เฟิงจิ่งเกยาเห็นตาทั้งคู่ของกู้ฉางฉิงที่มองตนเองอย่างงุนงง อดไม่ได้ที่จะโน้มตัวไปข้างหน้าแล้วเขี่ยจมูกเธอเบาๆ
“ไม่ได้บอกว่าหิวหรอกหรอ? หรือว่ามองฉันก็อิ่มแล้ว?”
กู้ฉางฉิงดึงสติกลับมา กระพริบตาแล้วมองผู้ชายที่หยอกล้อกับเธออยู่ตรงหน้า ระงับอารมณ์ภายในใจ
“เฟิงจิ่งเหยา ทำเมื่อก่อนดูไม่ออกเลยว่าคุณหลงตัวเองขนาดนี้?”
เธอเอ่ยปากหยอกล้อ หลังจากนนั้นก็ก้มหน้ารับประทานอาหารปิดบังความรักในสายตาของเธอ
เฟิงจิ่งเหยาเลิกคิ้ว ทันใดก็พบว่าผู้หญิงคนนี้ยิ่งเป็นกันเองขึ้นทุกวันเมื่ออยู่ต่อหน้าเขา
คาดไม่ถึงว่าเมื่อก่อนเธอจะไม่เคยพูดคุยกับเขาแบบนี้
เขาคิดแบบนี้พลาง ในใจก็มีความชอบอย่างไม่สามารถอธิบายได้
“หลงตัวเองก็ต้องดูคนด้วย”
เขาส่ายแก้วเหล้าในมือ ลวนลามกู้ฉางฉิงอย่างกึ่งยิ้มกึ่งไม่ยิ้ม
กู้ฉางฉิงถูกเขาพูดตลกขบขันอย่างหน้าไม่อายนี้ ก็เอะอะโวยวายกับเขาขึ้นมา
พูดได้ว่า อาหารมื้อนี้ คนทั้งสองทานกันอย่างมีความสุขมาก ด้วยเหตุนี้กู้ฉางฉิงก็ดื่มเหล้าไปไม่น้อย บนทางที่กลับไป คนก็เบาเหมือนลอย
เฟิงจิ่งเหยามองกู้ฉางฉิงโซซัดโซเซลงจากรถ ขมวดคิ้วเล็กน้อย เข้าไปด้านหน้าประคองเธอเบาๆแล้วพุดว่า: “คุณเดินไหวไหม?”
กู้ฉางฉิงมองเขาด้วยสติที่เลอะเลือน อมยิ้มแล้วพยักหน้า: “สบายใจได้ ฉันเดินได้ ไม่ว่ายังไงก็เรียนรู้การเดินมายี่สิบกว่าปีแล้ว”
เธอพูดพลาง ก็ดิ้นออกจากเฟิงจิ่งเหยา ก้าวฝีเท้าอย่างเลื่อนลอยเดินไปยังห้อง
เฟิงจิ่งเหยาเดินตามเธอไปด้านหลัง เห็นภาพที่โอนไปเอนมาของเธอ รวมถึงคำพูดที่ไม่มีสมองเมื่อกี้ของเธอ ในสายตาก็เต็มไปด้วยรอยยิ้มที่เอ็นดู
เพียงแต่ เธอไม่ได้เห็น เขาเดินตามกู้ฉางฉิงเข้าไปในห้อง
ก็ไม่รู้ว่าเพราะเกี่ยวกับกู้ฉางฉิงดื่มจนเมาหรือดีใจจนเกินไป เธอเดินไปถึงข้างเตียง หันหลังให้เฟิงจิ่งเหยา ก็เริ่มเปลี่ยนเสื้อผ้าโดยตรง
ถอดชุดที่สวยงามออกไป ปรากฎให้เห็นหลังที่สวยงามไร้ที่ติของเธอ เอวเล็กๆขาที่เรียวยิ่งทำให้เฟิงจิ่งเหยามองแล้วก็คอเกร็ง
สายตาของเขาจ้องมองกู้ฉางฉิงอย่างเงียบๆ คล้ายกับนายพรานมองเล็งเหยื่อ
บังเอิญฉางฉิงไม่ได้สังเกตเห็นเลยสักนิด หลังจากถอดชุดออกไปแล้ว ก็เดินไปยังห้องน้ำอย่างสติเลอะเลือน
ใครจะรู้ว่า เพิ่งเดินออกไปเพียงก้าวเดียว ก็ถูกชุดที่เท้าพัน คนจึงเอียงไปยังด้านหน้า
เมื่อเห็นว่าเธอกำลังจะสัมผัสกับพื้นโลกอย่างใกล้ชิด แขนคู่หนึ่งก็ปรากฏขึ้นเพื่อช่วยเธอได้ทันเวลา
“ขอบคุณ……”
กู้ฉางฉิงที่เมายิ้มมุมปากแล้วกล่าวขอบคุณด้วยจิตสำนึก แต่ไม่รู้ว่าเวลานี้สภาพหลังจากที่เธอเมามันดึงดูดคนมากแค่ไหน
ชายตามองด้วยความเสน่หา แก้มสีแดงราวกับลูกพีช ทำให้คนอดไม่ได้ที่อยากจะกัดสักคำหนึ่ง
โดยเฉพาะริมฝีปากแดงระเรื่อที่ส่งกลิ่นอายอันหอมหวานนั้น รวมกับแอลกอฮอล์เล็กน้อย ถึงแม้ว่าเฟิงจิ่งเหยาจะไม่ได้เมา เวลานี้ก็อดไม่ได้ที่จะเคลิบเคลิ้ม
เขารู้สึกเพียงว่าร่างกายมีสัจว์ดุร้ายอะไรปลุกให้ตื่นตัว อยากจะนำผู้หญิงที่มีเสน่ห์ยั่วยวนคนนี้ฉีกกินลงท้องไป
แน่นอน ฉันก็ทำเช่นนั้น
พบว่าเขาอุ้มกู้ฉางฉิงเข้าไปในห้องน้ำ ชำระล้างอย่างง่ายๆรอบหนึ่ง แล้วอุ้มคนออกมาวางลงบนเตียงอย่างไม่รีรอ ไม่นานก็เล่นงานลงไป
กู้ฉางฉิงที่เมารู้สึกเพียงว่าบนร่างกายคล้ายกับโดนลุกไหม้ เร่าร้อนอย่างไม่มีอะไรเปรียบ
เธอยึดติดอยู่กับร่างกายที่เย็นสบายของเฟิงจิ่งเหยา คล้อยตามการกระทำของเขาโดยไม่ได้ตั้งใจ ทำให้เฟิงจิ่งเหยาที่เติมทีมีความต้องการจนยากที่ตะอดทนยิ่งเพิ่มความบ้าคลั่ง
ตลอดทั้งคืน เขาต้องการกู้ฉางฉิงอย่างบ้าคลั่ง จนกระทั่งท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีขาว จึงโอบกอดกู้ฉางฉิงที่เหนื่อยสลบหลับไป
คนทั้งสองโอบกอดกันหลับไป กู้ฉางฉิงเหมือนกับแมวที่สนองความต้องการ ขดอยู่ในอ้อมกอดของเขาหลับไปอย่างมีความสุข
……
วันต่อมา ในความสะลึมสะลือของกู้ฉางฉิงก็สังเกตเห็นการกระทำของคนที่อยู่ข้างๆ ลืมตาอย่างยากลำบาก สติยังไม่กลับมา หูก็ได้ยินเสียงที่อ่อนโยนเสียงหนึ่งดังขึ้น
“ฉันไปบริษัท วันนี้คุณอยู่บ้านพักผ่อนนะ”
กู้ฉางฉิงค่อยๆโต้ตอบกลับมาอย่างช้าๆ ก็ไม่ได้ปฏิเสธ พยักหน้า บนใบหน้ายังมีความเขินอายเล็กน้อย
ถึงแม้ว่าเมื่อคืนวานเธอจะเมาเลอะเลือน เพียงแต่ก็ยังคงจำภาพได้อย่างเลือนลางเล็กน้อย
เฟิงจิ่งเหยาเห็นความมีเสน่ห์แบบนี้โดยธรรมชาติ สายตาก็ลึกซึ้ง แฝงไปด้วยการควบคุมกล่าวกระซิบว่า: “ฉันไปแล้ว อย่าลืมทานข้าว”
พูดจบ เขาก็หันตัวออกไป
กู้ฉางฉิงเห็นเงาด้านหลังของเขาออกไป ในใจก็เหมือนถูกยัดเต็มไปด้วยปุยฝ้าย หวานชื่นฉ่ำ
เพียงแต่ความรู้สึกดีๆนี้ไม่สามารถรักษาไว้ได้นาน
เมื่อเธอลงมารับประทานอาหาร พ่อบ้านก็เดินเข้ามา
“คุณนายรอง คุณนายมา”
เขาพูดพลาง มองกู้ฉางฉิงอย่างลังเล
กู้ฉางฉิงงุนงง: “มีอะไรหรอ?”
กำลังถาม เธอก็เห็นด้านหลังของพ่อบ้าน คุณนายเฟิงพาลู่ซือหยี่เดินเข้ามา และด้านข้างคนทั้งสองก็ยังมีคนรับใช้ที่ถือกระเป๋าสัมภาระ
เธอเห็นแล้ว เลิกคิ้วขึ้น เดาได้เลยว่าเพราะอะไรพ่อบ้านถึงลังเล
“คุณไปทำงานก่อนเถอะ”
เธอให้พ่อบ้านออกไป แล้วจึงลุกขึ้นเดินจากห้องอาหารออกไปทักทาย
“แม่ ทำไมมาเช้าแบบนี้ มีเรื่องอะไรหรอ?”
เธอพูดพลาง คล้ายกับมองลู่ซือหยี่ กล่าวอย่างเมินเฉยห่างเหินว่า: “คุณลู่”
ลู่ซือหยี่ไม่ได้สนใจเธอแม้แต่น้อย เอียงหน้าไปมองคุณนายเฟิง
คุณนายเฟิงสังเกตเห็นถึงสายตาของเธอ ยิ้มอย่างเต็มไปด้วยความเอ็นดู แต่เมื่อมองไปยังกู้ฉางฉิง เต็มไปด้วยความรังเกียจ
“วันนี้ที่เข้ามา คือจะมาบอกคุณว่า นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ซือหยี่จะมาอยู่ที่นี่”
กู้ฉางฉิงที่เดิมทีเดาไว้แล้ว แต่พอได้ฟังเธอพูดออกมาจริงๆ ก็อดไม่ได้ที่จะชักสีหน้า
“แม่ เกรงว่าจะไหมดีหรือเปล่า?”
คุณนายเฟิงร้องเชอะเบาๆ กล่าวโต้แย้งว่า: “มีอะไรที่ไม่ดีหรอ? ขณะนี้ซือหยี่กำลังตั้งท้องลูกของจิ่งเหยาอยู่ เป็นธรรมดาที่ต้องอยู่ที่นี่”
เธอพูดพลาง ก็ไม่ได้สนใจหน้าที่มืดมนของกู้ฉางฉิง เอียงหน้าไปกำชับคุณอาหวางว่า: “ไปจัดเก็บห้องรับแขกห้องหนึ่ง เอาข้าวของของซือหยี่ย้ายเข้าไป”
“ครับ”
คุณอาหวางรับคำสั่ง กวักมือต้องการจะพาสาวใช้ขึ้นไป
กู้ฉางฉิงมองการกระทำของพวกเขา สีหน้าดำคล้ำจนไม่สามารถคล้ำได้อีก
“หยุด!”
เธอเข้าไปขัดขวางทางที่พ่อบ้านหวังจะไป มองไปยังคุณนายเฟิงอย่างเผด็จการ
“แม่ คุณต้องการให้คุณลู่อยู่ที่ตระกูลเฟิง ฉันก็ไม่มีความคิดเห็น แต่นี่เป็นสถานที่ของฉันกับจิ่งเหยา ฉันไม่อนุญาตให้คนอื่นเข้ามาอยู่”
คุณนายเฟิงเห็นเช่นนี้ ก็โมโหขึ้นมาทันที
พอดีเธอกำลังวางแผยที่จะใช้เด็กเพื่อพูดเรื่องราวอีกครั้ง กู้ฉางฉิงก็คล้ายกับว่าจะมองออก ชิงกล่าวตัดหน้าว่า: “จะว่าไป เกี่ยวกับเรื่องของเด็ก อย่าว่าแต่ใช่หรือไม่ใช่ลูกของจิ่งเหยาเลย ถึงแม้ว่าจะเป็นจริง ตอนนี้ฉันก็เป็นเมียแต่งของจิ่งเหยา ไม่ยอมให้คนอื่นมารุกราน!”
เธอพูดจบ สายตาก็มองไปยังลู่ซือหยี่อย่างดุดัน ในสายตาเต็มไปด้วยการดูถูก
ลู่ซือหยี่ก็สามารถเห็นได้ ก็โมโหขึ้นมาทันที
คาดไม่ถึงว่าผู้หญิงคนนี้จะกล้ามองเธอแบบนี้ มองเธอว่าจะสั่งสอนเธอยังไง
เธอคิดพลางกัดเขี้ยวเคี้ยวฟัน แต่บนใบหน้าไม่ชัดเจน จนกระทั่งแสร้งทำเป็นน้อยใจเอ่ยปากพูดกับคุณนายเฟิงว่า: “คุณป้า ฉันบอกแล้วว่าคุณกู้คงไม่เห็นด้วยหรอก ฉันคิดว่าช่างมัน ให้ฉันกลับไปอยู่ที่บ้านเถอะ จะได้ไม่ถูกคนดูถูก”
คุณเฟิงได้ฟังคำพูดของเธอ ก็มองไปในสายตาของกู้ฉางฉิงที่ยังไม่ทันได้เก็บซ่อนการดูถูก กล่าวตำหนิอย่างโมโหทันที
“กู้ฉางซิน สายตาของคุณนั้นคืออะไร? ฉันจะบอกคุณให้นะ วันนี้คุณไม่เห็นด้วยก็ต้องให้ฉันเห็นด้วย คุณไม่สามารถให้กำเนิดได้เอง แล้วยังมีหน้ามาตำหนิคนอื่นอีกหรอ? ฉันจะเตือนสติคุณให้นะ ถ้าคุณกล้าลงไม้ลงมืออะไรกับซือหยี่ ทำร้ายไปถึงเด็ก ฉันจะทำให้คุณตายทั้งเป็น!”
กู้ฉางฉิงได้ฟังเรื่องที่ตนเองไม่สามารถให้กำเนิดได้มาพูดอีกครั้ง ก็โกรธเคือง
“ในเมื่อแม่ยึดมั่นในความคิดตนเองเช่นนี้ ฉันก็ไม่สนใจแล้ว ถึงอย่างไรเมื่อถึงเวลาคนที่ขายหน้าก็ไม่ใช่ฉัน!”
เธอพูดจบ ก็หันตัวกลับห้องไป