สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา – บทที่ 259 หนีออกจากบ้าน

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

เดิมทีเฟิงจิ่งเหยาต้องการจะออกไป เมื่อไม่เห็นจิตใจก็ไม่หงุดหงิด

แต่ไม่ว่าจะก้าวออกไปแค่ไหน

เวลานี้กระเป๋าเดินทางของกู้ฉางฉิงก็จัดเตรียมเสร็จแล้ว

ก็เห็นเธอลากกระเป๋าเดินทางด้วยสีหน้าเย็นชาเดินผ่านเฟิงจิ่งเหยาไป

“คุณจะไปไหน?”

เฟิงจิ่งเหยาดึงข้อมือเธอโดยไม่ต้องคิด ขมวดคิ้วถาม

“ฉันจะไปวางกระเป๋าที่ห้องพักแขกข้างๆ”

กู้ฉางฉิงตอบกลับอย่างเย็นชา ในเวลาเดียวกันก็ต้องการจะดึงมือตนเองออก ทว่าอย่างไรก็ดึงไม่ออก

“ปล่อยฉันได้ไหม?”

เธอขมวดคิ้วนิดๆมองไปทางเฟิงจิ่งเหยา แล้วเอ่ยถาม

เฟิงจิ่งเหยาไม่ได้เคลื่อนไหว แต่จ้องมองเธอด้วยสีหน้าคาดไม่ถึง

ทำไมต้องเอาไปวางที่ห้องพักแขก นี่คุณยังโกรธฉันอยู่หรอ?”

กู้ฉางฉิงได้ฟังคำนี้ ก็นิ่งไป ในแววตาก็เป็นประกาย เพียงแต่เธอรีบเก็บสีหน้าไว้

“เปล่า”

เธอพยายามอย่างเต็มที่ที่จะตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่เป็นธรรมชาติ แล้วพูดอีกครั้งว่า : “คุณปล่อยฉันก่อนได้ไหม?”

“ไม่ได้”

เฟิงจิ่งเหยาตอบกลับโดยไม่ลังเล จากนั้นก็หมุนตัว ดึงคนเข้ามาที่ผนังข้างๆ

กระเป๋าเดินทางอันหนักอึ้งหลุดออกจากมือของกู้ฉางฉิง เกิดเสียงดัง

แต่กลับไม่มีใครสนใจ

หรือพูดได้ว่า เดิมทีกู้ฉางฉิงไม่ได้สนใจ เวลานี้ในสายตาในจิตใจของเธอเป็นคนที่อยู่ตรงหน้านี้

พูดได้ว่า การกระทำของเฟิงจิ่งเหยาเกินความคาดหมายของเธออย่างสิ้นเชิง

“พูดมาเถอะ ว่าคุณโกรธอะไรอยู่”

เฟิงจิ่งเหยามองกู้ฉางฉิงที่ตะลึงงันอยู่ตรงหน้า เอาตัวเข้ามาใกล้ๆ ลมหายใจอุ่นๆพ่นรดใบหน้าของกู้ฉางฉิง

“ฉันไม่ได้โกรธอะไร คุณปล่อยฉันนะ”

เธอเผชิญหน้ากับผู้ชายที่อยู่ใกล้อย่างมาก กระสับกระส่ายต่อสู้ดิ้นรน

เฟิงจิ่งเหยากดเธอไว้ ทำให้เธอดิ้นไม่หลุด

ชั่วขณะกู้ฉางฉิงก็อดที่จะหงุดหงิดไม่ได้

“คุณคิดจะทำอะไร?”

เธออดไม่ได้ที่จะต้องมองเฟิงจิ่งเหยาอย่างโกรธๆ

“ประโยคนี้ฉันควรจะถามคุณหรือเปล่า? คุณโกรธอะไรอยู่?”

เฟิงจิ่งเหยาเลิกคิ้วมองเธอ จากนั้นก็เหมือจะนึกอะไรออก สายตาก็กวาดไปมองกระเป๋าเดินทางที่ถูกทิ้งอยู่ข้างๆ พูดอย่างไม่เข้าใจ : “ตอนนี้ฉันสงสัยมาก ที่คุณไปศึกษาที่ต่างประเทศนี่มันเป็นข้ออ้างที่คุณจะหนีออกจากบ้าน

กู้ฉางฉิงคาดไม่ถึงว่าเฟิงจิ่งเหยาจะช่างจินตนาการไปขนาดนี้ ก็เลยหัวเราะออกมา

“ทำไมฉันต้องหนีออกจากบ้าน อีกอย่าง ฉันมีคุณสมบัติที่ต้องหนีออกจากบ้านหรอ?”

เธอเคืองเฟิงจิ่งเหยา ในดวงตาก็ไม่ปกปิดความโกรธไว้

“ครั้งนี้ที่ออกไปศึกษาที่ต่างประเทศ ฉันก็เตรียมการไว้ล่วงหน้า จะได้ไม่ต้องถูกไล่ออกจากบริษัทในอนาคต”

แน่นอนว่าเธอไม่สามารถบอกเฟิงจิ่งเหยาได้ เรื่องที่ออกไปต่างประเทศนี้ก็มีปัจจัยที่จะซ่อนตัวจากเขาด้วย

แต่ถึงเธอจะไม่พูด เฟิงจิ่งเหยาก็รู้สึกได้

“ดังนั้น คุณยังโกรธอยู่”

เขาอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเบาๆ เห็นท่าทางปากไม่ตรงกับใจของกู้ฉางฉิง ฉับพลันก็รู้สึกว่าน่าสนใจ

กู้ฉางฉิงไม่รู้ว่าเขาหัวเราะอะไร เพียงแต่ความคิดของตนเองถูกเขาเปิดเผยแล้ว ทำให้สีหน้าของเธออดกลั้นไว้ไม่อยู่

“ฉันบอกแล้ว ว่าฉันไม่ได้โกรธ คุณต้องการให้ฉันพูดอะไรอีก”

เธอพูดจบ ก็ผลักเฟิงจิ่งเหยาแรงๆด้วยความเขินอาย

“หลีกไป ฉันยังมีของอีกเยอะที่จะต้องเตรียม……อื้อ”

ใครจะรู้ว่าเธอยังพูดไม่ทันจบ ฉับพลันใบหน้าอันหล่อเหลาของเฟิงจิ่งเหนาก็ขยายใหญ่ขึ้นต่อหน้าเธอ

เธอดวงตาเบิกกว้าง ในแววตาเต็มไปด้วยความตกตะลึงจ้องมองผมที่ดำขลับของเฟิงจิ่งเหยา

การสัมผัสระหว่างริมฝีปากทำให้เธอไม่ได้สติไปพักหนึ่ง

เห็นเฟิงจิ่งเหยาหลับตาและตักตวงความหวานระหว่างริมฝีปากและฟันของเธอ จู่โจมทุกซอกทุกมุมในปากของเธอ

ก็ไม่รู้ว่า ผ่านไปนานแค่ไหน ในที่สุดกู้ฉางฉิงก็ค่อยๆดึงสติกลับมาจากในความหลงใหล

ดวงตาที่เป็นประกายน้ำตาของเธอมองเฟิงจิ่งเหยาอย่างเต็มไปด้วยความสับสน ในเวลาเดียวกันก็โกรธขึ้นมา

เธอก็ไม่รู้ว่าตอนนี้เฟิงจิ่งเหยามาจูบเธอด้วยทัศนคติอะไร

ชัดเจนว่าพวกเขาควรจะทำสงครามเย็น เพราะเหตุใดเขาถึงทำแบบนี้?

ยิ่งเธอนึกถึงคำพูดที่ไร้เยื่อใยเหล่านั้นของเขาด้วยแล้ว ทำให้ใจของเธอที่สั่นเยือกเย็นลงมา

“โอ๊ย……”

เฟิงจิ่งเหยาที่เดิมทีจิตใจหมกมุ่นอย่างมาก แต่ไม่คาดคิดความเจ็บปวดจะลุกลามมาจากในปากของเขาอย่างกะทันหัน ความเจ็บปวดทำให้เขาปล่อยกู้ฉางฉิง และในปากก็แพร่กระจายไปด้วยรสชาติของคาวเลือด

กู้ฉางฉิงเวลานี้ ก็เห็นมามุมริมฝีปากของเขามีหยดเลือดซึมออกมา

“ขอโทษด้วย ฉันไม่ได้ตั้งใจ เพียงแต่ตอนนี้ไม่มีอารมณ์ที่จะทำเรื่องเหล่านั้นกับคุณ ถ้าคุณต้องการ ก็ไปห้องน้ำ หรือ……”

คำพูดสุดท้าย ถึงแม้กู้ฉางฉิงจะไม่ได้พูดออกมา แต่เฟิงจิ่งเหยาก็ฟังเข้าใจ

เวลานี้เขาทั้งโมโหทั้งจนใจ

ผู้หญิงคนนี้ คาดไม่ถึงว่าโกรธเขาถึงกับให้เขาออกไปพิศวาทกับคนอื่น

“กู้ฉางซิน ฉันให้โอกาสคุณพูดใหม่อีกครั้ง”

เขาเชยคางกู้ฉางฉิง ให้เธอมองตนเอง

กู้ฉางฉิงมองเขา ในใจทันทีก็พรั่งพรูความน้อยใจออกมา เผยให้เห็นรอบดวงตาที่แดงกร่ำ

“คุณต้องการให้ฉันพูดอะไร?”

เธอเอ่ยปากสะอึกสะอื้น เดิมทีเธอก็ไม่อยากร้องไห้ต่อหน้าเฟิงจิ่งเหยา แต่ก็อดกลั้นไม่ไหว

เฟิงจิ่งเหยาถูกน้ำตาที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันของเธอทำให้ทึมทื่อไป หลังจากตอบสนองกลับมา ก็เช็ดน้ำตาของเธออย่างเจ็บปวดใจเล็กน้อย

“โอเค โอเค ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว”

เขาเกลี้ยกล่อมกู้ฉางฉิง และกล่าวขอโทษขึ้นมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ

เมื่อเย็นวานฉันทำเกินไป ไม่ได้เข้าใจเรื่องราวชัดเจแล้วไปโทษคุณด้วยความเข้าใจผิด คือฉันที่ผิด ฉันต้องขอโทษคุณด้วย”

พอเขาพูดคำนี้ออกมา กู้ฉางฉิงนิ่งอึ้งโดยตรง

เธอมองเฟิงจิ่งเหจาด้วยน้ำตาที่เอ่อล้น คล้ายกับคาดไม่ถึงว่าเขาจะกล่าวขอโทษ แต่ที่เพิ่มมากขึ้นคือความไม่สบายใจ

ก็เพราะแบบนี้ น้ำตาของเธอไม่เพียงแต่ไม่หยุดไหลเท่านั้น แต่กลับยิ่งไหลมากขึ้น

“คุณยังบอกอีกว่าฉันกำลังช่วยตระกูลกู้ ไม่เชื่อฉัน”

เธออดไม่ได้ที่จะพูดความเสียใจภายในใจออกมา

เฟิงจิ่งเหยาทำได้เพียงนำคนมากอดปลอบประโลมไว้ในอ้อมกอด

“คือฉันผิดเอง ฉันขอโทษคุณนะ ต่อไปจะไม่ทำแบบนี้แล้ว”

กู้ฉางฉิงฟังคำพูดของเขา ความอัดอั้นภายในใจที่สุดก็หายไปเลผ้กน้อย แต่น้ำตายังคงไม่หยุดไหล

ในที่สุดเธอก็ร้องไห้จนหลับไปในอ้อมกอดของเฟิงจิ่งเหยา

……

วันต่อมา กู้ฉางฉิงตื่นขึ้นมาจากในห้อง ในห้องเหลือเพียงแค่เธอคนเดียว

ในความหดหู่เธอก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจอย่างโล่งอก

ภาพความทรงจำของเมื่อคืนวานล้วนย้อนกลับมาในใจของเธอในเวลานี้

เธอไม่นึกเลยว่าตนเองจะร้องไห้จนหลับไปในอ้อมกอดเฟิงจิ่งเหยา รู้สึกไม่มีหน้าที่ตะไปเจอคน

ขณะที่เธอกำลังขัดเคืองอยู่ ทันใดประตูก็ถูกเปิดออก

“ตื่นแล้วงั้นก็ลงไปทานอาหาร เดี๋ยวฉันจะส่งคุณไปสนามบิน”

เฟิงจิ่งเหยาเอ่ยปากกับกู้ฉางฉิงด้วยสีหน้าที่เปลี่ยนไป

ถึงแม้กู้ฉางฉิงจะไม่สบายใจเล็กน้อย แต่ก็ยังพยักหน้าแล้วลุกขึ้นจากเตียง

ไม่นาน คนทั้งสองลงไปชั้นล่างรับประทานอาหาร

ก็ไม่รู้ว่าเพราะเรื่องเมื่อคืนวานหรือไม่ กู้ฉางฉิงจึงนิ่งเงียบอย่างมาก

เฟิงจิ่งเหยาก็รับรู้ได้ถึงความเขินอายของเธอ เลยไม่เอ่ยถึงเรื่องราวเมื่อคืนวาน แต่ช่วยเธอยกสัมภาระ ส่งเธอไปสนามบิน

เวลาใกล้ขึ้นเครื่อง เขาก็กำชับสั่งอย่างเป็นกังวลว่า: “อยู่ต่างประเทศคนเดียว ต้องระวังเรื่องความปลอดภัย มีเรื่องอะไรจำไว้ว่าต้องติดต่อฉัน”

กู้ฉางฉิงพยักหน้า เขากำชับสั่งคนตรงหน้าอย่างละเอียด ในใจก็รู้สึกสะเทือนใจเล็กน้อย

เธอกล่าวลาเฟิงจิ่งเหยาอย่างอาลัยอาวรณ์ หลังจากนั้นก็ขึ้นเครื่อง

ใช้เวลาบินนานถึงห้าชั่วโมง ในที่สุดก็มาถึง

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

Status: Ongoing
ก่อนแต่งงานแทนน้องสาวเข้าไปในตระกูลเฟิง กู้ฉางชิงได้ยินว่าเฟิงจิ่งเหยาเป็นคนที่เฉยเมย ต่อมาถึงได้รู้ว่าข่าวลือล้วนเป็นเรื่องโกหก คุณเฟิงไม่เพียงแต่ไม่เย็นชา กลับเป็นคนที่อบอุ่น แต่กระตือรือร้นเป็นพิเศษในการมีทายาท มีคนพูดเป่าหูต่อหน้าเขา “คุณเฟิง ก่อนคุณจะกลับประเทศ ในทุกๆคืนภรรยาของคุณจะไม่กลับบ้าน เพราะออกไปเมาข้างนอก” เฟิงจิ่งเหยา “หลังจากฉันกลับประเทศ ตอนค่ำภรรยาของฉันจะมาอยู่ที่ห้องฉัน ปรนนิบัติฉันไม่นอนทั้งคืน” มีคนพูดอีกว่า “ก่อนคุณจะกลับมา ภรรยาของคุณช้อปปิ้งทั้งวัน เปลี่ยนรถยี่ห้อหรูไม่หยุด แถมยังมีหนุ่มคอยอยู่เธอตลอดเวลา” เฟิงจิ่งเหยา พูดต่อว่า “หลังจากฉันกลับประเทศ บัตรเครดิตทุกใบของฉัน ฉันก็อยากให้ภรรยาฉันใช้ แต่เธอไม่ต้องการ ไปกลับจากที่ทำงานก็ให้ฉันไปรับแค่คนเดียว” สำหรับคนที่เย็นชา เมื่อมีภรรยาจะคลั่งรักเป็นพิเศษ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท