนใหญ่ที่แขวนอยู่ในใจของเธอมาโดยตลอด ก็ร่วงหล่นลง

เธอกดโทรศัพท์ ให้ชีเสี่ยวจิ่วเข้ามา

“อาจารย์กู้ คุณต้องการพบฉันหรอ?”

กู้ฉางฉิงพยักหน้า กำชับด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า: “คุณแจ้งให้ทราบต่อไป ให้ทุกคนในแผนกออกแบบมารวมตัวกันในห้องประชุมตอนบ่ายสองโมง รวมทั้งซูตี้ด้วย บอกพวกเขาว่า ฉันจะเปิดโปงคนลงมือในที่ประชุม”

ชีเสี่ยวจิ่วได้ยินคำพูดนี้แล้ว บนใบหน้าก็มีรอยยิ้มขึ้นมา

“อาจารย์กู้ คุณหาคนเจอแล้วหรอ?”

เธออดไม่ได้ที่จะถามด้วยความประหลาดใจ

กู้ฉางฉิงเพียงแค่พยักหน้า ไม่ได้พูดมาก ก็สั่งให้เธอออกไป

รอจนถึงเวลาบ่ายสองโมง คนที่แผนกออกแบบทั้งหมดก็ไปยังห้องประชุม

พวกเขาตามกันเข้าประชุม แต่ก็ยังไม่เห็นกู้ฉางฉิงมาถึง คนทั้งหมดก็อดไม่ได้วิพากษ์วิจารณ์ขึ้นมา

“ผู้จัดการแผนกทำไมยังไม่มาล่ะ? บอกว่าจะเปิดโปงคนลงมือไม่ใช่หรอ?”

“คงไม่ล้อพวกเราเล่นใช่ไหม?”

“ใครจะไปรู้ล่ะ?”

“เฮ้ ก่อนหน้านี้ได้นินมาว่ามีเรื่องของต้นฉบับที่หายไปแล้วครั้งหนึ่ง ครั้งนี้ก็เกิดขึ้นอีกครั้ง รู้สึกว่าบริษัทมีการทุจริต”

ชวี่ชิงหยุนและมู่ฉิงคงฟังคำวิพากษ์วิจารณ์ของคนทั้งหลาย แล้วมองสีหน้าที่เหยียดหยามของซูตี้ที่อยู่ตรงข้าม ตำหนิอย่างหงุดหงิด

“พอล่ะ หุบปากทั้งหมด”

ถึงแม้ในกลุ่มของพวกเขาที่มองแล้วล้วนไม่มีใครถูกชะตา แต่ไม่มีใครอยากเสียหน้าต่อหน้าคนนอก

แท้ที่จริงแล้วต้นฉบับที่ถูกขโมยไปก่อนหน้านี้มันเกิดอะไรขึ้น ไม่มีใครรู้ชัดเจนได้เท่ากับพวกเธอสองคน

ซูตี้มองเธออย่างเมินเฉย เดิมทีก็ไม่ได้ให้ความสนใจ แต่กลับจ้องมองหน้าประตู

เธออยากจะดูว่าอีกสักครู่กู้ฉางฉิงจะแสดงอะไรให้เธอดูอีก

ใช่ เธอก็ไม่ได้เชื่อว่ากู้ฉางฉิงจับคนลงมือทำได้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว

ขณะที่คนทั้งหลายกำลังเฝ้ารอ กู้ฉางฉิงก็เพิ่งพาชีเสี่ยวจิ่วเดินกรีดกรายเข้ามา

ซูตี้เห็นเธอก็อดไม่ได้ที่จะพูดฉีกหน้าทันที

“คุณกู้วางมาดใหญ่โตจริงๆ เรียกพวกเรามาดูคนลงมือตัวจริง แต่ผลสุดท้ายตนเองมาสาย”

กู้ฉางฉิงไม่สนใจคำพูดที่กลับตาลปัตรของเธอ พูดด้วยน้ำเสียงอันเยือกเย็นกับประตูใหญ่ห้องประชุมว่า: “เอาคนเข้ามา”

เธอพูดจบ ก็เห็นบอดี้การ์ดร่างกำยำสองคนพาคุณป้าแม่บ้านคนนั้นเดินเข้ามา

ป้าแม่บ้านคนนั้นเห็นคนจำนวนมากในห้องประชุม ตื่นตระหนกอย่างมาก สีหน้าหมดหนทาง

เธออยากจะหนี แต่บอดี้การ์ดสองคนที่อยู่ด้านหลังมองเธออย่างเข้มงวด

ซูตี้เห็นป้าแม่บ้านคนนั้น ก็อดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้ว

“เหอะ คุณไปค้นหาคนกลับมา ทำไม คุณอยากจะบอกฉันว่า คือเธอที่เปิดเผยความลับของฉันงั้นหรอ?”

เธอมองไปยังกู้ฉางฉิงอย่างถากถาง

กู่ฉางฉิงกวาดสายตามองเธอ กล่าวอย่างเย็นชาว่า: “ใช่หรือไม่ พวกเราถามก็จะรู้”

พูดจบ เธอก็เอียงหน้าไปซักถามป้าแม่บ้าน: “พูดสิ คุณใช้คอมพิวเตอร์ของฉันส่งออกต้นฉบับการออกแบบไปได้ยังไง”

ป้าแม่บ้านได้ยินคำพูดนี้แล้ว ในสายตาก็ตื่นตระหนกขึ้นมา

สายตาเธอเลื่อนลอยไม่กล้ามองกู้ฉางฉิง แสร้งทำเป็นพูดอย่างโมโห: “ผู้จัดการแผนกกู้ ฉันไม่รู้ว่าคุณพูดถึงอะไรเลยสักนิด พวกคุณลักพาตัวมาอย่างไม่ชอบด้วยกฎหมายแบบนี้ เป็นการทำผิดกฎหมายนะ ฉันจะไปฟ้องร้องพวกคุณ!”

กู้ฉางฉิงมองเห็นเธอวางมาดใหญ่โตเพื่อตบตาคน ยิ้มเบาๆแล้วกล่าวว่า: “แบบนี้ งั้นพวกเราก็ไปด้วยกันเลย พอดีเลย ฉันก็อยากฟ้องร้องคุณเหมือนกัน จงใจเปิดเผยความลับของบริษัท ฉันคิดว่าคุณป้าน่าจะรู้โทษของการจารกรรมทางธุรกิจนะ”

ป้าแม่บ้านที่เดิมทีคาดไม่ถึงว่ากู้ฉางฉิงจะตอบกลับเธอแบบนี้ ก็ตกใจกลัวยืนนิ่งอยู่กับที่

กู้ฉางฉิงเห็นเช่นนี้แล้ว ก็กล่าวต่อไปอีกว่า: “คุณป้า ฉันก็มิ่ยากทำให้คุณลำบากใจ ต้องการเพียงคุณยอมรับว่าเรื่องนี้คุณเป็นคนทำ ฉันสามารถจัดการอย่างนุ่มนวลได้”

ป้าแม่บ้านดึงสติกลับมา ในใจสับสนเล็กน้อย แต่ก็ยังปากแข็งไม่ยอมรับ

“ฉันบอกไปแล้วว่าฉันไม่ได้ทำเลยสักนิด คุณมีสิทธิ์อะไรมาให้ฉันยอมรับ จะว่าไปแล้ว คุณมีหลักฐานอะไรที่ชี้ชัดว่าฉันเป็นคนทำ คุณไม่มีหลักฐาน ก็อย่ามาใส่ร้ายป้ายสีคนอื่น!”

ซูตี้ฟังคำพูดของเธอแล้ว มองกู้ฉางฉิงอย่างไม่สะทกสะท้าน กล่าวอย่างเยือกเย็นว่า: “ใช่ ฉันก็อยากรู้ว่าผู้จัดการแผนกกู้มีหลักฐานอะไรที่จะใส่ความว่าเธอเป็นคนทำ”

กู้ฉางฉิงชำเลืองมองเธอทีหนึ่ง หลังจากนั้นก็มองไปยังป้าแม่บ้าน มุมปากค่อยๆยกขึ้นมา

“คุณรู้ได้ยังไงว่าฉันไม่มีหลักฐาน?”

ป้าแม่บ้านได้ยินคำพูดนี้ก็มือไม้สั่นขึ้นมาทันใด

“คุณมีหลักฐานอะไร?”

เธอกัดฟันถาม

กู้ฉางฉิงยิ้มเบาๆแล้วกล่าวว่า: “เห๊อะ หลักฐานก็คือเงินจำนวนมากนั้นในบัญชีของลุกชายคุณที่ได้มาอย่างไม่ทีที่มาไง คุณจะอธิบายว่ายังไงกับคนที่เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อคนหนึ่ง จู่ๆวันหนึ่งกลายเป็นคนร่ำรวยขึ้นมา?”

เธอพูดคำนี้จบ สักพักหนึ่ง ก็เห็นสายตาของป้าแม่บ้านดุเดือดขึ้นมา

“แล้วก็ ฉันเคยตรวจสอบความจริงในการทำงานของคุณแล้ว ทำที่เฟิงซื่อกรุ๊ปมาเกือบจะสิบปีแล้ว เพิ่วย้ายมาจากสำนักงานใหญ่ สำหรับคุณแล้ว คุณก็ไม่สามารถลาออกจากงานนี้ แต่ก่อนบริษัทจะเกิดเรื่อง คุณก็ลาออกแล้ว คุณจะอธิบายว่ายังไงอีก?”

ครั้งนี้ป้าแม่บ้านลุกลี้ลุกลนเป็นที่สุด เธอตัวสั่นไปทั้งตัว ไม่กล้ามองกู้ฉางฉิง

กู้ฉางฉิงเห็นเช่นนี้แล้ว ก็รู้ว่าเธอสติแตกแล้ว ต้องการเพียงบีบบังคับให้ตอบอีกครั้ง ก็สามารถถามได้ถึงคำพูดที่เธออยากจะรู้ได้

“พูดเถอะ ตกลงใครเป็นคนบงการให้คุณทำแบบนี้ เพียงแค่คุณพูดออกมา ฉันก็ตะไม่คิดเล็กคิดน้อยกับเรื่องที่คุณทำ?”

เธอพูดถึงตรงนี้ ขู่บังคับอีกครั้งแล้วก็หยุดไปชั่วคราว: “หรือคุณต้องการให้ตำรวจเข้ามาแทรกแซงการสอบสวน ถ้าเป็นแบบนี้ งั้นฉันก็จะแจ้งความกับตำรวจเดี๋ยวนี้”

ป้าแม่บ้านฟังคำพูดนี้แล้ว ก็ลุกลี้ลุกลนขึ้นมาทันใด

“ถ้าฉันบอกแล้ว คุณจะไม่คิดเล็กคิดน้อยจริงๆหรอ?”

เธอกัดฟันมองกู้ฉางฉิง ยืนยันอีกครั้งอย่างไม่เชื่อ

“แน่นอน!”

กู้ฉางฉิงพยักหน้ารับปาก: “คนที่นั่งอยู่ทั้งหมดสามารถเป็นพยานให้คุณได้”

ป้าแม่บ้านเห็นเช่นนี้แล้ว เม้มปากแล้วมองไปที่ใครบางคนในห้องประชุมอย่างลังเลใจ

กู้ฉางฉิงมองตามสายตาของเธอ แต่พบว่าทางด้านนั้นพอดีว่าเป็นทิศทางที่ซูตี้นั่งอยู่ อดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้ว

และซูตี้เห็นสายตาของพวกเขา ก็ชะงักงัน ตอบโต้เข้ามาทันที อดไม่ได้ที่จะโมโห

“ยายแก่ คุณหมายความว่ายังไง จะบอกว่าฉันเป็นคนบงการคุณงั้นหรอ?”

เธอชี้หน้าด่าป้าแม่บ้านด้วยความโกรธ ข่มขู่ป้าแม่บ้านจนรีบส่ายหน้า

“ฉัน……ฉันไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น”

กู้ฉางฉิงมองเธอ แล้วก็มองซูตี้ที่โกรธอย่างรุนแรง ทันใดนั้นสายตาของเขาก็จ้องมองไปที่ผู้ช่วยที่สีหน้าไม่เป็นธรรมชาติที่อยู่ข้างหลังเธอ

“เธอบอกว่าน่าจะเป็นผู้ช่วยของคุณ”

เธอเหมือนกับว่าจะเข้าใจที่กล่าวเตือนสติ

ซูตี้ตะลึง แล้วก็ตอบสนองด้วยความโกรธที่เกินจะยับยั้ง

“พูดจาเหลวไหล อ้ายลี่จะทำเรื่องนี้ได้ยังไง!”

อ้ายลี่ได้ฟังคำพูดของเธอ ก็รีบกล่าวปฏิเสธอย่างหนักแน่น

“อาจารย์พูดถูก ฉันจะทำเรื่องเลวร้ายที่ปราศจากผลประโยชน์ส่วนตัวได้ยังไง ผู้จัดการแผนกกู้ ถ้าคุณต้องการจะบอกว่าฉันเป็นคนทำ ก็เชิญพวกคุณเอาหลักฐานออกมาโชว์ ไม่เช่นนั้นพวกคุณก็คือใส่ร้ายป้ายสีคน!”

กู้ฉางฉิงกวาดสานตามองคนทั้งสอง กล่าวถามกับป้าแม่บ้านว่า: “คุณมีหลักฐานอะไรที่พิสูจน์ว่าเป็นเธอ?”

ป้าแม่บ้านคิดๆแล้ว ก็พยักหน้าแล้วกล่าวว่า: “มี วันนั้นตอนที่เธอมาหาฉัน พวกเราสองคนยืนอยู่ด้านนอกห้องอุปกรณ์ทำความสะอาด ถึงแม้ว่าสถานที่นั้นจะไม่ใช่พื้นที่ที่สำคัญ แต่ยังคงมีกล้องวงจรปิดตัวหนึ่ง ถ้าตรวจสอบล่ะก็ บางทีอาจจะสามารถเห็นภาพเหตุการณ์ได้ในชั่วพริบตาเดียว”

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

Status: Ongoing
ก่อนแต่งงานแทนน้องสาวเข้าไปในตระกูลเฟิง กู้ฉางชิงได้ยินว่าเฟิงจิ่งเหยาเป็นคนที่เฉยเมย ต่อมาถึงได้รู้ว่าข่าวลือล้วนเป็นเรื่องโกหก คุณเฟิงไม่เพียงแต่ไม่เย็นชา กลับเป็นคนที่อบอุ่น แต่กระตือรือร้นเป็นพิเศษในการมีทายาท มีคนพูดเป่าหูต่อหน้าเขา “คุณเฟิง ก่อนคุณจะกลับประเทศ ในทุกๆคืนภรรยาของคุณจะไม่กลับบ้าน เพราะออกไปเมาข้างนอก” เฟิงจิ่งเหยา “หลังจากฉันกลับประเทศ ตอนค่ำภรรยาของฉันจะมาอยู่ที่ห้องฉัน ปรนนิบัติฉันไม่นอนทั้งคืน” มีคนพูดอีกว่า “ก่อนคุณจะกลับมา ภรรยาของคุณช้อปปิ้งทั้งวัน เปลี่ยนรถยี่ห้อหรูไม่หยุด แถมยังมีหนุ่มคอยอยู่เธอตลอดเวลา” เฟิงจิ่งเหยา พูดต่อว่า “หลังจากฉันกลับประเทศ บัตรเครดิตทุกใบของฉัน ฉันก็อยากให้ภรรยาฉันใช้ แต่เธอไม่ต้องการ ไปกลับจากที่ทำงานก็ให้ฉันไปรับแค่คนเดียว” สำหรับคนที่เย็นชา เมื่อมีภรรยาจะคลั่งรักเป็นพิเศษ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท