กู้ฉางฉิงได้ฟังความรักหวานที่ไม่เหมือนคำรักหวานนี้ หัวใจก็เต้นรัวขึ้นมา
เธอตะลึงมองไปที่เฟิงจิ่งเหยา แก้มขาวๆก็ค่อยๆแดงขึ้นมา
“ใครจะซื้อให้คุณ ฉันแค่ดูเฉยๆก็เท่านั้น!”
เธอกลับเดินไปที่เคาท์เตอร์อย่างโกรธๆเพราะเขินอาย ท่าทางที่ยิ่งปกปิดยิ่งเห็นได้ชัดนั้นทำให้เฟิงจิ่งเหยายกยิ้มมุมปาก
เร็วมาก เสื้อผ้าก็ใส่ห่อเสร็จ กู้ฉางฉิงให้พวกเธอส่งไปที่ตระกูลเฟิง แล้วจึงพาเฟิงจิ่งเหยาออกไป
ก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะการเกี้ยวพาราสีเมื่อกี้หรือเปล่า กู้ฉางฉิงจงใจเดินก้าวเร็วขึ้นสองสามก้าวเพื่อให้ทันเฟิงจิ่งเหยา
ไม่นาน เธอก็ถูกดึงดูดโดยเสื้อผ้าของร้านขายเสื้อผ้าสตรี
นี่คือแบรนด์เสื้อผ้าชั้นสูง ด้านในมีเสื้อผ้าหลากหลายสไตล์ แต่กู้ฉางฉิงชอบทั้งหมด
แค่หลังจากเธอเห็นราคาของเสื้อผ้า ทว่าไม่กล้าลงมือ
คัดสรรอย่างดีที่สุด เธอเลือกชุดสองชุดที่เหมาะกับการแต่งกายแบบมืออาชีพและเตรียมเดินไปที่เคาน์เตอร์
เฟิงจิ่งเหยามองการกระทำของเธอ ขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วขัดขวางไว้
“คุณต้องการแค่สองตัวนี้หรอ?”
ถ้าเมื่อกี้เขาดูไม่ผิด เห็นได้ชัดว่าที่ผู้หญิงคนนี้ชอบมีไม่น้อย
“อืม……สองตัวพอแล้ว”
กู้ฉางฉิงตอบกลับอย่างช้าๆ
ใครจะรู้เพิ่งจะพูดจบ เฟิงจิ่งเหยาก็ดึงเธอหลับไปที่โซนเสื้อผ้าอีกครั้ง
“ตัวนี้ ตัวนี้ แล้วก็ตัวนี้ เบอร์S ให้เธอลองหน่อย”
เขาชี้ไปที่แบบที่กู้ฉางฉิงเพิ่งดูเมื่อกี้แล้วพูดกับพนักงานขาย
พนักงานขายรีบออกไปเอามาทันที
กู้ฉางฉิงเห็นว่าเธอออกไปแล้ว ขมวดคิ้วพูดว่า : “ฉันไม่ต้องการเสื้อผ้ามากมายขนาดนั้น ใส่ไม่หมด อีกทั้งที่บ้านยังมีอีกเยอะมากเลย”
เฟิงจิ่งเหยาเอียงมองเธอ
“ใส่ไม่หมดก็ค่อยๆใส่ไป ฉันเห็นว่ามีหลายชุดทางด้านนี้ที่เหมาะกับคุณ”
เขาพูดจบก็เอาชุดลองอีกสองสามตัวแล้วขอไซส์จากพนักงานขาย
กู้ฉางฉิงมองเขาที่เลือกเสื้อผ้าให้ตนเองอยู่ด้านหลัง ไม่รู้ทำไม ฉับพลันก็เกิดความสุขและความหวานชื่นในใจ
ช๊อปปิ้งที่ห้างสรรพสินค้าเสร็จ ในมือของทั้งสองก็มีถุงถือเต็มไปหมด กู้ฉางฉิงเสนอว่าจะกลับแล้ว
เฟิงจิ่งเหยาก็เห็นด้วย พาเธอเดินกลับ
ไม่คิดว่าอยู่บนท้องถนนจี้อี้จะโทรเข้ามา ต้องการเยี่ยมชมบริษัทในวันพรุ่งนี้
“โอเค งั้นพรุ่งนี้เจอกันที่บริษัท”
……
วันต่อมา เพราะว่าจี้อี้อยากไปเยี่ยมชมบริษัท เฟิงจิ่งเหยาก็ตามกู้ฉางฉิงไปที่สำนักงานสาขาด้วย
เพียงแต่สองคนก็แยกกันที่ทางแยกเหมือนเดิม
กู้ฉางฉิงเดินเข้าไปในบริษัท เพิ่งตอกบัตรเสร็จ ก็เห็นเฟิงจิ่งเหยาพาจี้อี้เดินออกจากลิฟท์มา
วันนี้จี้อี้ยังคงแต่งตัวเป็นมืออาชีพมีความสามารถและประสบการณ์เหมือนเดิม เพียงแต่การแต่งหน้าดูปราณีตกว่าเมื่อวาน เผยให้เห็นออร่าของผู้หญิงที่ส่งออกมา แม้ว่าจะยืนอยู่ข้างๆเฟิงจิ่งเหยาก็ไม่ได้ด้อยไปกว่ากันเลยแม้แต่น้อย
ทั้งสองคนไม่รู้ว่าพูดคุยอะไรกัน มีรอยยิ้มปรากฏบนใบหน้า
โดยเฉพาะเฟิงจิ่งเหยา ใบหน้าที่เย็นชาแข็งกระด้างตามปกติเวลานี้นุ่มนวลขึ้นมาก ดูเหมือนว่าพนักงานทุกคนต่างตกตะลึง
“โอ้พระเจ้า คาดไม่ถึงว่าฉันจะเห็นท่านประธานยิ้ม หรือว่าผู้หญิงคนนั้น จะเป็นแฟนของท่านประธาน?”
“ฉันดูว่าน่าจะเป็นไปได้อย่างมาก เมื่อก่อนท่านประธานไม่เคยผู้หญิงสวยๆมาเลย แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เห็นท่านประธานปฏิบัติต่อผู้หญิงอ่อนโยนขนาดนี้
“ถ้าผู้หญิงคนนี้เป็นแฟนของท่านประธานจริงๆ รู้สึกว่าผู้หญิงหลายๆคนในบริษัทต้องอกหักแล้ว”
บางคนอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ บางคนก็รู้สึกว่าทั้งสองคนเหมาะสมกันมาก
กู้ฉางฉิงยืนอยู่ด้านหลังฝูงชนเพื่อฟังความคิดเห็นของพวกเขา ในใจก็รู้สึกหงุดหงิดมาก
เธอเงยหน้าขึ้นมองคนทั้งสองที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ต้องบอกว่า จี้อี้และเฟิงจิ่งเหยายืนอยู่ด้วยกันดูเหมาะสมกันอย่างมาก
ช่วงที่เธอกำลังคิดอยู่ เฟิงจิ่งเหยาก็พาจี้อี้เดินไปยังแผนกออกแบบ
“รุ่นพี่ นี่คือแผนกออกแบบ ท่านนี้คือผู้รักษาการแทนผู้จัดการแผนกออกแบบ ผู้จัดการแผนกกู้”
เฟิงจิ่งเหยามองกู้ฉางฉิง เป็นสูตรตายตัวของการกล่าวแนะนำ
เขาพูดจบ ก็หันมาแนะนำทางกู้ฉางฉิง: “นี่คือจี้อี้ เป็นนักออกแบบที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ จากนี้ไปพวกคุณจะได้ทำงานร่วมกันและสามารถพูดคุยและเรียนรู้จากกันและกันได้”
กู้ฉางฉิงพยักหน้า: “ท่านประธานวางใจได้”
พูดจบ เธอก็มองไปยังจี้อี้ กล่าวทักทายว่า: “รุ่นพี่จี้ ตั้งตารอที่จะได้ร่วมงานกับคุณ”
จี้อี้ฟังคำพูดของเธอ สายตากวาดมองคนทั้งสองอย่างไม่ทิ้งร่องรอย แฝงไปด้วยรอยยิ้มมุมปากที่ลึกซึ้ง
พูดจริงๆ เธอคาดไม่ถึงว่าคนทั้งสองจะเสแสร้งทำเป็นไม่คุ้นเคยกันในที่ทำงาน
ดวงตาเธอกระพริบมองกู้ฉางฉิง ในใจก็มีเหตุผล
“ด้วยน้ำใจไมตรีที่เปี่ยมล้นเช่นนี้ ถ้าฉันปฏิเสธอีก ก็จะดูเหมือนทำตัวเหนือบุคคลอื่น จิ่งเหยา เรื่องที่คุณพูด ฉันตอบรับ”
เฟิงจิ่งเหยายกคิ้ว กล่าวต้อนรับว่า: “งั้นก็ตั้งตารอการมาของรุ่นพี่”
จากนั้นคนทั้งสองก็เข้าเยี่ยมชมสถานที่อื่นของบริษัทต่อไป แล้วจึงกลับมายังห้องทำงานต่อ
รอจนถึงตอนเที่ยง เฟิงจิ่งเหยาเลี้ยงข้าวจี้อี้ แล้วก็เรียกนางเอกเข้าไปด้วย
คนทั้งสามมาถึงร้านอาหารร้านหนึ่ง หลังจากสั่งอาหารแล้ว ก็คุยเรื่อยเปื่อยกันขึ้นมา
“จะว่าไปแล้ว จิ่งเหยา คุณและคุณกู้สามารถซ่อนตัวอยู่ใน บริษัทได้ค่อนข้างลึกซึ้ง ถ้าไม่รู้ถึงความสัมพันธ์ของพวกคุณ ตอนเช้าที่อยู่ด้วยกันกะบพวกคุณ ฉันล้วนไม่เชื่อว่าพวกคุณเป็นสามีภรรยากัน”
กู้ฉางฉิงได้ฟังคำพูดนี้ ไม่รู้ว่าทำไมถึงรู้สึกแปลกๆ
เธอคลึงๆจมูกหน้าเหยเก ยิ้มแล้วกล่าวว่า: “นี่ก็คือควาทสะดวกในการทำงาน”
เฟิงจิ่งเหยาไม่ได้โต้แย้ง จี้อี้มองพวกเขาแล้วพยักหน้าในความคิดทั้งหมด
คนทั้งสามพูดกันสองสามคำ ทันใดจี้อี้ก็กล่าวทำข้อตกลงว่า: “จิ่งเหยา คุณจัดการที่บริษัทให้เรียบร้อย สองวันนี้ฉันจะเข้าดำรงตำแหน่งโดยเร็วที่สุด”
แน่นอนว่าเฟิงจิ่งเหยาปฏิเสธไม่ได้
อาหารมื้อนี้ คนทัเงสามถือว่าเป็นอาหารที่ดีสำหรับแขก
หลังจากรับประทานอาหารเสร็จ เฟิงจิ่งเหยาก็ให้กู้ฉางฉิงกลับมายังบริษัทก่อน หลังจากที่ส่งจี้อี้แล้ว จึงกลับไปยังบริษัท
ไม่นึกว่าเพียงเข้าไปในห้องทำงาน ก็พบมู่เฉาเกอนั่งอยู่บนโซฟา
“มาหาใคร คุณมาได้ยังไง?”
เขาซักถามอย่างแปลกใจเล็กน้อย
มู่เฉาเกอมองเขา เลิกคิ้มยิ้มแล้วกล่าวว่า: “ฉันมีเรื่องอยากจะพูดคุยกับคุณ ทำไม ไม่ต้อนรับหรอ?”
เฟิงจิ่งเหยานั่งบนเก้าอี้ทำงานแล้วเผลอยิ้มออกมา
“ได้ยังไง คุณอยากคุยกับฉันเรื่องอะไร?”
มู่เฉาเกอได้ยิน ลุกขึ้นเดินไปยังด้านหน้าโต๊ะทำงานแล้วชี้แจ้งจุดประสงค์ในการมา
“เมื่อเร็วๆนี้ตระกูลมู่ของพวกเราได้เตรียมที่จะพัฒนาชิปอิเล็กทรอนิกส์ รหัสSNT1 ถ้าประสบความสำเร็จ ทุกอุตสาหกรรมสามารถเป็นกึ่งอัจฉริยะได้………’
เธอพูดคุยเรื่องโครงการใหม่ของตระกูลลู่อย่างฉะฉาน ไม่พูดไม่ได้ว่าเนื้อหาด้านในดึงดูดความสนใจของเฟิงจิ่งเหยาขึ้นมา
ถึงแม้ว่าเขาจะกลับจากต่างประเทศมาไม่นาน แต่สองสามเดือนนี้ก็ยังคงมีความเข้าใจแนวโน้มทั้งหมดอยู่บ้าง
จากสถานการณ์เขาสามารถวิเคราะห์ได้ว่า ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า การพัฒนาในประเทศจะค่อยๆมุ่งเน้นไปที่การวิจัยและพัฒนาทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
อีกทั้งเค้กก้อนนี้ที่เต็มไปด้วยผลกำไรตอนนี้ยังมีไม่กี่คนที่เห็น ถ้าคว้าโอกาสไว้ บริษัทเฟิงซื่อไม่เพียง แต่ยังสามารถใช้ประโยชน์จากโอกาสในการสร้างโชคได้ ทำให้ตำแหน่งผู้นำในวงการธุรกิจมั่นคง
“คุณมีเอกสารแบบแผนอย่างเป็นรูปธรรมไหม?”
เขาคิดถึงตรงนี้ ยกคิ้วมองไปยังมู่เฉาเกอ
มู่เฉาเกอยิ้มแล้วกล่าวว่า: “ฉันรู้ว่าคุณจะต้องสนใจ เลยเตรียมไว้แล้ว”
เธอพูดจบ ก็ยื่นเอกสารหนึ่งฉบับจากในมือออกมา
“นี่คือแบบแผนที่ฉันทำ คุณลองดูก่อน มีปัญหาอะไร ถ้าหากว่าไม่มีปัญหา พวกเราจะอธิบายอย่างละเอียดอีกครั้ง”
เฟิงจิ่งเหยามองเอกสารที่เธอส่งให้มา คิ้วเสมอกัน กล่าวหยอกล้อว่า: “ดูเหมือนว่าคุณจะเตรียมการมาพร้อมแล้ว”
พูดพลาง เขาก็รับเอกสารมาตรวจดู