สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา – บทที่ 215 อยากจะฉีกร่างเธอ

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

กู้ฉางฉิงไม่รู้ความคิดของลู่ซือหยี่

หลังจากที่เธอจากไปพร้อมกับเฟิงจิ่งเหยา ก็เงียบไม่พูดไม่จาตลอด

เฟิงจิ่งเหยาสังเกตุเห็นความเงียบของคนข้างๆ อดไม่ได้ที่จะมองเธอ

“ทำไม คุณเสียใจหรอ?”

กู้ฉางฉิงสติกลับมา หันกลับมามองเขา

“เปล่า”

เธอแกล้งทำเป็นไม่เป็นอะไร ยิ้มตอบกลับ

แต่บนความเป็นจริง เธอไม่สบายใจอย่างมาก

แต่เธอไม่ได้แสดงจุดยืนออกมา

พูดตรงๆก็คือ เธอเป็นแค่คนนอกมาโดยตลอด

เธอไม่ใช่กู้ฉางซินตัวจริง เกิดเรื่องขึ้นเช่นนี้ นอกจากการไปรับมือแทนกู้ฉางซินแล้ว คุณสมบัติอื่นๆที่เหลือก็ไม่มีเลย

ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ไปซักถามเฟิงจิ่งเหยาเลย ลู่ซือหยี่ตั้งท้องลูกของเขาจริงๆหรือเปล่า

เธอเข้าใจจุดยืนของตัวเองดี แต่อดไม่ได้ที่จะไม่สบายใจ

โดยเฉพาะหัวใจของเธอ ดูเหมือนว่าเธอจะควบคุมไม่ได้ ไม่รู้ว่าเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ที่เริ่มค่อยๆสนใจทุกอย่างเกี่ยวกับผู้ชายคนนี้

ในตอนแรกที่เธอเริ่มสังเกตุเห็น ก็ไม่ได้เอามาใส่ใจ เพราะเธอเชื่อว่าตนสามารถควบคุมหัวใจของตนเองได้ แต่ผลก็คือ……

กู้ฉางฉิงกระวนกระวายใจเมื่อพบความคิดที่แท้จริงในใจของตนเอง เฟิงจิ่งเหยาก็สังเกตุเห็นว่าเธอใจลอย อดไม่ได้ที่จะยื่นมือไปแตะเธอ

“ฉางซิน……”

ผลคือยังพูดไม่ทันจบ กู้ฉางฉิงก็กระเด้งออกไปราวกับมีรีเฟล็กซ์ตอบกลับ ในแววตามีความต่อต้าน

ต่อให้เธอจะเก็บอาการิย่างรวดเร็ว แต่ยังคงถูกเฟิงจิ่งเหยาจับได้

เฟิงจิ่งเหยาสีหน้าเคร่งขรึมทันที ถามด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า : “คุณหมายความว่ายังไง?”

กู้ฉางฉิงเห็นเช่นนี้ ใจอดไม่ได้ที่จะตึงเครียด

“ฉันไม่ได้มีความหมายอื่น เมื่อกี้ฉันกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่ คุณทำกะทันหันเกินไป ฉันก็ตกใจโดยสัญชาติญาณก็เท่านั้น”

เธอดื้อรั้นอธิบาย เฟิงจิ่งเหยามองเธอด้วยสายตาลึกซึ้ง ดูเหมือนกำลังวิเคราะห์ว่าสิ่งที่เธอพูดเป็นจริงหรือเท็จ

กู้ฉางฉิงบังคับให้ตนเองสงบลง ให้เขาพิจารณา

เฟิงจิ่งเหยามองเธออยู่นาน สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไร เม้มๆปากแล้วขับรถต่อไป

กู้ฉางฉิงจ้องมอง อดที่ถอนหายใจอย่างโล่งอกไม่ได้

รอทั้งสองกลับมาที่คฤหาสน์ชายทะเล กู้ฉางฉิงเป็นเพราะเรื่องก่อนหน้านี้ ร่างกายอ่อนล้าพูดว่า : “ฉันล้านิดหน่อย กลับไปพักผ่อนที่ห้องก่อน”

เธอพูดจบ ก็ไม่สนใจเฟิงจิ่งเหยาทำท่าทางเดินขึ้นไปชั้นบน

เฟิงจิ่งเหยามองเธอเดินจากไป หรี่ตามองด้วยสีหน้าที่ไม่อาจคาดเดาได้

อันที่จริงหลังจากออกมาจากตระกูลเฟิง เขารู้สึกได้ชัดเจนว่ากู้ฉางฉิงผิดแปลกไป แต่ผิดแปลกไปอย่างไร เขาบอกไม่ได้

ท้ายที่สุดเขาก็ทำได้เพียงเก็บความแปลกประหลาดทั้งหมดไว้ในใจ แล้วตามขึ้นชั้นบนไป

……

วันต่อมา กู้ฉางฉิวไม่ได้ไปบริษัท

เพราะเวลานี้สภาพของเธอไม่สามารถทำให้เธอทำงานได้ด้วยดี

เธอมองบ้านที่ว่างเปล่าโดยรอบ ดูเหมือนว่าจะมีความทรงจำเกี่ยวกับเฟิงจิ่งเหยาอยู่ทุกหนทุกแห่ง

แต่ความทรงจำเหล่านี้บีบคั้นจนเธอแทบหายใจไม่ออก

เธอรู้ว่าเวลานี้เธอมีปัญหาเล็กน้อย ต้องการสภาพแวดล้อมที่สงบอย่างเร่งด่วนเพื่อให้เธอผ่อนคลายตัวเองลง

แทบจะเป็นอย่างแรก ที่เธอนึกถึงแม่ของตัวเอง

เธอหยิบโทรศัพท์ออกมา โทรไปหากู้หงเซิน

“ฉันอยากไปเจอแม่”

เธอไม่พูดไร้สาระ พูดตรงไปตรงมาเกี่ยวกับความปรารถนาของตนเอง

“ไม่ใช่ว่าบอกแล้วไม่ใช่หรอ? ว่าต่อไปให้ไปโรงพยาบาลน้อยๆหน่อย”

กู้หงเซินปฏิเสธอย่างไม่อดทน กำลังคิดจะวางสาย ทว่าถูกกู้ฉางฉิงพูดต่อทันที

“ฉันจำเป็นต้องเจอ ถ้าคุณไม่ต้องการให้ความร่วมมือของพวกเราล้มเหลว ก็อย่ามาขวางฉันดีที่สุด”

นี่เป็นครั้งแรกที่กู้หงเซินได้ฟังกู้ฉางฉิงขอร้องด้วยน้ำเสียงจริงจัง

เขาคิดอยู่ครู่หนึ่ง ท้ายที่สุดก็ยังคงเห็นด้วย

ถึงอย่างไรเขาก็ไม่สามารถปล่อยให้กู้ฉางฉิงล้มเหลวได้ ไม่เช่นนั้นอนาคตของกู้ฉางซินจะสูญเสียไป

“ฉันรู้แล้ว พรุ่งนี้ฉันจะส่งคนไปรับคุณ”

กู้ฉางฉิงคาดไม่ถึงว่ายังต้องรออีกหนึ่งวัน แต่ก็ยังรับปาก

โชคดีที่กู้หงเซินส่งคนมารับเธอในวันรุ่งขึ้น

ผ่านไปครึ่งชั่วโมง เธอก็มาถึงโรงพยาบาล เห็นแม่ในห้องผู้ป่วย

“พวกคุณออกไปเถอะ”

เธอเอียงหน้าไปบอกคนติดตามให้ออกไป ดูแลหน้าตาให้แม่ด้วยตนเองคนเดียว ในเวลาเดียวกันก็พูดในใจว่า

“แม่ คุณจะต้องดีขึ้นมานะ ไม่เช่นนั้นฉันก็จนปัญญาที่จะยืนหยัดต่อไปแล้ว”

เธอพินิจพิเคราะห์แม่อย่างละเอียด ก็ไม่รู้ว่าความอัดอั้นภายในใจทำให้พูดออกมาหรือไม่ เวลานี้เธอก็สงบลงมาจากเมื่อสองวันก่อนไม่น้อย

ไม่ว่าจะยังไง เพื่อแม่ เธอก็ต้องยืนหยัดต่อไป

ต่อให้สุดท้าย…….เธอจะสูญเสียตนเองในการทำธุรกิจครั้งนี้

กู้ฉางฉิงก็คิดแล้วว่า คนก็จะค่อยๆฟื้นคืนจิตวิญญาณ

เธออยู่โรงพยาบาลมาตลอดทั้งวัน แล้วจึงให้คนส่งเธอกลับไป

ขณะเดินทางกลับไป เธอก็นึกถึงเรื่องของลู่ซือหยี่ขึ้นมา อดไม่ได้ที่จะโทรศัพท์ไปหากู้หงเซิน

“อีกสองสามวันก็จะเป็นวันที่ลู่ซือหยี่ต้องไปตรวจDNAแล้ว คุณมีแผนการแล้วหรือยัง?”

กู้หงเซินถอนหายใจอย่างเย็นชา: “วางใจได้ ฉันจัดการคนให้แล้ว”

กู้ฉางฉิงฟังคำพูดนี้แล้ว ก็วางใจลง

เธอคิดว่ามีกู้หงเซินเข้าร่วมแล้ว ถึงแม้ว่าลู่ซือหยี่พวกเขาอยากจะทำอะไร ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ

สองสามวันต่อมาเป็นวันที่ลมสงบคลื่นสงัด เพียงแต่เหมือนกับความเงียบสงบก่อนเกิดพายุฝน

วันนี้ ในที่สุดก็เป็นวันที่ลู่ซือหยี่ไปตรวจ

พูดได้ว่าทั้งตระกูลลู่และตระกูลเฟิงให้ความสนใจเป็นอย่างมาก

สองตระกูลระดมกำลังกัน เฟิงจิ่งเหยาก็พากู้ฉางฉิงกลับมาที่ตระกูลเฟิง ตามไปโรงพยาบาลพร้อมกันกับพวกเขา

กระทั่งโรงพยาบาลนี้ คุณนายเฟิงก็เป็นคนกำหนด

เริ่มแรกกู้ฉางฉิงก็ไม่รู้เบื้องหน้าเบื้องหลัง หลังจากที่ได้รู้นี้ ก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว

เธอไม่ลืมเรื่องการตรจก่อนหน้านี้ กังวลว่าคุณนายเฟิงจะขัดขวางระหว่างนั้น

คิดแบบนี้แล้ว เธอก็มองไปยังเฟิงจิ่งเหยาอย่างไม่สบายใจ

“ด้านในนี้จะมีปัญหาไหม?”

เฟิงจิ่งเหยามองเธอ แล้วก็กวาดสายตามองไปยังคุณนายเฟิงและคนอื่นๆที่อยู่ด้านข้าง สุดท้ายสายตาก็ตกอยู่ที่ลู่ซือหยี่ สายตามืดมนขึ้นมาชั่วขณะ

เป็นเวลานาน เขาจึงเก็บสายตากลับมา พูดเบาว่า: “วางใจได้ ไม่มีปัญหาหรอก”

กู้ฉางฉิงเห็นเขาพูดอย่างสงบ ก็มั่นใจเต็มเปี่ยม แล้วยังคิดว่าเขามีวิธีที่จะรับมือ ทันใดก็วางใจไปไม่น้อย

เพียงแต่เธอยังคงกังวลใจเล็กน้อย ถึงอย่างไรลู่ซือหยี่แล้วก็คุณนายเฟิงก็ไม่ล้มเลิกกลอุบายเพื่อจุดประสงค์

เธอกังวลว่าคนทั้งสองนี้ทำแผนการหนึ่งไม่สำเร็จก็จะสร้างอีกแผนการหนึ่ง

แน่นอนเฟิงจิ่งเหยาเห็นสีหน้าของเธออยู่ในสายตา รู้ว่าเธอยังคงกังวล อดไม่ได้ที่จะยื่นมือไปดึงเธอมา

“มีฉันอยู่ ไม่ต้องกังวล”

เขากล่าวด้วยน้ำเสียงลึกซึ้ง ทำให้กู้ฉางฉิงนิ่งอึ้งไป มองเขาอย่างงุนงง เป็นเวลานานจึงมีท่าทีตอบสนองว่าผู้ชายคนนี้กำลังปลอบโยนเธอ

“ฉันรู้แล้ว”

เธออดไม่ได้ที่จะยิ้มมุมปาก หัวใจตอบรับอย่างหวานชื่น

แต่ไม่รู้ว่ารอยยิ้มของเธอนี้สะเทือนใจลู่ซือหยี่อย่างมาก

เธอเดินอยู่ด้านหลังคนทั้งสอง มองการกระทำซึ่งกันและกันตลอดทางอยู่ในสายตา ในใจก็อิจฉาริษยา แทบอยากจะฉีกกู้ฉางฉิงเป็นชิ้นๆ

ถึงแม้ว่าเธอจะโมโห แต่ในใจก็กระวนกระวายเล็กน้อย

โดยเฉพาะเธอสังเกตเห็นสายตาที่พี่จิ่งเหยามองมาเมื่อกี้นี้ สายตาที่เย็นชานั้น คล้ายกับมองทะลุเธอ ทำให้เธอกังวลไม่หยุด

กระทั่งทำให้เธอมีความคิดว่าพี่จิ่งเหยารู้แผนการทุกสิ่งทุกอย่างของเธอ

เธอส่ายหัวอย่างรุนแรง นำความคิดที่ไม่อยู่กับร่องกับรอยนี้ออกไปจากสมองเธอ

และไม่ว่าแผนการครั้งนี้จะสำเร็จราบรื่นหรือไม่ พี่จิ่งเหยาก็ไม่สามารถรู้ได้โดยสิ้นเชิง

เธอไม่มีวันยอมให้แผนการล้มเหลว

คิดแบบนี้แล้ว ในดวงตาของเธอก็เด็ดเดี่ยว

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

Status: Ongoing
ก่อนแต่งงานแทนน้องสาวเข้าไปในตระกูลเฟิง กู้ฉางชิงได้ยินว่าเฟิงจิ่งเหยาเป็นคนที่เฉยเมย ต่อมาถึงได้รู้ว่าข่าวลือล้วนเป็นเรื่องโกหก คุณเฟิงไม่เพียงแต่ไม่เย็นชา กลับเป็นคนที่อบอุ่น แต่กระตือรือร้นเป็นพิเศษในการมีทายาท มีคนพูดเป่าหูต่อหน้าเขา “คุณเฟิง ก่อนคุณจะกลับประเทศ ในทุกๆคืนภรรยาของคุณจะไม่กลับบ้าน เพราะออกไปเมาข้างนอก” เฟิงจิ่งเหยา “หลังจากฉันกลับประเทศ ตอนค่ำภรรยาของฉันจะมาอยู่ที่ห้องฉัน ปรนนิบัติฉันไม่นอนทั้งคืน” มีคนพูดอีกว่า “ก่อนคุณจะกลับมา ภรรยาของคุณช้อปปิ้งทั้งวัน เปลี่ยนรถยี่ห้อหรูไม่หยุด แถมยังมีหนุ่มคอยอยู่เธอตลอดเวลา” เฟิงจิ่งเหยา พูดต่อว่า “หลังจากฉันกลับประเทศ บัตรเครดิตทุกใบของฉัน ฉันก็อยากให้ภรรยาฉันใช้ แต่เธอไม่ต้องการ ไปกลับจากที่ทำงานก็ให้ฉันไปรับแค่คนเดียว” สำหรับคนที่เย็นชา เมื่อมีภรรยาจะคลั่งรักเป็นพิเศษ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท