สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา – บทที่ 209 เธอท้องจริงๆ

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

ลู่ซือหยี่สะบัดแขนเสื้อกู้ฉางฉิงแล้วจากไป ในแววตาเต็มไปด้วยความลำพองใจ

กู้ฉางซิน นี่ก็รับไม่ได้แล้วหรอ? คุณก็ยังคงต้องทนรับต่อไป!

เธอคิดหักห้ามใจ ทว่าสีหน้าก็กังวลใจกับคำพูดนี้ของคุณนายเฟิง

“คุณน้าหมิง เข้ามาพักอยู่เช่นนี้จะไม่ดีนะ ถ้าพี่จิ่งเหยาโกรธจะทำยังไง?”

คุณนายเฟิงเห็นสีหน้าเธอกังวลใจ ก็พูดปลอบโยนว่า : “ไม่เป็นไร ถ้าเขากล้ามาทำร้ายคุณ น้าหมิงจะช่วยคุณจัดการเขาเอง”

ลู่ซือหยี่ได้ยิน สีหน้าก็ดีอกดีใจ จับจูงคุณนายเฟิงเพื่อออดอ้อนไม่หยุด

“คุณน้าหมิง คุณดีกับฉันจริงๆ”

ในห้อง กู้ฉางฉิงไม่ได้ยินการสนทนาระหว่างสองคน แต่ความรู้สึกยังคงย่ำแย่เหมือนเดิม

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวนอกประตู ก็ยิ่งไม่อยากอยู่ในบ้านเลย

เมื่อคิดเช่นนี้ เธอก็เคลื่อนย้าย

เธอไม่ทานแม้แต่ข้าวกลางวัน ตรงไปที่บริษัทเลย

ไม่คาดคิดว่าจะพบกับเฟิงจิ่งเหยาที่เพิ่งประชุมเสร็จมาเมื่อกี้นี้

“คุณมาได้อย่างไร?”

เขาเห็นกู้ฉางฉิงก็ขมวดคิ้วถาม

กู้ฉางฉิงมองไปรอบๆด้วยสายตาแปลกประหลาด นึกถึงเรื่องในบ้าน ก็เม้มปากพูดว่า : “ไปคุยกันที่ห้องทำงานเถอะ”

เฟิงจิ่งเหยาเห็นเช่นนี้ ก็ตามไปโดยไม่พูดอะไร

ทุกคนต่างสงสัยเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองคนเป็นอย่างมาก มีคนใจกล้าเดินเข้าไปถามหลี่ม่าน

“ผู้จัดการใหญ่ ผู้จัดการกู้กับท่านประธานมีความสัมพันธ์อะไรกัน ทำไมพวกเขาถึงดูสนิทสนมกันมาก?”

คำพูดของเธอจบลง คนโดยรอบก็หูผึ่ง

หลี่ม่านกวาดสายตาไปที่พวกเธอ จะไม่รู้ได้ยังไงว่าพวกเธอกำลังคิดอะไรอยู่ พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า : “คุณไม่รู้หรอว่าเดิมทีท่านประธานเชิญกู้ฉางฉิงมาเป็นการส่วนตัว? พวกคุณยังคงมีเวลามาซุบซิบนินทาอยู่ที่นี่ งานของวันนี้เสร็จแล้วใช่ไหม?”

คำนี้พูดออกมา ทุกคนก็ประหลาดใจ

พวกเขาไม่รู้จริงๆว่ากู้ฉางฉิงได้รับเชิญจากประธานเป็นการส่วนตัว กลุ่มคนมองหน้ากัน ไม่นานก็เห็นว่าสีหน้าของผู้จัดการใหญ่ดูไม่ดี ฉับพลันก็กระจัดกระจายกลายเป็นนกแตกรัง ทุกๆคนก็กลับไปทำงาน

ในเวลาเดียวกัน ที่ห้องทำงานท่านประธาน กู้ฉางฉิงบอกว่าเกิดอะไรขึ้นที่บ้าน

“ฉันจนปัญญาที่จะขัดขวาง ลู่ซือหยี่ได้ย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านใหม่แล้ว คุณว่าจะต้องจัดการอย่างไรดี?”

เธอถามด้วยน้ำเสียงหม่นหมอง สายตาจับจ้องไปที่เฟิงจิ่งเหยา

แต่สีหน้าของเฟิงของเฟิงจิ่งเหยาเคร่งขรึม

พูดได้ว่า เขาไม่เคยคิดว่าแม่ของตนจะทำสิ่งที่ไร้สาระเช่นนี้

“ฉันรู้แล้ว เรื่องนี้ฉันจัดการได้”

เขาสีหน้าบึ้งตึง ใบหน้าไม่แสดงอาการ ทำให้คนมองความคิดในใจไม่ออก

กู้ฉางฉิงเห็นเช่นนั้น ก็บอกไม่ได้ว่าในใจคิดอะไร รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย

เป็นธรรมดาที่เฟิงจิ่งเหยาสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ของเธอ ก็เดาได้ว่าเมื่อเช้าที่แม่มา เกรงว่าพูดอะไรไร้สาระมากมาย

“คุณน้อยใจ”

เขามองไปที่กู้ฉางฉิงอย่างเจ็บปวดใจเล็กน้อย

กู้ฉางฉิงได้ฟังคำพูดนี้ เดิมทีที่ค่อนข้างอึดอัดใจ ฉับพลันก็รู้สึกดีขึ้นมาก

ทั้งสองไม่ได้พูดเรื่องครอบครัวหลังจากนั้น และคุยเรื่องบริษัทสองสามประโยค ชวี่ยี่มาเตือนเฟิงจิ่งเหยาว่าการประชุมที่สำนักงานใหญ่กำลังจะเริ่มขึ้น

พร้อมกับเฟิงจิ่งเหยาออกไป กู้ฉางฉิงก็กลับไปที่ห้องทำงานของผู้จัดการ รู้สึกว่าก็ควรจะบอกทางด้านกู้หงเซินนั้นด้วย

พอดีกับหยิบโทรศัพท์ออกมา กู้หงเซินก็โทรเข้ามา

“สถานการณ์ของลู่ซือหยี่คืออะไร ทำไมถึงเข้าไปอยู่ในบ้านของคุณกับเฟิงจิ่งเหยา”

ทันทีที่รับสาย เขาก็รีบถามออกมาสองสามคำถามเลย

กู้ฉางฉิงเลิกคิ้ว ค่อนข้างเล็กน้อยแปลกใจที่คนๆนี้รู้เรื่องนี้แล้ว

เพียงแต่เธอเปลี่ยนความคิดแล้ว ก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันน่าแปลกใจอะไร ถึงอย่างไรเรื่องนี้ก็เกี่ยวกับอนาคตของกู้ฮางซิน เขาจะไม่สนใจได้อย่างไร

คิดอย่างนี้แล้ว เธอก็พูดเรื่องการตั้งท้องของลู่ซือหยี่ออกมา

“อย่างที่คุณเห็น เพราะว่ากู้ฉางซินไม่สามารถตั้งท้องได้ ตอนนี้เลยถูกคนเอาเปรียบ ตั้งท้องไปแล้ว”

กู้หงเซินได้ฟังคำพูดนี้ สีหน้าก็เคร่งขรึมทันที

“คงไม่ใช่ว่าลู่ซือหยี่ท้องลูกของเฟิงจิ่งเหยาจริงๆใช่ไหม?”

กู้ฉางฉิงยักไหล่ : “อันนี้ฉันก็ไม่แน่ใจ”

เธอพูดจบ ดูเหมือนว่าคิดอะไรได้ จึงพูดต่อว่า : “ถ้าคุณอยากรู้ก็ไปตรวจสอบดูน่าจะดีกว่า”

กู้หงเซินทำเสียงไม่พอใจ : “เป็นธรรมดาที่ฉันจะต้องตรวจสอบ ก่อนหน้านี้ คุณทำให้เฟิงจิ่งเหยามั่นคงเพื่อฉันน่าจะดีที่สุด”

กู้ฉางฉิงเม้มปาก ยังไม่รอให้เธอตอบกลับ ทางด้านกู้หงเซินก็วางสายไป

เธอมองโทรศัพท์ที่วางสายไป ขมวดคิ้วแน่น หงุดหงิดในใจ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากเลิกงาน ต้องอยู่ร่วมชายคาเดียวกันกับลู่ซือหยี่ ก็เหมือนกับนึกถึงการกินทุเรียน ก็คลื่นไส้ขยะแขยงไม่หยุด

ใกล้จะเลิกงาน เธอยังคิดไม่ออกว่าตอนเย็นจะแยกลู่ซือหยี่ออกไปได้อย่างไร ที่จะทำให้เธอไม่อยู่เกะกะต่อหน้าตนเอง

กำลังคิดๆอยู่ โทรศัพท์ข้างๆก็ดังขึ้นอีกครั้ง

เธอกวาดสายตาไป เป็นเฟิงจิ่งเหยาโทรเข้ามา ก็เลยรับสาย

“มีอะไรหรอ?”

เธอถามเสียงเบาๆ ไม่นานก็จำเสียงเย็นชาของเฟิงจิ่งเหยาได้

“ทำงานเสร็จหรือยัง?”

“เสร็จแล้ว”

กู้ฉางฉิงตอบกลับ กำลังจะถามเขาว่ามีอะไร ก็ได้ยินเขาพูดต่อว่า : “ลงมาชั้นล่าง ฉันรอคุณอยู่ที่ทางแยก”

พูดจบ เฟิงจิ่งเหยาก็วางสายไป

กู้ฉางฉิงสงสัย แต่ก็เก็บของแล้วออกจากบริษัทไป

เธอไปหาเฟิงจิ่งเหยาที่ทางแยก แล้วก็ขึ้นรถไป

เฟิงจิ่งเหยารอให้เธอนั่งดีแล้ว ก็สตาร์ทรถแล้วออกไป

จากนั้นกู้ฉางฉิงก็พบว่าเส้นทางนี้ไม่ได้กลับไปที่ตระกูลเฟิง ก็ถามด้วยความประหลาดใจว่า : “นี่เราจะไปไหนกัน?”

“เดี๋ยวถึงก็รู้เอง”

เฟิงจิ่งเหยากวาดสายตาไปมองเธอ ตอบกลับด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม

กู้ฉางฉิงเห็นว่าเขาลึกลับขนาดนี้ ก็ไม่ได้ถามมากมายอีก เอนหลังบนเก้าอี้หลับตาพักผ่อน

ก็ไม่รู้ว่านานแค่ไหน เธอถูกเฟิงจิ่งเหยาเรียกให้ลุกขึ้น

“ทำไมมาที่ทะเลล่ะ?”

เธอมองเห็นน้ำทะเลสีครามนอกหน้าต่างรถ ก็ถามอย่างแปลกใจ

“ฉันมีคฤหาสน์อยู่ที่นี่ ช่วงนี้เราจะมาอยู่ที่นี่กัน”

เฟิงจิ่งเหยาตอบเสร็จ ในเวลาเดียวกันก็ปลดเข็มขัดนิรภัยแล้วลงจากรถ

กู้ฉางฉิงตกตะลึงเล็กน้อย ท้ายที่สุดก็เข้าใจความหมายของเขา

คุณนายเฟิงอยากให้ลู่ซือหยี่เข้ามาอยู่ด้วย ใช้โอกาสนี้ปลูกฝังความสัมพันธ์ให้คนทั้งสอง

เกรงว่าเธอจะคาดไม่ถึงว่าเฟิงจิ่งเหยาจะย้ายออกมาโดยตรง

เธอคิดถึงตรงนี้ ก็อดยิ้มมุมปากไม่ได้

……

และในเวลาเดียวกันนี้ ที่บ้านใหม่ของตระกูลเฟิง

ตั้งแต่ลู่ซือหยี่มาตั้งรกรากที่นี่ ก็ทำท่าทำทางเหมือนเป็นนายหญิงคนหนึ่ง สั่งให้คนรับใช้ทำอาหารขึ้นโต๊ะ

เธอคิดว่ารอให้เฟิงจิ่งเหยากลับมา จะได้อวดด้านที่อ่อนโยนและสง่างามของตนเองต่อหน้าเขา

แต่เธอจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว จนฟ้ามืดแล้ว เฟิงจิ่งเหยาก็ยังไม่กลับมา แล้วกู้ฉางฉิงก็ด้วย

เธอสีหน้าเคร่งขรึมอยู่ที่ห้องรับแขก อดไม่ได้ที่จะติดต่อเฟิงจิ่งเหยา

แต่โทรศัพท์ดังขึ้น ทว่าไม่มีคนรับสาย โทรซ้ำกี่ครั้ง เธอเดาได้ว่านี่คือเฟิงจิงเหยาจงใจหลบเลี่ยงเธอ

เธอคิดถึงจุดนี้ ด็โกรธมากจนแทบจะทุบโทรศัพท์ทิ้ง แต่มองเห็นคนรับใช้รอบๆ เพื่อไม่ให้พวกเธอเล่าต่อๆไปจนถึงเฟิงจิ่งเหยา เธอก็อดกลั้นความโกรธไว้ ท้ายที่สุดก็โทรไปหาคุณนายเฟิง

“คุณน้าหมิง ตอนนี้พี่จิ่งเหยายังไม่กลับมาเลย ไม่ใช่ว่าเขาไม่ต้องการเห็นฉันใช่ไหม มิฉะนั้นฉันกลับไปน่าจะดีกว่า”

เธอทำวิธีเดิมอีกครั้ง ถอยมาเพื่อชนะใจให้คุณนายเฟิงออกหน้าแทนเธอ

“ซือหยี่ คุณอย่างร้องไห้เลย ระวังเด็กด้วย ส่วนพี่จิ่งเหยาของคุณ คุณน้าจะไปพูดให้ รับรองว่าคืนนี้เขาต้องกลับมาอย่างเชื่อฟัง”

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

Status: Ongoing
ก่อนแต่งงานแทนน้องสาวเข้าไปในตระกูลเฟิง กู้ฉางชิงได้ยินว่าเฟิงจิ่งเหยาเป็นคนที่เฉยเมย ต่อมาถึงได้รู้ว่าข่าวลือล้วนเป็นเรื่องโกหก คุณเฟิงไม่เพียงแต่ไม่เย็นชา กลับเป็นคนที่อบอุ่น แต่กระตือรือร้นเป็นพิเศษในการมีทายาท มีคนพูดเป่าหูต่อหน้าเขา “คุณเฟิง ก่อนคุณจะกลับประเทศ ในทุกๆคืนภรรยาของคุณจะไม่กลับบ้าน เพราะออกไปเมาข้างนอก” เฟิงจิ่งเหยา “หลังจากฉันกลับประเทศ ตอนค่ำภรรยาของฉันจะมาอยู่ที่ห้องฉัน ปรนนิบัติฉันไม่นอนทั้งคืน” มีคนพูดอีกว่า “ก่อนคุณจะกลับมา ภรรยาของคุณช้อปปิ้งทั้งวัน เปลี่ยนรถยี่ห้อหรูไม่หยุด แถมยังมีหนุ่มคอยอยู่เธอตลอดเวลา” เฟิงจิ่งเหยา พูดต่อว่า “หลังจากฉันกลับประเทศ บัตรเครดิตทุกใบของฉัน ฉันก็อยากให้ภรรยาฉันใช้ แต่เธอไม่ต้องการ ไปกลับจากที่ทำงานก็ให้ฉันไปรับแค่คนเดียว” สำหรับคนที่เย็นชา เมื่อมีภรรยาจะคลั่งรักเป็นพิเศษ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท