สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา – บทที่ 229 คุณมันน่าเบื่อเกินไป

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

สองวันต่อมา เนื่องจากประสบความสำเร็จในการเปิดตัวแบรนด์ใหม่ งานของซูตี้ทางด้านนี้ก็สิ้นสุดลงแล้ว

เธอวางแผนที่จะกลับประเทศ ก็เริ่มส่งมอบงานในมือให้กับกู้ฉางฉิง

เรื่องจุกจิกไม่น้อย ถึงแม้ว่าในระหว่างทางทั้งสองจะมีเรื่องถกเถียงกันมากมาย แต่ผลที่ได้นับว่าสมบูรณ์แบบ

วันนี้ ถึงวันที่ซูตี้จะต้องจากไปแล้ว กู้ฉางฉิงไปส่งเธอที่สนามบิน

“ขอบคุณสำหรับการดูแลของคุณในช่วงเวลานี้ ถึงแม้ว่าระหว่างเราจะเกิดการกระทบกระทั่งกันไม่น้อย เพียงแต่ทัศนะคติในการทำงานของคุณ ยังคงไม่เลว ทำให้ฉันเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อคุณ”

ซูตี้ถือกระเป๋าเดินทางมองกู้ฉางฉิงข้างๆแล้วพูดกล่าวลา

กู้ฉางฉิงเลิกคิ้ว

เธอกำลังอยากจะพูดอะไร ก็ได้ยินซูตี้พูดต่อว่า : “แน่นอน ถ้าหากมีอีกครั้ง ฉันยังคงไม่อยากร่วมงานกับคุณ คุณมันน่าเบื่อเกินไป”

กู้ฉางฉิงพูดไม่ออกเล็กน้อย ผู้หญิงคนนี้ถึงเวลาจากไปยังไม่ลืมจะเหน็บแนมเธอสักสองสามประโยค

“เหมือนกันแหละ”

เธออดไม่ได้ที่จะโต้แย้งกลับ พูดจบ ทว่าทั้งสองคนก็ยิ้มให้กัน

เมื่อกู้ฉางฉิงส่งซูตี้แล้ว ก็กลับไปที่รถคนเดียว เธอเหมือนจะนึกอะไรออก หยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วกดเบอร์หนึ่งโทรออกไป

“คุณมู่ ฉันส่งซูตี้ขึ้นเครื่องบินไปแล้วนะ”

ได้ยินน้ำเสียงสุภาพของมู่จิ่นดังขึ้นในโทรศัพท์ : “ขอโทษด้วยนะ รบกวนคุณเลย ในช่วงเวลานี้ซูตี้สร้างความวุ่นวายให้คุณไม่น้อยเลยใช่ไหม”

กู้ฉางฉิงหัวเราะพูดว่า : “ไม่ถึงขั้นวุ่นวายหรอก ทั้งหมดเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆของพวกสาวๆ”

มู่จิ่นยังคงกล่าวขอบคุณ กู้ฉางฉิงไม่อยากคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับหัวข้อนี้ จึงเปลี่ยนหัวข้อสนทนา

“ใช่สิ นี่ซูตี้กลับไปแล้ว คุณมู่ก็จะกลับไปเร็วๆนี้ใช่ไหม?”

มู่จิ่นไม่ได้ปิดบัง ยิ้มพูดว่า : “อืม ฉันต้องกลับไปในอีกไม่กี่วัน”

“งั้นเมื่อถึงเวลาคุณอย่าลืมแจ้งฉันด้วยนะ คุณมาสองครั้งฉันยังไม่ได้เลี้ยงข้าวคุณเลย ครั้งนี้ไม่ว่าจะยังไง ก็ต้องทานข้าวด้วยกัน”

กู้ฉางฉิงพูดอย่างจริงจัง

มู่จิ่นเลิกคิ้ว ยิ้มแล้วพูดว่า : “ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนวันหรอก เย็นนี้ก็ได้”

กู้ฉางฉิงได้ยิน ก็ประหลาดใจเล็กน้อย

“คุณมู่ว่างเย็นนี้หรอ?”

“ก็ไม่เชิง เพียงแต่มีงานเลี้ยงตอนเย็น ตอนเย็นคุณก็ไปเข้าร่วมด้วยกันกับฉัน พอดีกับมีธุรกิจหนึ่งที่พอจะแนะนำให้คุณได้ ไม่รู้ว่าคุณจะสนใจไหม?”

กู้ฉางฉิงไม่คาดคิดว่ามู่จิ่นจะเชิญเธอไปเป็นแฟนสาว แต่ก็ยังคงตอบรับไป

ตอนเย็นวันนั้น กู้ฉางฉิงก็แต่งตัว เดินทางมาเจอมู่จิ่นที่งานเลี้ยงของโรงแรม

ก็เห็นมู่จิ่นยืนอยู่หน้าประตูทางเข้าโรงแรมในชุดสูทสีฟ้าอ่อน รูปลักษณ์ที่หล่อเหลาผสมผสานผกับเสน่ห์ของเขา เหมือนลูกชายผู้ดีที่เดินออกมาจากเทพนิยาย

“คุณมู่”

กู้ฉางฉิงทำลายความเงียบสงัดทางด้านนี้ด้วยเสียงที่ดัง ก็ทำให้มู่จิ่นมองเห็นเธอ ความประหลาดใจประกายที่แววตา

“คืนนี้คุณกู้จะต้องโดดเด่นอย่างแน่นอน”

เขาพูดติดตลก แค่เห็นกู้ฉางฉิงใส่ชุดเปิดไหล่สีม่วง ชุดอวดเอวรัดรูปทำให้เผยให้ส่วนเว้าส่วนโค้งของเธอได้อย่างเต็มที่

โดยเฉพาะสีม่วงเป็นการแสดงออกถึงความลึกลับ ล้ำค่า ในเวลานี้บวกกับการแต่งหน้าที่ละเอียดอ่อนของกู้ฉางฉิง ดูแพงมีราคาเกินคำบรรยาย

“อย่ามาล้อฉันเล่นเลย”

กู้ฉางฉิงเมื่อถูกเขาชมก็เขินอาย จ้องมองเขาแล้วก็เปลี่ยนหัวข้อเรื่อง : “ใช่สิ ประเด็นหลักของงานเลี้ยงเย็นนี้คืออไรหรอ?”

มู่จิ่นได้ยิน ก็ไม่ได้หยอกล้อเธออีก พูดตอบกลับว่า : “เป็นการพบปะแลกเปลี่ยนกันในวงการธุรกิจ”

เขาพูดจบพร้อมกับพากู้ฉางฉิงไปยังสถานที่จัดงานเลี้ยง เดินไปอธิบายไป

“งานเลี้ยงคืนนี้รวบรวมผู้รับผิดชอบบริษัทเสื้อผ้าที่มีชื่อเสียงหลายแห่งในจีน ในนั้นยังมีแบรนด์เสื้อผ้าและนักออกแบบทั้งในและต่างประเทศอีกด้วย……”

พูดจบ คนทั้งสองก็เข้าไปในงานเลี้ยง ก็พบว่าแขกมารวมตัวกันในห้องประชุมแล้ว คนจำนวนไม่น้อยรวมตัวกันกลุ่มละสองสามคน

พูดได้ว่างานเลี้ยงนี้ถือว่ายิ่งใหญ่

กู้ฉางฉิงมองไปรอบๆครั้งหนึ่ง ยิ้มจางๆมองไปยังมู่จิ่น กล่าวถามว่า: “งั้นธุรกิจที่คุณพูดคือ?”

มู่จิ่นได้ยิน ชี้ไปที่หญิงวัยกลางคนที่แต่งตัวดีซึ่งอยู่ไม่ไกลจากกู้ฉางฉิงและกล่าวว่า: “ท่านนั้นคือคุณผู้หญิงซูเฟยที่เป็นเจ้าของร้านอาหารและเครื่องดื่มนานาชาติSanti Carmen”

กู้ฉางฉิงเลิกคิ้ว ในดวงตาไม่เข้าใจ

“แล้ว?”

“ฉันได้ยินมาว่าบริษัทของพวกเขาตั้งใจที่จะเปลี่ยนเสื้อผ้าของพนักงานบริการในทุกสาขาในเอเชียในครั้งนี้”

เขาพูดพลาง มองกู้ฉางฉิงแล้วจึงกล่าวต่อไปว่า: “คุณอย่าดูถูกทวีปเอเชียนะ มีคนจำนวนไม่น้อยเลยนะ ฉันประเมินแล้วมีมากกว่าล้านชุด ถ้าสามารถเอาใบสั่งสินค้านี้มาได้ อย่างน้อยก็มีหลายสิบล้าน ถือว่าเป็นใบรายการใหญ่เลยใช่ไหมล่ะ?”

กู้ฉางฉิงแปลกใจ: “ทำไมเยอะขนาดนั้นล่ะ?”

มู่จิ่นยิ้มแล้วกล่าวว่า: “ร้านอาหารSanti Carmenมีชื่อเสียงในด้านความโรแมนติก ความหรูหรา และการบริการมาโดยตลอด เป็นแบรนด์ร้านอาหารตะวันตกที่มีชื่อเสียงมาก หากคุณสามารถชนะรายการนี้ได้ สำหรับบริษัทคุณแล้ว ก็เป็นสิ่งที่ดีสิ่งหนึ่ง”

กู้ฉางฉิงพยักหน้ากับความคิดที่มีทั้งหมด

“เพียงแต่คนทาเข้าแข่งขันในคืนนี้ก็ไม่น้อย”

มู่จิ่นกล่าวต่อไปว่า

กู้ฉางฉิงดึงสติกลับมา กล่าวอย่างไม่สนใจว่า: “ผลประโยชน์ใครต่างก็ต้องการ นี้มันปกติมาก ต้องขอบคุณคุณด้วย ที่เสนอโอกาสให้ฉันแข่งขัน”

มู่จิ่นอดยิ้มไม่ได้ ส่ายหน้าแล้วกล่าวว่า: “คุณไม่ต้องขอบคุณฉัน เงื่อนไขของอีกฝ่ายค่อนข้างสูง จะคว้ามาได้หรือไม่ ยังไม่แน่นอน”

กู้ฉางฉิงฟังแล้วก็คิดว่ามีเหตุผล พยักหน้าแล้วกล่าวว่า: “งั้นก็ได้ ฉันก็ไม่เกรงใจคุณแล้วนะ”

พูดพลาง เธอชิมเหล้าแล้วมองไปยังซูเฟย สังเกตการณ์อย่างเงียบๆ

เวลานี้ หน้าประตูห้องงานเลี้ยงก็ปรากฎเงาของคนสองคน ทำให้สถานที่งานเลี้ยงราตรีคึกคักขึ้นมา

เห็นมู่เฉาเกอสวมชุดราตรีสีขาว จูงเฟิงจิ่งเหยาเข้ามาในงานเลี้ยง

คนหนึ่งชุดดำคนหนึ่งชุดขาว คล้ายกับชุดคู่รัก

โดยเฉพาะความใกล้ชิดของมู่เฉาเกอ เฟิงจิ่งเหยาก็ไม่ได้ปฏิเสธ

ก็ไม่รู้ว่ามู่เฉาเกอพูดอะไร เห็นใบหน้าเฟิงจิ่งเหยาที่เดิมทีไร้อารมณ์ทันใดก็ยกมุมปากขึ้นมา

คนจำนวนไม่น้อยเห็นพฤติกรรมที่สนิทสนมของทั้งสอง พวกเขาก็ก้าวไปข้างหน้าเพื่อทักทายด้วยรอยยิ้ม

กู้ฉางฉิงมองไปที่คนทั้งสองที่ล้อมรอบไปด้วยฝูงชน นิ่งอึ้งไปเล็กน้อย

เธอไม่รู้มาก่อนเลยว่าเฟิงจิ่งเหยาจะมา

พอดีที่เธอกำลังงุนงง ก็เห็นมู่เฉาเกอพาเฟิงจิ่งเหยาออกจากฝูงชนแล้วเดินไปยังซูเฟยที่เป็นเจ้าของSanti Carmen

คนทั้งสามพูดคุยกันอย่างรวดเร็ว ดูท่าทางเหมือนกับว่ารู้จักกัน

เมื่อพวกเขากำลังคุยกันเรื่อยเปื่อย บริเวณโดยรอบก็มีการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับพวกเขาไม่น้อย

“ประธานเฟิงและคุณมู่ดูแล้วเข้ากันจริงๆ วงศ์ตระกูลก็เหมาะสมกัน เกรงว่าจะเกี่ยวดองกันในไม่ช้า”

“ใช่ คนทั้งสองยืนคู่กันอย่างกับกิ่งทองใบหยก เกรงว่าในเมืองหลวงนี้จะหาไม่พบคู่ที่สองที่เหมาะสมกันเช่นนี้แล้ว”

“บอกตามตรง ไม่รู้ว่างานแต่งงานในอนาคตของคนทั้งสองจะยิ่งใหญ่ขนาดไหน”

กู้ฉางฉิงฟังคำพูดเหล่านี้ อดไม่ได้ที่จะใจลอยขึ้นมา

เธอมองไปยังเฟิงจิ่งเหยาตำแหน่งที่พวกเขาอย่างเลื่อนลอย นอกจากเธอที่อยู่ด้วยกันกับเฟิงจิ่งเหยาแล้ว ไม่ว่าใครก็ตาม ยืนอยู่ด้วยกันกับเขา คนอื่นต่างก็รู้สึกว่าพวกเขาเหมาะสมกัน……

อีกทั้งคนทั้งหมดก็ไม่รู้การมีอยู่ของเธอ ไม่รู้ว่าผู้ชายคนนี้แต่งงานแล้ว

ไม่ ก็ไม่ใช่คนทั้งหมดที่ไม่รู้

บางคนรู้ แต่พวกเขายอมเสแสร้งทำเป็นไม่รู้ กระทั่งต้องการที่จะทำลาย

อย่างเช่นลู่ซือหยี่ เช่นคุณนายเฟิง……

กู้ฉางฉิงคิดถึงเรื่องเหล่านี้ ทันทีในใจก็หงุดหวิดไม่สบอารมณ์เล็กน้อย

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

Status: Ongoing
ก่อนแต่งงานแทนน้องสาวเข้าไปในตระกูลเฟิง กู้ฉางชิงได้ยินว่าเฟิงจิ่งเหยาเป็นคนที่เฉยเมย ต่อมาถึงได้รู้ว่าข่าวลือล้วนเป็นเรื่องโกหก คุณเฟิงไม่เพียงแต่ไม่เย็นชา กลับเป็นคนที่อบอุ่น แต่กระตือรือร้นเป็นพิเศษในการมีทายาท มีคนพูดเป่าหูต่อหน้าเขา “คุณเฟิง ก่อนคุณจะกลับประเทศ ในทุกๆคืนภรรยาของคุณจะไม่กลับบ้าน เพราะออกไปเมาข้างนอก” เฟิงจิ่งเหยา “หลังจากฉันกลับประเทศ ตอนค่ำภรรยาของฉันจะมาอยู่ที่ห้องฉัน ปรนนิบัติฉันไม่นอนทั้งคืน” มีคนพูดอีกว่า “ก่อนคุณจะกลับมา ภรรยาของคุณช้อปปิ้งทั้งวัน เปลี่ยนรถยี่ห้อหรูไม่หยุด แถมยังมีหนุ่มคอยอยู่เธอตลอดเวลา” เฟิงจิ่งเหยา พูดต่อว่า “หลังจากฉันกลับประเทศ บัตรเครดิตทุกใบของฉัน ฉันก็อยากให้ภรรยาฉันใช้ แต่เธอไม่ต้องการ ไปกลับจากที่ทำงานก็ให้ฉันไปรับแค่คนเดียว” สำหรับคนที่เย็นชา เมื่อมีภรรยาจะคลั่งรักเป็นพิเศษ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท