สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา – บทที่ 242 ถูกเธอติดสินบนหรือไง

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

กู้ฉางฉิงไม่รู้ว่าพวกเขาคิดจะทำอะไรกันแน่ เธอเรียกรถกลับคฤหาสน์ไปก็รีบอาบน้ำเตรียมตัวพักผ่อน

และก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเรื่องที่เกิดขึ้นในสองสามวันมานี้ทำเธอล้าไปทั้งกายทั้งใจหรือไม่ ไม่นานเธอก็หลับไหลไป

กลางดึกเมื่อเฟิงจิ่งเหยากลับมาเห็นคนที่ไม่คิดอะไรหลับไปแล้ว ความรู้สึกไม่สบายใจก็กลับมาอีกครั้ง

แต่ว่าเขามันเป็นประเภทเงียบๆไม่แสดงออกอยู่แล้ว ดังนั้นเขาก็ทำได้เพียงแค่เก็บมันเอาไว้ในใจแล้วไปล้างหน้าพักผ่อน

วันถัดไป ในตอนที่กู้ฉางฉิงตื่นขึ้นมาก็เห็นว่าเฟิงจิ่งเหยาก็เพิ่งตื่นเหมือนกันจึงทักทายออกไป

“อรุณสวัสดิ์ค่ะ”

เฟิงจิ่งเหยาเห็นยอมยิ้มบางๆบนหน้าเธอ ภาพแผ่นหลังสง่าผ่าเผยของเธอเมื่อวานก็แวบเข้ามาในหัว กำลังที่จะตอบกลับไปนั้น แต่ก็ครางอื้ออึงในจมูกตอบกลับไปเท่านั้น หลังจากนั้นคนใบหน้าเย็นชาก็เดินไปห้องแต่งตัว

กู้ฉางฉิงรับรู้ถึงความโกรธของเขา กลับไม่รู้ว่าเขาโกรธอะไร ยักไหล่อย่างช่วยไม่ได้ ผู้ชายคนนี้เอาแน่เอานอนไม่ได้จริงๆเลย

ทั้งสองคนนั่งรับประทานอาหารด้วยความเงียบ ทานเสร็จเฟิงจิ่งเหยาก็ออกไปบริษัท

กู้ฉางฉิงชำเลืองออกไปเห็นบรรยากาศข้างนอกกำลังดีก็วางแผนจะออกไปหาแรงบันดาลใจในการออกแบบสักหน่อย

ในขณะที่เธอกำลังเก็บกระดานวาดนั้นโทรศัพท์บนเตียงก็ดังขึ้น เป็นโทรศัพท์จากบริษัทที่เรียกเธอไปประชุมเกี่ยวกับผลตัดสินเกี่ยวกับโทษของเธอ

ใบหน้าของกู้ฉางฉิงยังคงเรียบนิ่ง เรียกรถออกไปบริษัท

พอถึงบริษัท ยังคงมีเหล่าคนไม่ดีทั้งหลายนินทาเธอแต่เธอก็ไม่ได้เก็บเอามาใส่ใจ เดินมุ่งตรงไปห้องประชุมทันที

ณ เวลานี้ในห้องประชุมมีคนอยู่ไม่น้อยทีเดียว กู้ฉางฉิงเลือกที่นั่งค่อนข้างไกลออกไปหน่อย

ในอันดับแรก หลี่ม่านเหลือบมองกู้ฉางฉิงที่เข้ามาแล้วก็มองไปรอบๆห้องประชุม เมื่อเห็นว่าคนมาเกือบครบแล้วจึงปรบมือเพื่อให้ทุกคนเงียบลง

“เนื้อหาการประชุมหลักๆของวันนี้มีสามหัวข้อด้วยกัน”

เธอลุกขึ้นยืนเต็มความสูงพูดเนื้อหาการประชุม

“เรื่องที่กู้ฉางฉิงมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตบตีนั้น จากการพูดคุยของผู้บริหาร ปลดออกจากตำแหน่งตอนนี้และลดตำแหน่งเป็นนักออกแบบทั่วไป และงานหลังจากนี้จะต้องถูกควมคุมดูแลจากผู้จัดการจี้ เธอไม่มีปัญหาอะไรนะ?”

พอถึงประโยคสุดท้าย หลี่ม่านก็หันไปมองกู้ฉางฉิง

แน่นอนกู้ฉางฉิงไม่มีทางออกความเห็นอะไรได้อยู่แล้ว ในขณะเดียวกันในใจเธอก็รู้สึกตกใจอยู่พอสมควร

เดิมทีเธอคิดว่าเรื่องนี้อาจจะทำให้บริษัทไล่เธอออกเลยก็ได้ แต่ว่าพอคิดไปถึงเฟิงจิ่งเหยา เดาได้เลยว่าที่เธอยังไม่ถูกไล่ออกผู้ชายคนนั้นต้องมีส่วนเกี่ยวข้องแน่ๆ

และพวกพนักงานคนอื่นๆก็ตกใจไม่ต่างกับกู้ฉางฉิง

แน่นอนว่าพวกเขาไม่พอใจเป็นอย่างมาก

นั่นก็เพราะว่าเรื่องของกู้ฉางฉิงทำให้ผลงานการออกแบบของพวกเขาได้รับผลกระทบไปด้วย จนถึงขั้นที่ว่าต้องหยุดการขาย แต่ตอนนี้ผู้หญิงคนนี้ยังคงได้ทำงานที่นี่ต่อไป

“เกินไปหรือเปล่า เสียหายขนาดนี้แล้วทำไมยังไม่ไล่เขาออกอีกล่ะ!”

ชวี่ชิงหยุนเป็นคนแรกที่พึมพำออกมาอย่างไม่พอใจ ในห้องประชุมนี้เสียงของเธอดังพอที่จะทำให้ทุกคนได้ยิน

และสิ่งเธอพูดออกมาก็เหมือนเชื้อเพลิงชั้นดีที่ทำให้นักออกแบบคนอื่นๆแสดงความเห็นไม่พอใจออกมา

“ทำไมบริษัทถึงยกโทษให้ผู้หญิงคนนี้ด้วยหลายครั้งหลายหนด้วย ไม่ยุติธรรมเลยจริงๆ”

“ไม่ยุติธรรมเกินไปจริงๆ ช่างไม่มีเหตุผลเอาซะเลย”

“หรือว่าผู้หญิงคนนี้ติดสินบนผู้จัดการหรือไง”

คำวิพากย์วิจารณ์เหล่านั้นยิ่งพูดก็ยิ่งออกทะเล จนหลี่ม่านมีสีหน้าที่เคร่งขรึม

เธอรู้ว่าการไม่อธิบายเหตุผลที่ดี ทำให้บรรยากาศในบริษัทในอนาคตนั้นไม่สงบแน่ๆ ดังนั้นจึงสาดสายตาไปมองกู้ฉางฉิงอีกครั้งแล้วพูดออกมาว่า “ที่บริษัทตัดสินใจออกมาแบบนี้ก็เพราะว่ากู้ฉางฉิงทำคุณงามความดีให้บริษัทไม่น้อยเลยทีเดียว ถ้าหากพวกเธอมีความคิดเห็นอะไรสามารถไปแจ้งได้ที่สำนักงานใหญ่ เพราะผลการตัดสินใจนี้มาจากการพิจารณาของท่านประธาน ”

พนักงานคนอื่นๆที่ได้ยินแบบนี้ แม้ว่าจะไม่พอใจอยู่แต่ก็ต้องปิดปากอย่างจำยอม

ถึงแม้พวกเขาจะไม่ได้พูดอะไรออกไป แต่พวกเขาก็ไม่ได้เชื่อคำพูดของหลี่ม่านเลยสักนิด

หลังจากประชุมเสร็จ พวกเขากดดันจนทิ้งความรู้สึกโดดเดี่ยวเดียวดายให้กู้ฉางฉิง

แม้แต่ชีเสี่ยวจิ่วก็ไม่กล้าเข้าไปใกล้เธอด้วยซ้ำ

กู้ฉางฉิงก็รับรู้ได้ทันทีแต่ก็ไม่ได้สนใจ เก็บของเพื่อที่จะกลับบ้านไปทำงาน

ถึงอย่างไรก็ไม่มีใครชอบบรรยากาศการทำงานแบบนี้อยู่แล้ว

ขณะที่เธอจะออกไปจากที่นี่ จู่ๆจี้อี้ก็ออกจากห้องทำงานมาเรียกเธอไว้

“ผู้จัดการแผนกจี้มีเรื่องอะไรหรือเปล่าคะ?”

กู้ฉางฉิงถามออกไปอย่างเย็นชา

จี้อี้กวาดสายตาที่คาดเดาไม่ได้ไปมองกู้ฉางฉิง พูดไปยิ้มไป”คืออย่างนี้นะ แผนงานสินค้าชิ้นใหม่ของฤดูใบไม้ร่วงมาแล้วน่ะ”

ได้ยินแบบนั้นกู้ฉางฉิงก็คิดไปว่าเขาคงจะมอบงานนั้นให้เธอ พยักหน้าแล้วพูดว่า”ทราบแล้วค่ะ ฉันจะส่งแบบร่างตามเวลาที่กำหนดค่ะ”

จี้อี้รู้ได้ทันทีเลยว่าเธอกำลังเข้าใจผิด พูดอย่างตรงไปตรงมาว่า “ฉันไม่ได้คาดหวังให้เธอทำคุณงามความดีอะไรหรอกนะ แต่ฉันหวังว่าเธอจะไม่ดึงทุกคนและบริษัทให้แย่ลง”

พูดไปแวบหนึ่งสายตาเหยียดหยามวูบไหวออกมา

“ถึงแม้ว่าเฟิงจิ่งเหยาจะปกป้องเธอในครั้งนี้ แต่ก็ไม่สามารถปกป้องเธอครั้งที่สองได้หรอกนะ ยังไงที่นี่ก็คือบริษัท ถ้าทำให้คนจำนวนมากไม่พอใจมันจะยิ่งไม่เป็นผลดีต่อการพัฒนาของบริษัท”

กู้ฉางฉิงฟังเธอพูดจบก็ขมวดคิ้วแน่น

“ฉันไม่แน่ใจว่าแย่ลงที่คุณพูดถึงน่ะหมายความว่าอะไร ถ้าเอาผลงานมาพูดล่ะก็ ฉันก็มั่นใจในฝีมือมากอยู่”

แววตาโลดเต้นไปด้วยเพลิงมองไปยังจี้อี้ แต่จี้อี้ที่ฟังเธอพูดจบก็หัวเราะออกมา

“คุณนักออกแบบพูดแบบนี้ คงไม่รู้สินะว่าชื่อเสียงของคุณในสายงานมันฉาวโฉ่ขนาดไหน”

ทำเอาหน้ากู้ฉางฉิงชาไป ใบหน้าเปลี่ยนไปจากปกติ

สิ่งที่จี้อี้พูด เธอย่อมรู้อยู่แก่ใจ

เรื่องคืนนั้นสร้างผลกระทบให้เธอมากเลยทีเดียว ทำไมเธอจะไม่รู้

และยิ่งรู้เธอก็ยิ่งอยากใช้ผลงานของเธอมารับประกัน

ไม่ว่าจะเป็นกู้หงเซินก็ดี กู้ฉางซินก็ดี ก็ไม่สามารถมาขัดขวางการสร้างสรรค์ผลงานของเธอได้

เธอมีเป้าหมายที่ชัดเจน สายตาเด็ดเดี่ยวแน่วแน่มองไปที่จี้อี้ พูดอย่างหนักแน่น “ถึงแม้ว่าจะเป็นแบบนี้ ฉันก็ไม่ยอมแพ้หรอกนะ”

พูดจบ เธอก็ไม่สนใจว่าจี้อี้จะมีสีหน้ายังไง เพียงหมุนตัวเดินตรงออกไป

จี้อี้ทอดมองไปยังแผ่นหลังที่ห่างออกไป คิดกลับไปถึงแววตามุ่งมั่นเมื่อสักครู่ของเธอก็ขมวดคิ้วแน่น

แต่หลังจากที่กู้ฉางฉิงออกมากลับไม่ได้เรียกรถในทันที

เพราะว่าตอนที่ออกมาจากบริษัทก็ได้รับโทรศัพท์จากกู้หงเซินพอดี

“เรื่องที่ฉันให้เธอทำก่อนหน้านี้ถึงไหนแล้วล่ะ?”

กู้ฉางฉิงได้ยินแบบนี้ก็กำโทรศัพท์แน่น

“ฉันเคยบอกไปแล้วว่าเรื่องนี้มันเป็นไปไม่ได้ ที่นี่ไม่ง่ายเลยที่จะทำให้สงบเรียบร้อย ในช่วงเวลาสั้นๆนี้ฉันไม่สามารถหาเวลาไปพูดเรียกร้องอะไรเขาได้”

กู้หงเซินฟังจบก็รู้ได้ทันทีว่าเรื่องที่เขาสั่งให้ไปทำกู้ฉางฉิงนั้นไม่เคยทำตามเลย ใบหน้านั้นขรึมลงทันที

“เยี่ยมมาก”

เขาพูดสองคำนี้ออกมาอย่างเยือกเย็นแล้ววางสายไป

กู้ฉางฉิงจ้องไปที่โทรศัพท์ที่ถูกตัดสาย นัยน์ตาเต็มไปด้วยความกังวลและสงสัย

ในความเข้าใจที่เธอมีต่อกู้หงเซินนั้นไม่ได้รับรู้ถึงเจตนาที่แท้จริงของเขา คนๆนี้ไม่มีทางปล่อยเขาไปง่ายๆแน่

แต่เธอรอแล้วรอเล่าก็ไม่ได้รับโทรศัพท์ใดๆ

เธอค่อยๆเอาเรื่องนี้โยนออกจากหัวไป

ใครจะรู้ หลังจากนั้นอีกหนึ่งชั่วโมง เธอจะได้รับข้อความนึงที่ทำเธอทั้งตกใจทั้งโกรธ ดวงตาคู่นั้นแดงเหมือนโกรธแค้นราวกับจะฆ่ากู้หงเซินซะให้ได้

ในข้อความนั้นมีรูปแม่ของเธอที่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย และยังพิมพ์ข้อความคุกคามเธออีก

ภายในสองชั่วโมงถ้าเธอไม่จัดการเรื่องนี้ซะ แม่ของเธอจะไม่ได้รับการรักษาใดๆจากโรงพยาบาลอีก

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

Status: Ongoing
ก่อนแต่งงานแทนน้องสาวเข้าไปในตระกูลเฟิง กู้ฉางชิงได้ยินว่าเฟิงจิ่งเหยาเป็นคนที่เฉยเมย ต่อมาถึงได้รู้ว่าข่าวลือล้วนเป็นเรื่องโกหก คุณเฟิงไม่เพียงแต่ไม่เย็นชา กลับเป็นคนที่อบอุ่น แต่กระตือรือร้นเป็นพิเศษในการมีทายาท มีคนพูดเป่าหูต่อหน้าเขา “คุณเฟิง ก่อนคุณจะกลับประเทศ ในทุกๆคืนภรรยาของคุณจะไม่กลับบ้าน เพราะออกไปเมาข้างนอก” เฟิงจิ่งเหยา “หลังจากฉันกลับประเทศ ตอนค่ำภรรยาของฉันจะมาอยู่ที่ห้องฉัน ปรนนิบัติฉันไม่นอนทั้งคืน” มีคนพูดอีกว่า “ก่อนคุณจะกลับมา ภรรยาของคุณช้อปปิ้งทั้งวัน เปลี่ยนรถยี่ห้อหรูไม่หยุด แถมยังมีหนุ่มคอยอยู่เธอตลอดเวลา” เฟิงจิ่งเหยา พูดต่อว่า “หลังจากฉันกลับประเทศ บัตรเครดิตทุกใบของฉัน ฉันก็อยากให้ภรรยาฉันใช้ แต่เธอไม่ต้องการ ไปกลับจากที่ทำงานก็ให้ฉันไปรับแค่คนเดียว” สำหรับคนที่เย็นชา เมื่อมีภรรยาจะคลั่งรักเป็นพิเศษ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท