สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา – บทที่ 203 คุณอย่าไล่ฉันออกเลย

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

กู้ฉางฉิงได้ฟังคำพูดนี้ ก็ส่งสัญญาณให้ชีเสี่ยวจิ่วทันที

“เสี่ยวจิ่ว คุณไปที่ห้องกล้องวงจรปิดให้พวกเขาเอาวิดีโอออกมา”

ชีเสี่ยวจิ่วรับคำสั่งแล้วออกไป

พร้อมกันกับที่เธอออกไป สีหน้าอ้ายลี่ก็ตื่นตระหนกขึ้นมา

กู้ฉางฉิงมองเห็น แววตาก็มืดมนลง

ซูตี้ก็เห็นแล้ว สีหน้าก็แย่มาก

ไม่นาน ชีเสี่ยวจิ่วก็กลับมา

“อาจารย์กู้ เอาภาพวงจรปิดมาแล้ว”

กู้ฉางฉิงพยักหน้า ให้เธอเปิดออกมา

ชีเสี่ยวจิ่วพยักหน้า นำภาพวงจรปิดไปต่อกับคอมพิวเตอร์ ไม่นานภาพก็แสดงผลออกมาบนหน้าจอในห้องประชุม

พบว่าข้อเท็จจริงเป็นตามที่ป้าแม่บ้านพูด นอกห้องเครื่องมือทำความสะอาด ก็เห็นภาพคนสองคนอยู่ด้วยกัน

“คุณซู ตอนนี้ยังมีอะไรจะพูดอีกไหม?”

กู้ฉางฉิงถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา กวาดสายตาไปมองอ้ายลี่ข้างหลังซูตี้ : “เรื่องนี้จะบอกว่าใหญ่ก็ไม่เชิง แต่ว่าส่งผลกระทบอย่างมาก ไม่ทราบว่าคุณมีแผนจะจัดการลงโทษอย่างไรกับเรื่องนี้?”

ชั่วขณะที่ซูตี้ถูกเธอถาม ก็หน้าดำคร่ำเครียดอย่างยิ่ง รู้สึกได้ว่าศักดิ์ศรีในตัวเธอได้หายไปหมดแล้ว

อย่างไรเสียเธอก็คาดไม่ถึงว่าเรื่องนี้จะเป็นคนของเธอกำกับและแสดงเอง!

“ทำไมการลงโทษต้องเป็นเรื่องของฉัน แล้วก็ไม่ลำบากไปก้าวก่ายผู้จัดการแผนกกู้ด้วย เรื่องนี้ฉันจะส่งมอบให้บริษัท”

เธอพูดจบ ก็กวาดสายตาไปมองอ้ายลี่ด้านหลังอย่างรวดเร็วและดุดัน

อ้ายลี่ถูกเธอทำให้ตกใจกลัวจนสั่นสะท้านไปทั้งตัว

“อาจารย์……”

เธออ้าปากอยากจะพูด แต่ยังไม่ทันได้พูด ก็ถูกซูตี้ตวาดอย่างเย็นชา : “ตามฉันกลับไป!”

พูดแล้ว เธอก็นำหน้าเดินออกจากห้องทำงานไป

อ้ายลี่เห็นเช่นนั้น ทำได้เพียงเดินตามไปอย่างหมดอาลัยตายอยาก

กู้ฉางฉิงมองตามด้านหลังของพวกเธอที่ออกไป ถึงแม้ว่าจะไม่สบายใจ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรมาก

เธอโบกมือ ให้ทุกคนแยกย้าย

แต่ซูตี้กลับไปที่ห้องทำงาน ด้วยใบหน้าเคร่งขรึม ตามด้วยตบอ้ายลี่ที่อยู่ด้านหลังไปหนึ่งที

“ทำไมคุณต้องทำอย่างนี้ด้วย?”

เธอถามอย่างโกรธเกรี้ยว อ้ายลี่กุมใบหน้า ใบหน้าเต็มไปด้วยความตกตะลึงและน้อยใจ

“ฉันอยากช่วยอาจารย์สั่งสอนผู้หญิงคนนั้น ใครจะให้เธอเป็นอริกับคุณทั้งวันล่ะ!”

ซูตี้ได้ฟังคำนี้ ไม่ว่าอย่างไรก็ยังโกรธมาก

เธอชี้นิ้วไปที่อ้ายลี่พูดด้วยน้ำเสียงเฉียบขาดว่า : “ช่วยฉันสั่งสอน? ตั้งการให้คุณเข้ามาก้าวก่ายเรื่องของฉันตั้งแต่เมื่อไหร่? วันนี้ฉันนับว่าถูกคุณทำให้เสียหน้าจนไม่เหลืออะไรเลย ฉันสั่งให้คุณไสหัวไป ไปไกลได้เท่าไหร่ยิ่งดี!”

ดวงตาของอ้ายลี่เบิกกว้าง

“อาจารย์ นี่คุณต้องการไล่ฉันออกหรอ?”

ซูตี้หัวเราะเยาะ : “ไม่ไล่ออก คงจะยิ่งก่อเรื่องวุ่นวายให้ฉันอีก?”

อ้ายลี่ตะลึงไปชั่วขณะ แล้วยอมรับผิดซ้ำๆขอความเมตตา

“อาจารย์กู้ ฉันผิดไปแล้ว ครั้งต่อไปฉันไม่กล้าทำแล้ว คุณอย่าไล่ฉันออกเลย

ซูตี้ชำเลืองมองเธออย่างเย็นชา แล้วเรียกร.ป.ภ.มา ให้นำเธอออกไป

……

และในเวลาเดียวกันนี้ ชีเสี่ยวจิ่วก็ได้รับข่าว ก็วิ่งไปรายงานกู้ฉางฉิงทันที

“อาจารย์ ผู้ช่วยคนนั้นที่วางแผนจะใส่ร้ายคุณถูกคุณซูไล่ออกไปแล้ว”

กู้ฉางฉิงได้ยิน ก็ตกตะลึงเล็กน้อย แต่ว่าก็ไม่ได้สนใจ

ท้ายที่สุดนี่คือความขัดแย้งภายในของพวกเธอ

เธอมองไปที่ชีเสี่ยวจิ่วที่ยินดีดีในความโชคร้ายของคนอื่นอยู่ข้างๆเธอ ก็หัวเราะพูดว่า “เสี่ยวจิ่ว หากคุณใส่ใจการออกแบบร่างเหมือนการซุบซิบนินทานี้ ฉันคิดว่าน่าจะมีความก้าวหน้าขึ้นอย่างมาก ต่อไปกำไปฟังการซุบซิบนินทาให้นิ้ยลงหน่อย แล้วใส่ใจในการเรียนรู้ให้มากๆหน่อย”

ชีเสี่ยวจิ่วได้ฟังคำชี้แนะของเธอ รอยยิ้มบนใบหน้าหยุดนิ่งไปชั่วขณะ แต่ก็กลับมาพยักหน้าอย่างรวดเร็ว

“อาจารย์กู้ ฉันทราบแล้ว งั้นฉันจอตัวก่อน”

กู้ฉาวฉิงพยักหน้า ก้มหน้าทำงานต่อ ทว่าไม่เห็นการเบ้ปากเย้ยหยันของชีเสี่ยวจิ่วเมื่อหันออกมา

ในคืนวันนั้น ที่ร้านอาหารจีนสุดหรูใจกลางเมืองร้านหนึ่ง ชีเสี่ยวจิ่วเดินตามพนักงานเสิร์ฟไปที่ห้องวีไอพีอย่างระมัดระวัง

เธอผลักประตูเข้าไป ก็เห็นว่าสาวน้อยนั่งอยู่ในห้องวีไอพีแล้ว

“คุณลู่ ฉันได้จัดการทำให้แบบร่างรั่วไหลออกไปตามคำสั่งของคุณแล้ว และยัดเยียดให้กับผู้ช่วยของซูตี้

จริงๆ ที่ชีเสี่ยวจิ่วมาพบกับบุคคลลึกลับเช่นนี้ ก็คือลู่ซือหยี่

ลู่ซือหยี่มองเธอ ในแววตาเต็มไปด้วยความชื่นชม

“ดีมาก ครั้งนี้คุณทำได้ดี”

เธอพูดจบ ก็หยิบบัตรหนึ่งใบออกมาจากกระเป๋าถือข้างตัว : “นี่คือสองแสน เป็นรางวัลสำหรับคุณ

ชีเสี่ยวจิ่วเห็นบัตรใบนั้น ก็ไม่สามารถซ่อนความตื่นเต้นในดวงตาได้

ในสายตาที่ลู่ซือหยีมองอยู่ ก็ประกายความถากถางถูก ไม่นานริมฝีปากแดงๆก็กระตุกพูดอย่างยั่วยวน : “ตราบใดที่คุณยังทำได้ดีต่อไป มีอีกหลายที่ที่คุณสามารถใช้จ่ายได้ เมื่อถึงเวลาผลประโยชน์ของคุณจะไม่มีแค่สิ่งเล็กๆน้อยๆนี่”

ชีเสี่ยวจิ่วได้ฟังว่าต่อไปจะมีผลประโยชน์มากขึ้น หัวใจก็กระเพื่อมขึ้นมา

“คุณลู่วางใจเถอะ ฉันจะเชื่อฟังทำหน้าที่จนสำเร็จอย่างแน่นอน”

ลู่ซือหยี่แฝงไปด้วยรอยยิ้ม : “งั้นก็ดี รับแล้วก็กลับไปเถอะ อย่าให้คนอื่นมาเห็น”

ชีเสี่ยวจิ่วพยักหน้า ก้าวไปด้านหน้ารับบัตรเอทีเอ็ม แล้วก็หันกลับออกไป

เมื่อเธอออกไป ใบหน้าของลู่ซือหยี่ไม่สามารถซ่อนความภาคภูมิใจไว้ได้

“หึ กู้ฉางซิน ไม่ช้าก็เร็วฉันจะทำให้คุณเป็นคนที่ไม่มีเหลืออะไรเลย”

เธอพูดจบ ก็ไม่รู้ว่าคิดถึงอะไร ก็หัวเราะเบาๆขึ้นมาคนเดียวในห้องวีไอพี

“ให้คุณกระโดดโลดเต้นไปอีกวันหนึ่ง พรุ่งนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณมีจะเป็นของฉันแล้ว!”

กู้ฉางฉิงไม่รู้ว่าการสมรู้ร่วมคิดกำลังเข้ามาใกล้เธออย่างช้าๆ

หลังเลิกงาน เธอเก็บของลงด้านล่างไปที่ตระกูลเฟิง

วันนี้ เฟิงจิ่งเหยาก็กลับมาก่อนเวลาเช่นกัน

ทั้งสองร่วมโต๊ะอาหารกัน ในระหว่างมื้ออาหารกู้ฉางฉิงก็เอ่ยถึงเรื่องของบริษัทเมื่อตอนกลางวัน

“แบบร่างการออกแบบที่รั่วไหลได้รับการตรวจสอบชัดเจนแล้ว ผู้ช่วยข้างกายซูตี้เป็นคนทำ วันนี้จึงถูกเธอไล่ออกไปแล้ว”

เธอพูดจบบนใบหน้าก็สะท้อนใจ : “จะรู้ได้อย่างไรว่าคนประเภทนี้คิดอย่างไร ถึงขั้นกับทำลายคนอื่นไม่ให้ราบรื่น”

เฟิงจิ่งเหยาได้ฟัง ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเบาๆ

“มักจะมีคนที่ไม่ยอมรับจึงทำเรื่องที่หุนหันพลันแล่นเพราะความอิจฉา เป็นธรรมดาของคนก็เท่านั้น”

กู้ฉางฉิงฟังจบ ก็รู้สึกว่าไม่ควรจะเป็นเช่นนี้

ผู้ช่วยคนนั้นทำลายเธอ เพียงเพราะว่าไม่อาจทนดูเธอได้

เธอเบ้ปาก แล้วกำลังจะทานอาหารต่อ เสียงชื่นชมของเฟิงจิ่งเหยาก็ดังขึ้นข้างๆหู

“ครั้งนี้คุณทำได้ดีมาก เฉียบขาดและรวดเร็ว เหมือนเกิดเรื่องขึ้นกับผู้จัดการเลย”

กู้ฉางฉิงขมวดคิ้ว มองเขาอย่างสับสน

“สรุปนี่คุณจะชมฉัน หรือตำหนิฉัน? ก่อนหน้านี้ฉันไม่เหมือน็จัดการหรือไง?”

เธอโต้แย้งอย่างไม่พอใจ ทว่าเฟิงจิงเหยาไม่ได้โต้ตอบกลับ

เพียงแต่รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาทว่าทรยศต่อความคิดในใจของเขา

กู้ฉางฉิงกัดฟัน จ้องมองเขาอย่างอารมณ์เสีย

ทำท่าทางเหมือนกระต่ายที่ต้องการจะกัดคน ทำให้เฟิงจิ่งเหยารู้สึกได้ถึงความน่ารักอย่างแปลกประหลาด

เขาอดไม่ได้ที่จะหยอกล้อ : “ทำไม? ฉันพูดจริงๆ คุณยังไม่พอใจอีก งั้นต่อไปฉันไม่พูดแล้ว”

กู้ฉางฉิงท้อใจ มองเขาด้วยความคับแค้นใจ พูดอย่างเศร้าๆว่า : “จริงๆเมื่อก่อนฉันแย่มากๆเลยใช่ไหม”

เฟิงจิงเหยาคาดไม่ถึงว่าคำพูดล้อเล่น จะทำให้สีหน้าของเธอเปลี่ยนไปในทันที

อันที่จริงว่ากันตามหลักคุณธรรมแล้ว เธอก็ดีมากๆแล้วจริงๆ

เขานึกถึงตรงนี้ อดไม่ได้ที่จะกระแอมเบาๆ พูดปลอบโยนว่า : “คุณอย่าคิดมากขนาดนั้นเลย ฉันก็แค่ล้อเล่น”

เวลานี้กู้ฉางฉิงมองเขาอย่างแปลกใจ ความประหลาดใจนี้ยังคงอยู่ในแววตา

ผู้ชายคนนี้คาดไม่ถึงว่าจะล้อเล่นเป็นด้วย?

เฟิงจิ่งเหยาดูเหมือนจะมองทะลุถึงความหมายฝนแววตาของเธอ ความไม่สบายใจก็ประกายบนใบหน้าเล็กน้อย

“รีบๆกินข้าว กินเสร็จก็พักผ่อนเร็วหน่อย พรุ่งนี้เป็นวันเกิดของคุณ คุณน่าจะยุ่ง”

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

Status: Ongoing
ก่อนแต่งงานแทนน้องสาวเข้าไปในตระกูลเฟิง กู้ฉางชิงได้ยินว่าเฟิงจิ่งเหยาเป็นคนที่เฉยเมย ต่อมาถึงได้รู้ว่าข่าวลือล้วนเป็นเรื่องโกหก คุณเฟิงไม่เพียงแต่ไม่เย็นชา กลับเป็นคนที่อบอุ่น แต่กระตือรือร้นเป็นพิเศษในการมีทายาท มีคนพูดเป่าหูต่อหน้าเขา “คุณเฟิง ก่อนคุณจะกลับประเทศ ในทุกๆคืนภรรยาของคุณจะไม่กลับบ้าน เพราะออกไปเมาข้างนอก” เฟิงจิ่งเหยา “หลังจากฉันกลับประเทศ ตอนค่ำภรรยาของฉันจะมาอยู่ที่ห้องฉัน ปรนนิบัติฉันไม่นอนทั้งคืน” มีคนพูดอีกว่า “ก่อนคุณจะกลับมา ภรรยาของคุณช้อปปิ้งทั้งวัน เปลี่ยนรถยี่ห้อหรูไม่หยุด แถมยังมีหนุ่มคอยอยู่เธอตลอดเวลา” เฟิงจิ่งเหยา พูดต่อว่า “หลังจากฉันกลับประเทศ บัตรเครดิตทุกใบของฉัน ฉันก็อยากให้ภรรยาฉันใช้ แต่เธอไม่ต้องการ ไปกลับจากที่ทำงานก็ให้ฉันไปรับแค่คนเดียว” สำหรับคนที่เย็นชา เมื่อมีภรรยาจะคลั่งรักเป็นพิเศษ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท