กู้ฉางฉิงไม่รู้ว่าหลังจากที่เธอออกไป ทั้งสองคนก็ใส่ร้ายป้ายสีพวกเธอแม่ลูกอีก
เธอยืนอยู่ที่ทางเดิน ใจลอยอยู่นาน สีหน้าซีดเผือด
เวลานี้ ในหัวของเธอเต็มไปด้วยคำพูดเมื่อกี้นี้ของกู้ฉางซิน ก้องอยู่ในหูตลอด
นั้นเป็เพียงการบริจาคทานของเธอ……ไม่นานก็จะถูกเอากลับคืนไป
ฉะนั้นเธอจึงกลับมาเพื่อเตือนสติเธอโดยเฉพาะใช่ไหม?
กู้ฉางฉิงคิดถึงตรงนี้ ก็อดยิ้มเยาะตนเองไม่ได้
เธอคิดอย่างถี่ถ้วน อันที่จริงที่กู้ฉางซินพูดก็ถูก ทั้งหมดนี้เดิมทีก็เป็นของเธอ เธอจะเพ้อฝันอะไรอยู่
เธอกำลังส่ายหัวเพื่อสงบสติอารมณ์ของตนเองอยู่ จู่ๆเฟิงจิ่งเหยาก็ปรากฏตัวขึ้นที่ทางเดิน
เดิมทีเขาเห็นว่ากู้ฉางฉิงออกมาและไม่ได้กลับไปเป็นเวลานาน จึงออกมาดู
ผลคือเห็นกู้ฉางฉิงยืนอยู่ในทางเดินด้วยสีหน้าไม่ค่อยดี
เขาขมวดคิ้ว แล้วเดินเข้าไป
“เกิดอะไรขึ้น? ทำไมสีหน้าคุณดูแย่ขนาดนี้?”
กู้ฉางฉิงได้ยินน้ำเสียงของเขา ก็ตกใจจนตัวสั่นเล็กน้อย
“ไม่มีอะไร ก็แค่ไม่สบายใจนิดหน่อย อยากกลับเร็วหน่อย”
เธอไม่กล้ามองเฟิงจิ่งเหยา หลบตาแล้วพูด
เฟิงจิ่งเหยาไม่ได้สนใจ กลับกันยังเชื่อคำพูดของเธอพยักหน้าแล้วพูดว่า : “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ คุณก็ไปรอฉันที่ชั้นล่าง ฉันจะไปส่งคุณกลับ”
กู้ฉางฉิงตกตะลึง จิตใต้สำนึกอยากจะปฏิเสธ
แต่เห็นความห่วงใยบนใบหน้าของชายคนนี้ คำปฏิเสธของเธอก็พูดไม่ออก ได้แต่พยักหน้า
“อืม”
หลังจากที่ทั้งสองคนเข้าไปที่ห้องวีไอพีแล้ว แสร้งทำเป็นไม่คุ้นเคยกันต่างกลับไปนั่งที่ของตนเอง
คนอื่นก็ไม่ได้ใส่ใจ มีเพียงจี้อี้ที่แอบมองทั้งสองคน
กู้ฉางฉิงไม่ได้สังเกตเห็นการจ้องมองของเธอ หลังจากนั่งลง เธอก็ถูกเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆรุมล้อม
เธอนั่งอยู่สักพัก ก็อ้างว่าไม่สบาย แล้วกล่าวลาทุกคน
“ทุกคนสนุกกันต่อเถอะ ฉันไม่สบายนิดหน่อย ขอกลับก่อน”
ถึงแม้ว่าทุกคนจะไม่เต็มใจเล็กน้อย เพียงแต่ก็ไม่ได้บังคับให้อยู่ต่อ
ไม่นานกู้ฉางฉิงก็ถอนตัวจากโต๊ะเหล้า แล้วออกไปจากห้องวีไอพี
เธอจากไป ก็ไม่ได้มีผลกระทบต่อบรรยากาศในห้องวีไอพีเลย
แม้ว่าจี้อี้จะแปลกใจที่กู้ฉางฉิงจากไปเร็วขนาดนั้น แต่เห็นว่าเฟิงจิ่งเหยาไม่ได้มีแนวโน้วที่จะไป ก็ค่อยๆวางใจลง และพูดคุยกับเฟิงจิ่งเหยาต่อ
แต่เธอวางใจเร็วเกินไป ที่เฟิงจิ่งเหยาไม่ได้ออกไปเพราะต้องการจะสับหลีกเวลากัน
ฉะนั้นเขานั่งอยู่สักพัก ดูว่าเวลาน่าจะได้แล้ว แล้วหยุดหัวข้อสนทนาของจี้อี้ ลุกยืนขึ้น
“ทุกท่าน บริษัทยังมีงานอยู่ ทุกคนสนุกกันต่อเถอะ บิลคืนนี้อยู่ที่ฉันนี่”
เมื่อเขาพูดจบ ทุกคนกล่าวอำลาอย่างกระตือรือร้น
“ท่านประธานกลับดีๆนะ”
“ท่านประธาน เดินทางปลอดภัยนะ”
ตรงข้ามกับคำสรรเสริญเยินยอของพวกเขา สีหน้าของจี้อี้ก็แข็งทื่อ
เธออยากจะพูดอะไร แต่เฟิงจิ่งเหยาก็ไม่ให้โอกาสเธอ หลังจากกล่าวลาทุกคน ก็ออกไปจากห้องวีไอพีเลย
รอจนเฟิงจิ่งเหยาออกจากหิ้งวีไอพีไป จี้อี้จึงสติกลับมา รีบกล่าวลาทุกคนแล้วตามออกไป
ใครจะรู้ว่าเธอสายไปแล้ว เดินมาถึงทางเดินก็ไม่เห็นเฟิงจิ่งเหยาแล้ว
เมื่อเธอเตรียมจะจากไป จู่ๆมุมตาก็ชำเลืองไปเห็นคนที่อยู่ไม่ไกล ดูเหมือนจะเป็นกู้ฉางซิน
เธอเดินเข้าไปอย่างลังเล แต่ว่าที่นั่นไม่มีใครเลย
เธอคงจะมองผิดไป……บางทีเธออาจจะดูผิด เธอจำได้ว่าวันนี้กู้ฉางซินไม่ได้สวมชุดนั้น
เธอส่ายหัวแล้วเดินกลับออกไป
พร้อมกับเธอจากไป กู้ฉางซินก็เดินออกมาจากมุม
เธอมองจี้อี้อย่างครุ่นคิด
เมื่อกี้นี้เธอไม่ได้ถูกใครเห็นใช่ไหม?
……
และเวลานี้ กู้ฉางฉิงรออยู่ที่ลานจอดรถสิบนาที ในที่สุดเฟิงจิ่งเหยาก็ออกมา
“ขอโทษนะ ให้คุณรอนานเลย”
เฟิงจิ่งเหยาเดินเข้าไปใกล้มองสีหน้าของเธอที่ยังคงไม่ดี กล่าวอย่างรู้สึกผิดว่า: “ขึ้นรถเถอะ ฉันจะไปส่งคุณกลีบไปก่อน”
กู้ฉางฉิงไม่ได้พูดอะไร พยักหน้าแล้วตามไปขึ้นรถ
พวกเขาออกไปได้ไม่นาน จี้อี้ก็ไล่ตามลงมา
เธอเห็นเพียงเงารถที่เลือนลาง อดไม่ได้ที่จะกระทืบเท้าอย่างหงุดหงิด ช้าไปก้าวเดียว
กู้ฉางฉิงพวกเขาไม่รู้ ขณะเดินทางกลับ ในรถก็เงียบสงัด
เฟิงจิ่งเหยาเอียงหน้สไปยังคนข้างๆที่หลับตางีบหลับ ในใจรู้สึกไม่ปกติ
รู้สึกว่าเวลานี้บนร่างกายของเธอส่งกระจายกลิ่นอายความเย็นชาออกมาอย่างมาก ซึ่งเขาไม่เคยพบเจอมาก่อน คล้ายกับแฝงไปด้วยรสชาติที่ห่างเหินเล็กน้อย
เขาคิดถึงตรงนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วเล็กน้อย
อยากพูดอะไรบางอย่าง แต่ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร
เขาดึงสายตากลับ บางทีเข้าอาจจะคิดผิดก็ได้
ผู้หญิงคนนี้เพียงแค่เหนื่อย
ถึงอย่างไรหลายวันมานี้เธอก็ยุ่งอยู่ไม่น้อย
ในใจของเขาหาข้ออ้าง แต่แต่ไม่รู้ว่าเขานั้นไม่ได้เข้าใจผิด แต่เป็นความคิดของกู้ฉางฉิงจริงๆ
ตั้งแต่เจอหน้ากันกับกู้ฉางซิน กู้ฉางฉิงก็กำลังคิดถึงปัญหาหนึ่งมาตลอด
เธอคิดว่า ตอนนี้นอกจากที่เธอแสดงบทเป็นภรรยาที่ดีแล้ว ส่วนที่เหลือดีที่สุดคือรักษาระยะห่างจากเฟิงจิ่งเหยา
ขณะนี้เธอ……ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่า ชอบผู้ชายคนนี้ไปแล้ว
แต่ สุดท้ายแล้วพวกเธอไม่มีผลลัพธ์เลย
ถือโอกาสที่ตอนนี้ยังไม่ได้ชอบอย่างลึกซึ้ง ถอนตัวออกมาทันที ก็ยังทัน……
เธอคิดๆแล้ว ก็สะลึมสะลือหลับไป
ก็ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน ก็มาถึงคฤหาสน์แล้ว
“ตื่นๆ ถึงบ้านแล้ว”
เฟิงจิ่งเหยาผลักเบาๆเรียกกู้ฉางซิน
เดิมทีที่เรียกไปสองคำ เธอเห็นกู้ฉางฉิวไม่ตอบสนอง กำลังคิดที่จะโน้มตัวเข้าไปอุ้มเธอ แต่กู้ฉางฉิงสะดุ้งตื่นกับการกระทำของเขา
เธอถอยออกมาโดยจิตสำนึกเปิดระยะห่างระหว่างคนทั้งสอง
เฟิงจิ่งเหยามองการกระทำของเธอ สีหน้าก็ลึกซึ้ง หรี่ตาทั้งคู่เล็กน้อย
เวลานี้กู้ฉางฉิงก็สังเกตเห็นถึงสีหน้าที่ผิดปกติของเขา การกระทำที่ตอบสนองกลับมาเมื่อกี้นี้ง่ายต่อการทำให้คนคิดฟุ้งซ่านๆ
“เอ่อ เมื่อกี้ฉันสะลึมสะลือ ไม่ได้มีความหมายอื่น”
เธอพูดพลางป่ายปีนบนแขนของเฟิงจิ่งเหยา
เฟิงจิ่งเหยามองไปที่รอยยิ้มที่น่าพึงพอใจบนใบหน้าของเธอ แต่ความทุกข์ในใจกลับลดลง
“ลงจากรถเถอะ”
เขาพูดพลาง ถอยไปด้านหลังก้าวหนึ่ง ให้กู้ฉางฉิงลงจากรถ
กู้ฉางฉิงเห็นสีหน้าที่ผ่อนคลายของเขา ก็ถอนหายใจโล่งอก
“เดี๋ยวคุณยังต้องไปจัดการงานที่ห้องหนังสือใช่ไหม?”
เธอหาหัวข้อสนทนามากล่าวถาม
“อืม ยังมีบางเรื่องที่ยังจัดการไม่เสร็จ คุณไม่สบาย ก็พักผ่อนไปก่อนเลย”
กู้ฉางฉิงพยักหน้า: “ฉันรู้แล้ว งั้นคุณก็อย่าทำงานดึกเกินไปนะ”
เธออมยิ้มเป็นห่วง เฟิงจิ่งเหยาพยักหน้าแสดงการรับรู้
หลังจากนั้นคนทั้งสองก็เข้าไปในบ้านใหม่ กู้ฉางฉิงส่งสายตามองเฟิงจิ่งเหยาที่ไปห้องหนังสือแล้ว จึงหันเดินเข้าไปในห้อง
และรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอก็ระงับไปเมื่อเธอหันตัวกลับ เปลี่ยนเป็นเย็นชา
เธอเตือนสติตนเองในใจไม่หยุด นี่ล้วนคือการแสดง อย่าอินจนมากเกินไป
……
วันที่สอง เฟิงจิ่งเหยาตื่นขึ้นมา แต่รู้สึกว่าข้างกายขาดอะไรไป
ก็พบว่ากู้ฉางฉิงที่เดิมทีอยู่ข้างกายเขาเวลานี้ไม่อยู่ในห้องแล้ว
เขาขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วลุกขึ้นไปอาบน้ำ คิดเพียงว่ากู้ฉางฉิงคงตื่นเช้ากว่าตนเอง
แต่ทว่าพอเขาลงไปชั้นล่าง ก็ยังคงไม่พบเงาของกู้ฉางฉิง
เขาเรียกพ่อบ้านมาซักถาม: “คุณนายรองล่ะ?”
พ่อบ้านตอบกลับว่า: “คุณนายรองบอกว่าที่บริษัทยังมีเรื่องที่ไม่ได้จัดการ ออกไปบริษัทตั้งแต่เช้าตรู่แล้วครับ”
เฟิงจิ่งเหยาได้ฟังคำพูดนี้ ก็รู้สึกแปลกๆเล็กน้อย แต่ก็พูดไม่ออกว่าแปลกตรงไหน สุดท้ายก็ต้องละทิ้งแล้วไปบริษัท