สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา – บทที่ 231 ไม่มีทางทำร้ายเธอ

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

เฟิงจิ่งเหยาขมวดคิ้วแน่นมองคนตรงหน้า แววตาแปลกใจเล็กน้อย

“ทำไมคุณก็มาด้วยล่ะ?”

กู้ฉางซินก็ตกใจอย่างมาก

เหตุผลหลักที่ทำให้เธอกลับมาที่จีนในครั้งนี้เพื่อตามหาใครคนหนึ่ง แต่เธอไม่คาดคิดว่าจะได้เจอกับเฟิงจิ่งเหยา

หนังศีรษะชาไปชั่วขณะ โดยเฉพาะเมื่อถูกชายคนนี้จ้องมอง

แต่ไม่นานเธอก็สงบลง เลิกคิ้วพูด : “ทำไมฉันจะมาไม่ได้ล่ะ?”

เฟิงจิ่งเหยาได้ฟังน้ำเสียงน่ารักๆนี้ แต่นึกไปถึงคำด่าทอเมื่อกี้นี้ที่ได้ยิน จิตใต้สำนึกก็รู้สึกว่าไม่ถูกต้อง

“วันนี้เกิดอะไรขึ้นกับคุณ?”

เขาถามด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม

กู้ฉางซินรู้ว่าน้ำเสียงคำพูดของตนเองต้องถูกเขาสงสัยอย่างแน่นอน กำลังคิดเรียนรู้คำอธิบายของกู้ฉางฉิง

แต่ยังพูดไม่ทันจบ เสียงผู้ชายข้างหลังก็ดังขึ้นอีก

“คุณกู้ เมื่อกี้หาคุณจนรอบเลย ยังคิดว่าคุณกลับไปแล้ว”

เมื่อเห็นมู่จิ่นเดินออกมาจากในฝูงชน เดินตรงมาข้างๆกู้ฉางซิน

“เฮ้ ทำไมคุณถึงเปลี่ยนชุดล่ะ?”

เขามองกู้ฉางซินอย่างประหลาดใจ

ทว่ากู้ฉางซินได้ฟังก็ตกใจ

เพราะคำพูดเหล่านี้ทำให้เธอรู้ว่ากู้ฉางฉิงอาจอยู่ในงานเลี้ยงนี้ด้วย

เธอมองมู่จิ่น แล้วก็มองเฟิงจิ่งเหยา

พอดีไปชนกับแววตาที่มืดครึ้มของเฟิงจิ่งเหยา ก็แอบกรีดร้องในใจ

เธอระงับความตึงเครียดในใจ แกล้งทำเป็นสงบนิ่งพูดว่า : “เมื่อกี้ไม่ได้ระวังเลยทำสกปรกไป เลยเปลี่ยนชุด”

มู่จิ่นได้ฟัง ก็ไม่ได้คิดมาก แต่ทว่าเฟิงจิ่งเหยามองกู้ฉางซินอย่างประหลาดใจ

และฉากนี้ก็ถูกเห็นโดยกู้ฉางฉิงที่ซ่อนตัวอยู่ในที่มืด

ในฉับพลัน เธอก็ตึงเครียดขึ้นมา

เธอกลัวมากว่ากู้ฉางซินจะเผยความลับออกมา

ถึงอย่างไรความเย่อหยิ่งเช่นนั้นในธาตุแท้ของกู้ฉางซิน เธอไม่สามารถเรียนรู้ได้ แล้วก็ไม่มีทางด้วย

แต่อุปนิสัยเธอที่โอนอ่อนผ่อนตาม มันเป็นสิ่งที่กู้ฉางซินไม่มี

พูดได้ว่า ขอเพียงแต่เป็นคนที่เคยเจอพวกเธอ ก็สามารถแยกอุปนิสัยของพวกเธอทั้งสองคนออกได้

และบนความเป็นจริง เฟิงจิ่งเหยาก็สงสัยจริงๆ

เขามองไปที่กู้ฉางซินตรงหน้า ความประหลาดใจก่อนหน้านี้ก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง

ก็เหมือนกับที่เพิ่งจะพูดไป ทุกวันเขาอยู่ด้วยกันกับกู้ฉางฉิงทั้งเช้าและเย็น จะให้ไม่เข้าใจนิสัยของกู้ฉางฉิงได้อย่างไร

แต่นิสัยของคนตรงหน้านี้แตกต่างจากที่เขาเข้าใจอย่างเห็นได้ชัด

เขานึกถึงสิ่งเหล่านี้ อดไม่ได้ที่จะพินิจพิเคราะห็กู้ฉางซินอย่างละเอียด

สายตาที่ลึกลับนั้นตกอยู่ที่กู้ฉางซิน ฉับพลันก็ทำให้กู้ฉางซินไม่สบายใจ

เธอรู้ว่าผู้ชายคนนี้ฉลาดหลักแหลม กังวลว่าเขาจะมองออก ไม่คำนึกถึงใบหน้าที่เย็นชาของเฟิงจิ่งเหยาดึงมู่จิ่นแล้วพูดว่า : “คุณบอกไม่ใช่หรอว่าตามหาฉันเพราะมีธุระ? เราไปคุยกันทางด้านนั้นเถอะ”

พูดจบ เธอก็ชำเลืองมองเฟิงจิ่งเหยา ไม่กล้ามองเขาตรงๆ : “งั้นไม่มีอะไรแล้ว ฉันยังมีธุระ คุณคุยงานต่อเถอะ”

เธอพูดจบ ก็ไม่ว่าเฟิงจิ่งเหยาจะเห็นด้วยไหม ก็ดึงมู่จิ่นออกไปเลย

ในเวลาเดียวกัน เธอก็แค้นเคืองกู้ฉางฉิงในใจ

ผู้หญิงคนนี้มางานเลี้ยงแล้วก็ไม่รู้จักบอกเธอ เกือบทำให้เธอถูกเปิดโปงแล้ว!

เฟิงจิ่งเหยาเห็นทั้งสองคนเดินออกไปไกลแล้ว ก็ขมวดคิ้วแน่น ความรู้สึกแปลกๆในใจก็กลับมาอีกครั้ง

เขากำลังคิดหาคำตอบอยู่ มู่เฉาเกอก็เดินเข้ามา

เธอกวาดสายตามองไปที่ภาพบุคคลไกลๆนั่น แสร้งถามอย่างไม่รู้ว่า : “จิ่งเหยา เป็นอะไรไป ดูสีหน้าคุณไม่ค่อยดีเลย”

เฟิงจิ่งเหยาไม่อยากเอ่ยถึงเรื่องเมื่อกี้ ยืนกรานกล่าวปฏิเสธว่า: “ไม่เป็นไร”

เขาพูดพลาง มองไปที่ทิศทางที่กู้ฉางซินหานตัวไปอีกครั้ง แล้วก็ลุกขึ้นมายังด้านหน้ากล่าวทักทายเพื่อนร่วมธุรกิจ

อนึ่งกู้ฉางซินที่ออกไป กำลังจะหลุดพ้นจากขอบข่ายสายตาของเฟิงจิ่งเหยาทันใดก็หยุดฝีเท้าลงเล็กน้อย ถอนหายใจอย่างรุนแรง

“คุณกู้ คุณ……”

มู่จิ่นกำลังจะกล่าวถามว่าคำพูดที่เธอพูดเมื่อกี้หมายความว่าอะไร แต่คำพูดยังไม่จบ ก็ถูกกู้ฉางซินตัดบท

“ฉันปวดท้องเล็กน้อย จะไปห้องน้ำสักหน่อย คุณมีธุระก็ไปทำก่อนเถอะ”

เธอรู้ว่าคนๆนี้รู้จักกันกับกู้ฉางฉิง ดังนั้นจึงหาข้ออ้างเพื่อแยกออกจากเขา

มู่จิ่นมองภาพด้านหลังกู้ฉางซินที่ออกไปอย่างรีบร้อน ขมวดคิ้วเล็กน้อย กิยากเรียกให้คนหยุดโดยจิตสำนึก

แต่เวลาผ่านไปเพียงแค่สองสามวินาที ไม่มีเงาของกู้ฉางซินอยู่ตรงหน้าแล้ว

ช่วงเวลาหนึ่งเขาก็รู้สึกว่าคืนนี้กู้ฉางซินแปลกประหลาดเล็กน้อย

กู้ฉางซินยังไม่รู้ว่าตนเองได้ดึงดูดความสงสัยของคนทั้งสองเข้าแล้ว

หลังจากที่เธอหนีรอดจากมู่จิ่น ก็เริ่มหากู้ฉางฉิงในงานเลี้ยง

เธอกำลังหาอยู่ครึ่งค่อนงานเลี้ยง สุดท้ายก็ทำให้เธอพบกู้ฉางฉิงที่อยู่ในมุมที่ไม่น่าสนใจ

แต่ทว่าเธอไม่ได้เห็นจี้เฟิงหยุนที่อยู่ด้านข้างกู้ฉางฉิง

กำลังคิดถึงว่าเธอเกือบจะถูกผู้หญิงคนนี้ที่แสดงไม่สมบทบาทและทำให้เสียภาพรวมของแผนการ ทันใดความโมโหเดือดดาลก็ก่อตัวขึ้น

“กู้ฉางฉิง ฉันบอกว่ายังไง ให้คุณรายงานฉันหากมีความเคลื่อนไหวอะไร คุณรู้ไหมเมื่อกี้ฉันเกือบถูกจับได้แล้ว?”

เธอกล่าวตำหนิกู้ฉางฉิงด้วยน้ำเสียงแสบแก้วหู ตาทั้งคู่จ้องมองอย่างโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ

กู้ฉางฉิงได้ฟังคำพูดที่เธอกล่าวตำหนิ ก็หงุดหงิดเล็กน้อย

“ในเมื่อคุณไม่อยากถูกค้นพบ งั้นคนที่ควรจะหลบซ่อนก็ไม่ควรเป็นคุณหรอ? อย่าลืมสิ ครั้งนี้คุณกลับมาอย่างลับ”

กู้ฉางซินถูกคำพูดนี้ของเธอทำให้ใบหน้สโกรธเคืองขึ้นมา

“นี่คุณกำลังบอกว่าฉันผิดหรอ?”

เธอกัดฟันกล่าวถาม ความหมายแฝงเป็นคำกล่าวเตือน

กู้ฉางฉิงขมวดคิ้ว ไม่รู้ว่าควรจะตอบกลับยังไง

เพราะเธอกังวลว่าผู้หญิงคนนี้จะก่อเรื่องขึ้นมาอย่างไม่สนใจใยดี

ถึงอย่างไรนิสัยของกู้ฉางซินก็เอาแต่ใจใช้อำนาจบาตรใหญ่มาโดยตลอด

จี้เฟิงหยุนก็สังเกตได้ถึงบรรยากาศที่ขัดแย้งกันอย่างรุนแรง ดินออกมาจากในความมืด

“คุณผู้หญิงท่านนี้ ถึงแม้ว่าฉันจะไม่รู้ว่าพวกคุณกำลังทำเรื่องอะไรอยู่ แต่จากในคำพูดของพวกคุณยังสามารถวิเคราะห์ออกมาได้ว่า พวกคุณมีข้อตกลงบางอย่างระหว่างกัน คนที่ปรากฎตัวอยู่เบื้องหน้าได้มีเพียงฉางฉิงเท่านั้น และคุณต้องหลบซ่อนคน ในเมื่อเป็นเช่นนี้ คุณก็ไม่มีเหตุผลที่จะไปกล่าวถามตำหนิฉางฉิง เพราะนี่คือตัวคุณเองผิดสัญญาก่อนหน้านี้”

กู้ฉางซินได้ยินเสียงคนแปลกหน้า ก็ตกใจเล็กน้อย มองไปด้วยจิตสำนึก

“คุณนี่เอง!”

ทันใดเธอก็จำจี้เฟิงหยุนได้ ไม่นานก็นึกถึงคำพูดที่เขาพูดเมื่อกี้นี้ ก็โกรธขึ้นมาทันที

“กู้ฉางฉิง คุณลืมคำรับปากในตอนแรกไปแล้วหรอ? คาดไม่ถึงว่าคุณจะเปิดเผยความลับ!”

กู้ฉางฉิงได้ฟังคำพูดนี้ ใจคอก็ไม่ดี

เพราะการทำความร่วมมือก่อนหน้านี้ เธอเคบรับปากสัญญากับพ่อและน้องสาวตระกูลกู้ว่าจะไม่ให้บุคคลที่สี่รู้เรื่องนี้ ไม่เช่นนั้นจะถือว่าผิดสัญญา

แต่ปัจจุบันนี้เธอไม่ได้ผิดสัญญาโดยสิ้นเชิง อีกทั้งเธอก็รับผิดชอบผลลัพธ์ที่ตามมาจากการผิดสัญญาไม่ไหว

“ใครบอกว่าเปิดเผยความลับล่ะ ก็เฟิงหยุนค้นพบด้วยตนเองว่าคุณกับฉันไม่ใช่คนๆเดียวกัน”

เธอบังคับให้ตนเองโต้ตอบอย่างใจเย็น

แต่จี้เฟิงหยุนก็สังเกตได้ถึงความผิดปกติ เข้าไปกล่าวปกป้องเธอว่า: “จริงๆแล้วคือตัวฉันเองที่ค้นพบ ไม่เกี่ยวข้องกับฉางฉิง ถ้าหากว่าคุณกังวลที่ฉันพูดออกไป ก็ให้วางใจได้เลย ฉันไม่มีทางทำร้ายฉางฉิง”

กู้ฉางซินฟังถึงคำพูดนี้ ดวงจาก็จ้องมองจี้เฟิงหยุนอย่างแปลกใจ

จี้เฟิงหยุนก็ไม่ได้สนใจ ปล่อยให้เธอจ้องมอง

กู้ฉางซินเห็นเช่นนี้ ก็คล้ายกับมองออกถึงอะไร ร้องเชอะอย่างเย็นชา แล้วกล่าวเตือนว่า: “ฉันไม่ได้สนใจว่าพวกคุณจะเกี่ยวข้องอะไรกัน ไม่ว่ายังไงอย่าทำให้เรื่องของฉันต้องพัง แล้วก็คืนนี้ฉันมีธุระ จำเป็นต้องอยู่ที่นี่ คุณไปรอที่ร้านกาแฟข้างนอกเถอะ รอให้ฉันทำธุระเสร็จแล้ว จะเรียกคุณมาเปลี่ยนเสื้อผ้า”

ไม่ใช่ว่าเธอไม่อยากออกจากกู้ฉางฉิง แต่เฟิงจิ่งเหยาเคยเห็นเธอแล้ว กู้ฉางฉิงจำเป็นต้องอยู่ต่อไป

ยิ่งเมื่อกี้เธอพูดแสดงความโกหกไปเล็กน้อยด้วยแล้ว จำเป็นต้องได้รับความสำเร็จลุล่วงกลับมา

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

Status: Ongoing
ก่อนแต่งงานแทนน้องสาวเข้าไปในตระกูลเฟิง กู้ฉางชิงได้ยินว่าเฟิงจิ่งเหยาเป็นคนที่เฉยเมย ต่อมาถึงได้รู้ว่าข่าวลือล้วนเป็นเรื่องโกหก คุณเฟิงไม่เพียงแต่ไม่เย็นชา กลับเป็นคนที่อบอุ่น แต่กระตือรือร้นเป็นพิเศษในการมีทายาท มีคนพูดเป่าหูต่อหน้าเขา “คุณเฟิง ก่อนคุณจะกลับประเทศ ในทุกๆคืนภรรยาของคุณจะไม่กลับบ้าน เพราะออกไปเมาข้างนอก” เฟิงจิ่งเหยา “หลังจากฉันกลับประเทศ ตอนค่ำภรรยาของฉันจะมาอยู่ที่ห้องฉัน ปรนนิบัติฉันไม่นอนทั้งคืน” มีคนพูดอีกว่า “ก่อนคุณจะกลับมา ภรรยาของคุณช้อปปิ้งทั้งวัน เปลี่ยนรถยี่ห้อหรูไม่หยุด แถมยังมีหนุ่มคอยอยู่เธอตลอดเวลา” เฟิงจิ่งเหยา พูดต่อว่า “หลังจากฉันกลับประเทศ บัตรเครดิตทุกใบของฉัน ฉันก็อยากให้ภรรยาฉันใช้ แต่เธอไม่ต้องการ ไปกลับจากที่ทำงานก็ให้ฉันไปรับแค่คนเดียว” สำหรับคนที่เย็นชา เมื่อมีภรรยาจะคลั่งรักเป็นพิเศษ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท