สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา – บทที่ 255 เหมาะสมกันมาก

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

เพราะการแสดงความเห็นนี้ของกู้ฉางฉิง จี้อี้ก็พูดอะไรลำบาก

หลังเลิกประชุม ทุกๆคนออกไปแล้ว

ชวี่ชิงหยุนเห็นว่าเรื่องราวตกมาที่กู้ฉางฉิงอีกครั้ง ก็ไม่พอใจอย่างมาก

เธอจ้องมองกู้ฉางฉิงที่เดินจากไป ก็หันกลับไปที่ทางแยกของตึก

“ซือหยี่ ฉันออกหน้าช่วยคุณแล้ว คุณไม่รู้กู้ฉางซินผู้หญิงคนนั้นหลังจากก่อเรื่องวุ่นวายอีกครั้ง บริษัทก็ยังใช้ให้ปฏิบัติหน้าที่ที่สำคัญๆอีก”

เธอหยิบโทรศัพท์มารายงานการประชุมครั้งนี้ให้ลู่ซือหยี่ฟัง

อีกทั้งบอกลู่ซือหยี่เกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันของบริษัท

“ถึงแม้ว่าบริษัทจะให้ความสำคัญกับเธอ แต่สถานการณ์ของเธอที่บริษัทไม่ค่อยดีนัก ตอนนี้บริษัทเต็มไปด้วยผู้คนที่ไม่ต้องการเห็นเธอ”

คำพูดสุดท้าย เธออดไม่ได้ที่จะหัวเราะขึ้นมา

รอเธอหัวเราะเสร็จ เธอก็พบความผิดปกติ

เพราะเธอพูดมากมายขนาดนี้ ก็ไม่เห็นการตอบสนองใดๆจากลู่ซือหยี่

“ซือหยี่ คุณฟังฉันอยู่หรือเปล่า?”

เธอถือโทรศัพท์ถามด้วยความสงสัย

เป็นเวลานานเสียงที่อ่อนแอของลู่ซือหยี่ก็ดังขึ้นในโทรศัพท์

“ฟังอยู่”

ทันทีที่ชวี่ชิงหยุนได้ยินถึงความผิดปกติ ก็พูดอย่างเป็นห่วงว่า : “ซือหยี่คุณเป็นอะไรไป? น้ำเสียงดูอ่อนเพลีย”

ในสาย ลู่ซือหยี่เม้มปาก ไม่อยากพูด

ช่วงเวลานี้ เพราะว่าตั้งท้อง การตอบสนองของเธอไม่ค่อยดี

พูดได้ว่าเธอถูกเด็กคนนี้ทรมานจนเหมือนตายทั้งเป็น

จู่ๆได้ฟังข่าวนี้จากชวี่ชิงหยุน ชั่วขณะความโกรธที่อธิบายไม่ได้ก็เกิดขึ้นในใจ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอนึกถึงนังผู้หญิงสารเลวกู้ฉางซินนั่น เกิดเรื่องวุ่นวายหายครั้งก็ไม่ถูเฟิงจิ่งเหยาไล่ออกจากบริษัท แต่เธอเพียงแค่ทำผิดพลาดครั้งเดียว ก็ถูกไล่ออกโดยไม่คำนึงถึงความรู้สึกเลย

แสดงให้เห็นว่า เฟิงจิ่งเหยายังสนใจนังสารเลวนั่นอยู่!

เธอนึกถึงตรงนี้ ไฟอิจฉาริษยาในใจก็ลุกโชนขึ้นมา

มีสิทธิอะไร!

เธอมีสิทธิอะไรที่จะได้รับทุกสิ่งทุกอย่างโดยไม่ต้องทำอะไรเลย!

โดยเฉพาะเธอที่แม้แต่เสียสละตัวเองเพื่อให้ได้เฟิงจิ่งเหยา จนตอนนี้ได้รับความทุกข์ระทมเป็นที่สุด ก็ไม่สามารถได้รับความสงสารใดๆจากพี่จิ่งเหยาเลย

เพียงแค่คิดว่าผู้ชายคนนั้นไม่ยอมให้เธอเอาเด็กในท้องออก เธอก็โกรธแค้นจนต้องกัดฟัน

เธอไม่ยอม!

“เรื่องที่เธอพูดฉันรู้แล้ว ฉันจัดการได้ เธอจับตาดูที่บริษัทให้ฉันต่อไปก็พอ”

เธอพูดจบก็วางสายไป

จากนั้นเธอก็นั่งลงบนเสื่อทาทามิแล้วหรี่ตามองแสงอาทิตย์นอกหน้าต่าง

ถ้าเธอจำมาผิด ในตอนแรกฟู่หยุนชวนดูเหมือนจะสนใจกู้ฉางฉิงมาก

และคู่หมั้นของฟู่หยุนชวนเป็นเพื่อนสนิทที่เธอรู้จัก

บางทีเธอก็ลงมือได้จากตรงนี้

จากสิ่งที่ชวี่ชิงหยุนบอกเมื่อกี้นี้ เธอได้ยินมาว่าบริษัทให้ความสำคัญกับชุดป้องกันนี้มาก ถ้าเธอทำให้กู้ฉางซินทำงานล้มเหลวอีกครั้ง สูญเสียงบประมาณส่วนเกินของบริษัท เธอมาเชื่อว่าพี่จิ่งเหยาจะยังปกป้ปงนังสารเลวนั่นอน่างไม่สนใจใยดีได้!

หากเธอไม่ได้ ก็จะไม่ยอมให้คนอื่นได้เด็ดขาด โดยเฉพาะกู้ฉางซิน!

……

กู้ฉางฉิงไม่รู้ว่าแผนการชั่วร้ายของเธอเกิดขึ้นอีกครั้ง

หลังจากประชุมเสร็จ เธอก็ค้นหาข้อมูลของฟู่ซื่อกรุ๊ปทันที

หลังจากทำการบ้านมาพอสมควร ตอนบ่ายจึงออกไปที่ฟู่ซื่อกรุ๊ป

“สวัสดีค่ะ ฉันชื่อกู้ฉางซินตัวแทนของบริษัทZARY อยากจะพบประธานฟูฝ่ายการตลาดและการขายของพวกคุณ”

เธอคุยกับสาวน้อยแผนกต้อนรับอย่างสุภาพมีมารยาท

“กรุณารอสักครู่นะคะ”

สาวน้อยแผนกต้อนรับตอบกลับด้วยรอยยิ้ม จากนั้นก็หยิบโทรศัพท์มาติดต่อฟู่หยุนชวน

“ประธานฟู่ ชั้นล่างมีคุณผู้หญิงท่านหนึ่งชื่อกู้ฉางซินต้องการเข้าพบคุณ อ้างว่าเป็นตัวแทนของZARY”

ฟู่กยุนชวนได้ยินชื่อของกู้ฉางซินก็แปลกใจในชั่วพริบตา

“คุณให้เธอขึ้นมาเถอะ”

เขาสั่งด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม

หญิงสาวพนักงานต้อนรับตอบรับแล้ว ก็พากู้ฉางฉิงขึ้นลิฟต์

ไม่นาน คนทั้งสองก็เดินทางมาถึงห้องทำงานของฟู่หยุนชวน

กู้ฉางฉิงเข้ามายังห้องทำงานโดยผู้ช่วยของฟู้หยุนชวน

“ประธานฟู่ คุณกู้มาแล้วค่ะ”

เขาเคาะประตูแล้วเข้ามา หลังจากแจ้งให้ทราบแล้วก็ออกไปอย่างเคารพนบนอบ

หลังจากนนั้นในห้องทำงานก็เหลือเพียงคนสองคน

กู้ฉางฉิงกล่าวทักทายก่อน: “คุณฟู่ ไม่เจอกันนานเลย”

ฟู่หยุนชวนอมยิ้มมองกู้ฉางฉิง ในสายตาประหลาดใจและชื่นชม

เขารู้สึกเพียงว่าพบกู้ฉางฉิงครั้งนี้ดูมีความสามารถมั่นใจในตนเองมากกว่าเมื่อก่อน

เห็นกู้ฉางฉิงสวมใส่ชุดสูททำงานเข้ารูป บนใบหน้าแต่งหน้าอ่อนๆ ในความอ่อนโยนแฝงไปด้วยความเข้มแข็ง

“ไม่เจอกันนานมากจริงๆ”

เขาอมยิ้มตอบกลับ หลังจากกล่าวทักทายกู้ฉางฉิงก็นั่งลง

“ไม่ทราบว่าครั้งนี้คุณกู้มาหาฉัน มีเรื่องอะไรครับ?”

หลังจากกู้ฉางฉิงนั่งลง เขาก็ถามถึงวัตถุประสงค์ในการมา

กู้ฉางฉิงเห็นเช่นนี้ ก็ไม่อ้อมค้อมให้เสียเวลา เธอก็พูดจุดประสงค์นี้ออกมาอย่างตรงไปตรงมา

“มาครั้งนี้ อยากจะมาเจรจาความร่วมมือกับบริษัทคุณ”

“โอ้? ความร่วมมืออะไรหรอ?”

ฟู่หยุนชวนฟังคำพูดของเธอจบ ในสายตาก็มีความสนใจ จึงกล่าวถาม

“ฉันได้ยินมาว่าในสายการผลิตผ้าของบริษัทคุณ มีอุปกรณ์ประเภทหนึ่งที่สามารถใช้ทำชุดป้องกันทางการแพทย์ได้ บริษัทของเราเพิ่งได้รับคำสั่งซื้อที่ต้องใช้ผ้าชนิดนี้ ดังนั้นฉันจึงต้องการร่วมมือกับบริษัทของคุณ แบบนี้ก็เป็นสถานการณ์ที่วินทั้งสองฝ่าย ทั้งสองบริษัทต่างก็ได้กำไร”

กู้ฉางฉิงพูดจบ ก็ฉีกยิ้มมองไปยังฟู่หยุนชวน รอเขาตอบรับ

เดิมทีเธอคิดว่า ในฐานะที่เป็นคนทำธุรกิจ ฟู่หยุนชวนไม่มีทางปฏิเสธการค้าขายที่มาส่งถึงประตูได้ ใครจะรู้ว่าความเป็นจริงไม่เหมือนกับที่คิดไว้เลย

เห็นฟู่กยุนชวนขมวดคิ้ว คล้ายกับว่าลำบากใจเล็กน้อย

“คุณฟู่มีความคิดเห็นใดที่แต่งต่างหรอ?”

กู้ฉางฉิงเห็นเช่นนี้ สีหน้าปกติ กล่าวถามอย่างจริงจัง

“ไม่ถึงขั้นกับมีความคิดเห็น คือผ้าชุดป้องกันนี้ บริษัทพวกเรากำลังผลิตจริงๆ อีกทั้งพวกเราก็ให้ความสำคัญในการผลิต แต่ผ้านี้คือพวกเราวางแผนไว้ว่าจะใช้เอง ไม่ได้อยากจะขายออกสู่ภายนอก”

ฟู่หยุนชวนพูดถึงตรงนี้ มองไปยังกู้ฉางฉิงอย่างรู้สึกเสียใจ

กู้ฉางฉิงนิ่งอึ้งไปเล็กน้อย คล้ายกับคาดไม่ถึงว่าฟู่ซื่อกรุ๊ปจะผลิตผ้านี้ไว้ใช้เอง

“แบบนี้ ฉันก็ยังหวังว่าคุณฟู่จะลองคิดพิจารณาดูสักหน่อย บริษัทของเรามีความเชื่อมั่นในผ้าชนิดนี้ของบริษัทคุณอย่างมาก โดยเฉพาะชื่อเสียงในวงก่รธุรกิจของเฟิงชื่อกรุ๊ป ยิ่งทำให้พวกเรานับถือ พวกเราหวังว่าความร่วมมือในครั้งนี้ จะสามารถร่วมมือในระยะยามกับบริษัทของคุณได้”

เธอพยายามที่จะโน้มน้าวฟู่หยุนชวน แต่บนใบหน้าของฟู่กยุนชวนไม่ได้เปลี่ยนไปนัก

“คุณฟู่จะไม่พิจารณาสักหน่อยหรอ?”

เธอกล่าวถามอีกครั้งอย่างไท่ตายใจ

ฟู่กยุนชวนเห็นเช่นนี้ ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย

เขามองออกว่ากู้ฉางฉิงตั้งใจมาทำความร่วมมือ แต่ผ้านี้ของบริษัทเห็นได้ชัดว่าคณะกรรมการบริหารไม่ได้จำหน่ายสู่ภายนอก

คิดแบบนี้พลาง ในใจเขาก็มีความคิดเห็นหนึ่งเข้ามา

“คุณกู้ คุณเห็นว่าแบบนี้ได้ไหม? ฉันเข้าใจความร่วมมือของพวกคุณกับพวกเรา เนื่องจากได้รับช่วงการผลิตชุดป้องกันจากสถาบันทางการแพทย์ ฉันยังได้ยินมาว่าธุรกิจนี้ มีขนาดใหญ่มาก แม้ว่าบริษัทของคุณจะอยู่เบื้องหลังเฟิงซื่อกรุ๊ป แต่ก็ยังเป็นบริษัทใหม่ที่เพิ่งเข้าสู่อุตสาหกรรม โรงงานน่าจะไม่สามารถผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูปได้ภายในเวลาที่กำหนด แต่บริษัทของเรามีความสามารถนี้ หากบริษัทของคุณยินดีที่จะจัดจ้างธุรกิจภายนอกนี้ให้เรา ฉันคิดว่าทั้งสองจะสามารถร่วมมือกันได้”

กู้ฉางฉิงฟังคำพูดนี้จบ ก็ขมวดคิ้วครุ่นคิด

เธอยอมรับว่าคำพูดนี้ของฟู่หยุนชวนไม่เลว

ปฏิเสธไม่ได้ว่าผ้าที่ขาดแคลน การผลิตของพวกเธอก็เป็นปัญหาเหมือนกัน

แต่นี่เธอไม่สามารถตัดสินใจเองได้

“ข้อเสนอของคุณฟู่ฉันเข้าใจ แต่ฉันจำเป็นต้องรายงานกับบริษัท จึงจะสามารถให้คำตอบคุณฟู่ได้”

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

Status: Ongoing
ก่อนแต่งงานแทนน้องสาวเข้าไปในตระกูลเฟิง กู้ฉางชิงได้ยินว่าเฟิงจิ่งเหยาเป็นคนที่เฉยเมย ต่อมาถึงได้รู้ว่าข่าวลือล้วนเป็นเรื่องโกหก คุณเฟิงไม่เพียงแต่ไม่เย็นชา กลับเป็นคนที่อบอุ่น แต่กระตือรือร้นเป็นพิเศษในการมีทายาท มีคนพูดเป่าหูต่อหน้าเขา “คุณเฟิง ก่อนคุณจะกลับประเทศ ในทุกๆคืนภรรยาของคุณจะไม่กลับบ้าน เพราะออกไปเมาข้างนอก” เฟิงจิ่งเหยา “หลังจากฉันกลับประเทศ ตอนค่ำภรรยาของฉันจะมาอยู่ที่ห้องฉัน ปรนนิบัติฉันไม่นอนทั้งคืน” มีคนพูดอีกว่า “ก่อนคุณจะกลับมา ภรรยาของคุณช้อปปิ้งทั้งวัน เปลี่ยนรถยี่ห้อหรูไม่หยุด แถมยังมีหนุ่มคอยอยู่เธอตลอดเวลา” เฟิงจิ่งเหยา พูดต่อว่า “หลังจากฉันกลับประเทศ บัตรเครดิตทุกใบของฉัน ฉันก็อยากให้ภรรยาฉันใช้ แต่เธอไม่ต้องการ ไปกลับจากที่ทำงานก็ให้ฉันไปรับแค่คนเดียว” สำหรับคนที่เย็นชา เมื่อมีภรรยาจะคลั่งรักเป็นพิเศษ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท