สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา – บทที่ 218 ไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือด

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

คฤหาสน์ตระกูลเฟิง ทุกคนมองไปที่รายงานผลการตรวจบนโต๊ะ เหมือนพูดไว้ดีแล้ว ไม่มีคนรีบร้อนที่จะเปิด

โดยเฉพาะคนของทางด้านตระกูลลู่นี้ ไม่เพียงแต่ไม่กังวลใจ ยังได้ปรึกษาหารือตระกูลเฟิงแล้ว

“นายท่าน ก่อนประกาศผลตรวจ ฉันมีอะไรอยากจะปรึกษากับคุณ”

พ่อลู่มองไปทางนายท่านเฟิงด้วยสีหน้าเคารพ ยิ้มแล้วพูดว่า : “ฉันอยากรู้ว่าหลังจากประกาศผล จิ่งเหยาจะสามารถให้ฐานะกับซือหยี่ของครอบครัวเราได้ไหม?”

พร้อมกับคำพูดนี้ที่ออกมา ห้องรับแขกก็เงียบไปชั่วขณะ

ท้ายที่สุดคุณนายเฟิงก็คิดที่จะเอ่ยปาก เพียงแต่ยังไม่ทันได้พูดออกมา ก็ถูกเฟิงซู่ที่อยู่ข้างๆรั้งไว้

เขาบอกใบ้ให้คุณนายเฟิงมองไปทางนายท่านแล้วก็เฟิงจิ่งเหยา

“ความคิดของคุณพ่อกับจิ่งเหยารู้มาตลอด ถ้าไม่อยากทำเสียเรื่อง ตอนนี้เราก็ไม่ต้องพูดอะไร”

เขาพูดกระซิบเพื่อโน้มน้าว

คุณนายเฟิงก็เข้าใจความหมายของเขาดี ก็เลยเก็บคำพูดกลับไป

จริงอยู่ที่เวลานี้ไม่เหมาะที่เธอจะพูด

เธอก็ปรับอิริยาบถแล้วนั่งรอบนโซฟา

นายท่านเฟิงไม่พลาดการกระทำของทั้งสองโดยธรรมชาติ เห็นคุณนายเฟิงดูนิ่งเฉย จึงเงยหน้าขึ้นด้วยความพึงพอใจและมองไปที่เฟิงจิ่งเหยา

เขาอยากจะรู้ว่าหลานชายคนนี้ของตนคิดอะไรอยู่

ใครจะรู้ว่าเฟิงจิ่งเหยาลดสายตาลงและไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ เดิมทีก็ไม่เห็นสายตาของเขา

หมดหนทาง เขาได้แต่กระแอมเบาๆแล้วพูดอย่างขอไปทีว่า : “ตอนนี้ผลยังไม่ชัดเจน จะพูดอะไรก็ยังคงเร็วเกินไป ดูผลกันก่อนเถอะ”

พ่อลู่ได้ฟังคำพูดคัดค้านนี้ สีหน้าก็เคร่งขรึม

เขาเหลือบมองนายท่านด้วยสายตาเย็นชา แอบด่าตาเฒ่าสารพัดพิษเงียบๆ

เพียงแต่เขาอยากเห็นผล ในแววตาเต็มไปด้วยความสำเร็จ ยิ้มพูดว่า : “นายท่านพูดแล้ว งั้นตอนนี้เราก็ดูผลกันเถอะ”

นายท่านเฟิงพยักหน้า น้ำเสียงเคร่งขรึม : “จิ่งเหยา เรื่องนี้คุณเป็นคนที่เกี่ยวข้อง งั้นคุณก็ประกาศผลเถอะ”

เฟิงจิ่งเหยาได้ฟัง ก็มองไปรอบๆ พยักหน้าด้วยสีหน้าเย็นชา

เห็นเขายืนขึ้นหยิบเอกสารบนโต๊ะ

พร้อมการกระทำของเขา ทุกคนก็หันไปมองทางเขา

ความสุขในดวงตาของลู่ซือหยี่แทบจะไม่สามารถซ่อนไว้ได้

สีหน้าพวกเขาแตกต่างกัน เฟิงจิ่งเหยามาลังเลที่จะเปิดเอกสารแล้วหยิบออกมา

ทันใดนั้น ทุกคนดูเหมือนจะกลั้นหายใจ รอให้เขาประกาศ

ส่วนเฟิงจิ่งเหยา ดูผลรายงานแล้ว แววตานิ่งไปเล็กน้อย สีหน้าก็เปลี่ยนเป็นจริงจังขึ้นมา

คนตระกูลลู่มองหน้ากัน ในแววตาเต็มไปด้วยความลำพองใจ

โดยเฉพาะลู่ซือหยี่ ก็ยิ้มมุมปากเล็กน้อย

เป็นเรื่องที่แน่นอนที่เธอจะแต่งเข้าตระกูลเฟิง

คุณนายเฟิงกับเฟิงซู่ก็พบสีหน้าที่เปลี่ยนไปของพวกเขา ยังคิดว่าสิ่งต่างๆเป็นไปตามที่พวกเขาคาดไว้ เร่งเร้าให้เฟิงจิงเหยาประกาศผลโดยเร็วที่สุด

“ลูกชายคุณนี่ ทำไมถึงดูผลนานขนาดนี้ ไม่รู้หรือไงว่าเรารออยู่? รายงานระบุว่าอย่างไร?”

เฟิงจิ่งเหยาได้ฟัง จึงเงยหน้าขึ้นจากรายงาน

เขาจ้องมองไปที่คุณนายเฟิงที่กำลังตื่นเต้น สีหน้าคาดเดาไม่ได้ : “เกรงว่าจะต้องทำให้แม่ผิดหวัง”

คุณนายเฟิงได้ฟัง รอยยิ้มบนใบหน้าก็แข็งทื่อ ไม่กล้าจะเชื่อในสิ่งที่ตนเองได้ยิน

เธอไม่สนใจเฟิงจิ่งเหยา ดึงรายงานผลการตรวจจากมือของเขาโดยตรง

ดูอันนี้ ก็ทำให้สีหน้าเธอเปลี่ยนไปทันที แม้แต่เฟิงซู่ที่อยู่ข้างๆก็สีหน้าเคร่งขรึมลง

พร้อมกับสีหน้าที่เปลี่ยนไปของพวกเขา บวกกับสิ่งที่เฟิงจิ่งเหยาพูดเมื่อกี้นี้ คนตระกูลลู่อดไม่ได้ที่จะใจสั่น

ลู่ซือหยี่ก็อดไม่ได้ที่จะถามออกมาตรงๆ

“คุณน้าหมิง เป็นอะไรไป?”

คุณนายเฟิงมองลู่ซือหยี่ด้วยสีหน้ายุ่งเหยิง ไม่รู้ว่าควรจะตอบกลับยังไง

สุดท้ายเฟิงซู่ก็ส่งใบรายงานผลไปด้วยใบหน้าเศร้า

“พวกคุณลองดูเองเถอะ!”

คู่สามีภรรยาตระกูลลู่มองสีหน้าพวกเขาที่ผิดปกติแล้ว คล้ายกับจิตสำนึกรู้สึกได้ถึงอะไร รับผลตรวจด้วยสีหน้าที่เปลี่ยนไปเล็กน้อย

เห็นในใบสรุปผลว่า เขียนแสดงไว้ว่าเด็กกับเฟิงจิ่งเหยาไม่มีความสัมพันธ์ใดทางสายเลือด

ลู่ซือหยี่ก็เห็นผลตรวจนี้ ในหัวก็มีเสียงระเบิดดังสะเทือนเลื่อนลั่น

“เป็นไปไม่ได้ ทำไมเป็นแบบนี้?”

เธอเงยหน้ามองไปยังเฟิงจิ่งเหยาอย่างไม่อยากจะเชื่อ

“พี่จิ่งเหยา นี่ไม่ใช่เรื่องจริง คุณต้องเชื่อฉัน เด็กเป็นลูกของคุณ”

พูดจบ เธอก็คล้ายกับคิดอะไรได้ ตะโกนเสียงหลงออกมาว่า: “ต้องมีคนเปลี่ยนผลการตรวจของพวกเราอย่างแน่นอน”

เฟิงจิ่งเหยามองท่าทีของเธอที่เข้ามาใกล้อย่างบ้าคลั่ง อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเยาะออกมา

“สุดท้ายแล้วใครเป็นคนเปลี่ยนผลตรวจDNA ฉันคิดว่าคุณน่าจะรู้อยู่แก่ใจ”

พูดจบ เขากวาดสายมองไปยังคู่สามีภรรยาตระกูลลู่ กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า: “เรื่องนี้ ฉันไม่อยากพูดอะไรมากหรอก วางแผนคิดร้ายคนอื่นครั้งหนึ่งแล้วก็ช่างมันเถอะ แต่ถ้ามีอีกครั้ง ถึงแม้ว่าสองตระกูลจะคบกันมาหลายชั่วอายุคน ฉันก็จะไม่ให้อภัย”

นี่เป็นครั้งแรกที่สามีภภรรยาตระกูลลู่ถูกคนรุ่นหลังใช้อำนาจคุกคาม สีหน้าก็เศร้าหมองลงไปทันที

ลู่ซือหยี่ไม่ได้มีเวลามากขนาดนั้น ตอนนี้ในสมองเต็มไปด้วยผลรายงานการตรวจนั้น

“พี่จิ่งเหยา ทำไมคุณถึงพูดแบบนี้ ก็ชัดเจนอยู่ว่าเด็กเป็นลูกของคุณ คือคุณไม่อยากยอมรับจึงพูดแบบนี้ใช่ไหม?”

เธอรั้งเฟิงจิ่งเหยา ต้องการให้เขาพูดออกมาสักคำ

เฟิงจิ่งเหยาถูกเธอมาพัวพันจนหงุดหงิด สะบัดมือออกจากเธอ

“คุณลู่ คุณแน่ใจว่าจะร่วมหารือกับฉันต่อไปใช่ไหม?”

เขากล่าวถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา ลู่ซือหยี่ไม่ได้สังเกตเห็นความอันตรายในคำพูดของเขา คิดเพียงแค่ต้องการให้เขารับผิดชอบตนเอง

“หรือว่าเรื่องนี้ไม่ควรชี้แจงให้ฉันฟังสักหน่อยหรอ?”

เธอมองเฟิงจิ่งเหยาอย่างดื้อรั้น

เฟิงจิ่งเหยายิ้มเยาะ: “ได้ ในเมื่อคุณต้องการคำชี้แจง อย่างนั้นฉันก็จะบอกคุณ ก่อนหน้านี้DNAนี้ ล้วนส่งให้หลายโรงพยาบาลของเมืองหลวงพิสูจน์DNAนี้แล้ว ผลตรวจทั้งหมดก็ล้วนแสดงออกมาแบบนี้!”

ลู่ซือหยี่ฟังคำพูดนี้จบ ก็นิ่งอึ้งไป

แต่เฟิงจิ่งเหยาก็ไม่ได้สนใจเธอ ลุกจากโซฟาหยิบผลตรวจปึกหนึ่งโยนลงบนโต๊ะ

“ทั้งหมดนี้คือผลตรวจที่ฉันได้รับวันนี้ ถ้าคุณไม่เชื่อ สามารถตรวจสอบดูเองได้”

ลู่ซือหยี่เห็นเช่นนี้ สีหน้าก็ซีดอย่างรุนแรง

คู่สามีภรรยาตระกูลลู่ก็หน้าดำคร่ำเครียด

ในช่วงที่พวกเขากำลังอยากจะพูดอะไร เฟิงจิ่งเหยาก็เอ่ยปากอีกครั้งว่า: “ถ้าสิ่งเหล่านี้ไม่พอล่ะก็ ฉันยังมีอีก”

เขาพูดพลาง สายตามองไปยังลู่ซือหยี่อย่างเหยียดหยาม

“เดือนกว่าๆก่อนหน้านี้ คุณปรากฏตัวในห้อง3102ของโรงแรมหลี่จิงอินเตอร์เนชั่นแนลเป็นเวลาสามวันติดต่อกัน พบผู้ชายลึกลับคนหนึ่ง และอยู่ในห้องด้วยกันเป็นเวลาสามคืน หลังจากเหตุการณ์นั้นแล้ว กล้องที่หมดของโรงแรมก็ถูกคุณจำกัดทิ้งไป เรื่องนี้ คุณจะเสแสร้งอธิบายว่ายังไงอีก?”

ตามที่เขาพูดออกมานี้ สีหน้าลู่ซือหยี่ก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ในสายตาปรากฎความสับสนอลหม่าน

คู่สามีภรรยาตระกูลลู่ก็สีหน้าเปลี่ยนไปชั่วพริบตา

คุณนายเฟิงก็มองไปยังลู่ซือหยี่อย่างยากที่จะเชื่อ

“ซือหยี่ ที่จิ่งเหยาพูดเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า?”

ลู่ซือหยี่เห็นคุณนายเฟิงสีหน้าเศร้า ในใจคิดอยากที่จะอธิบาย แต่ไม่รู้ว่าควรจะเอ่ยปากว่ายังไง

ต่อให้เธออยากจะหาข้อแก้ตัวมาเล่นละครตบตา ก็เป็นกังวลทางด้านเฟิงจิ่งเหยาไม่กล้าพูด

เธอไม่ได้ตอบกลับ คุณนายเฟิงก็เดาได้ถึงผลลัพธ์แล้ว บนใบหน้าระงับความผิดหวังและความโกรธเอาไว้ไม่อยู่

“ซือหยี่ คุณ……คุณทำให้ฉันผิดหวังเกินไปจริงๆ ฉันเชื่อคุณขนาดนั้น แต่คุณ……ไม่นึกเลยว่าคุณจะเอาลูกของคนอื่นมายัดเยียดให้จิ่งเหยา พวกคุณนี่มัน………”

เธอกล่าวประณามด้วยความโกรธจนถึงสุดท้าย ไม่พบคำใดที่จะอธิบาย ทำได้เพียงจ้องมองลู่ซือหยี่และคนอื่นๆอย่างกัดเขี้ยวเคี้ยวฟัน

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

Status: Ongoing
ก่อนแต่งงานแทนน้องสาวเข้าไปในตระกูลเฟิง กู้ฉางชิงได้ยินว่าเฟิงจิ่งเหยาเป็นคนที่เฉยเมย ต่อมาถึงได้รู้ว่าข่าวลือล้วนเป็นเรื่องโกหก คุณเฟิงไม่เพียงแต่ไม่เย็นชา กลับเป็นคนที่อบอุ่น แต่กระตือรือร้นเป็นพิเศษในการมีทายาท มีคนพูดเป่าหูต่อหน้าเขา “คุณเฟิง ก่อนคุณจะกลับประเทศ ในทุกๆคืนภรรยาของคุณจะไม่กลับบ้าน เพราะออกไปเมาข้างนอก” เฟิงจิ่งเหยา “หลังจากฉันกลับประเทศ ตอนค่ำภรรยาของฉันจะมาอยู่ที่ห้องฉัน ปรนนิบัติฉันไม่นอนทั้งคืน” มีคนพูดอีกว่า “ก่อนคุณจะกลับมา ภรรยาของคุณช้อปปิ้งทั้งวัน เปลี่ยนรถยี่ห้อหรูไม่หยุด แถมยังมีหนุ่มคอยอยู่เธอตลอดเวลา” เฟิงจิ่งเหยา พูดต่อว่า “หลังจากฉันกลับประเทศ บัตรเครดิตทุกใบของฉัน ฉันก็อยากให้ภรรยาฉันใช้ แต่เธอไม่ต้องการ ไปกลับจากที่ทำงานก็ให้ฉันไปรับแค่คนเดียว” สำหรับคนที่เย็นชา เมื่อมีภรรยาจะคลั่งรักเป็นพิเศษ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท