สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา – บทที่ 221แค่อยากให้คุณ

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

เฟิงจิ่งเหยาได้ยินจี้อี้ถอนหายใจ ก็อดยิ้มไม่ได้

“เหตุการณ์ในชีวิตนี้ ใครจะสามารถคาดเดาได้”

จี้อี้ได้ฟัง แววตาก็เป็นประกาย ยิ้มพูดว่า : “ที่พูดมาก็ถูก สรรพสิ่งในโลกล้วนไม่เที่ยงแท้”

เธอพูดจบ ก็หันไปมองกู้ฉางฉิงเงียบๆ พูดหยอกล้อว่า : “เอาล่ะ ในเมื่อคุณกู้กลับมาแล้ว ฉันก็ไม่รบกวนการทานข้าวของพวกคุณแล้ว เรื่องที่คุณพูดเมื่อกี้ ฉันจะพิจารณาดีดี”

พูดจบ เธอก็ลูกขึ้นเตรียมจะไป

เฟิงจิ่งเหยาก็ไม่ได้เหนี่ยวรั้ง พยักหน้าพูดว่า : “เช่นนั้น ก็จะรอฟังข่าวดีของรุ่นพี่นะ”

จี้อี้พยักหน้า แล้วหันกลับออกไป

หลังจากเธอออกไป กู้ฉางฉิงก็เพิ่งจะกลับมาที่ที่นั่ง ก็ได้ยินเฟิงจิ่งเหยาพูดคุยถึงการสนทนาก่อนหน้านี้ของพวกเขาด้วยตนเอง

“ฉันได้ข่าวมาก่อนหน้านี้ ว่าจี้อี้มีแผนจะกลับประเทศมาเพื่อัฒนาในช่วงระยะเวลาใกล้ๆนี้ ดังนั้นจึงอยากดึงเธอมาที่บริษัท คุณไม่ใช่ไม่เห็นด้วยใช่ไหม?”

กู้ฉางฉิงตกตะลึงเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าเขาขอความเห็นจากเธอ ฉับพลันก็อบอุ่นในหัวใจ

ชัดเจนว่านี่คือเขาใส่ใจความคิดเห็นของเธอ

“ฉันมีอะไรที่จะไม่เห็นด้วยล่ะ มีรุ่นพี่จี้มาเข้าร่วมกับบริษัท จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนาบริษัท ก็รู้ว่ามีบริษัทไม่น้อยที่อยากจะแย่งตัวรุ่นพี่จี้ไป”

เธออมยิ้มตอบกลับ พูดความคิดเห็นของตนเอง

เฟิงจิ่งเหยามองเธอเงียบๆสิงสามวินาที ไม่มีความฝืนใจบนใบหน้าของเธอ จึงวางใจ ยิ้มพูดว่า : “คุณไม่ได้ไม่เห็นด้วยก็ดีแล้ว”

กู้ฉางฉิงได้ฟังคำพูดนี้ ก็อดเผลอยิ้มออกมาไม่ได้

“เพื่อเป็นเรื่องดีแก่บริษัท ทำไมฉันจะไม่เห็นด้วยล่ะ?”

เฟิงจิ่งเหยาพยักหน้า แสดงออกว่าตนเองคิดมากเกินไป

หลังจากทั้งสองคนทำอาหารเสร็จ ก็ไม่ได้รีบร้อนกลับไป

กู้ฉางฉิงกินอิ่มไปหน่อย เลยคิดว่าจะไปเดินเล่น เพื่อย่อย

เฟิงจิ่งเหยาเห็นด้วย เพราะเรื่องเมื่อตอนกลางวัน เขาก็ไม่ค่อยอยากกลับไปเร็วขนาดนั้น

ทั้งสองคนเดินจับมือกันอยู่ข้างถนน เหมือนตาแก่ยายแก่ที่แต่งงานกันมานาน ทำให้กู้ฉางฉิงใจลอยเล็กน้อย

เธอมองภาพด้านหลังที่สูงใหญ่ของเฟิงจิ่งเหยา หัวใจที่เงียบสงบเต้นระรัวขึ้นมาอีกครั้ง

“คุณมองอะไรอยู่?”

เฟิงจิ่งเหยาพบกับสายตาของเธอ เอียงหน้าเล็กน้อยเพื่อถาม

กู้ฉางฉิงสติกลับมา รีบละสายตาออกอย่างรวดเร็ว ลดสายตาลงเพื่อปิดบังความรักในใจ

“อื้อ ไม่ได้มองอะไร?”

เธอพูดอย่างประหม่าเล็กน้อย

เฟิงจิ่งเหยาเลิกคิ้ว เหมือนจะยิ้มไม่ยิเมมองมาที่เธอ

“ใช่หรอ?”

กู้ฉางฉิงรู้ว่านี่คือเขามาเชื่อตนเอง แต่เธอไม่รู้ว่าจะเล่นละครตบตาอย่างไร ได้เพียงแต่มองไปรอบๆ เห็นเสื้อผ้ารูปแบบใหม่ๆมากมายในร้านเสื้อผ้า พูดเปลี่ยนประเด็นว่า : “ฤดูกาลกำลังจะเปลี่ยนไป เราไปดูเสื้อผ้ากันเถอะ”

พูดจบ เธอก็ไม่ห็โอกาสเฟิงจิ่งเหยาได้ปฏิเสธ พาเขาไปที่ห้างสรรพสินค้า

เป็นธรรมดาที่เฟิงจิ่งเหยาจะเห็นการหลีกหนีของเธอ เขาหัวเราะเบาๆ สุดท้ายก็ไม่ได้ถามอะไรอีก เดินตามเธอเข้าไปในร้านเสื้อผ้า

บางทีความงามกับการช็อปปิ้งก็เป็นธรรมชาติของผู้หญิง กู้ฉางฉิงเข้าไปในร้านแบรนด์เนม ไม่นานก็โยนความลำบากใจเมื่อกี้นี้ไว้ข้างหลัง

ในเวลานี้เฟิงจิ่งเหยาก็เปลี่ยนความคิดก่อนหน้านี้ของเขาเล็กน้อย

เขามองกู้ฉางฉิงด้วยความสนใจเป็นอย่างยิ่ง อดเดาไม่ได้ว่าผู้หญิงคนนี้เมื่อกี้เสนอว่าจะมาช๊อปปิ้ง เกรงว่าไม่ใช่เพื่อหลบหนีจากเขา แต่ว่าเก็บกดความรู้สึกไว้ไม่ไหว

ตามข้อมูลที่บอก ผู้หญิงคนนี้เมื่อก่อนชอบช๊อปปิ้งมาก

ตอนนี้ก็เกือบสามเดือนแล้วที่เขากลับมา ก็ไม่เห็นเธอช้อปปิ้ง เห็นได้ชัดว่าเมื่อสักครู่นี้ยับยั้งอารมณ์ไว้ไม่ไหว

กู้ฉางฉิงไม่รู้ว่าเฟิงจิ่งเหยาคิดอะไรในใจ

เวลานี้เธอวางแผนให้ตนเองไว้ดีแล้ว ซื้อเสื้อผ้าเปลี่ยนฤดูกาลสองชิ้น สุดท้ายเดินผ่านร้านเสื้อผ้าผู้ชาย ก็มองเสื้อผ้าด้านในร้าน เธอก็เดินไม่ไหวแล้ว

“เราเขาไปดูกันหน่อย”

เธอดึงเฟิงจิ่งเหยาเดินเข้าไป

โดยเฉพาะเมื่อเห็นเสื้อผ้าพอดีตัวบนชั้น ก็อดไม่ได้ที่จะลองเอามาเทียบบนตัวของเฟิงจิ่งเหยา

“ตัวนี้เหมือนจะดูดีนะ?”

เธอหยิบเสื้อสเวตเตอร์สบายๆมาทำท่าทำทางด้านหน้าเฟิงจิ่งเหยา

พนักงานขายเห็นคนทั้งสองสวมใส่เสื้อผ้าปราณีตอย่างมาก ดูแล้วคือไม่ขาดเงิน จึงเข้าไปเสริมการขายสินค้าทันที

“คุณผู้หญิงท่านนี้ สายตาดีจริงๆ นี่คือสินค้าของร้านพวกเราที่ได้รับความนิยมในฤดูกาลถัดไป คุณต้องการให้คุณผู้ชายลองก่อนไหมคะ?”

กู้ฉางฉิงหันไปมองเฟิงจิ่งเหยาด้วยจิตสำนึก ในสายตามีความต้องการอย่างชัดเจน

เฟิงจิ่งเหยาเลิกคิ้วและแปลกใจ

ชัดเจนว่าผู้หญิงคนนี้ไม่รู้ว่าเสื้อผ้าของเขาล้วนสั่งตัดจากต่างประเทศมาแต่ไหนแต่ไร

แต่ในความเป็นจริง เรื่องเล็กน้อยแบบนี้กู้ฉางฉิงไม่รู้จริงๆ เธอเห็นว่าเสื้อผ้าเหล่านี้ดูดี ก็อยากจะเลือกชุดที่รูปร่างลักษณะเหมาะสมนี้ให้เฟิงจิ่งเหยาสักสองสามชุด

แต่เธอเห็นเฟิงจิ่งเหยาไม่ตอบกลับอยู่นาน การเฝ้ารอในสายตาก็ค่อยๆคลายออก คนก็เงียบสงัดลงมา

“เอ่อ ขอโทษด้วย…..”

เมื่อเธอกำลังจะนำเสื้อผ้าส่งคืนให้พนักงานขาย เฟิงจิ่งเหยาก็ตัดบทคำพูดของเธอ และยังหยิบเสื้อบนมือเธอ กล่าวอย่างเคร่งขรึมว่า: “ฉันจะไปลอง คุณรอฉันอยู่ที่นี่”

พูดจบ เขาก็หันเดินไปยังห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า

กู้ฉางฉิงจ้องมองภาพด้านหลังของเขาที่จากไป นานแล้วจึงตอบรับเข้ามา เดิมทีรอยยิ้มที่หายไปก็กลับมายิ้มอีกครั้ง ยิ่งสดใสมากขึ้นกว่าก่อน

เธอมาถึงบริเวณที่นั่งรอ รอให้เฟิงจิ่งเหยาเปลี่ยนผ้าเสร็จแล้วออกมา

ไม่นาน ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าก็ถูกเปิดออก ได้ยินเสียงลมหายใจดังขึ้นจากร้านเสื้อผ้าบุรุษ

“หล่อมาก!”

“คือมีอำนาจของการเป็นท่านประธานจริงๆ ทำไมถึงมีคนหล่อเหลาได้ขนาดนี้?”

“ไม่ไหวแล้ว ฉันจะเป็นลม”

เสียงพูดคุยสนทนาของพนักงานขายดังขึ้นทุกทิศทุกทางไม่หยุด

กู้ฉางฉิงรู้ว่าพวกเธอไม่ได้เจตนาร้าย เพียงแค่ชื่นชมด้วยความบริสุทธิ์ ฉันนั้น เธอก็ไม่ได้ไม่สบายใจ แต่กลับรู้สึกภูมิใจและอิ่มใจ

เพราะผู้ชายที่พวกเธอชมเชยคือสามีของเธอ

คิดแบบนี้แล้ว ในสายตาของเธอที่เต็มไปด้วยความรักละมุนมองไปยังเฟิงจิ่งเหยา

เมื่อเห็นชายคนนั้นเปลี่ยนชุดสูทแบบเดิมๆ เป็นเสื้อเชิ้ตเสื้อสเวตเตอร์ และกางเกงลำลอง

เดิมทีใบหน้าที่เย็นชาก็เปลี่ยนเป็นอ่อนโยนลงไม่น้อย ออร่าอันทรงพลังของทั้งร่างก็ถูกระงับเอาไว้ คมคายเล็กน้อย เฉื่อยชามากขึ้นหน่อย

กู้ฉางฉิงอดไม่ได้ที่จะมองอย่างใจลอย

นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเห็นเฟิงจิ่งเหยาแต่งตัวด้วยชุดอื่น อาจกล่าวได้ว่ามีสองสไตล์ที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

เฟิงจิ่งเหยาก็สังเกตเห็นถึงความตะลึงงันของเธอ เห็นสายตาของเธอตราตรึงอยู่บนเรือนร่างของตัวเอง หัวใจก็เหมือนกับถูกยัดเต็มไปด้วยปุยฝ้าย ทั้งอบอุ่นทั้งอิ่มอกอิ่มใจ

“ดูดีไหม?”

เขาเดินไปยังเบื้องหน้ากู้ฉางฉิง กระซิบถาม

“ดูดี!”

กู้ฉางฉิงเหมือนกับถูกดึงดูด พยักหน้าตอบกลับโดยไม่คิด

เฟิงจิ่งเหยาเห็นเช่นนื้ รอยยิ้มที่มุมปากก็ขยายกว้างอีกครั้ง เงยหน้ามองไปยังพนักงานขายที่อยู่ด้านข้าง กล่าวสั่งว่า: “ห่อเสื้อผ้าทั้งหมดที่เธอเพิ่งดูเมื่อกี้นี้”

พนักงานขายนิ่งอึ้งไปเล็กน้อย แล้วรีบตอบรับ

“ค่ะ!”

พูดจบ คนก็ตามกับไปห่อของ

เวลานี้กู้ฉางฉิงเพิ่งได้สติ มองเฟิงจิ่งเหยาแล้วกล่าวอย่างสับสนว่า: “แบบนี้มันเยอะเกินไปหรือเปล่า?”

รู้ว่าเมื่อกี้เธอดูเสื้อผ้าไปไม่น้อย

นี่ต้องการซื้อกลับไปหมด บอกกับที่มีในบ้าน ก็ไม่รู้ว่ากี่ปีถึงจะใส่หมด

เฟิงจิ่งเหยาเห็นในสายตาของเธอลังเล เลิกคิ้วเล็กน้อย

ความสงสัยก่อนหน้ามาจู่โจมอีกครั้ง

ที่จริงแล้วในข้อมูลบอกไว้ว่า กู้ฉางซินชอบช้อปปิ้งอย่างมาก แทบจะกวาดจนร้านโล่ง

แต่เวลานี้ผู้หญิงคนนี้กลับไม่ชอบ

ดวงตาทั้งคู่ของเขาหรี่มองขึ้นมาอย่างไม่ทิ้งร่องรอย กล่าวอย่างเผลอยิ้มออกมา: “ถึงแม้ว่าในบ้านจะมีเสื้อผ้า แต่เสื้อผ้าเหล่านั้นก็ไม่ใช่คุณเลือก ฉันอยากใส่ที่คุณเลือกให้”

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

Status: Ongoing
ก่อนแต่งงานแทนน้องสาวเข้าไปในตระกูลเฟิง กู้ฉางชิงได้ยินว่าเฟิงจิ่งเหยาเป็นคนที่เฉยเมย ต่อมาถึงได้รู้ว่าข่าวลือล้วนเป็นเรื่องโกหก คุณเฟิงไม่เพียงแต่ไม่เย็นชา กลับเป็นคนที่อบอุ่น แต่กระตือรือร้นเป็นพิเศษในการมีทายาท มีคนพูดเป่าหูต่อหน้าเขา “คุณเฟิง ก่อนคุณจะกลับประเทศ ในทุกๆคืนภรรยาของคุณจะไม่กลับบ้าน เพราะออกไปเมาข้างนอก” เฟิงจิ่งเหยา “หลังจากฉันกลับประเทศ ตอนค่ำภรรยาของฉันจะมาอยู่ที่ห้องฉัน ปรนนิบัติฉันไม่นอนทั้งคืน” มีคนพูดอีกว่า “ก่อนคุณจะกลับมา ภรรยาของคุณช้อปปิ้งทั้งวัน เปลี่ยนรถยี่ห้อหรูไม่หยุด แถมยังมีหนุ่มคอยอยู่เธอตลอดเวลา” เฟิงจิ่งเหยา พูดต่อว่า “หลังจากฉันกลับประเทศ บัตรเครดิตทุกใบของฉัน ฉันก็อยากให้ภรรยาฉันใช้ แต่เธอไม่ต้องการ ไปกลับจากที่ทำงานก็ให้ฉันไปรับแค่คนเดียว” สำหรับคนที่เย็นชา เมื่อมีภรรยาจะคลั่งรักเป็นพิเศษ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท