สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา – บทที่ 232 แสร้งทำเป็นอ่อนแอ

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

กู้ฉางฉิงก็รับรู้ถึงความสำคัญของเรื่องนี้ ไม่ได้โต้แย้งอะไร พยักหน้าเห็นด้วย

“ก็ได้ ฉันจะไปรอคุณที่ร้านกาแฟ”

เธอพูดจบ ก็หันกลับออกไป

จี้เฟิงหนุนมองไปยังเธอที่จากไป มองกู้ฉางซินอีกครั้ง เม้มๆปาก แล้วเดินตามกู้ฉางฉิงออกไป

กู้ฉางซินจ้องมองดูพวกเขาที่ออกไปไกล ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย แววตามืดครึ้ม แล้วกลับไปที่งานเลี้ยงทันที

เธอเดินผ่านฝูงชนไปเรื่อยๆ แต่หาคนที่ได้พบกันไม่เจอ

ทว่าไม่รู้เลย เวลานี้ทุกการเคลื่อนไหวของเธอถูกจับตาโดยเฟิงจิ่งเหยาที่อยู่ไม่ไกล ความสงสัยในแววตาก็มากยิ่งขึ้น

รู้สึกอยู่ตลอดว่าคืนนี้กู้ฉางซินเหมือนเปลี่ยนไปเป็นคนละคน

เขาคิดถึงสิ่งเหล่านี้ วางแผนจะพิสูจน์ความคิดในใจเล็กน้อย ก็เลยเดินเข้าไปที่กู้ฉางซิน

“คุณหาใครอยู่หรอ?”

กู้ฉางซินได้ยินน้ำเสียงนี้ ร่างกายก็แข็งทื่อไปชั่วขณะ ไม่นานก็กลับมายิ้มอย่างเป็นธรรมชาติและหันมาอย่างสง่างาม

“ใช่ หาคนอยู่”

เธอพูดจบ มองไปที่เฟิงจิงเหยาโดยไม่แสดงท่าทีเกรงกลัวเลยแม้แต่น้อย : “คุณต้องการช่วยฉันหาไหมล่ะ?”

เฟิงจิ่งเหยาเห็นเช่นนี้ ก็ขมวดคิ้ว แต่ยังคงพยักหน้าเห็นด้วย

กู้ฉางซินคาดหวังเรื่องนี้มานานแล้ว ดังนั้นจึงยักไหล่และพาเฟิงจิ่งเหยาไปรอบๆ ฝูงชน

และเวลานี้ กู้ฉางฉิงก็ไปถึงร้านกาแฟด้านนอกโรงแรม

“ขอโทษนะ เป็นเพราะฉันคุณเลยมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย”

กู้ฉางฉิงนึกถึงงานเลี้ยงเมื่อกี้นี้ กู้ฉางซินด่าทอจี้เฟิงหยุน ก็พูดขอโทษ

“ไม่เป็นอุปสรรค ถึงแม้ว่าจะไม่รู้ว่าสุดท้ายพวกคุณมีแผนการอะไร แต่ฉันคิดว่าคุณทำแบบนี้ก็อดไม่ได้ที่จะลำบากใจ”

จี้เฟิงหยุนรู้ว่ากู้ฉางฉิงไม่เต็มใจที่จะบอกตน ก็ไม่ได้เซ้าซี้ถามอีก ก็เข้าใจคลายกังวล

พูดได้ว่า ความเข้าใจนี้ของเขาทำให้กู้ฉางฉิงโล่งใจมาก

เพราะเรื่องนี้ก็ไม่รู้ว่าจะอธิบายอย่างไร พูดออกมาบางทีหลายๆคนอาจจะไม่เข้าใจ

“ขอบคุณนะ”

เธอถือกาแฟแล้วขอบคุณอย่างสุดซึ้ง

จี้เฟิงหยุนหยิบกาแฟขึ้นมาและชนแก้วกับเธอ : “เพียงแต่ฉันรู้สึกกังวลใจเล็กน้อยเกี่ยวกับผู้หญิงคนนั้น หวังว่าเธอจะไม่ทำให้คุณเดือดร้อนในงานเลี้ยงนะ”

กู้ฉางฉิงได้ยินคำพูดนี้ ก็ตกตะลึง

“ก็หวังว่านะ”

เธอก็หวังว่ากู้ฉางซินจะไม่ก่อปัญหา แต่เธอเข้าใจดี ตามนิสัยกู้ฉางซินนั้น ต้องการให้เธอปลอดภัยและไม่สร้างความเดือดร้อน นั่นเป็นไปไม่ได้

ในความเป็นจริงมันก็เป็นไปตามที่กู้ฉางฉิงคิด เธอจากไปไม่นาน กู้ฉางซินก็เจอเรื่องทางด้านนี้

เดิมทีเธอก็พาเฟิงจิ่งเหยาเดินไปรอบๆงานเลี้ยง แล้ววางแผนจะหาโอกาสสลัดทิ้งอีกที ใครจะรู้ว่ามู่เฉาเกอจะเข้ามาในเวลานี้ ไม่ทันระวังเลยสะดุดเท้า

“ระวังหน่อย”

เฟิงจิ่งเหยาเห็นมู่เฉาเกอที่จะล้มมิล้มแหล่ ก็เข้าไปประคองโดยจิตใต้สำนึก

มู่เฉาเกอรับรู้ได้ถึงแขนแกร่งที่รอบเอว ความเขินอายก็ฉายบนใบหน้า ยิ้มพูดว่า : “ขอบคุณค่ะ”

ถึงแม้เธอจะพูดขอบคุณ แต่ไม่ได้ออกมาจากอ้อมแขนของเฟิงจิ่งเหยา

กู้ฉางซินยืนกอดอกดูอยู่ข้างๆ

เธอเหลือยไปมองเฟิงจิ่งเหยา และมองใบหน้าที่เขินอายของมู่เฉาเกอ ดวงตาก็เต็มไปด้วยความเย็นชา

“หึ ฉันว่าพอแล้วล่ะ นี่คุณแสร้งทำเป็นอ่อนแออยู่หรอ?”

เห็นว่าฉับพลันเธอก็เดินเข้ามา ทำให้มู่เฉาเกอออกจากในอ้อมกอดของเฟิงจิ่งเหยาทันที อีกทั้งยังใช้แรงผลักเล็กน้อย

มู่เฉาเกอไม่ได้เตรียมป้องกัน ถูกเธอดึงออกมา เลยโซเซถอยหลังไป เหมือนว่าจะล้มอีกครั้ง โชคดีที่ได้การตอบสนองที่ว่องไวของเฟิงจิ่งเหยาทำให้ตั้งตัวได้

“กู้ฉางซิน คุณทำอะไร?”

เฟิงจิ่งเหยาถามด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

การกระทำที่ฉับพลันของกู้ฉางซินทำให้มู่เฉาเกอตกใจ

เธอตกตะลึงมองไปที่กู้ฉางซิน เป็นเวลานานสติจึงกลับมา ขมวดคิ้วพูดว่า : “คุณกู้นี่คุณไม่พอใจอะไรฉันหรอ?’

กู้ฉางซินมองเธอ พูดถากถางว่า : “ไม่พอใจอย่างมาก!”

เธอพูดจบ ก็มองไปทางเฟิงจิ่งเหยา

“คุณก็ไม่อายที่จะถามว่าฉันทำอะไร ไม่ว่าอย่างไรคุณก็เป็นสามีฉัน มาโอบกอดผู้หญิงอื่นต่อหน้าฉันได้ยังไง?”

เฟิงจิ่งเหยาคาดไม่ถึงว่ากู้ฉางซินจะพูดคำนี้ออกมา สีหน้าก็เคร่งขรึม

“ฉันแค่ประคองเธอก็เท่านั้น”

เขาอธิบายด้วยเสียงเย็นชา แต่กู้ฉางซินไม่ตอบสนอง

“ประคองเล็กน้อยแล้วต้องโอบไว้ในอ้อมกอด แล้วนานแล้วก็ยังไม่ปล่อยมือหรอ?”

เธอกล่าวเสียดสี น้ำเสียงก็ไม่เบา ดึงดูดให้คนโดยรอบมองเข้ามา

เฟิงจิ่งเหยาเห็นเช่นนี้ สีหน้ามืดครึ้มจนจะกลายเป็นหยดหมึก

มู่เฉาเกอเห็น ถึงแม้ว่าในใจจะแปลกใจกับท่าทีของกู้ฉางซิน แต่ยังหยัดเป็นคนไกล่เกลี่ย

“คุณกู้ คุณเข้าใจผิดแล้วจริงๆ เมื่อกี้ฉันสะดุดเท้า ไม่มีการตอบสนองไปชั่วขณะ จึงทำให้เสียเวลานานแบบนั้น”

กู้ฉางซินฟังคำพูดที่นุ่มนวลของเธอ ก็ไม่หลงกลเธอ กล่าวเหน็บแนมว่า: “ต่อหน้าฉันเสแสร้งดัดจริตให้น้อยๆหน่อย ฉันไม่หลงกลเธอหลอก มีใจไม่มีใจ ในใจของตัวพวกคุณเองรู้ดี”

เอพูดจบ เสียงวิพากย์วิจารณ์ของคนโดยรอบก็ดังขึ้นมาไม่น้อย

“นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”

“ฉันก็ไม่เข้าใจ แต่เมื่อกี้ได้ยินผู้หญิงคนนี้พูดว่า เธอเป็นภรรยาของประธานเฟิง อีกทั้งประธานเฟิงก็ไม่ได้กล่าวปฏิเสธ นี่…..”

“ใช่ ฉันก็ได้ยิน ประธานเฟิงแต่งงานตั้งแต่เมื่อไรกัน?”

“ถ้าแต่งงานแล้วจริงๆ งั้นตอนนี้…….”

คำพูดเหล่านั้นยังไม่จบ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะหยุดลงแล้ว แต่คนจำนวนไม่น้อยก็ยังเข้าใจความหมายในนั้น

ช่วงเวลาหนึ่ง เฟิงจิ่งเหยาและมู่เฉาเกอที่ยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชนก็ชัดเจนว่าอับอายขายหน้าอย่างมาก

เฟิงจิ่งเหยาก็ยิ่งเยือกเย็นไปทั่วทั้งตัว

แต่ทว่ากู้ฉางซินก็ไม่หวาดหวั่น เผชิญสายตา

“ทำไม คิดว่าฉันพูดไม่ถูกหรอ?”

เฟิงจิ่งเหยาเห็นท่าทีของเธอที่ไม่รู้จักเก็บอาการ ความเยือกเย็นบนใบหน้าก็ยิ่งรุนแรงขึ้น

“ฉันจะให้คนส่งคุณกลับไปก่อน”

เขามองกู้ฉางซินอย่างเคร่งขรึม แล้วหันไปพูดเบาๆกับมู่เฉาเกอ

มู่เฉาเกอกวาดสายตามองกู้ฉางซิน ไม่ได้ปฏิเสธ

“รบกวนคุณแล้ว”

เฟิงจิ่งเหยาไม่พูดจา เรียกชวี่ยี่มาให้เขาส่งมู่เฉาเกอออกไป

กู้ฉางซินเห็นว่ามู่เฉาเกอถูกส่งกลับไป ในสายตาก็ระงับความลำพองใจไว้ไม่อยู่

เฟิงจิ่งเหยาเห็น ในสายตาปรากฎความเยือกเย็น ไม่สนใจเธอเดินมุ่งตรงไป

และทุกสิ่งทุกอย่างนี้ กู้ฉางฉิงที่อยู่ที่ร้านกาแฟไม่ได้รู้เรื่องเลย

เธอรออยู่ที่ร้านกาแฟเกือบจะสองชั่วโมงแล้ว กู้ฉางซินจึงเดินกรีดกรายมาอย่างเชื่องช้า

คนทั้งสองเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้ว กำลังเตรียมจะออกไป

ทันใดกู้ฉางซินก็นึกอะไรได้ หยุดฝีเท้าแล้วกล่างเตือนสติว่า: “กู้ฉางฉิง ฉันรู้ว่าคุณนิสัยอ่อนแอ แต่ไม่ว่ายังไงตอนนี้คุณก็เป็นสถานะของฉัน อย่ามาไร้ประโยชน์แบบนั้น”

กู้ฉางฉิงฟังคำพูดนี้ ในสายตาก็เต็มไปด้วยความไม่เข้าใจ

พอดีเมื่อเธอคิดที่จะถาม แต่กู้ฉางซินก็เดินจากไป

จนปัญญา เธอได้แต่ระงังความสงสัยในใจและกล่าวลาจี้เฟิงหยุน

เธอนั่งรถกลับไปถึงคฤหาสน์ชายทะเล ไม่คาดคิด พอเข้าประตู ก็พบกับเฟิงจิ่งเหยาที่กลับมาพอดี

“จิ่งเหยา”

เธอยิ้มแล้วเข้าไปทักทาย

เฟิงจิ่งเหยาเห็นเธอ หยุดฝีเท้าเล็กน้อย สีหน้าเคร่งขรึมโดยฉับพลัน

เขาปลดปล่อยความเยือกเย็นออกมาในชั่วพริบตาทำให้รอยยิ้มบนใบหน้าของกู้ฉางฉิงอดไม่ได้ที่จะแข็งทื่อขึ้นมา

“เป็นอะไรไป?”

เธอกล่าวถามอย่างไม่สบายใจ แต่เฟิงจิ่งเหยาไม่ได้ให้ความสนใจแม้แต่น้อย หลังจากมองเธอทีหนึ่ง ก็ดึงสายตากลับแล้วเดินจากเธอไปโดยตรง

กู้ฉางฉิงมองภาพด้านหลังที่จากไปของเขา ในใจก็เต็มไปด้วยความสงสัย

นี่เขาเป็นอะไรไป?

เธอคิดแล้วไม่เข้าใจ จนกระทั่งวันที่สอง เธอจึงพบกับคำตอบ

ก็เห็นข่าวในWeiboบนโทรศัพท์มือถือล้วนเป็น’เธอ’ที่เข้าไปจู่โจมมู่เฉาเกอต่อหน้าสาธารณะชนเมื่อคืนนี้

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

Status: Ongoing
ก่อนแต่งงานแทนน้องสาวเข้าไปในตระกูลเฟิง กู้ฉางชิงได้ยินว่าเฟิงจิ่งเหยาเป็นคนที่เฉยเมย ต่อมาถึงได้รู้ว่าข่าวลือล้วนเป็นเรื่องโกหก คุณเฟิงไม่เพียงแต่ไม่เย็นชา กลับเป็นคนที่อบอุ่น แต่กระตือรือร้นเป็นพิเศษในการมีทายาท มีคนพูดเป่าหูต่อหน้าเขา “คุณเฟิง ก่อนคุณจะกลับประเทศ ในทุกๆคืนภรรยาของคุณจะไม่กลับบ้าน เพราะออกไปเมาข้างนอก” เฟิงจิ่งเหยา “หลังจากฉันกลับประเทศ ตอนค่ำภรรยาของฉันจะมาอยู่ที่ห้องฉัน ปรนนิบัติฉันไม่นอนทั้งคืน” มีคนพูดอีกว่า “ก่อนคุณจะกลับมา ภรรยาของคุณช้อปปิ้งทั้งวัน เปลี่ยนรถยี่ห้อหรูไม่หยุด แถมยังมีหนุ่มคอยอยู่เธอตลอดเวลา” เฟิงจิ่งเหยา พูดต่อว่า “หลังจากฉันกลับประเทศ บัตรเครดิตทุกใบของฉัน ฉันก็อยากให้ภรรยาฉันใช้ แต่เธอไม่ต้องการ ไปกลับจากที่ทำงานก็ให้ฉันไปรับแค่คนเดียว” สำหรับคนที่เย็นชา เมื่อมีภรรยาจะคลั่งรักเป็นพิเศษ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท