เพราะมีนัดกับคุณนายเฟิง พูดได้ว่ากลุ่มคนเดินทางมาถึงก็สามารถตรวจได้เลยในทันที
หลังจากที่พวกเขาไปเป็นเพื่อนลู่ซือหยี่เจาะเลือดเสร็จ กำลังรอผลทางการแพทย์อยู่บริเวณทางเดิน
“คุณนายเฟิง ส่งตัวอย่างเลือดไปตรวจแล้ว อย่างเร็วที่สุดผลจะออกภายในสามวัน หลังจากสามวันจะเชิญคุณมาอีกที
คุณนายเฟิงได้ฟังคำพูดนี้ ถึงแม้ว่าจะไม่พอใจที่ผลไม่สามารถออกได้ทันที แต่ยังคงพยักหน้าตอบรับ
หมอไม่ได้พูดอะไรมาก หันไปทำงานอื่นต่อ
“โอเค ตอนนี้ก็รอผลหลังจากสามวัน คุณนายลู่ เรากลับกันก่อนเถอะ”
คุณนายเฟิงพูดแจ้งให้ทราบ
ทุกคนพยักหน้าด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
เมื่อพวกเขาเตรียมจะไป ลู่ซือหยี่ก็เดินไปข้างๆเฟิงจิ่งเหยา
“พี่จิ่งเหยา หลังจากสามวัน ถ้าผลออกมาชัดเจนว่าเป็นลูกของคุณ คุณแต่งงานกับฉันได้ไหม?”
เธอมองไปที่เฟิงจิ่งเหยาอย่างใฝ่ฝัน ไม่สนใจกู้ฉางฉิงที่อยู่ข้างๆเลยแม้แต่น้อย
เฟิงจิ่งเหยาแววตาเย็นชามองเธอ พูดอย่างขอไปทีว่า : “รอให้ผลออกมาแล้วค่อยว่ากัน”
ลู่ซือหยี่ได้ฟังคำนี้ ก็ไม่สามารถปิดบังความผิดหวังบนใบหน้าได้
แม่ของลู่ซือหยี่ก็ทำท่าทางไม่พอใจเฟิงจิ่งเหยาอย่างมาก
คุณนายเฟิงเห็นเข้า ก็รีบก้าวไปข้างหน้าเพื่อสงบศึก พูดโน้มน้าวว่า : “ลู่ซือหยี่คุณวางใจเถอะ ขอเพียงแต่พิสูจน์ได้ว่าเป็นลูกของจิ่งเหยา เมื่อถึงเวลาน้าหมิงจะให้จิ่งเหยาแต่งงานกับคุณอย่างแน่นอน”
กู้ฉางฉิงเห็นว่าตัวเธอเองไม่ลังเลที่จะพูดอะไรแบบนี้ออกมาเอง ก็หัวเราะในใจไม่หยุด
ในเวลาเดียวกันก็ยากที่จะระงับอารมณ์ไว้ พลิกกลับขึ้นมาอีกครั้ง
ถ้าเฟิงจิ่งเหยาแต่งงานกับลู่ซือหยี่……
เธอเพิ่งจะหวนคิดขึ้นมา ทว่าก็หยุดลงทันที
หัวใจเหมือนถูกแทะด้วยหมดนับพัน จึงทำให้เธอไม่กล้าคิดมากต่อไปอีก
……
และในเวลานี้ ที่ตระกูลเฟิง
เพราะว่าเฟิงจิ้งหยวนได้รับบาดเจ็บ ไม่ควรจะไปในสถานที่ที่คนมากๆ ก็เลยอยู่บ้าน
เธออยู่ที่ลานบ้านมองเห็นมู่เฉาเกอยังคงมีอารมณ์จิบชาอยู่ในสวน อดไม่ได้ที่จะเดินเข้าไป
“คุณมู่ช่างมีความคิดจริงๆ ที่นี่ซือหยี่กำลังตั้งท้องลูกของจิ่งเหยา คาดไม่ถึงว่าคุณยังคงอวดดีไม่ไป คงไม่ได้รู้สึกว่าตนเองมีโอกาสอยู่ใช่ไหม?”
เธอเดินไปตรงหน้ามู่เฉาเกอ แล้วมองลงมาที่เธอ
เฉาเกอมองไปที่การเย้ยหยันบนใบหน้าของเธอ ยิ้มแล้วพูดอย่างไม่ใส่ใจ : “มีโอกาสไม่มีโอกาส ไม่มีใครบอกได้หรอก?”
เฟิงจิ้งหยวนเห็นท่าทางของเธอที่ไม่รู้สึกรู้สา ก็โกรธขึ้นมา
เมื่อเธอกำลังเตรียมจะพูดอะไร มู่เฉาเกอก็ดูเหมือนจะมองเธอออก พูดเหมือนจะยิ้มไม่ยิ้ม : “อีกอย่าง ผลการตรวจนี้ยังไม่ออกมา นี่คุณแน่ใจขนาดนี้เลยหรอว่าที่ลุ่ซือหยี่เธอท้องคือลูกของจิ่งเหยา?”
เฟิงจิ้งหยวนคิดแล้วก็ไม่พอใจ : “เป็นธรรมดา นอกจากจิ่งเหยาแล้ว ซือหยี่จะชอบพอชายคนอื่นได้อย่างไร”
พูดจบ เธอมองมู่เฉาเกออย่างจับผิด พูดกัดฟันว่า : “อีกทั้งฉันอยากให้คุณมู่ตระหนักถึงตัวเอง ถึงแม้ฉันจะยอมรับว่าซือหยี่ไม่ดีเด่นไปกว่าคุณ แต่ว่าพี่สะใภ้ของฉันชอบซือหยี่มาก ถ้าจะให้พี่สะใภ้ของฉันเลือกพวกคุณทั้งสองมาเป็นลูกสะใภ้คนหนึ่ง แน่นอนว่าเธอต้องเลือกซือหยี่ ดังนั้นคุณมู่ไม่ต้องอยู่ที่นี่ต่อไปเพื่อให้ตนเองอับอายหรอก”
คำพูดนี้เฟิงจิ้งหยวนพูดเพื่อให้สะเทือนใจมู่เฉาเกอ
เธอไม่ลืมว่าก่อนหน้านี้ตนเองถูกขมขู่อย่างไร
ตอนนี้มีโอกาสดีดีเช่นนี้ แน่นอนว่าเธอจะต้องตอบแทนกลับไป
มู่เฉาเกอมองสายตาเธอที่ลำพองใจ ก็ไม่รู้ว่าเธอคิดอะไรในใจ จึงหัวเราะเบาๆแล้วจิบชาหนึ่งที
“ขออภัยด้วยที่ฉันไม่เห็นด้วยกับความคิดของคุณเฟิง”
เธอส่ายหัวมองเฟิงจิ้งหยวน พูดเรียบๆว่า : “คุณรู้ได้อย่างไรว่าคุณนายเฟิงไม่ชอบฉัน? แล้วก็คำพูดนั้น ผลยังไม่ออกมา ทุกอย่างยังไม่ประจักษ์ แน่นอน ถึงแม้จะออกมาแล้ว มันก็จะไม่พลาดไปจากแผนการของฉัน ฉะนั้นคุณเฟิง คุณพูดสิ่งเหล่านี้มันค่อนข้างเร็วเกินไป”
พูดจบ เธอจ้องมองเฟิงจิ้งหยวนอย่างเคร่งขรึม ความเยือกเย็นในสายตาทำให้เฟิงจิ้งหยวนตกใจจนตัวสั่นไปทั้งตัว
แต่เธอไม่ต้องการแสดงความขี้ขลาดต่อหน้ามู่เฉาเกอ ทำเป็นเด็ดเดี่ยว
“ทำไม จนถึงตอนนี้แล้วคุณยังคิดที่จะหลอกตนเองหลอกคนอื่นอีก”
มู่เฉาเกอมองท่าทีที่เด็ดเดี่ยวของเธอ ริมฝีปากสีแดงก็ยกขึ้นกึ่งยิ้มกึ่งไม่ยิ้ม
“หลอกตนเองหลอกคนอื่นอะไรฉันไม่รู้ เพียงแต่มีเรื่องเล็กน้อย ฉันสามารถบอกคุณเฟิงได้อย่างชัดเจนว่า คุณไม่ต้อวคิดจะเอาคำพูดมากระตุ้นฉัน ไม่เช่นนั้นวันหนึ่งคุณจะเสียใจ”
เฟิงจิ้งหยวนฟังแล้วก็เหมือนกับว่าได้ฟังเรื่องตลกขบขันอะไร ก็หัวเราะเยาะออกมา
“เสียใจ ทำไมฉันต้องเสียใจด้วย”
มู่เฉาเกอเห็นเช่นนี้ จ้องมองเธอเบาๆ
“เพราะไม่ช้าก็เร็วคุณจะต้องลงเรือลำเดียวกันกับฉัน”
พูดจบ เธอก็เห็นสีหน้าของเฟิงจิ้งหยวนเปลี่ยนไปทันที คล้ายกับจะโต้แย้ง เพียงแต่เธอก็ไม่ให้โอกาสเธอ
“ถ้าคุณไม่เชื่อ พวกเราก็สามารถรอดูได้!”
เฟิงจิ้งหยวนได้ยินคำพูดนี้ เดิมทีก็ต้องการจะกล่าวปฏิเสธคำพูดแต่ชั่วพริบตาก็เหมือนจุกในคอ กลืนไม่เข้าคายไม่ออก
เธอจ้องมองมู่เฉาเกออย่างกัดเขี้ยวเคี้ยวฟัน แต่เธอก็ไม่มีวิธีใด สุดท้ายก็กระทืบเท้าแล้วจากไปด้วยความโมโห
มู่เฉาเกอมองภาพด้านหลังขอวเธอที่จากไป หรี่ตาเล็กน้อย ในสายตาเต็มไปด้วยความลึกซึ้ง ทำให้คนคาดเดาไม่ออก
……
ในช่วงสามวันนี้ที่รอผลตรวจ ไม่ว่าจะเป็นตระกูลลู่หรือตระกูลเฟิง บรรยากาศต่างก็ตึงเครียดอย่างมาก
ช่วงเวลานี้กู้ฉางฉิงก็ได้รับข่าวจากทางด้านของกู้หงเซิน
“คุณบอกว่า ที่โรงพยาบาลมีกลุ่มคนอย่างน้อยสามกลุ่มจับตามองผลตรวจอยาหรอ?”
เธอเอ่ยปากอย่างแปลกใจ ในสายตาเต็มไปด้วยความกังวลใจ
“งั้นใบรายงานผลก็ไม่ถูกคนเปลี่ยนแปลงได้อย่างง่ายดายหรอ?”
กู้หงเซินฟังคำพูดนี้ของเธอ ถอนหายใจอย่างเย็นชาทีหนึ่ง: “ง่ายหรอ? ใครบอกคุณว่าง่ายล่ะ?”
เขาพูดพลาง กํไม่รอให้กู้ฉางฉิงซักถาม ก็พูดถึงสถานการณ์อย่างละเอียดของภายในขึ้นมาโดยตรง
อย่าคิดว่ามีคนจ้องมองอยู่จำนวนมากแบบนี้ ในจำนวนนั้นมีคนกลุ่มเดียวที่เป็นของลู่ซือหยี่ คนอื่นอีกสองกลุ่ม ด้านหนึ่งเป็นของตาเฒ่าตระกูลเฟิงแล้วก็คนของเฟิงจิ่งเหยา”
กู้ฉางฉิงได้ฟังคำพูดนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจอย่างโล่งอก
เธอยังคิดว่าเป็นคนของตระกูลลู่ทั้งหมด อีกอย่างก็คือคุณนายเฟิง ถึงอย่างไรผู้หญิงคนนี้ก็คิดหาวิธีให้ลู่ซือหยี่แต่งงานเข้ามาในตระกูลเฟิงมาโดยตลอด คงจะไม่ยอมให้ผลรายงานครั้งนี้มีปัญหาอย่างแน่นอน
ก็เพราะเช่นนี้เธอจึงไม่ได้มุ่งคิดไปยังทางด้านนั้นของนายท่าน
ตอนนี้ฟังกู้หงเซินวิเคราะห์แล้ว กลับคิวว่ามีเหตุผล
ถ้าเวลานี้คุณนายเฟิงมีการกระทำ เฟิงจิ่งเหย่จะต้องรู้อย่างแน่นอน มันจะเป็นข้ออ้างอันทรงพลังสำหรับเฟิงจิงเหยาที่จะหักล้าง
ดังนั้นตามความฉลาดของคุณนายเฟิงแล้ว ไม่สามารถทำแบบนี้ได้
“พูดมาขนาดนี้แล้ว ใบรายงานผลนั้นก็คือปลอดภัย”
กู้หงเซินรับปากไม่ได้
“ถึงแม้จะดูแล้วว่าไม่มีปัญหา แต่ทางด้านนี้ก็ให้คนจับตาดูอยู่ สองสามวันนี้คุณต้องใส่ใจความเคลื่อนไหวของตระกูลเฟิงให้ฉันสักหน่อย”
กู้ฉางฉิงพยักหน้า หลังจากนนั้นคนทั้งสองก็พูดกันอีกสองสามคำแล้วก็วางสาย
กู้ฉางฉิงมองโทรศัพท์ที่วางสายไป ช่วงเวลาหนึ่งก็รู้สึกเหนื่อยใจไม่หยุด
ดีที่ความกังวลใจในก้นบึ้งของหัวใจเธอไม่มีโดยสิ้นเชิง
ถึงอย่างไรก็มีกู้หงเซินจับตาดูอยู่
เพราะเขาไม่สามารถลืมตาดูใครบางคนมาทำลายวันชื่นคืนสุขของลูกสาวเขาได้โดยเด็ดขาด
ก็เพราะแบบนี้ กู้ฉางฉิงจึงค่อยๆวางเรื่องนี้ไว้เบื้องหลัง
แต่ไม่รู้ว่า ที่โรงพยาบาลสองสามวันนี้ จะมีคลื่นใต้น้ำไหม
สองสามฝ่ายกำลังจับตาดู พวกเขารู้ชัดเจนถึงการมีอยู่ของฝ่ายตรงข้าม แต่ไม่กล้าเคลื่อนไหวใดๆทั้งสิ้น
กลัวว่าจะส่งผลกระทบอย่างมาก
แต่คนในจำนวนนี้ ที่ร้อนใจที่สุดก็คือตระกูลลู่และลู่ซือหยี่