กู้ฉางฉิงไม่รู้ด้วยซ้ำเกี่ยวกับการจัดการเหล่านี้ของเฟิงจิ่งเหยา หลังจากกินยาแล้ว ก็สะลึทสะลือนอนหลับไป
เวลาเที่ยง เธอตื่นขึ้นมาอีกครั้ง แต่ยังไม่สบายมากเหมือนเดิม มึนงงไปหมด ความแดงบนใบหน้าไม่ได้ลดลงเลยแม้แต่น้อย
เฟิงจิ่งเหยาขมวดคิ้วมอง ใช้มือลองจับอุณหภูมิร่างกายของเธอ ถึงแม้จะไม่ได้ร้อนขนาดตอนเช้า แต่ยังคงตัวร้อนอยู่
กู้ฉางฉิงรู้สึกเพียงว่ามือของเขาเย็นมาก สบายมาก อดที่จะถูๆไม่ได้
เฟิงจิ่งเหยาจ้องมองการกระทำที่ไม่รู้เนื้อรู้ตัวของเธอ ก็ขมวดคิ้วแน่น
เขากวาดสายตาไปมองเวลาที่เคาท์เตอร์กหัวเตียง ก็ลุงขึ้นเตรียมลงไปชั้นล่าง
สั่งให้คนต้มโจ๊ก ในเวลาเดียวกันโทรเรียกหมอประจำครอบครัวมา
ไม่นาน เขาก็ยกโจ๊กสีขาวที่คนรับใช้ต้มอย่างดีกลับมาที่ห้อง
“ฉางซิน ลุกขึ้นมาทานข้าวหน่อย”
เขากระซิบเรียกกู้ฉางฉิงที่สะลึมสะลืออยู่ กู้ฉางฉิงขมวดคิ้ว ถึงแม้ว่าจะไม่สบาย แต่ยังคงปฏิบัติตามคำพูดของเขาอย่างมีสติ
เพียงแต่เวลานี้สติของเธอยังเลือนรางมาก การกระทำทั้งหมดอยู่ภายจิตใต้สำนึก
เฟิงจิ่งเหยาก็มองออก โอบเธอไว้ ค่อยๆป้อนโจ๊กครึ่งหนึ่งให้เธออย่างอ่อนโยน พ่อบ้านก็พาหมอประจำครอบครัวมาพบ
ก็เห็นชายวัย27-28 ใบหน้าหล่อเหลาสง่างามสวมแว่นกรอบทอง สอดคล้องกับชุดลำลองสีอ่อนๆ ไม่เหมือนหมอแต่เหมือนลูกผู้ดีมีตระกูลมากกว่า
“คุณชาย คุณหนานกงมาแล้ว”
พ่อบ้านเข้ามารายงานโดยมองข้ามความอ่อนโยนที่หาได้ยากของเฟิงจิ่งเหยา
ตรงข้ามกับความสงบเงียบของเขา หนานกงเช่อที่อยู่ข้างๆเขาแสดงอาการเหมือนกับเห็นผี มองเฟิงจิ่งเหยาอย่างสยองขวัญ
ถึงอย่างไรก็อยู่ในความประทับใจของเขา เขาไม่เคยเห็นเพื่อนของตนเองอ่อนโยนขนาดนี้มาก่อน
เขาลูบคางมองดูอย่างสนใจ
เป็นธรรมดาที่เฟิงจิ่งเหยาจะสังเกตุเห็นสายตาของเขา ขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วนำกู้ฉางฉิงที่ครึ่งหลับครึ่งตื่นนอนลงไป
“หมอมาแล้ว ฉันจะให้เขาตรวจคุณสักหน่อย”
กู้ฉางฉิงพยักหน้าอย่างงงๆ
เฟิงจิ่งเหยาลุกขึ้นแล้วมองไปที่หนานกงเช่อ พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า : “มาแล้วยังไม่เข้ามาอีก ทำไม ยังต้องให้ฉันเชิญคุณด้วยตัวเองหรอ?”
หนานกงเช่อเบ้ปาก ทันทีที่ปริปากก็ทำลายภาพลักษณ์ลูกชายผู้ดีสะอาดสะอ้านของเขาไปเลย
“ฉันยังคิดว่าเห็นผี ตอนนี้ได้ฟังคำพูดนี้จองคุณ ก็นับบว่าวางใจ ดูเหมือนว่าคุณจะปฏิบัติแตกต่างกัน”
เขาพูดจบ ตาคู่นั้นก็มองไปที่กู้ฉางฉิงที่อยู่บนเตียง ในแววตาก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจ
“ก่อนได้ยินมาว่าคุณแต่งภรรยาคนหนึ่ง ก็แค่ได้ยินชื่อเสียง ไม่เคยเจอ เธอสวยมากๆเลย”
เขาพูดเย้าแหย่ ทำให้เฟิงจิ่งเหยาเหล่ตามองอย่างอันตราย
เขาก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว เพื่อขวางสายตาของหนานกงเช่อ พูดขู่ว่า : “ถ้าคุณไม่ตรวจอาการ ฉันจะให้พ่อบ้านส่งคุณกลับไปตอนนี้เลย”
หนานกงเช่อได้ฟังคำกล่าวเตือนในคำพูดของเขา ก็รีบยกมือยอมแพ้
“ฉันจะดูอาการ ดูอาการ”
พูดจบ เขาก็เปิดกล่องพยาบาลในมือ แล้วเริ่มตรวจกู้ฉางฉิง
ประมาณสิบกว่านาที ผลก็ออกแล้ว
“ภรรยาของคุณไม่มีปัญหาอะไร ก็เป็นหวัดทั่วไปทำให้เกิดไข้ขึ้นมา กินยาแล้วนอนสักหนึ่งวัน ไม่นานก็ดีขึ้น ไม่มีอะไรร้ายแรงมาก”
เขาพูดจบ ก็เริ่มเก็บอุปกรณ์
เฟิงจิ่งเหยาเห็นการกระทำของเขา ใบหน้าก็เต็มไปด้วยความไม่เชื่อ
“เมื่อเช้าฉันก็ให้เธอกินยา แต่ตอนนี้ยังตัวร้อนอยู่เลย”
หนานกงเช่อมองออกว่าเขาเป็นห่วง ยิ้มพูดว่า : “นี่เพิ่งจะกินไปมื้อเดียว มาใช่ยาวิเศษจะเห็นผลทันทีได้อย่างไร อีกทั้ง ภรรยาตัวน้อยของคุณนี่ อย่ามองว่าร่างกายอ่อนแอนะ ความจริงไม่ได้แย่ไปกว่าคุณเลย ร่างกายแข็งแรง”
เฟิงจิ่งเหยาได้ฟังคำนี้ จึงเบาใจลงหน่อย เพียงแต่เขาเปลี่ยนไปคิดอีกเรื่องหนึ่ง
ถ้าบอกว่าร่างกายของกู้ฉางซินไม่มีปัญหาอะไร เพราะเหตุใดเธอถึงไม่ตั้งท้อง?
เพียงคิดแบบนี้ เขาก็ถามออกมา
“ฉันอยากรู้ว่านี่เป็นเพราะอะไร คุณสามารถตรวจออกมาได้ไหม?”
หนานกงเช่อได้ยินคำพูด ก็แปลกใจ
เขาคาดไม่ถึงว่าเจ้าเฟิงจิ่งเหยาคนนี้จะสนใจปัญหานี้
ในช่วงที่เขากำลังคิดที่จะหยอกล้อ แต่ก็เห็นว่าใบหน้าของเฟิงจิ่งเหยามีท่าทีที่จริงจัง แก้ไขคำพูดในปากโดยตรง
“ไม่เช่นนั้นตอนนี้ฉันก็ถือโอกาสช่วยคุณตรวจอีกสักหน่อย?”
เฟิงจิ่งเหยาขมวดคิ้ว
“มีประโยชน์หรอ? ก่อนหน้านั้นพวกเราก็ไปตรวจที่โรงพยาบาลแล้ว แต่ก็ไม่มีปัญหาอะไรเลย”
หนานกงเช่อได้ยินว่าพวกเขาตรวจจนหมดแล้ว ก็ล้มเลิกความคิดที่จะตรวจ หันมาสิเคราะห์สถิติการตั้งครรภ์ให้เขาฟัง
“จิ่งเหยา เรื่องการตั้งครรภ์นี้ เป็นความซับซ้อนมาก ใครก็อธิบายไม่ได้ บางครั้งดูแล้วก็เป็นเรื่องของโชคชะตา”
เขาพูดพลาง เห็นเฟิงจิ่งเหยาขมวดคิ้วแน่น คล้ายกับไม่เห็นด้วยกับความคิดเห็นนี้ของเขา แล้วกล่าวต่อไปว่า: “จะว่าไปบาวครั้งความกดดันของคนก็มากเกินไป ยิ่งอยากตั้งครรภ์ก็ยิ่งยากที่จะตั้งครรภ์ แน่นอนว่าอีกแง่มุมหนึ่งยังคงเกี่ยวข้องกับอาหารการกิน แต่การรับประทานอาหารของครอบครัวของคุณนั้นดีต่อสุขภาพและสม่ำเสมอมาโดยตลอด เกรงว่าจะไม่มีปัญหาอะไร”
คำพูดท่อนสุดท้าย ที่เขาพูดโดยไม่ใส่ใจ แต่ก็ทำให้เฟิงจิ่งเหยานิ่งอึ้งไปโดยฉับพลัน
ถึงแม้วันธรรมดาเขาจะไม่ค่อยได้เอาใจใส่การทานอาการของกู้ฉางซิน เพียงแต่ร่วมโต๊ะทานอาหารก็หลายครั้ง แล้วยังรู้ดีว่ารสชาติอาหารของกู้ฉางซินค่อนข้างจืดซะมากกว่า อีกทั้งทุกคืนยังดื่มซุปบำรุง
ตามที่เล่ามานั่นก็คือแม่ของเขาปรุงยามาให้โดยเฉพาะ……..
เดี๋ยวนะ แม่เอามาให้โดยเฉพาะ!
ไม่รู้ว่าเพราะอะไร เขาคิดถึงตรงนี้แล้ว แต่ความคิดในสมองคือเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อเร็วๆนี้
สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย หนานกงเช่อเห็น ก็กล่าวถามอย่างไม่เข้าใจว่า: “คุณเป็นอะไรไป? นึกถึงอะไรหรอ?”
เฟิงจิ่งเหยาขมวดคิ้วไม่พูดจา ในสายตาเต็มไปด้วยความไม่แน่ใจ
เพราะเขาคิดถึงความเป็นไปได้ และคิดว่ามันไม่น่าเป็นไปได้
แต่ถ้าเป็นจริงตามที่เขาคิดนั้นล่ะก็
ช่วงเวลาหนึ่ง ทันใดสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นไม่น่าดู ก็ไม่สนใจเพื่อนสนิทอย่างหนานกงเช่อ หันไปเรียกเสี่ยวเหม่ยมา
“ช่วงนี้คุณนายรองยังมีการดื่มซุปบำรุงอยู่ไหม?”
เสี่ยวเหม่ยไม่เข้าใจว่าจู่ๆทำไมเฟิงจิ่งเหยาถึงถามเรื่องนี้ขึ้นมา แต่ก็ยังพยักหน้าแล้วตอบกลับว่า: “มีค่ะ วันนี้ตอนเข้ามาก็เอามาด้วย”
เฟิงจิ่งเหยาได้ยิน กล่าวด้วยสีหน้าจริงจังว่า: “คุณไปเอาเข้ามา”
เสี่ยวเหม่ยรับคำสั่ง นำวัตถุดิบของซุปบำรุงเขามาทันที
เห็นของที่วางอยู่ในห่อวัตถุดิบเหล่านั้นเป็นรังนก โสมและอื่นๆ……ล้วนเป็นดีๆที่ช่วยในการอุ่นบำรุง
เฟิงจิ่งเหยามองคร่าวๆ ก็ไม่เห็นปัญหาอะไร หยิบทั้งหมดให้หนานกงเช่อโดยตรง
“คุณเอาของเหล่านี้กลับไปช่วยฉันตรวจสอบหน่อย”
หนานกงเช่อมองสิ่งของในอ้อมกอด ก็เงยหน้ามองอย่างงุนงง
แต่มองการแสดงออกอย่างจริงจังของเฟิงจิ่งเหยาแล้ว เขาก็พยักหน้าตอบรับเข้ามา: “ได้ ฉันจะเอากลับไปตรวจสอบให้คุณตอนนนี้เลย จะแจ้งข่าวให้คุณทราบโดยเร็วที่สุด”
เฟิงจิ่งเหยาพยักหน้า ไม่นานก็ส่งสายตามองเขาออกไป
หลังจากรอให้เขาออกไป เฟิงจิ่งเหยาก็บอกเสี่ยวเหม่ยว่าให้ดูและกู้ฉางฉิงให้ดีๆ แล้วก็ไปจัดการงานที่ห้องหนังสือ
รอจนถึงตอนเย็น กู้ฉางฉิงก็ตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกที่สดชื่น เพียงแต่พอเธอมองเสี่ยวเหม่ยที่อยู่ทางหัวเตียงก็อดไม่ได้ที่จะกล่าวถามว่า: “คุณชายของพวกคุณล่ะ?”
ถึงแม้ว่ากลางวันเธอจะสะลึมสะลือ แต่เธอก็ยังจำได้ว่าคนที่ดูแลเธออยู่ข้างเตียงคือเฟิงจิ่งเหยา
“คุณชายอยู่ในห้องหนังสือค่ะ ฉันจะไปแจ้งให้คุณชายทราบ”
เสี่ยวเหม่ยพูดพลาง ไม่รอให้กู้ฉางฉิงขัดขางก็ไปยังห้องหนังสือแล้ว
ทันทีหลังจากนั้นเฟิงจิ่งเหยาก็เข้ามา เอาใจใส่กู้ฉางฉิงเล็กน้อย รู้ว่าไม่เป็นอะไรแล้ว จึงสบายใจแล้วให้คนเอาอาหารเย็นมาส่ง
รับประทานอาหารเสร็จ กู้ฉางฉิงยังคงเหนื่อยล้าเล็กน้อย เฟิงจิ่งเหยาก็ให้เธอเอนกายบนเตียงเพื่อพักผ่อน ตนเองก็ไปห้องหนังสือ
ไม่คาดคิดว่าเพียงเขานั่งลง ก็ได้รับโทรศัพท์ของหนานกงเช่อ
“จิ่งเหยา ของเหล่านั้นที่คุณให้ฉันตรวจสอบ ผลสรุปออกมาแล้ว ในของบำรุงเหล่านั้น ถูกคนใส่ยาคุมกำเนิดในปริมาณมาก”