สองวันต่อมา เนื่องจากประสบความสำเร็จในการเปิดตัวแบรนด์ใหม่ งานของซูตี้ทางด้านนี้ก็สิ้นสุดลงแล้ว
เธอวางแผนที่จะกลับประเทศ ก็เริ่มส่งมอบงานในมือให้กับกู้ฉางฉิง
เรื่องจุกจิกไม่น้อย ถึงแม้ว่าในระหว่างทางทั้งสองจะมีเรื่องถกเถียงกันมากมาย แต่ผลที่ได้นับว่าสมบูรณ์แบบ
วันนี้ ถึงวันที่ซูตี้จะต้องจากไปแล้ว กู้ฉางฉิงไปส่งเธอที่สนามบิน
“ขอบคุณสำหรับการดูแลของคุณในช่วงเวลานี้ ถึงแม้ว่าระหว่างเราจะเกิดการกระทบกระทั่งกันไม่น้อย เพียงแต่ทัศนะคติในการทำงานของคุณ ยังคงไม่เลว ทำให้ฉันเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อคุณ”
ซูตี้ถือกระเป๋าเดินทางมองกู้ฉางฉิงข้างๆแล้วพูดกล่าวลา
กู้ฉางฉิงเลิกคิ้ว
เธอกำลังอยากจะพูดอะไร ก็ได้ยินซูตี้พูดต่อว่า : “แน่นอน ถ้าหากมีอีกครั้ง ฉันยังคงไม่อยากร่วมงานกับคุณ คุณมันน่าเบื่อเกินไป”
กู้ฉางฉิงพูดไม่ออกเล็กน้อย ผู้หญิงคนนี้ถึงเวลาจากไปยังไม่ลืมจะเหน็บแนมเธอสักสองสามประโยค
“เหมือนกันแหละ”
เธออดไม่ได้ที่จะโต้แย้งกลับ พูดจบ ทว่าทั้งสองคนก็ยิ้มให้กัน
เมื่อกู้ฉางฉิงส่งซูตี้แล้ว ก็กลับไปที่รถคนเดียว เธอเหมือนจะนึกอะไรออก หยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วกดเบอร์หนึ่งโทรออกไป
“คุณมู่ ฉันส่งซูตี้ขึ้นเครื่องบินไปแล้วนะ”
ได้ยินน้ำเสียงสุภาพของมู่จิ่นดังขึ้นในโทรศัพท์ : “ขอโทษด้วยนะ รบกวนคุณเลย ในช่วงเวลานี้ซูตี้สร้างความวุ่นวายให้คุณไม่น้อยเลยใช่ไหม”
กู้ฉางฉิงหัวเราะพูดว่า : “ไม่ถึงขั้นวุ่นวายหรอก ทั้งหมดเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆของพวกสาวๆ”
มู่จิ่นยังคงกล่าวขอบคุณ กู้ฉางฉิงไม่อยากคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับหัวข้อนี้ จึงเปลี่ยนหัวข้อสนทนา
“ใช่สิ นี่ซูตี้กลับไปแล้ว คุณมู่ก็จะกลับไปเร็วๆนี้ใช่ไหม?”
มู่จิ่นไม่ได้ปิดบัง ยิ้มพูดว่า : “อืม ฉันต้องกลับไปในอีกไม่กี่วัน”
“งั้นเมื่อถึงเวลาคุณอย่าลืมแจ้งฉันด้วยนะ คุณมาสองครั้งฉันยังไม่ได้เลี้ยงข้าวคุณเลย ครั้งนี้ไม่ว่าจะยังไง ก็ต้องทานข้าวด้วยกัน”
กู้ฉางฉิงพูดอย่างจริงจัง
มู่จิ่นเลิกคิ้ว ยิ้มแล้วพูดว่า : “ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนวันหรอก เย็นนี้ก็ได้”
กู้ฉางฉิงได้ยิน ก็ประหลาดใจเล็กน้อย
“คุณมู่ว่างเย็นนี้หรอ?”
“ก็ไม่เชิง เพียงแต่มีงานเลี้ยงตอนเย็น ตอนเย็นคุณก็ไปเข้าร่วมด้วยกันกับฉัน พอดีกับมีธุรกิจหนึ่งที่พอจะแนะนำให้คุณได้ ไม่รู้ว่าคุณจะสนใจไหม?”
กู้ฉางฉิงไม่คาดคิดว่ามู่จิ่นจะเชิญเธอไปเป็นแฟนสาว แต่ก็ยังคงตอบรับไป
ตอนเย็นวันนั้น กู้ฉางฉิงก็แต่งตัว เดินทางมาเจอมู่จิ่นที่งานเลี้ยงของโรงแรม
ก็เห็นมู่จิ่นยืนอยู่หน้าประตูทางเข้าโรงแรมในชุดสูทสีฟ้าอ่อน รูปลักษณ์ที่หล่อเหลาผสมผสานผกับเสน่ห์ของเขา เหมือนลูกชายผู้ดีที่เดินออกมาจากเทพนิยาย
“คุณมู่”
กู้ฉางฉิงทำลายความเงียบสงัดทางด้านนี้ด้วยเสียงที่ดัง ก็ทำให้มู่จิ่นมองเห็นเธอ ความประหลาดใจประกายที่แววตา
“คืนนี้คุณกู้จะต้องโดดเด่นอย่างแน่นอน”
เขาพูดติดตลก แค่เห็นกู้ฉางฉิงใส่ชุดเปิดไหล่สีม่วง ชุดอวดเอวรัดรูปทำให้เผยให้ส่วนเว้าส่วนโค้งของเธอได้อย่างเต็มที่
โดยเฉพาะสีม่วงเป็นการแสดงออกถึงความลึกลับ ล้ำค่า ในเวลานี้บวกกับการแต่งหน้าที่ละเอียดอ่อนของกู้ฉางฉิง ดูแพงมีราคาเกินคำบรรยาย
“อย่ามาล้อฉันเล่นเลย”
กู้ฉางฉิงเมื่อถูกเขาชมก็เขินอาย จ้องมองเขาแล้วก็เปลี่ยนหัวข้อเรื่อง : “ใช่สิ ประเด็นหลักของงานเลี้ยงเย็นนี้คืออไรหรอ?”
มู่จิ่นได้ยิน ก็ไม่ได้หยอกล้อเธออีก พูดตอบกลับว่า : “เป็นการพบปะแลกเปลี่ยนกันในวงการธุรกิจ”
เขาพูดจบพร้อมกับพากู้ฉางฉิงไปยังสถานที่จัดงานเลี้ยง เดินไปอธิบายไป
“งานเลี้ยงคืนนี้รวบรวมผู้รับผิดชอบบริษัทเสื้อผ้าที่มีชื่อเสียงหลายแห่งในจีน ในนั้นยังมีแบรนด์เสื้อผ้าและนักออกแบบทั้งในและต่างประเทศอีกด้วย……”
พูดจบ คนทั้งสองก็เข้าไปในงานเลี้ยง ก็พบว่าแขกมารวมตัวกันในห้องประชุมแล้ว คนจำนวนไม่น้อยรวมตัวกันกลุ่มละสองสามคน
พูดได้ว่างานเลี้ยงนี้ถือว่ายิ่งใหญ่
กู้ฉางฉิงมองไปรอบๆครั้งหนึ่ง ยิ้มจางๆมองไปยังมู่จิ่น กล่าวถามว่า: “งั้นธุรกิจที่คุณพูดคือ?”
มู่จิ่นได้ยิน ชี้ไปที่หญิงวัยกลางคนที่แต่งตัวดีซึ่งอยู่ไม่ไกลจากกู้ฉางฉิงและกล่าวว่า: “ท่านนั้นคือคุณผู้หญิงซูเฟยที่เป็นเจ้าของร้านอาหารและเครื่องดื่มนานาชาติSanti Carmen”
กู้ฉางฉิงเลิกคิ้ว ในดวงตาไม่เข้าใจ
“แล้ว?”
“ฉันได้ยินมาว่าบริษัทของพวกเขาตั้งใจที่จะเปลี่ยนเสื้อผ้าของพนักงานบริการในทุกสาขาในเอเชียในครั้งนี้”
เขาพูดพลาง มองกู้ฉางฉิงแล้วจึงกล่าวต่อไปว่า: “คุณอย่าดูถูกทวีปเอเชียนะ มีคนจำนวนไม่น้อยเลยนะ ฉันประเมินแล้วมีมากกว่าล้านชุด ถ้าสามารถเอาใบสั่งสินค้านี้มาได้ อย่างน้อยก็มีหลายสิบล้าน ถือว่าเป็นใบรายการใหญ่เลยใช่ไหมล่ะ?”
กู้ฉางฉิงแปลกใจ: “ทำไมเยอะขนาดนั้นล่ะ?”
มู่จิ่นยิ้มแล้วกล่าวว่า: “ร้านอาหารSanti Carmenมีชื่อเสียงในด้านความโรแมนติก ความหรูหรา และการบริการมาโดยตลอด เป็นแบรนด์ร้านอาหารตะวันตกที่มีชื่อเสียงมาก หากคุณสามารถชนะรายการนี้ได้ สำหรับบริษัทคุณแล้ว ก็เป็นสิ่งที่ดีสิ่งหนึ่ง”
กู้ฉางฉิงพยักหน้ากับความคิดที่มีทั้งหมด
“เพียงแต่คนทาเข้าแข่งขันในคืนนี้ก็ไม่น้อย”
มู่จิ่นกล่าวต่อไปว่า
กู้ฉางฉิงดึงสติกลับมา กล่าวอย่างไม่สนใจว่า: “ผลประโยชน์ใครต่างก็ต้องการ นี้มันปกติมาก ต้องขอบคุณคุณด้วย ที่เสนอโอกาสให้ฉันแข่งขัน”
มู่จิ่นอดยิ้มไม่ได้ ส่ายหน้าแล้วกล่าวว่า: “คุณไม่ต้องขอบคุณฉัน เงื่อนไขของอีกฝ่ายค่อนข้างสูง จะคว้ามาได้หรือไม่ ยังไม่แน่นอน”
กู้ฉางฉิงฟังแล้วก็คิดว่ามีเหตุผล พยักหน้าแล้วกล่าวว่า: “งั้นก็ได้ ฉันก็ไม่เกรงใจคุณแล้วนะ”
พูดพลาง เธอชิมเหล้าแล้วมองไปยังซูเฟย สังเกตการณ์อย่างเงียบๆ
เวลานี้ หน้าประตูห้องงานเลี้ยงก็ปรากฎเงาของคนสองคน ทำให้สถานที่งานเลี้ยงราตรีคึกคักขึ้นมา
เห็นมู่เฉาเกอสวมชุดราตรีสีขาว จูงเฟิงจิ่งเหยาเข้ามาในงานเลี้ยง
คนหนึ่งชุดดำคนหนึ่งชุดขาว คล้ายกับชุดคู่รัก
โดยเฉพาะความใกล้ชิดของมู่เฉาเกอ เฟิงจิ่งเหยาก็ไม่ได้ปฏิเสธ
ก็ไม่รู้ว่ามู่เฉาเกอพูดอะไร เห็นใบหน้าเฟิงจิ่งเหยาที่เดิมทีไร้อารมณ์ทันใดก็ยกมุมปากขึ้นมา
คนจำนวนไม่น้อยเห็นพฤติกรรมที่สนิทสนมของทั้งสอง พวกเขาก็ก้าวไปข้างหน้าเพื่อทักทายด้วยรอยยิ้ม
กู้ฉางฉิงมองไปที่คนทั้งสองที่ล้อมรอบไปด้วยฝูงชน นิ่งอึ้งไปเล็กน้อย
เธอไม่รู้มาก่อนเลยว่าเฟิงจิ่งเหยาจะมา
พอดีที่เธอกำลังงุนงง ก็เห็นมู่เฉาเกอพาเฟิงจิ่งเหยาออกจากฝูงชนแล้วเดินไปยังซูเฟยที่เป็นเจ้าของSanti Carmen
คนทั้งสามพูดคุยกันอย่างรวดเร็ว ดูท่าทางเหมือนกับว่ารู้จักกัน
เมื่อพวกเขากำลังคุยกันเรื่อยเปื่อย บริเวณโดยรอบก็มีการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับพวกเขาไม่น้อย
“ประธานเฟิงและคุณมู่ดูแล้วเข้ากันจริงๆ วงศ์ตระกูลก็เหมาะสมกัน เกรงว่าจะเกี่ยวดองกันในไม่ช้า”
“ใช่ คนทั้งสองยืนคู่กันอย่างกับกิ่งทองใบหยก เกรงว่าในเมืองหลวงนี้จะหาไม่พบคู่ที่สองที่เหมาะสมกันเช่นนี้แล้ว”
“บอกตามตรง ไม่รู้ว่างานแต่งงานในอนาคตของคนทั้งสองจะยิ่งใหญ่ขนาดไหน”
กู้ฉางฉิงฟังคำพูดเหล่านี้ อดไม่ได้ที่จะใจลอยขึ้นมา
เธอมองไปยังเฟิงจิ่งเหยาตำแหน่งที่พวกเขาอย่างเลื่อนลอย นอกจากเธอที่อยู่ด้วยกันกับเฟิงจิ่งเหยาแล้ว ไม่ว่าใครก็ตาม ยืนอยู่ด้วยกันกับเขา คนอื่นต่างก็รู้สึกว่าพวกเขาเหมาะสมกัน……
อีกทั้งคนทั้งหมดก็ไม่รู้การมีอยู่ของเธอ ไม่รู้ว่าผู้ชายคนนี้แต่งงานแล้ว
ไม่ ก็ไม่ใช่คนทั้งหมดที่ไม่รู้
บางคนรู้ แต่พวกเขายอมเสแสร้งทำเป็นไม่รู้ กระทั่งต้องการที่จะทำลาย
อย่างเช่นลู่ซือหยี่ เช่นคุณนายเฟิง……
กู้ฉางฉิงคิดถึงเรื่องเหล่านี้ ทันทีในใจก็หงุดหวิดไม่สบอารมณ์เล็กน้อย