เฟิงจิ่งเหยาฟังคำพูดของหนานกงเช่อจบ สีหน้าของเขาเคร่งขรึมลงในทันที
ดังนั้น เดิมทีไม่ใช่ว่ากู้ฉางซินไม่สามารถมีลูกได้ แต่เธอถูกคนแอบใส่ยาคุมกำเนิดมาให้
ส่วนคนที่วางยานี้ เขาไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเป็นใคร
นอกจากแม่ของเขา เขาก็ไม่คิดถึงใคร
เขานึกถึงตรงนี้ สีหน้าก็ยิ่งไม่พอใจ
โดยเฉพาะที่แม่พูดซ้ำๆว่ทกู้ฉางฉิงไม่สามารถตั้งท้องได้ เกรงว่าทุกอย่างนี้จะอยู่ในการวางแผนของเธอ
กู้ฉางฉิงไม่รู้ว่าทางด้านเฟิงจิ่งเหยานี้รู้ปัญหาของซุปบำรุงแล้ว
น่าจะเป็นเพราะนอนมากในตอนกลางวัน เธอพลิกไปพลิกมาอยู่บนนั้นอย่างไรก็นอนไม่หลับ แล้วก็อยากจะกินผลไม้สักเล็กน้อย
เธอไปที่ห้องครัวและหั่นผลไม้หนึ่งจาน ตนเองกินไปนิดหน่อย แล้วก็นึกถึงเฟิงจิ่งเหยาที่ดูแลตัวเองตลอดในระหว่างวัน สักครู่นี้ยังทำงานล่วงเวลาอยู่ในห้องหนังสือ ก็เลยอยากยกผลไม้ไปให้เขา
มาถึงห้องหนังสือ เธอเคาะประตูแล้วเข้าไป
“ทำงานเสร็จแล้วหรือยัง?”
เธอถามอย่างเป็นปกติมาก โดยที่ตัวเธอเองไม่ได้สังเกตุเห็นด้วยซ้ำ
เฟิงจิ่งเหยาเห็นเธอ ก็เม้มปากบางๆจนแน่น ส่ายหัวตอบว่า : “ยังเลย”
น้ำเสียงเย็นชา ทำให้กู้ฉางฉิงชั่วขณะก็พบว่าไม่ถูกต้อง
“คุณเป็นอะไร ดูสีหน้าไม่ค่อยดีเลย เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรอ?”
เธอถามอย่างเป็นห่วง
เฟิงจิ่งเหยามองแววตาเธอที่ห่วงใย สัมผัสได้ถึงความซับซ้อนที่ฉายผ่านดวงตา
“ไม่มีอะไร ปัญหาที่บริษัทนิดหน่อย”
กู้ฉางฉิงได้ฟังคำตอบที่ขอไปทีนี้ ก็รู้ว่าเขาไม่อยากพูด ก็ไม่ได้ถามมากมายอีก วางจานผลไม้ในมือลงบนโต๊ะ
“งั้นฉันไม่รบกวนคุณแล้ว คุณอย่าลืมกินผลไม้เหล่านี้สักหน่อย อย่าทำงานจนดึกมาก พักผ่อนเร็วๆหน่อย”
เฟิงจิ่งเหยาพยักหน้า
กู้ฉางฉิงเห็นเช่นนี้ แล้วก็ออกไป
……
วันต่อมา กู้ฉางฉิงรู้สึกว่าตนเองดีขึ้นมากแล้ว จึงลุกขึ้นพร้อมกับเฟิงจิ่งเหยา วางแผนว่าจะไปบริษัท
เฟิงจิ่งเหยาเห็นสีหน้าเธอดูดีขึ้นกว่าเมื่อวาน ก็เลยไม่ได้ขัดขวาง
ถึงอย่างไรตอนนี้กู้ฉางฉิงก็เป็นผู้จัดการบริษัท ยังควบตำแหน่งหัวหน้านักออกแบบพาร์ทไทม์ด้วย เธอจำเป็นต้องจัดการหลายสิ่งหลายอย่างมาก
“ถ้ารู้สึกไม่สบาย จำไว้นะว่าต้องโทรหาฉัน อย่าฝืน”
เฟิงจิ่งเหยาหาข้ออ้างไปส่งเธอที่สำนักงานสาขา ส่งเธอลงจากรถแล้วไม่ลืมที่จะเตือน
กู้ฉางฉิงได้ฟังความห่วงใยของเขา ในใจก็เหมือนได้ดื่มน้ำผึ้ง รู้สึกหวานชื่น
“ฉันรู้แล้ว”
เธอพยักหน้าตอบรับ เฟิงจิ่งเหยาไม่ได้พูดอะไรอีก ก็เลี้ยวรถกลับไปที่สำนักงานใหญ่
กู้ฉางฉิงเฝ้าดูรถของเขาที่หายไปบนถนน ก็หันกลับเข้าบริษัทไป
ไม่ได้มาบริษัทสองวัน มีงานค้างสะสม ตลอดทั้งเช้ากู้ฉางฉิงยุ่งหัวหมุนราวกับลูกข่าง หมุนไม่หยุด ไม่มีช่วงเวลาว่างเลย
โชคดีที่ตอนเที่ยง เรื่องใหญ่ๆถูกจัดการไปจนเกือบหมดแล้ว จึงสามารถพักผ่อนได้
ผ่อนคลายลงมาหน่อย กู้ฉางฉิงก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ
เธอมองไปยังชีเสี่ยวจิ่วที่อยู่ข้างๆ แล้วถามว่า : “เสี่ยวจิ่ว คุณรู้สึกว่าวันนี้ขาดอะไรไปไหม?”
ชีเสี่ยวจิ่วถูกเธอถามจนสงสัย
“อาจารย์ คุณรู้สึกขาดอะไรไปล่ะ?”
กู้ฉางฉิงมองเธอ พูดอย่างลังเลใจว่า : “คุณไม่รู้สึกว่าตลอดเช้านี้ทันเงียบสงบเกินไปหรอ?”
ชีเสี่ยวจิ่วกระพริบๆตา ก็หวนนึกถึงฉากเมื่อเช้าและภาพก่อนหน้านี้ หัวเราะแล้วพูดว่า : “อาจารย์ นี่คุณโดนคุณซูหาเรื่องทะเลาะจนติดเป็นนิสัยเลยหรอ? หาได้ยากที่จะไม่มา คาดไม่ถึงว่าคุณจะยังไม่คุ้นชิน”
กู้ฉางฉิงได้ฟังคำพูดหยอกล้อนี้ของเธอ จึงสติกลับมา ที่เธอรู้สึกว่าขาดบางสิ่งบางอย่างไป ก็คือขาดซูตี้มาชวนทะเลาะนี่เอง
พอดีกับที่เธออยากถามสถานการณ์ของซูตี้เมื่อสองวันที่ผ่านมา ชีเสี่ยวจิ่วก็เริ่มเอ่ยขึ้นมา
“จะพูดไปแล้ว ตั้งแต่เรื่องราวครั้งที่แล้ว คุณซูก็คล้ายกับว่าจะเลิกเกรี้ยวกราดกับพวกเรา เข้ามารบกวนพวกเราน้อยมาก”
กู้ฉางฉิงเลิกคิ้ว ในสายตารู้สึกแปลกใจ
ถึงแม้เธอจะไม่เชื่อว่าซูตี้จะสามารถทิ้งนิสัยได้ เพียงแต่สามารถสงบลงมาได้ก็ดีแล้ว
ไม่เช่นนั้นเธอก็จะก่อเรื่อง ทำให้ทั้งบริษัทไม่มีความสงบสุข
แบบนี้ กู้ฉางฉิงก็นำเรื่องนี้ทิ้งไว้เบื้องหลัง ทุ่มเทให้กับการทำงานอีกครั้ง
ก่อนหน้านี้ก็เคยพูดไปแล้วว่า การออกแบบเบรนด์ใหม่เสร็จเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ที่สำคัญก็คือสถานที่ตั้งของร้าน
กู้ฉางฉิงดูสถานที่ที่ดีไว้หลายที่ วันนี้ตอนบ่ายก็จะดึงซูตี้ไปตรวจดูด้วยกัน
“นักออกแบบซู ฉันเห็นว่าสถานที่นี้เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ดีที่สุดที่พวกเราเลือกไว้ มีคนจำนวนมากสัญจรไปมาทั้งเหนือทั้งใต้ อีกทั้งยังสะดุดตาเพียงพอ ทัศนวิสัยก็ไม่เลว สามารถมองเห็นได้อย่างง่ายดาย
หลังจากเดินชมไปสองสามที่ ในที่สุดกู้ฉางฉิงก็เลือกร้านหนึ่งที่ถูกอกถูกใจ ปรึกษาหารือกับซูตี้ว่า: “คุณคิดว่าเป็นยังไง?”
เพราะเรื่องราวก่อนหน้านี้ ซูตี้เลยไม่สบอารมณ์กับกู้ฉางฉิงเล็กน้อย เพียงแต่เวลานี้เกี่ยวข้องกับเรื่องงาน เธอก็ไม่ได้เอาความแค้นส่วนตัวเข้ามาเกี่ยวข้อง พินิจพิเคราะห์หน้าร้านอย่างตั้งใจ
พูดได้ว่า เธอที่เป็นคนจู้จี้จุกจิกนี้ล้วนไม่พบปัญหาของร้านนี้
ก็เหมือนกับที่ผู้หญิงคนนี้พูด หน้าร้านนี้ไม่ว่าจะเป็นโอกาสภูมิประเทศที่ได้เปรียบล้วนเป็นตำแหน่งที่ไม่เลวเลย ถ้าร้านตั้งอยู่ตรงนี้จริงๆ จะต้องเป็นที่โดดเด่นที่หนึ่งแน่นอน
“ฉันไม่มีข้อโต้แย้ง”
เธอมองไปรอบๆรอบหนึ่ง แล้วกล่าวเห็นด้วย
คำตอบที่ครบถ้วนว่องไวนี้ทำให้กู้ฉางฉิงนิ่งอึ้งไปเล็กน้อย
เพียงแต่นึกถึงคำพูดของเสี่ยวจิ่วที่บอกเธอเมื่อเช้านี้แล้ว เธอก็ดึงสติกลับมาอย่างรวดเร็ว ติดต่อกับคนที่รับผิดชอบห้างสรรพสินค้า และตกลงสัญญาเช่าโดยเร็วที่สุด
รอจนทำเรื่องเหล่านี้เสร็จ เธอก็นำสัญญาความร่วมมือวางแผนที่จะเอากลับไปให้หน่วยที่เกี่ยวข้องกับบริษัทอนุมัติ
ขณะเดินทาง เธอนำข้อตกลงมาอ่านไปมาอย่างละเอียกหลายรอบ เพื่อแน่ใจว่าไม่มีปัญหาและข้อผิดพลาดใดๆแล้วจึงวางใจ
ซูตี้มองการกระทำของเธอทั้งหมดอยู่ในสายตา
ถึงแม้ว่าผู้หญิงคนนี้จะมีหลายสิ่งหลายอย่างที่เธอไม่ชอบก็ตาม แต่กับลักษณะในการทำงานแล้ว เธอไม่ชมเชยไม่ได้ ผู้หญิงคนนี้ทั้งกระตือรือร้นทั้งใจเย็นกว่าเธอ
กู้ฉางฉิงไม่รู้ว่าเธอกำลังค่อยๆเปลี่ยนภาพลักษณ์ในใจของซูตี้ เธอกลับถึงบริษัทหลังจากส่งมอบข้อมูลที่ควรจะส่งมอบแล้ว ก็กลับไปยังห้องทำงานจัดการงานต่อไป
ตอนเย็น เธอเลิกงานกลับไป เฟิงจิ่งเหยาก็กลับมาแล้ว
คนทั้งสองล้างหน้าบ้วนปากสักเล็กน้อย ก็นั่งที่ห้องอาหารรับประทานอาหารด้วยกัน
“เสี่ยวเหม่ย ซุปบำรุงของฉันวันนี้ล่ะ?
กู้ฉางฉิงมองทางด้านของถ้วยซุปที่หานไปถ้วยหนึ่ง อดไม่ได้ที่จะกล่าวถาม
เพียงแต่ไม่ทันให้เสี่ยวเหม่ยได้ตอบกลับ เฟิงจิ่งเหยาก็เอ่ยปากอย่างตรงไปตรงมาว่า: “ฉันให้คนเอาออกไปแล้ว นี่คุณเพิ่งจะหายไข้ หนานกงเช่อบอกว่าไม่ควรบำรุงมากเกินไป”
กู้ฉางฉิงนิ่งอึ้งไป ตอนแรกเธอยังคิดว่าเฟิงจิ่งเหยาสังเกตเห็นถึงความบับที่อยู่ในซุป เพียงแต่ได้ฟังคำพูดสุดท้ายของเขาแล้ว ก็ทิ้งความคิดนี้ไป
……
เวลาเดียวกันนี้ ตระกูลเฟิง
ลู่ซือหยี่อาศัยอยู่ในบ้านใหม่ที่เตียนโล่งมาสองวันติดต่อกัน ในใจก็ไม่สบายใจอย่างมาก
โดยเฉพาะคือนึกถึงว่าพี่จิ่งเหยาของเธอพากู้ฉางซินหญิงชั่วคนนั้นไปมีความสุขลอยนวลอยู่ข้างนอก เธอก็อยากจะบ้าตาย
กู้ฉางซินหญิงชั่วคนนั้นไม่แน่ว่าจะลำพองใจมากแค่ไหน
เธอยิ่งคิดก็ยิ่งไม่ยินยอม แต่เธอไม่มีวิธี่ที่จะเอาพี่จิ่งเหยากลับมา
เธอกำลังไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดี สาวใช้ตัวน้อยที่เคยภักดีต่อเธอก็เข้ามา
“คุณซือหยี่ ถึงแม้ว่าคุณชายจะไม่กลับมา แต่พวกเราก็สามารถใช้แผนทรมานร่างก่ยตนเองหลอกให้คุณชายกลับมาได้”
ลู่ซือหยี่ได้ฟังความคิดเห็นของเธอแล้ว ในสายตาก็คิดแผนร้าย
สี่ทุ่มในวันเดียวกัน ก็พบว่าจู่ๆสาวใช้ตัวน้อยก็วิ่งล้มลุกคลุกคลานไปยังบ้านใหญ่
“คุณนาย แย่แล้ว คุณลู่หกล้ม ร้องเจ็บท้องตลอดเลยค่ะ”