สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา – บทที่ 206 จะไม่มายุ่งเกี่ยวกับคุณอีกแล้ว

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

กู้ฉางฉิงมองไปยังเฟิงจิ่งเหยาอย่างเงียบๆ

เฟิงจิ่งเหยาไม่ได้สนใจสายตาของเธอ แต่นายท่านเฟิงกลับเห็น ดวงตาเคร่งขรึม

เห็นได้ชัดว่าคืนนี้ตระกูลหลูเตรียมการ และพวกเขายังเลือกเป็นพิเศษตอนวันเกิดของฉางซิน มีเจตนาแฝงชัดเจน

เกรงว่าจะไม่ต้องการให้ฉางซินผ่านวันเกิดไปดีๆ

เขาคิดถึงตรงนี้ ก็ไม่ได้มีความสุขกับคนของตระกูลลู่

โดยเฉพาะในใจของเขาที่ยังชัดเจนว่าตระกูลลู่ปรารถนาอยากได้ตระกูลเฟิงมาโดยตลอด อยากให้ลู่ซือหยี่แต่งงานเข้ามา แต่ไหนแต่ไรก็ค่อยๆตอดเข้ามาทีละน้อย

เดิมทีเขาก็คิดว่าจะให้จิ่งเหยาแต่งกับฉางซิน ก็สามารถทำให้พวกเขาตายใจ

คาดไม่ถึงว่าลู่ซือหยี่จะทำเรื่องที่ไม่รู้จักละอายต่อบาปแบบนั้น แม้กระทั่งตอนนี้ที่กำลังตั้งครรภ์อยู่!

ไม่ว่าจะยังไง เรื่องนี้ก็เกี่ยวข้องกับชื่อเสียงของสองตระกูล และต้องชี้แจ้งให้ฉางซินฟังอีกด้วย

ช่วงเวลาสักครู่นี้ นายท่านยังคิดไม่ออกว่ามีวิธีอะไรที่ดีเลยจริงๆ

เขากวาดสายตามองจิ่วเหยาที่สีหน้าเย็นชา ถือโอกาสโยนเรื่องนี้ให้เขาจัดการ

“เรื่องนี้ ฉันที่เป็นตาเฒ่าคนหนึ่งคงตัดสินใจไม่ได้ จิ่งเหยา คุณเป็นคู่กรณี คุณมาจัดการเถอะ”

เขาพูดจบ ก็คล้ายกับว่าไม่สนใจจริงๆ ยันไม้เท้าที่โซฟาแล้วหลับตาพักผ่อน

พ่อลู่คาดไม่ถึงว่านายท่านเฟิงทอดทิ้งไม่สนใจโดยตรง อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วขึ้นมา

เขาส่งซิกทางสายตาให้กับลู่ซือหยี่

ลู่ซือหยี่พยักหน้าแสดงออกว่าเข้าใจ ไม่นานก็กล่าวอย่างรู้สึกน้อยใจว่า คุณปู่เฟิง คุณไม่สนใจฉันจริงๆหรอ? เด็กในท้องของฉันเป็นเหลนคนแรกของตระกูลเฟิงนะ!”

เธอเน้นหนักที่ประโยคสุดท้าย ฟังแล้วเฟิงจิ่งเหยาก็หัวเราะเยาะออกมา

“ใช่ไม่ใช่เหลนก็ยังไม่แน่ใจ!”

ลู่ซือหยี่มองไปยังเขาอย่างตะลึงงัน ในดวงตาปรากฎรอยน้ำตาขึ้นมาชั่วพริบตา

“พี่จิ่งเหยา……..”

เฟิงจิ่งเกยาที่เดิมทีไม่ได้เคลื่อนไหว กล่าวอย่างเย็นชาต่อไปว่า: “อย่าว่าแต่คืนนั้นฉันไม่ได้แตะต้องตัวคุณเลย ถึงแม้ว่าคุณตั้งครรภ์จริงๆ เด็กคนนี้ใช่ลูกฉันไหมยังไม่แน่ใจเลย”

ลู่ซือหยี่ได้ฟังคำพูดที่ไร้เยื่อใยทำให้อับอายขายหน้านี้ของเขาแล้ว สีหน้าก็ซีดเผือด ในสายตาสับสนไปชั่วขณะ

“พี่จิ่งเหยา คุณไม่เชื่อใจฉันขนาดนี้เลยหรอ?”

เธอพูดพลาง ก็อดไม่ได้ที่จะร้องห่มร้องไห้ขึ้นมา: “ทำไมคุณทำกับฉันแบบนี้?”

เฟิงจิ่งเหยายิ้มเยาะ: “ทำไมน่ะหรอ? หรือว่าตัวคุณเองยังไม่รู้ชัดเจน? ก็รู้ชัดเจนว่าฉันมีนิสัยยังไง แล้วยังมาทำเรื่องที่หน้าไม่อายแบบนี้อีก คุณคิดว่าฉันควรจะใข้ท่าทียังไงกับคุณ พูดจริงๆแล้ว ฉันก็อยากรู้อย่างมากว่า ยังมีเรื่องอะไรที่คุณยังไม่ได้ทำออกมาอีก!”

ลู่ซือหยี่ฟังคำพูดท่อนนี้จบ สีหน้าก็กลืนไม่เข้าคายไม่ออกถึงที่สุด ในใจก็ยิ่งไม่ยินยอม

ทำไมพี่จิ่งเหยาต้องพูดกับเธอแบบนี้!

พ่อลู่แม่ลู่ได้ฟังคำพูดที่ทำให้อับอายขายหน้านี้แล้ว ก็ยิ่งโมโหไม่จบสิ้น

“จิ่งเหยา ทำไมคุณถึงพูดแบบนี้กับซือหยี่ล่ะ? ไม่ว่ายังไงเธอก็เติบโตมาด้วยกันกับคุณ ความคิดที่มีต่อคุณ คุณก็ไม่ใช่ว่าจะไม่รู้!”

แม่ลู่พยายามพูดเรื่องมิตรภาพนั้นที่มีต่อกัน

แต่เฟิงจิ่งเหยาไม่ยอมรับเลยสักนิด กระทั่งเย้ยหยัน

“คุณนายลู่ทัศนคติทั้งสามอย่างนี้ทำให้ฉันได้เปิดโลกกว้าง อย่าว่าแต่ฉันแต่งงานแล้ว รวมทั้งที่ฉันรู้ก็ต้องให้โอกาสเธอหรอ? แม้กระทั่งต้องอดทนกับกลอุบายที่ไม่เลือกของพวกคุณงั้นหรอ?”

ตามที่พูดคำนี้ออกไป คุณนายเฟิงก็ถูกตอกหน้าไม่เบา พูดโต้แย้งไม่ออกเลยสักคำ

ลู่ซือหยี่มองในสายตา ก็ยิ่งร้อนรนในหัวใจ

เธอกวาดสายตามองคนจำนวนมากอย่างไม่ทิ้งร่องรอย ในสายตามีรังสีของความคิดร้ายกับคนอื่น

“พี่จิ่งเหยา คุณไม่ต้องพูดแล้ว ฉันรู้แล้ว ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นฉันก็จะไปเอาเด็กคนนี้ออก ตั้งแต่นี้ต่อไป ฉันจะไม่มายุ่งเกี่ยวกับคุณอีกแล้ว”

เธอเอ่ยปากอย่างน้ำตาร่วง ท่าทีนั้นช่างน่าสมเพชเวทนา

กู้ฉางฉิงมองด้วยสายตาเย็นชา อดไม่ได้ที่จะปรบมือให้ผู้หญิงคนนี้

กลับกันคุณนายเฟิงกลับร้อนใจ

เธอรีบเดินไปยังข้างๆลู่ซือหยี่แล้วกล่าวปลอบโยนว่า: “ซือหยี่ คุณพูดอะไรโง่ๆ จิ่งเหยาไม่เชื่อคุณ ป้าเชื่อคุณ”

พูดจบ เธอก็เอียงหน้าที่ไม่พอใจกล่าวตำหนิเฟิงจิ่งเหยาว่า

“จิ่งเหยา คุณเป็นอะไร หรือลืมไปแล้วว่าตั้งแต่เด็กฉันสอนคุณว่ายังไง ตนเองทำเรื่องผิดพลาดก็ต้องรับผิดชอบ ถึงแม้ว่าเธอจะกระทำไม่ถูกต้อง แต่นี้ก็เป็นลูกคนแรกของคุณ”

เฟิงจิ่งเหยาที่ไม่ได้สนใจเลยแม้แต่น้อย พูดด้วยเสียงเคร่งขรึมว่า: “ลูกของฉันมีเพียงภรรยาของฉันเท่านั้นที่จะมีคุณสมบัติให้กำเนิดได้”

คุณนายเฟิงได้ยิน มองไปยังกู้ฉางฉิง กล่าวอย่างเหยียดหยามว่า: “คุณพูดว่าฉางซิน ไม่ใช่ฉันพูด ตั้งแต่คุณกลับมานี่ก็นานมากแล้ว ถึงตอนนี้ท้องของเธอยังไม่มีทีท่าเลย คุณดูซือหยี่สิ พลาดกับคุณเพียงครั้งเดียว ก็มีแล้ว ชัดเจนว่าเธอไม่สามารถให้กำเนิดได้”

กู้ฉางฉิงฟังคำพูดนี้ขอวเธอจบ ก็อยากจะหัวเราะจริงๆ

เธอไม่รู้ว่าคุณนายเฟิงพูดจาไม่ละอายแบบนี้ออกมาได้ยังไง

พูดว่าเธอไม่สามารถให้กำเนิดได้ หรือว่านี้ไม่ใช่เธอที่เป็นคนทำให้เสียหายหรอ?

เธอบ่นอยู่ในใจ ในเวลาเดียวกันก็เข้าใจเรื่องหนึ่งได้ทันที

เกรงว่านี่คือแผนการทุกสิ่งอย่างที่พวกเธอวางไว้นานแล้ว

และในเมื่อพวกเขาทำแบบนี้ เกรงว่าจะเป็นเพราะว่าก่อนหน้านี้พวกเธอทำยังไงก็ขับไล่เธอไปไม่ได้ เช่นนี้เลยคิดถึงเรื่องการตั้งครรภ์

ทั้งยังมีคุณนายเฟิงและลู่ซือหยี่ช่วยประสานกันนอกใน พอที่จะพูดได้ว่าราบรื่นไปได้ด้วยดี”

กู้ฉางฉิงคิดถึงตรงนี้แล้ว ในที่สุดก็ใจเย็นลงมาในที่สุด

เธอรู้ชัดเจน เด็กคนหนึ่งสำหรับตระกูลเฟิงแล้วมีความสำคัญมาก

ถึงแม้ว่านายท่านจะค่อนข้างลำเอียงไปทางกู้ฉางซิน ก็กลัวว่าจะลังเลใจ

และในความเป็นจริง ก็เหมือนกับที่เธอคิดจริงๆ ท่าทีของนายท่านที่ไม่สนใจตั้งแต่แรกก็เปลี่ยนเป็นลังเลใจขึ้นมา

เขามองกู้ฉางซินทีหนึ่ง แล้วก็มองเฟิงจิ่งเหยาทีหนึ่ง คล้อยตาลงแล้วกล่าวว่า: “เรื่องนี้เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ฉันเห็นว่าปรึกษาหารือแบบนี้ก็คงไม่ได้ผลลัพธ์ที่ดี แบบนี้ ควรจะให้ลู่ซือหยี่กลับไปพักผ่อนก่อน รอผ่านงานเลี้ยงคืนนี้ไปแล้ว แล้วค่อยทำการตัดสินใจอีกที”

พูดคำพูดนี้ออกมา นอกจากกู้ฉางฉิงและเฟิงจิ่งเหยา ใบหน้าของคนอื่นๆก็ไม่ยินยอมทั้งสิ้น

โดยเฉพาะแม่ลู่ อดไม่ได้ที่จะโต้แย้ง: “รอให้ผ่านวันนี้ไป ถ้าหากว่าพวกคุณไม่ยอมรับจะทำยังไงล่ะ?”

คุณนายเฟิงก็พูดคล้อยตาม

“ใช่ พ่อ เดิมทีจิ่งเหยาก็ไม่มองซือหยี่อยู่แล้ว ถ้า……”

เธอยังไม่ทันพูดจบ ก็ถูกนายท่านเฟิงจ้องมองตัดบท

“แต่พวกคุณเคยคิดไหมว่าคืนนี้เป็นวันเกิดของฉางซิน?”

คำพูดตอกหน้าคุณนายเฟิง นายท่านเฟิงไม่สนใจเธอมองไปยังลู่ซือหยี่

“คุณมีความคิดเห็นไหมกับการจัดการของตาเฒ่า?”

ลู่ซือหยี่ได้ยิน ต่อให้มีความคิดเห็นในใจ ก็สามารถทำได้เพียงพูดว่าไม่มีความคิดเห็น

นายท่านเฟิงเห็นว่าเธอยังรู้จักวางตัว ก็พยักหน้าอย่างพอใจ

เมื่อเขากำลังจะเอ่ยปากอยากพูดอะไร เฟิงจิ่งเหยามองไปรอบๆแล้วก็ยิ้มเยาะ

“คุณปู่ ไม่จำเป็นต้องยุ่งยากขนาดนี้หรอก”

เขาพูดจบ คนทั้งหลายก็มองไปยังเขาอย่างไม่เข้าใจ

“จิ่งเหยา คุณอยากจะพูดอะไร?”

เฟิงซู่ขมวดคิ้วซักถาม

เฟิงจิ่งเหยากล่าวอย่างเหยียดหยามว่า: “ก็ไม่ใช่บอกว่าเด็กได้สามสัปดาห์แล้วไม่ใช่หรอ? งั้นก็รออีกสามสัปดาห์ ถึงเวลาก็ตรวจเลือดให้แน่ใจ ว่าใช่ลูกของฉันไหม ตรวจก็รู้แล้ว”

เขาพูดถึงตรงนี้ ตาทั้งคู่จ้องมองลู่ซือหยี่อย่างเคร่งขรึม กล่าวว่า: “ถึงเวลาฉันจะเฝ้าดูการตรวจสอบด้วยตนเอง!”

ลู่ซือหยี่ถูกความเยือกเย็นในสายตาทำให้ตกใจ เวลาเดียวกันก้นบึ้งของหัวใจก็สับสน

เธอมองไปยังคุณนายเฟิงอย่างหมดหนทาง แต่ทว่าคุณนายเฟิงกลับไม่เห็น

เวลานี้เธอกำลังมองไปยังเฟิงจิ่งเหยาอย่างตะลึงงัน คาดไม่ถึงเลยว่าเขาจะพูดแบบนี้ออกมา

พอดีเธอขมวดคิ้วอยากจะโต้แย้ง แต่เฟิงจิ่งเหยาไม่ให้โอกาสเธอ

“พวกเราไปล่ะ!”

เขาดึงกู้ฉางฉิงออกไปโดยไม่หันกลับมามอง

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

Status: Ongoing
ก่อนแต่งงานแทนน้องสาวเข้าไปในตระกูลเฟิง กู้ฉางชิงได้ยินว่าเฟิงจิ่งเหยาเป็นคนที่เฉยเมย ต่อมาถึงได้รู้ว่าข่าวลือล้วนเป็นเรื่องโกหก คุณเฟิงไม่เพียงแต่ไม่เย็นชา กลับเป็นคนที่อบอุ่น แต่กระตือรือร้นเป็นพิเศษในการมีทายาท มีคนพูดเป่าหูต่อหน้าเขา “คุณเฟิง ก่อนคุณจะกลับประเทศ ในทุกๆคืนภรรยาของคุณจะไม่กลับบ้าน เพราะออกไปเมาข้างนอก” เฟิงจิ่งเหยา “หลังจากฉันกลับประเทศ ตอนค่ำภรรยาของฉันจะมาอยู่ที่ห้องฉัน ปรนนิบัติฉันไม่นอนทั้งคืน” มีคนพูดอีกว่า “ก่อนคุณจะกลับมา ภรรยาของคุณช้อปปิ้งทั้งวัน เปลี่ยนรถยี่ห้อหรูไม่หยุด แถมยังมีหนุ่มคอยอยู่เธอตลอดเวลา” เฟิงจิ่งเหยา พูดต่อว่า “หลังจากฉันกลับประเทศ บัตรเครดิตทุกใบของฉัน ฉันก็อยากให้ภรรยาฉันใช้ แต่เธอไม่ต้องการ ไปกลับจากที่ทำงานก็ให้ฉันไปรับแค่คนเดียว” สำหรับคนที่เย็นชา เมื่อมีภรรยาจะคลั่งรักเป็นพิเศษ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท