ตัวเอกพวกนั้นฉันฆ่าเองแหละ – ตอนที่ 4

ตอนที่ 4

ฉันเปลี่ยนเป็นชุดกีฬาอย่างรวดเร็วและนั่งลงบนเวที

นักกีฬาที่มีแรงบันดาลใจคนอื่น ๆ คนที่ออกกำลังกายอยู่ค่อย ๆ มารวมตัวกันด้วยความสนใจ

“นี้เป็นการต่อสู้ครั้งแรกของเซเลสเต้ตั้งแต่การต่อสู้ครั้งสุดท้ายของเธอกับผู้อำนวยการใช่ไหมน้า?”

“ช่ายย มันยอดเยี่ยม เธอต่อสู้กับผู้อำนวยการได้อย่างงดงาม”

“ยังไงซะ แกบอกว่าคู่ต่อสู้ของเธอเป็นฮันเตอร์ผ่านศีกหรอ?”

“ก็แค่คนธรรมดาที่ไม่มีพลังพิเศษ”

“อืม ข้าไม่รู้ว่าว่าเขาจะเป็นคู่ต่อสู้ให้เธอรึป่าว แต่ฮันเตอร์ธรรมดาก็งั้น ๆ ไม่ใช่หรือไง?”

บทสนทนาเหล่านี้ทำให้ผู้อำนวยการคิมต้องกลืนน้ำลาย

แล้วเมื่อเข้ามองตรงไปที่ยูซอดัมที่กำลังถือดาบ 11,000 วอนของเขาอยู่ด้วยความรู้สึกว่ามีบางอย่างที่แตกกต่าง

‘ไอ้นี้นิ…อยู่ดี ๆ ก็ไปยั่วโมโหเธอ นิสัยปกติของเขาดูเปลี่ยนไปหน่อยนะหลังจากที่กลับมาจากโรงพยาบาล’

ผู้อำนวยการคิดไปถึงคำพูดที่แสนท้าทายนั้นเพราะเขาก็เข้าใจภาษาอิตาเลียนเช่นกัน

‘ฉันล้มพ่อของเธอนะ’

จะพูดว่าอย่างนั้นก็ไม่ผิด

มันเป็นความจริงแน่นอน

ดวล 99 รอบ แพ้ 99 รอบ

เมื่อพวกเขาประลองกัน ซอดัมแพ้ให้กับซัลวาเทอร์เร่เสมอ

มันเป็นเรื่องธรรมดา

จะเป็นไปได้อย่างไรที่คนปกติทั่วไปจะชนะในการต่อสู้ด้วยการใช้แค่ดาบไม้?

อย่างไรก็ตาม ในการประลองครั้งสุดท้ายของพวกเขาด้วยการใช้อุปกรณ์ทุกอย่างที่มีและพลังพิเศษ 100 % เต็ม

ยูซอดัมล้มซัลวาเทอร์เร่ลงได้

‘ฉันอยากรู้จริง ๆ ว่าผลของการเผชิญหน้าครั้งนี้จะเป็นอย่างไร’

ยูซอดัมนั้นแตกต่างไปจากฮันเตอร์ธรรมดาคนอื่น ๆ

เขาคือฮันเตอร์คนที่สามารถใช้ประโยชน์ของไอเทมในการล่าได้ดีกว่าทุก ๆ คนในโลกและในเวลาเดียวกันเขาก็อยู่บนสุดสูงสุดของฮันเตอร์ธรรมดา

อย่างไรก็ตาม

การใช้เครื่องมือมีความสำคัญมากในการต่อสู้ครั้งนี้

ทุก ๆ คนในที่นี้รู้ดี

เหตุผลที่ฮันเตอร์ธรรมดาสามารถมีชีวิตรอดได้ในอุตสาหกรรมฮันเตอร์ไม่ใช่เพราะว่าพวกเขาเก่งในการต่อสู้แต่เพราะว่าพวเขาเก่งในการล่าต่างหาก

พูดง่าย ๆ เลยก็คือการต่อสู้ระหว่างฮันเตอร์ธรรมดาที่ชำนาญศึกและสุดยอดฝีมือที่มีพลังวิเศษสามารถเปรียบได้กับหนังเรื่อง “โฮมอโลน”

เจ้าเด็กน้อยเควินสามารถล้มผู้ใหญ่ได้โดยการใช้อุปกรณ์ที่ทั่ว ๆ ไป หลายอย่างภายในบ้านแต่ถ้าเขาปะทะตรง ๆ กับหัวขโมยมันก็ง่ายที่เขาจะแพ้

สถานการณ์ในปัจจุบันของยูซอดัมคล้ายกับเควิน

เควินที่ไม่มีอุปกรณ์ต่าง ๆ

“คุณพร้อมหรือยัง?”

“พร้อมค่ะ”

ทันทีที่สิ้นเสียงทุกคนตกอยู่ในความเงียบเพราะว่าพวกเขารู้สึกได้ถึงความคมกริบที่มากจากจิตวิญญาณของเซเลสเต้ที่เพิ่มขึ้นในทันที

การต่อสู้ระหว่างลูกของสัตว์ร้ายและหมาล่าเนื้อคนที่ใช้ชีวิตอยู่ในสนามรบตลอดชีวิตของเขา

ยูซอดัมหายใจเข้าลึก ๆ

ฉันรู้สึกราวกับว่าโลกกำลังช้าลง

แท็ด!

ยูซอดัมจัดท่วงท่า

แล้วเซเลสเต้กับใบหน้าที่นิ่งสนิทได้แกว่งดาบของเธอ

แทนที่จะปะทะดาบกับเธอ เขาจะหาช่องว่างเพื่อโจมตี

ในจุดนี้ มันง่ายมากที่จะอ่านความคิดของฮันเตอร์ผ่านศีก

อย่างไรก็ตาม ฉันมั่นใจความคิดนี้เพราะว่าเซเลสเต้ได้ล้มฮันเตอร์ธรรมดาสามคนด้วยวิชาดาบ

ชริก!

“…!”

มองดูที่วิถีโค้งของดาบที่เหวี่ยงลงมาอย่างคบกริบ เซเลสเต้หลบหลีกด้วยการบิดร่างกายของเธอเพียงเล็กน้อย

วิชาดาบของพวกยอดมนุษย์จะแตกต่างจากวิชาดาบในอดีต

พวกเขาจะหลบการโจมตีที่หลบไม่ได้ด้วยปฏิกิริยาตอบสนองของยอดมนุษย์และเคลื่อนที่ไปโจมตีด้วยพลังที่ไม่สามารถหยุดได้

เธอค่อย ๆ บิดร่างกายของเธอและเล็งตรงไปที่ซอดัม

หลังจากที่หลบไปด้านข้างเขาเหวี่ยงดาบของเขาจากด้านในมือเขาเหมือนว่าเขาเป็นพัดลมไฟฟ้าและเล็งไปที่หัวของเซเลสเต้

ในตอนนั้นเองที่มีช่องว่าเกิดขึ้นคล้ายว่าดาบมันโค้งงอได้

เซเลสเต้ก้มหัวลงด้วยความรีบร้อนกับสีหน้าที่ดูประหลาดใจแต่เธอได้เข้าสู่ระยะของซอดัมเรียบร้อยแล้ว

ซอดัมได้พลักดาบออกไปที่คอของเซเลสเต้ที่กำลังถอยหนีได้หยุดดาบลง

ผลลัพธ์นั้นเหนือความคาดหมาย

ดวงตาของเซเลสเต้เบิกกว้าง

“ตอนนี้รู้สึกดีขึ้นแล้วใช่ไหม?”

“…ใช่ค่ะ!”

ประกายในตาของเซเลสเต้เปลี่ยนไปในทันที

เหมือนกับว่ามีพายุเกิดขึ้น จิตวิญญาณของเซเลสเต้ได้เปลี่ยนไปอีกครั้ง และพุ่งไปที่ซอดัมพร้อมกวัดแกว่งดาบที่อยู่ในมือของเธอ

ไม่มีกฎที่ตายตัวแต่ท่าทางนี้ใช้สำหรับแต่สู้กับมอนสเตอร์ไม่ใช่กับมนุษย์

เห็นได้ชัดเจนว่าเซเลสเต้แข็งแกร่งกว่าและเร็วกว่า

ซ้ำร้าย ไม่เหมือนซอดัมคนที่ไม่เคยได้เรียนรู้จากนักดาบยอดฝีมือ เธอได้รับการฝึกฝนอย่างเต็มที่ด้วยจากนักดาบในตระกูลในตอนที่ยังอายุน้อย ๆ

แต่

การโจมตีของเซเลสเต้ไม่สามารถเข้าถึงตัวของซอดัมได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว

วิถีดาบทั้งหมดของเธอถูกเดาทางได้คล้ายการมองรูปภาพด้วยดวงตาของยูซอดัม

การกระทำของเธอได้ถูกคาดการณ์ไปเกินกว่าสองก้าวก่อนที่เธอจะได้เหวี่ยงดาบซะอีกและมันก็เห็นได้อย่างชัดเจนว่าเขาคาดการณ์ได้เหนือกว่าสามก้าว ด้วยผลลัพธ์ลับที่จะตามมาในก้าวที่สี่

ในใจของเขาวิชาดาบของกิลิเทนเดอร์กำลังร่ายรำ

เขาไม่สามารถลอกเรียนแบบมันได้อย่างสมบูรณ์ด้วยการมองแค่ครั้งเดียว

แต่แค่การรู้มันและเข้าใจมันได้แม้เพียง 1 % หรือ 0.01 % นั้นสบายมาก

ความจริงที่เขารับรู้ได้เพียงเล็กน้อยในโลกของวิชาดาบที่ซึ่งแตกต่างจากโลกยุคปัจจุบัน พรสวรรค์ชำนาญดาบของเขาได้แสดงพลังของความชำนาญดาบ (A+) ออกมา

ยูซอดัมอ่อนแอกว่าอย่างเห็นได้ชัด

ไม่ว่าจะฝึกหนักเท่าใดคนธรรมดาที่ปราศจาก “มานา” ขีดจำกัดที่พวกเขาไปได้นั้นเห็นได้อย่างชัดเจน

‘ฉันแน่ใจฉันฟันโดนเขาได้!’

ถึงจะคิดอย่างนั้นแต่ เซเลสเต้ไม่สามารถฟันโดนซอดัมได้เลย

เหมือนเส้นผมบังภูเขา เหมือนถูกหยอกเล่น

ดาบของเธอไม่สามารถสัมผัสโดนซอดัมแม้ว่ามันจะกรีดดาบของเขาและห่างไปไม่กี่นิ้วก็ตาม

‘ไม่มีทาง ได้ยัง….’

ฝ่ายตรงข้ามเป็นแค่คนธรรมดา

และเธอเป็นคนที่อยู่ในแรงค์ D

ถ้าเธอตั้งใจเต็มที่มันควรจะทำให้เธอเคลื่อนที่ได้ 50 เมตรในเวลาไม่เกิน 3 วินาทีด้วยซ้ำ

แม้จะมีความแตกต่างอย่างชัดเจนในศักยภาพร่างกายมันก็ยังเป็นไปไม่ได้ที่เธอจะชนะ

‘ชัดเลย…มันต้องเป็น…คำตอบ!’

สำหรับเซเลสเต้ การต่อสู้เป็นชุดของคำถามหลายตัวเลือกที่ต้องเลือกคำตอบให้ถูก

คำถาม 1 เลือกคำตอบที่ดีที่สุดที่จะล้มคู้ต่อสู้ของคุณ

ก…..? ข……? ค…..? ง……? จ…….?

เธอจะเลือกหนึ่งในทางเลือกเหล่านั้นและชนะ

มันเป็นสิ่งที่เรียกว่า ‘อัจฉริยะ’

แต่

‘ฉันไม่…เห็นคำตอบ…’

ไม่มีตัวเลือกที่เป็นคำตอบ

มันเป็นเหมือนว่าเธอได้รับคำถามแบบตัวเลือกแต่ให้ตอบที่แบบเติมคำ

เมื่อเธอคิดอย่างนั้นเธอกัดริมฝีปากตัวเอง

ในท้ายที่สุดเธอตัดสินใจที่จะใช้ไพ่ตายของเธอ

‘ถ้ามันเป็นการต่อสู้ด้วยความแข็งแกร่งฉันจะชนะแน่นอน…!’

การเหวี่ยงของเซเลสเต้เริ่มที่จะหนักและเต็มไปด้วยพลัง

มันคล้ายว่าเธอพยายามที่จะเปลี่ยนให้เป็นการประลองพละกำลังแต่ยูซอดัมคนที่ได้ล่ามานานกว่า 15 ปี เขาจะยอมให้ตัวเองเสียเปรียบง่าย ๆ หรือ?

“หึ…”

ดาบได้ถูกพลักออกไปอย่างเบา ๆ ที่ด้านข้างและตกลงอย่างรวดเร็วที่ต้องข้างของเซเลสเต้ก่อนที่ยูซอดัมจะชี้ดาบไปที่คอของเธอ

“….”

หลังจากความเงียบช่วงสั้นในกลุ่มคนมุ่งคนที่ได้เฝ้าดูต้องแต่การต่อสู้เริ่มขึ้น

“บ-บ้าน่า”

“อะไรกันวะเนี่ย”

“ไม่ใช่ว่าเขาเป็นแค่มนุษย์ธรรมดาหรือ?”

“ไม่ดิ เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าการเคลื่อนไหวนี้เกือบทั้งหมดมันธรรมดา ๆ มันคล้ายกับฉัน แต่ฉันไม่คิดว่ามันว่านั้นเป็นแรงค์ E”

“…งั้น เขาล้มแรงค์ D ด้วยวิชาดาบตรง ๆอย่างงั้นนะหรือ?”

“ไม่สำคัญว่าเขาจะมีประสมการณ์อะไรมาแต่นี้มันสมเหตุสมผลหรือ?”

มันสมเหตุสมผลหรือ?

แน่นอนว่าไม่

ผู้อำนวยการคิดรู้เกี่ยวกับความสามารถบางส่วนของยูซอดัม

เขาไม่ได้มีพรศวรรค์ทางดาบเลยสักนิด

มันไม่เป็นการกล่าวเกินจริงที่ว่าเขาไม่มีมันสักนิดและไม่มีดีแม้กระทั้งทักษะดาบอีเทอร์

‘เกิดห่าเหวอะไรขึ้นกับเขาในตอนที่เขาอยู่ที่โรงพยาบาลกันแน่?’

เซเลสเต้มองไปที่ยูซอดัมด้วยความสับสนงุนงงบนหน้าของเธอเช่นกัน

ทั้งหมดนี้เริ่มด้วยการท้าทายที่เธอคิดว่าเป็นการยั่วยุที่ไร้ค่า

แต่เธอสามารถรู้สึกถึงมันได้

ถ้าไม่นับคำพูดยั่วยุพวกนั้น ทักษะดาบของชายคนนี้พิเศษจริง ๆ

……………………………………………………..

หลังจากการต่อสู้กับเซเลสเต้ ฉันไปที่ยิมทุก ๆ วันเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับร่างกายของฉัน

เหมือนกับว่าความสามารถที่สุดมหัศจรรย์ของ ชำนาญดาบ A+ ที่ฉันได้รับมาจะยังทำให้ฉันประหลาดได้มากกว่าที่ฉันเคยคิดไว้ซะอีก

ไม่มีคนไหนที่ไม่รู้จักความหมายของคำว่า ‘การรู้แจ้ง’

อย่างไรก็ตาม มีคนมากเท่าไหรกันที่ได้รับประสบการณ์นั้น?

ด้วยความสัจจริงมันเป็นประสบการณ์ที่หาได้ยากมาก ๆ ในชีวิตของฉัน

แม้ว่าจะกระตุ้นด้วยสถานการณ์ที่สุดขีดที่ถ้าไม่ฆ่าก็ถูกฆ่า

อย่างไรก็ตามหลังจากที่ได้รับพรสวรรค์ชำนาญดาบมันก็เป็นไปได้ที่จะได้รับการรู้แจ้งได้ทุก ๆ เมื่อที่ฉันจับดาบด้วยท่าทางธรรมดา ๆ

คุณเคยมีประสบการณ์ที่รู้สึกว่าน่าตื่นเต้นมาก ๆ อย่างนี้มาก่อนในชีวิตไหมหละ?

มีเพียงคนที่เป็นหนึ่งเดียวกับดาบเท่านั้นที่จะสามารถฝึกฝนได้โดยไม่รู้ว่ากล้ามเนื้อกำลังเจ็บปวดอยู่

เส้นทางการเติบโตของวิชาดาบฉันได้เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลเพียงแค่การเหวี่ยง การแทง และการตัด ฉันรู้สึกความรู้สึกเป็นความสำเร็จ

มันไม่ใช่แค่ฉันที่เปลี่ยนไป

เซเลสเต้คนที่เคยเหวี่ยงดาบขณะที่แสดงออกถึงความไม่แยแสในทุก ๆ ครั้ง ก็เริ่มที่จะมากวนใจฉัน

“อะไรอีกหละคราวนี้?”

“…สู้กันค่ะ”

หลังจากช่วงเวลาหนึ่งของความคิด ฉันตอบ

“มันยุ่งยาก”

“อือ…”

แล้วเธอก็เดินไปที่มุมด้วยไหล่ที่ตกลงของเธอ

บางทีฉันรู้สึกเสียใจกับเธอื ฉันเรียกเธอกลับ,k

“เดียวก่อน ฉันจะสู้กับเธอหลังจากที่ฉันฝึกเสร็จแล้ว”

“ได้เลยค่ะ!”

เซเลสเต้ตอบกลับด้วยรอยยิ้มที่เป็นประกาย

แล้วหลังจากนั้น 10 นาที ของการซ้อมเบา ๆ ฉันล้มเธอ

“อิว”

มันผ่านมาเดือนหนึ่งแล้ว

เธอเป็นคนที่ดูขี้อายและสุภาพ เธอได้ตื้อสู้กับฉันในทุก ๆ วัน และก็แพ้ไปอย่างง่าย ๆ ในแต่ละวัน

ตอนแรกฉันคิดว่าเธอต้องการที่จะสู้กันเพราะว่าเธอรับความพ่ายแพ้ไม่ได้

แต่ในวันที่สามารับรู้ได้ถึงบางสิ่ง

มันมีความแตกต่างที่เห็นได้อย่างชัดเจนที่ฉันสัมผัสได้เพราะว่าฉันมีพรสวรรค์ชำนาญดาบ A+ ไงหละ

เธอกำลังเรียนรู้วิชาดาบไปจากฉัน

แน่นอนว่าฉันสามารถจับได้อย่างเหมาะสมกับท่วงท่าที่มันควรจะเป็นแต่เธอจำ ‘การร่ายรำดาบ’ ที่ฉันเคยแสดง

เธอกำลังพยายามที่จะเลียบแบบมันและบางส่วนก็ดูจะสำเร็จแล้วด้วย

ฉันคิดว่าการท้าสู้ของเธอก็ไม่ได้แย่ไปซะทีเดียว

มันมีประโยชน์เป็นอย่างมากที่จะเช็คความก้าวหน้าของฉันมากกว่าการเหวี่ยงดาบไปในอากาศแบบสุ่ม ๆ

เราสามารถทดสอบอีกฝ่ายได้ด้วยทักษะที่หลากหลาย

นอกจากนี้เซเลสเต้ก็แค่ถูกทุบตีเท่านั้นเอง

หลังการการพ่ายแพ่ในทุก ๆ วัน เธอจะอุทานออกมาว่า ‘อ่า!’ และตรงไปนั่งที่มุมเพื่อทำสมาธิและทุก ๆ ครั้งมันจะเกิดความผันผวนทางจิตวิญญาณขึ้นเป็นอย่างมาก

เธอจะต้องได้เรียนรู้อะไรบางอย่างแน่ ๆ

ผู้อำนวยการคิมระเบิดหัวเราะออกมาเมื่อเขาเห็นฉันกับเธอประลองกัน

“แกสอนเก่งกว่าฉันอีกไม่ใช่หรือไง? สาวน้อยนั้นดูกระตือรือร้นขึ้นมาทันทีเลย ทำไมแกไม่ดูแลเธอเลยหละ?”

“ถ้าคุณจ่ายฉันจะลองดู”

การสอนเธอ

ฉันคิดว่ามันก็ไม่ได้แย่

“อีกอย่างหนึ่ง ซอดัม แกยังล่าอยู่ไหม?”

“ฉันยังล่าอยู่”

ฉันเคยล่ากับกิลด์ ‘ลอสเดย์’ ตั้ง 12 ปี

อย่างไรก็ตาม ในวันที่ฉันถูกตัดสิ้นว่าใกล้จะตาย

ฉันถูกเตะโด่งออกจากกิลด์

แค่เพราะว่าเขาไม่ต้องการเก็บฮันเตอร์คนที่ไม่เหลือประโยชน์อีกต่อไปไว้แล้ว

“กิลด์นั้น เขาไม่รับแกกลับเขาไปหรือ? ทำไมก็ไม่ลองกลับเข้ากิลด์อีกครั้งหลังจากที่ออกจากโรงพยาบาลหละ?”

ผู้อำนวยการคิมไม่รู้ว่าตอนนี้สภาพหัวใจของฉันเป็นยังไง

ไม่เท่านั้น เกือบทุกคนไม่รู้มัน

มันเป็นเพราะว่าฉันไม่ได้พูดมันออกไป

“ฉันไม่ได้บอกเขาเกี่ยวกับการออกจากโรงพยาบาลแต่ถ้าเขาขอให้ฉันกลับไปฉันคงจะไม่กลับไปหรอก ฮันเตอร์แรงค์ F จะไปทำอะไรที่นั้นได้หละ?”

ไม่ว่าเมื่อตอนที่ฉันเป็นสมาชิกของลอสเดย์ฉันไม่มีตัวเลือกในการเลือกเป้าหมายที่จะล่าเลยด้วยซ้ำทำได้เก็บคำร้องการล่ามากเท่าที่จะเป็นไปได้ด้วยนามบัตรที่แสดงความอาวุโสกว่า 15 ปีของฉัน

มันเป็นเรื่องที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกอย่างแท้จริง

ถ้าฮันเตอร์แรงค์ F ลงทุนน้อยเกินไปในเรื่องของอุปกรณ์และล่ามอนสเตอร์ พวกเขาก็ยังการได้แค่จัดการกับมอนสเตอร์ระดับล่างอยู่ดี

ถ้าฉันต้องการที่จะล่ามอนสเตอร์ระดับสูง ฉันต้องจ่ายเงินจำนวนมากไปกับอุปกรณ์

ในท้ายที่สุดไม่ว่าประสิทธิภาพของฮันเตอร์แรงค์ F คนนั้นจะดีเพียงใดพวกเขาก็จะได้กำไรเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

ดังนั้นฉันจึงกึ่ง ๆ ถูกไล่ออกจากกิลด์อยู่แล้ว เป็นคนที่ไม่มีประโยชน์อะไรในด้านการบริหาร

ฉันถูกบังคับในทำงานเพราะว่าฉันไม่บังคับให้ตัวเองออกมา

อย่างไรก็ตามทั้งหมดที่ฉันทำได้ก็แค่ใช้ดาบดังนี้ฉันด้องล่าต่อไปจนกว่าจุดจบจะมาเยื่อน

นั้นคือสิ่งที่มันเป็น

แต่นับจากตอนนี้มันจะต่างออกไป

เพราะว่าฉันได้กลายเป็นฮันเตอร์คนที่ล่าตัวตนที่พิเศษออกไป

……………………………………………………..

นั่งลงที่กลางห้องของอพาร์ทเม้นที่ด้านหลังของฉัน ฉันสูดหายใจเข้าลึก ๆ

พลังงานที่ไม่สามารถมองเห็นได้เพิ่มขึ้นในร่างกาย

นี้คือ ‘มานา’

ไม่ มันไม่ใช่มานาจากโลก แต่มันมาจากหนึ่งในโลกคู่ขนาน

ฮันเตอร์ทั้งหมดบนโลกใช้มานาและจะได้รับมันมาเมื่อพวกเขาได้ดูดซับอีเทอร์จากการล่ามอนสเตอร์เข้าสู่ร่างกายของพวกเขา

อย่างไรก็ตามแม้จะเป็นอย่างนั้นแต่พรศวรรค์ของคนธรรมดานั้นไม่สามารถดูดซับได้แม้กระทั้ง 1 % ของอีเทอร์เข้าสู่ร่างกายของพวกเขาและกระจายมันออกไปสู่ธรรมชาติแทน

ในทางตรงกันข้ามอัจฉริยะสามารถดูดซับได้ 100% ของอีเทอร์

ฉันอยู่แค่ในระดับของมนุษย์ธรรรมดาและมีเพียงแค่ 1% ของอีเทอร์เท่านั้นที่อยู่ในร่างกายฉัน

อย่างนั้นแล้วมันก็เป็นไปได้ในตอนนี้ที่จะดูดซับบางสิ่งที่คล้ายกับอีเทอร์และบางทีมันอาจจะลึกลับมากว่า ‘พลังงานธรรมชาติ’

ชื่อ : ยูซอดัม (LV.19)
ความแข็งแกร่ง: 18 ความอึด: 18
ความว่องไว: 18 พลังงาน: 1
มานา: 2
พรสวรรค์
ความชำนาญดาบ (A+) สัญชาตญาณ (A)
นักแม่นปืน (C) การล่า (D)
การทำอาหาร(D-)
ทักษะ
นักล่าตัวเอก LV.1

สิ่งที่ฉันทำได้ดีที่สุดในตอนนี้คือการเหวี่ยงและแกว่งดาบแต่ฉันไม่สามารถที่จะสะสมมานาในร่างกายได้

มันเป็นเรื่องแปลกใหม่สำหรับฉันและฉันไม่รู้ทฤษฎีเบื้องหลังเป็นเป็นยังไง

แม้กระทั้งตอนนี้ฉันไม่สามารถรวบรวมพลังงานจำนวนมากได้

ฉันรู้สึกเหมือนกับกำลังตอกเสาเข็มลงไปบนพื้นทรายที่เรียกว่ามานาด้วยตะเกียบ และมันเป็นไปไม่ได้ที่จะยึดมันเอาไว้

ฉันได้รับความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นจำนวนมาก

เห็นได้ชัดเจนฉันได้รับความทุกข์ทรมานจากกล้ามเนื้อที่ฟ่อระหว่างที่ฉันพักอยู่ที่โรงพยาบาล

เลเวลของฉันคือ 19 แต่ระดับของค่าสถานะฉันดูเหมือนว่าจะลดลงอย่างมาก

การกู้คืนกล้ามเนื้อเหล่านั้น ในเวลาเดียวกัน รวบรวมทักษะดี ๆ จะทำให้ฉันพัฒนาขึ้นแม้ว่าฉันจะยังไม่ถึงขีดจำกัดก็ตาม

ฉันไม่ได้หวังว่ามันจะถึงขีดจำกัดได้ในเวลาแค่เดือนเดียว

อย่างน้อยที่สุดฉันจำก็แค่ต้องออกกำลังกายไม่ก็เดือนเพื่อจะสามารถสร้างกล้ามเนื้อที่แข็งแกร่งของฉันขึ้นมาใหม่ได้

และนี้ก็เพียงพอแล้ว

การซ่อมแซมอุปกรณ์และการเตรียมการเสร็จสิ้น ไม่เหมือนเมื่อก่อนมันเป็นการเตรียมพร้อมที่มีประสิทธิภาพและแม่นยำในขีดจำกัดของน้ำหนัก 20 กิโลกรัม

ปืนซ็อตกัน ปืนไรเฟิล และดาบอีเทอร์ที่ได้รับการซ่อมแซม

ฉันหายใจเข้าลึก ๆ หลังจากการจัดเรียงกระสุนต่าง ๆ

ฉันเกือบจะพร้อมแล้วสำหรับภารกิจถัดไป

“ฉันต้องการที่จะรับภารกิจถัดไป”

<คุณต้องการที่จะตรวจสอบรายการภารกิจของคุณหรือไม่?>

“ฉันทำได้หรอ?”

เยี่ยม ฮันเตอร์จะได้รับภารกิจของตนเองจากการเลือก

มันก็ไม่แปลก

[แสดงรายการเป้าหมายที่มีโอกาสการล่าสำเร็จสูงกว่า 15% ที]

ในเวลาสั้น ๆ ตัวอักษรจำนวนนั้นไม่ถ้วนแสดงออกมาตรงหน้าฉัน

ฉันแสดงออกด้วยสีหน้าประหลาดใจ

“ทั้งหมดนี้คืออะไร?”

#พ่อ_เปลี่ยน_ไป_เป็น_สุดยอด_แมงดา

#สมัยใหม่ #ย้อนอดีต #แมงดา #วัยรุ่น #ฮาเรม

#การ_แบ่ง_ชีวิต

#ฉัน_เปิด_ร้านค้า_ใน_สมัย_ราชวงค์โชซ็อน

#เปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ #การกลับชาติมาเกิด #ร้านค้า

#การผูกขาด #ทางการทหาร

#เจ้าหญิง_ผู้_ที่_กลับ_มา_ใช้_ชีวิต_แบบ_สงบ ๆ

#โรแมนติก_แฟนตาซี #ย้อนเวลา #เชยเมย

#ผ่อนคลาย #หมกมุ่น_ตัวเอกชาย

#ฮันเตอร์_ผู้_รอดชีวิต_ด้วย_โชค_ระดับ_SSS-คลาส

#ฟิวชั่น_แฟนตาซี #ดวงดี #เติบโต #วัยรุ่น

#ต่างโลก

ในขณะที่ฉันมองไปที่พวกมันเหมือนว่ามีบางอันที่คล้ายเป็นมุขตลก คุณลูกค้าก็ได้พูดขึ้นมา

<ฉันได้สรุปข้อมูลทั้งหมดตามค่ามาตรฐานในปัจจุบันแล้ว>

“นี้คือมาตรฐานแล้ว?”

<ทุก ๆ คนที่ใช้โซเชียลมีเดียเป็นไปตามมาตรฐานนี้>

“…มัน…แทงใจเล็กน้อย”

ฉันเป็นแค่คนเดียวเท่านั้นที่ไม่ได้ใช้โซเชียลเน็ตเวิร์กแต่นี้มันไม่มายเกินไปหน่อยหรอ?

เมื่อฉันเห็นบางสิ่งที่แปลก ๆ ฉันเบิกตากว้าง

“…หะ ‘สมัยใหม่?’ มันคืออะไร?”

<เลเวลของสกิลนักล่าฮันแต่ยังต่ำ ดังนั้นจึงมีข้อมูลเพียงเล็กน้อย>

“โห ไม่เอาน่าอย่างน้อยคุณบอกพอร์ตเรื่องให้กับฉันก็ได้”

<ร่างกายจำต้องถูกเคลื่อนย้ายโดยตรงเพื่อไม่ให้เป็นการแทรกแซงกับพอร์ตเรื่องในขณะที่เคลื่อนย้าย>

“อ่า ยุติธรรมดี ก็ดีที่ยังมีข้อมูลที่ใช้ได้บ้าง”

<แตะที่ข้อความเพื่อตรวจสอบเลเวลของตัวเอก>

ฉันแตะที่ข้อความเหมือนที่เธอบอกฉันและฉันของฉันก็พับยู่ยี่ในทันที

“บ้าน่า…”

พวกมันทั้งหมดเป็นเหล่าตัวเอกระดับสูง

ฉันคิดว่าตัวเอกเลเวล 33 คือที่สุดที่ฉันสามารถรับมือได้แล้ว

แม้กระทั้งเนื้อเรื่องสมัยใหม่ที่ดูน่าสนใจ เลเวลของตัวเอกพวกนั้นมันสูงมากพอที่จะทำให้เกิดเสียง “อึก!” ออกมาจากปากของฉัน

หลังจากค้นหาผ่านรายการทั้งหมดเป็นเวลานาน ฉันก็พบกับตัวเอกคนที่ฉันดูเหมือนจะรับมือได้

#ฉัน_เป็น_หนึ่ง_เดียว_กับ_ดาบ

#แฟนตาซี #นอกรีต #เติบโต #เลือดเย็น

มันเป็นตัวเอกที่มีความเกี่ยวข้องกับดาบ

มันไม่ดีกว่าหรอที่จะได้รับพรสวรรค์เกี่ยวกับดาบเมื่อล่าเสร็จ?

มากกว่านั้นแค่หัวข้ออย่างเดี่ยวก็ทำให้ฉันรู้สึกเหมือนกันว่าตัวละครหลักน่าจะอยู่หรือตายไปกับดาบ

ใช่

มันจากกจะเป็นไปได้ที่พรสวรรค์ ‘เจตนาแห่งดาบ’ที่ซึ่งเป็นศาสตร์การต่อสู้ทั่ว ๆ ไปจะมาจากสิ่งนี้

“ฉัน_เป็น_หนึ่ง_เดียว_กับ_ดาบ”

ถ้าฉันโชคดีฉันอาจจะได้รับพรสวรรค์นั้น

“โอเค ฉันตัดสินใจเอาอันนี้แหละ ส่งฉันไปตอนนี้เลย”

[กำลังเดินทาง สู่ ดินแดนแห่งเคววิลลอน โลกของตัวเอกเลเวล 40 ดาบศักดิ์สิทธิ์บาเร็ตเต้]

…เดี่ยวก่อนนะ ทำไมตัวเอกถึงเป็นดาบ?

ตัวเอกพวกนั้นฉันฆ่าเองแหละ

ตัวเอกพวกนั้นฉันฆ่าเองแหละ

ไม่ว่าจะเป็นคนที่กลับชาติมาเกิด,คนที่ย้อนเวลากลับมา,คนที่วนลูปได้,พวกที่ไปยึดร่างคนอื่นมา,นักเดินทางต่างมิติ,คนรู้อนาคตมากจากทางไหนสักทาง

ฉันจะล่าเจ้าพวกตัวเอกเหล่านี้เอง ไอ้พวกคนที่มีตัวตนอยู่ในโลกใบต่าง ๆ ที่มีอยู่มากมายนับไม่ถ้วนแล้วฉันก็จะดูดกลืนพรสวรรค์ของพวกเขาซะ

เหล่าพวกตัวเอกทั้งหลายที่ไม่ว่าจะเป็น

ความหวังของทวีป

ฮีโร่ที่จะช่วยโลกไว้ได้อนาคต

ฮีโร่ที่ในตอนนี้มีหลุมอยู่ตรงกลางอก!

ปาร์คแทรยอง คนที่จะปลดปล่อยเหล่าคนแคระให้เป็นอิสระและได้รับความเชื่อถือจากคนพวกนั้น

ชำระล้างสิ่งปนเปื้อนที่เป็นพิษในป่าแห่งจิตวิญญาณและได้กลายมีเป็นผู้มีพระคุณของเหล่าแฟรี่

ทวงคืนรูปปั้นหินโบราณที่เคยถูกปิดผนึกอยู่ในซากปรักหักพังในยุคอดีตกาล

กำจัดงูทะเลยักษ์ที่โผล่ออกมาจากทะเล

ปราบจักพรรดิปีศาจของโลกใต้พิภพตนที่ 47 ลงได้

“นอกเหนือไปจากการข่มขืนและฆาตกรรมแล้วยังมีเหตุการณ์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของคนจำนวนมากไม่ว่าจะเป็นการฆ่าอันป่าเถือน,การลอบวางเพลิง และ……”

“ช-ช่วยฉันด้วย..”

แกร๊ก!

นี้ก็เป็นตัวเอกเช่นกัน

แต่ในตอนนี้เขาได้ตายคามือฉันซะแล้วหละ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท