สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา – บทที่ 260 พาคุณไปผ่อนคลายจิตใจ

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

กู้ฉางฉิงได้ฟังคำนี้ จับตะเกียบให้แน่น จนปลายนิ้วเป็นสีขาวแล้ว ไม่สบายใจเป็นที่สุด เหมือนมีมือใหญ่ๆบีบไว้จนแน่น ทำให้เธอหายใจก็ยังเจ็บ

เธอรู้สึกได้ว่าเฟิงจิ่งเหยาไม่ไว้ใจเธอเลย

โดยเฉพาะเรื่องนี้ยังมีกู้หงเซินมาร่วมด้วย ก็ยิ่งอธิบายไม่ได้

“ขอโทษนะ ถ้าทำให้คุณเกิดปัญหามากมายขนาดนี้ ต่อไปฉันจะไม่เข้าไปร่วมการวางแผนของบริษัทอีก ทำงานนักออกแบบอย่างสงบๆ”

เธอสูดหายใจเข้าลึกๆมองเฟิงจิ่งเหยาแล้วให้คำมั่นสัญญา

เฟิงจืงเหยาได้ฟังคำนี้ ไม่รู้ทำไมถึงรู้สึกทุกข์เล็กน้อย

เขาขมวดคิ้ว กำลังคิดจะพูดอะไร กู้ฉางฉิงไม่ให้โอกาสเขาได้พูดยืนขึ้นมา

“ฉันกินเสร็จแล้ว คุณค่อยๆทานนะ”

เธอพูดจบ ก็ออกจากห้องอาหารไป

เฟิงจิ่งเหยามองเธอจากไปด้วยความโกรธ ชั่วขณะใบหน้าก็เย็นชาลง

เดิมทีเขาคิดว่าจะพูดคำพูดที่นุ่มนวลเล็กน้อย เวลานี้ยิ่งไม่สามารถพูดออกมาได้ จนรู้สึกว่ากู้ฉางฉิงได้รับการไว้วางใจจนหยิ่งยโสโอหัง

ทว่าเดิมที่ไม่รู้ว่ากู้ฉางฉิงไม่ได้หมายความว่าอย่างนี้

หลังจากกู้ฉางฉิงออกไป และไม่ได้กลับไปที่ห้อง แต่เดินออกจากตระกูลเฟิงไป

เวลานี้เธอไม่อยากอยู่ที่ตระกูลเฟิง เธอกลัวว่าจะอดทนไม่ไหวที่จะร้องไห้ออกมาต่อหน้าเฟิงจิ่งเหยา

เธอรู้สึกน้อยใจมาก

เห็นได้ชัดว่าเธอคิดหาผลประโยชน์เพื่อบริษัท แต่ไม่ว่าเธอจะอธิบายอย่างไร ขอเพียงแต่มีส่วนเกี่ยวข้องกับตระกูลกู้ กู้หงเซิน เฟิงจิ่งเหยาก็จะสึกว่าเธอช่วยหาผลกำไรให้ตระกูลกู้

เธอนึกถึงตรงนี้ ท้ายที่สุดก็กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ไหลออกมาจากเบ้าตา

เธอครุ่นคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานี้ ดูเหมือนว่าไม่ว่าเธอจะอยู่ที่ไหน เธอก็จะถูกสงสัยที่นั่น ถูคนรังเกียจและไม่แยแส

ไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน พิสูจน์ตัวเองอย่างไร ผลลัพธ์สุดท้ายก็ไม่เคยเปลี่ยนแปลง

ชั่วขณะ เธอก็รู้สึกเหนื่อยล้าอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

แล้วก็ยิ่งเบื่อหน่ายชีวิตเช่นนี้

เธอเดินอยู่บนถนน มองไปข้างหน้าด้วยน้ำตาที่เอ่อล้น ทว่าไม่รู้ว่าควรจะไปที่ไหน

จนกระทั่งเริ่มคิดถึงชีวิตก่อนหน้านี้

เวลานั้นที่แม่ของฉันยังไม่เกิดเรื่อง ถึงแม้ว่าพวกเธอจะอยู่อย่างยากจน แต่ก็อบอุ่นและมีความสุข

คิดไป คิดมา ความอึดอัดในใจของเธอก็ไม่ได้หนักหนาขนาดนั้น แต่เธอคิดถึงแม่มากกว่า

แต่เธอรู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่กู้หงเซินจะพาเธอไปโรงพยาบาลในเวลานี้ ดังนั้นเธอจึงเรียกรถ ไปบ้านเช่าที่เคยอยู่ด้วยกันกับแม่ก่อนหน้านี้

บ้านเช่าที่เมืองเก่า ถึงแม้ว่าจะไม่สะดวกสบาย แต่ของทุกอย่างในบ้านเป็นพวกเธอสองแม่ลูกจัดแต่งไว้ด้วยมือของตัวเอง

กู้ฉางฉิงยืนอยู่หน้าประตูแล้วมองการตกแต่งที่คุ้นเคย จิตใจที่กระวนกระวายชั่วขณะก็สงบลงมา

คนก็ผ่อนคลายมากขึ้น

นี่คือบ้านของเธอ เป็นบ้านของเธอกับแม่……

เธอทอดถอนใจแล้วมองไปรอบๆ จากนั้นก็ไปที่ห้องน้ำตักน้ำมาหนึ่งกะละมังแล้วเริ่มทำความสะอาด

เพราะว่าไม่ได้กลับมานาน เฟอร์นิเจอร์รอบๆมีแต่ฝุ่น

หนึ่งชั่วโมงต่อมา ในที่สุดกู้ฉางฉิงก็เก็บกวาดเสร็จ และด้านนอกก็มืดไปแล้ว

เพียงแต่เธอไม่ได้วางแผนที่จะกลับไป

เธอมาที่ห้องพักที่เคยอาศัยอยู่กับแม่ นอนลงอย่างเหนื่อยล้า กลิ่นที่คุ้นเคยแทรกเข้ามาที่ปลายจมูก ทำให้จิตใจเธอที่หนาวเหน็บมาตลอดก็อบอุ่นเล็กน้อย

ก็เหมือนกับว่ามีแม่อยู่ด้วยข้างๆ

เธอนอนขดอยู่เงียบๆเช่นนี้ ทว่าอย่างไรก็นอนไม่หลับ

และในเวลานี้ ที่ตระกูลเฟิง

เฟิงจิ่งเหยาทานอาหารเสร็จก็ลุกขึ้นกลับไปที่ห้อง ทว่าไม่พบกู้ฉางฉิง ก็เลยเรียกพ่อบ้านมาถาม

“คุณนายรองเหมือนว่าจะออกไปเมื่อกี้นี้”

พ่อบ้านตอบตามความจริง เฟิงจิ่งเหยาทว่าฟังแล้วก็ขมวดคิ้วแน่น

เขาคาดไม่ถึงว่ากู้ฉางฉิงจะหนีไปกับเขาอย่างไร้เดียงสา ในใจก็ไม่มีความสุขอย่างมาก

“คุณชาย ต้องส่งคนไปหาคุณนายรองไหม?”

พ่อบ้านมองสีหน้าที่ผิดปกติของเขา กล่าวถามอย่างระมัดระวัง

เฟิงจิ่งเกยาเหลือบตามองไปยังเขา หรี่ตาแล้วกล่าวว่า: “ไม่ต้อง”

เขาคิดว่ากู้ฉางฉิงออกไปจากที่นี่ จะต้องกลับไปตระกูลกู้แน่นอน ดังนั้นจึงไม่รีบร้อนที่จะไปหา

……

วันต่อมา เฟิงจิ่งเหยาตื่นขึ้นมา พบว่าข้างกายตนเองว่างเปล่า ไม่รู้ว่าทำไม รู้สึกไม่คุ้นชินเล็กน้อย

เขาลุกขึ้นนั่ง นิ่งมองไปยังที่ๆกู้ฉางฉิงเคยนอนอยู่สองสามวินาที จึงลุกขึ้นไปอาบน้ำด้วยความหงุดหงิด

ผ่านไปครึ่งชั่วโมง หลังจากที่เขารับประทานอาหารเสร็จ เดิมทีก็วางแผนไว้ว่าจะไปบริษัท แต่ไม่รู้ว่าทำไม เดินทางมาได้ครึ่งทางก็ให้คนขับรถเปลี่ยนเส้นทาง ไปตรวจสอบสำนักงานสาขา

อย่างรวดเร็ว เขาก็มาถึงสำนักงานสาขา หลี่ม่านมารออยู่ที่หน้าประตูแล้ว

เธอสำรวจเฟิงจิ่งเหยาไปพลาง แล้วรายงานสถานการณ์ของบริษัทให้ฟังรอบหนึ่ง

เฟิงจิ่งเหยาฟังไปพลาง พาเธอเดินไปยังแผนกออกแบบ

“ท่านประธานสวัสดีค่ะ”

ทุกคนที่แผนกออกแบบเห็นเขา ต่างก็หยุดงานในมือแล้วลุกขึ้นกล่าวทักทาย

เฟิงจิ่งเหยามองไปรอบๆ แต่ไม่พบคนที่อยากเจอ ใบหน้าก็อดเศร้าไม่ได้

เพราะสีหน้าของเขาที่เปลี่ยนไป ทำให้เดิมทีแผนกออกแบบที่ตึงเครียดก็ทำอะไรไม่ถูก แต่ละคนก็ชำเลืองมองกัน เต็มไปด้วยความไม่เข้าใจคิดว่าท่านประธานไม่พอใจพวกเขา

หลี่ม่านก็สังเกตเห็นถึงบรรยากาศที่ผิดปกติ ชำเลืองตาไปมองยังเฟิงจิ่งเหยา

“ท่านประธาน มีตรงไหนที่ผิดปกติหรอคะ?”

เธอกล่าวถามอย่างระมัดระวัง

เฟิงจิ่งเหยาจึงตอบสนองกลับมา อดกลั้นความแปลกใจไว้ในใจกล่าวด้วยเสียงอันเย็นชาว่า: “เปล่า”

เขาพูดจบ ก็หันตัวออกจากแผนกออกแบบไป เดินไปยังห้องทำงาน

หลี่ม่านเห็นเช่นนี้จึงรีบตามไป

หลังจากคนเข้าห้องทำงานไปแล้ว เฟิงจิ่งเหยาก็ถามขึ้นมาเกี่ยวกับแผนการทำงานของชุดป้องกัน

“แบบฟอร์มกำลังออกแบบแล้ว แต่ปัญหาที่สำคัญที่สุดตอนนี้คือผ้า พวกเราได้รับข่าวว่าทางด้านฟู่ซื่อกรุ๊ปนั้น ไม่ได้วางแผนที่จะนำผ้าชนิดนี้ออกมาขาย”

หลี่ม่านตอบกลับตามความเป็นจริง

เฟิงจิ่งเหยาฟังแล้วขมวดคิ้ว นิ้วมือเคาะบนโต๊ะ

‘นอกจากฟู่ซื่อกรุ๊ปแล้ว ผ้าชนิดนี้ในประเทศไม่มีบริษัทอื่นผิดเลยหรอ?”

หลี่ม่านส่ายหน้า

“ในประเทศนอกจากฟู่ซื่อกรุ๊ปแล้ว บริษัทอื่นไม่ได้มีการผลิต ยกเว้นพวกเราจะไปหาที่ต่างประเทศ”

เธอพูดถึงตรงนี้ ก็เหลือบตามองเฟิงจิ่งเหยา เห็นเขาเหมินกับกำลังคิดอะไรอยู่ แล้วกล่าวต่อไปว่า: “ตามที่ฉันตรวจสอบ มีการผลิตที่ต่างประเทศ แต่ราคาค่อนข้างแพงกว่าทั่วไป อีกทั้ง ชนิดของผ้าก็ยังใกล้เคียงกับฟู่ซื่อกรุ๊ป กระทั่งแย่กว่านี้ด้วย”

เฟิงจิ่งเหยาฟังถึงตรงนี้ ก็ขมวดคิ้วแน่น

“คุณเอาใบรายการของโครงการนี้มาให้ฉันดูหน่อย”

หลี่ม่านไม่กล้าเฉยเมย ทันทีก็ให้เลขาฯส่งข้อมูลอย่างละเอียดมา

“ชวี่ยี่ คุณเอาลิงค์ราคาของต่างประเทศ เทียบกับใบรายการนี้พวกเราสามารถทำได้ไหม ต้นทุนเท่าไร กำไรเท่าไร”

เฟิงจิ่งเหยาไม่ได้พลิกดูข้อมูล แต่กำชับสั่งกับชวี่ยี่

ชวี่ยี่พยักหน้า นำข้อมูลพลิกขึ้นมาดู

พอเขาตรวจสอบดู สีหน้าของเขาก็เคร่งขรึมขึ้นมา

“ท่านประธาน ใบรายการนี้พวกเราไม่สามารถทำได้”

หลังจากสองสามนาที พวกเขาก็กล่าวด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึม

เฟิงจิ่งเหยาฟังถึงคำพูดนี้ ขมวดคิ้วเล็กน้อย มองไปยังเขาอย่างแปลกใจ

ชวี่ยี่เห็นเช่นนี้ ก็กล่าวอธิบายทันทีว่า: “ตอนนี้สถานการณ์ผ้าของพวกเรายังไม่ขาดตลาด แต่ด้วยการผลิตจำนวนมากเช่นนี้ บริษัทพวกเราไม่สามารถที่จะทำคนเดียวได้สำเร็จ”

เฟิงจิ่งเหยาหรี่ตา ไม่รู้ทำไมอยู่ๆก็นึกถึงคำพูดที่กู้ฉางฉิงพูดกับเขาเมื่อวาน

“เพราะอะไรถึงเป็นเช่นนี้?”

ผู้ช่วยได้ยิน ก็อดไม่ได้ที่จะพูดสภาพจริงของบริษัทตอนนี้ออกมา: “แม้ว่าบริษัทของเราจะมีสายการผลิตหลายสาย รวมถึงความร่วมมือภายนอก แต่ด้วยจำนวนคำสั่งซื้อก็มากเกินไป แม้ว่าสายการผลิตทั้งหมดของเราจะเพิ่มการผลิตทั้งกลางวันและกลางคืน ก็อาจไม่เสร็จสิ้นภายในเวลาที่อีกฝ่ายกำหนด เว้นแต่เราจะดำเนินการจัดจ้างบุคคลภายนอก”

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

Status: Ongoing
ก่อนแต่งงานแทนน้องสาวเข้าไปในตระกูลเฟิง กู้ฉางชิงได้ยินว่าเฟิงจิ่งเหยาเป็นคนที่เฉยเมย ต่อมาถึงได้รู้ว่าข่าวลือล้วนเป็นเรื่องโกหก คุณเฟิงไม่เพียงแต่ไม่เย็นชา กลับเป็นคนที่อบอุ่น แต่กระตือรือร้นเป็นพิเศษในการมีทายาท มีคนพูดเป่าหูต่อหน้าเขา “คุณเฟิง ก่อนคุณจะกลับประเทศ ในทุกๆคืนภรรยาของคุณจะไม่กลับบ้าน เพราะออกไปเมาข้างนอก” เฟิงจิ่งเหยา “หลังจากฉันกลับประเทศ ตอนค่ำภรรยาของฉันจะมาอยู่ที่ห้องฉัน ปรนนิบัติฉันไม่นอนทั้งคืน” มีคนพูดอีกว่า “ก่อนคุณจะกลับมา ภรรยาของคุณช้อปปิ้งทั้งวัน เปลี่ยนรถยี่ห้อหรูไม่หยุด แถมยังมีหนุ่มคอยอยู่เธอตลอดเวลา” เฟิงจิ่งเหยา พูดต่อว่า “หลังจากฉันกลับประเทศ บัตรเครดิตทุกใบของฉัน ฉันก็อยากให้ภรรยาฉันใช้ แต่เธอไม่ต้องการ ไปกลับจากที่ทำงานก็ให้ฉันไปรับแค่คนเดียว” สำหรับคนที่เย็นชา เมื่อมีภรรยาจะคลั่งรักเป็นพิเศษ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท