สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา – บทที่ 284 ในใจลึกๆชังเธอไม่น้อย

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

จี้อี้ได้ยินแบบนี้ นัยน์ตาฉายแววแปลกประหลาด แต่แค่ครู่เดียวก็ถูกสลัดทิ้งไป

“เธอจะช่วยฉันได้ยังไงล่ะ?”

เธอมองชวี่ชิงหยุนด้วยความสงสัย ในน้ำเสียงเจือความดูถูก

ถ้าผู้หญิงคนนี้มีวิธีจัดการกู้ฉางซิน ทำไมจะต้องมาหาเธอล่ะ

ชวี่ชิงหยุนฟังออกว่าในน้ำเสียงเจือไปด้วยความดูถูก สายตาเต็มไปด้วยความโกรธ

แต่ทว่าพอคิดถึงเจตนาของพวกเขา จึงอดกลั้นความโกรธนั้นไว้

“เธอไปแล้วจะรู้เอง รับประกันเลยว่าเธอจะไม่ผิดหวัง”

เธอพูดประโยคนี้จบ หมุนตัวเดินออกไป

จี้อี้มองแผ่นหลังที่ห่างออกไปของเขา หลุบตาลงเล็กน้อย เหมือนกับกำลังคิดอะไรอยู่

เมื่อเลิกงาน เธอก็เรียกชวี่ชิงหยุนเข้ามาในห้อง

“บอกสถานที่มาสิ”

ชวี่ชิงหยุนได้ยินแบบนี้ก็ทราบได้ทันทีว่าเธอตกลงกับสิ่งที่เธอเสนอไป พูดยิ้มๆ “ไม่ต้องวุ่นวายหรอก เดี๋ยวฉันพาคุณไปเอง”

ผ่านไปสิบนาที ทั้งสองคนบาร์แห่งนึงที่ชื่อว่าจุนหวง ขณะที่พนักงานกำลังนำทางไป ทั้งสองก็เข้าไปในห้องส่วนตัว

ในห้องส่วนตัวนั้นมีหญิงสาวสวยท่านหนึ่งนั่งอยู่ข้างใน

จี้อี้มองเพียงแค่แวบเดียวก็รู้ได้ทันทีว่าผู้หญิงตรงหน้าเป็นใคร ลู่ซือยวี่ ผู้หญิงที่เคยอยู่ตระกูลเฟิง

เธอมองลู่ซือยวี่ สายตาเป็นประกาย

“นี่คือคนที่เธอบอกว่าจะช่วยฉันได้?”

เธอมองไปที่ชวี่ชิงหยุนแล้วถามด้วยความสงสัย

ชวี่ชิงหยุนไม่ได้พูดอะไรออกไป มองไปทางลู่ซือยวี่

ลู่ซือยวี่นั่งอยู่บนโซฟาเล่นแก้วเหล้าในมือ ยกยิ้มแล้วพูดว่า “ไม่แย่ ฉันสามารถช่วยคุณได้ ฉันรู้ว่ากู้ฉางซินได้สัญญาไป และหัวหน้าอย่างเธอไม่ได้รับผลงานอะไร เลยกลัวว่านานเข้าจะถูกผู้บริหารระดับสูงไม่พอใจเข้าสินะ”

จี้อี้มีสีหน้าอึมครึม

ลู่ซือยวี่เห็นแบบนี้ สายต่อเป็นประกาย ยกยิ้มเบาๆ “ผู้จัดการแผนกจี้ไม่ต้องกังวลไป ขอเพียงแค่พวกเราร่วมมือกัน ฉันจะช่วยคุณรักษาตำแหน่งในบริษัทคุณเอง แต่…”

“แต่อะไร?”

จี้อี้ถามออกไปในทันที

ลู่ซือยวี่ถามเสียงขรึม “ฉันต้องการความช่วยเหลือของคุณ ช่วยฉันกำจัดกู้ฉางซินออกจากบริษัท”

จี้อี้ได้ยินแบบนี้ ไม่ได้ตอบกลับในทันที

คิ้วลู่ลงราวกับกำลังคิด

เธอเคยได้ยินเรื่องบุญคุณกับความแค้นของผู้หญิงและกู้ฉางฉิงมาไม่น้อยเหมือนกัน

ให้พูดจริงๆ ในใจเธอไม่ค่อยเชื่อผู้หญิงที่เคยพ่ายแพ้ต่อกู้ฉางซินเท่าไหร่

แต่ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นคุณหนูตระกูลลู่ มีอำนาจและอิทธิพล ร่วมมือกับเธอก็ไม่เสียหาย

อย่างไรสิ่งเธอขาดคือความช่วยเหลือในด้านนี้

คิดได้แบบนี้ รู้สึกสนใจขึ้นมา

“ในเมื่อร่วมมือกัน คุณหนูลู่ไม่บอกแผนการตัวเอง ดูแล้วเหมือนจะไม่ค่อยบริสุทธิ์ใจเท่าไหร่นะ”

เธอช้อนตาแล้วยิ้มมองลู่ไปมองลู่ซือยวี่ ความหมายของคำพูดเธอก็คือตกลงกับสิ่งที่เธอเสนอ

ลู่ซือยวี่ได้ยินแบบนั้น รอยยิ้มมุมปากยิ่งลึกซึ้งมากขึ้น

“ดูแล้วผู้จัดการแผนกจี้จะร่วมมือกันเราสินะ งั้นฉันจะพูดสิ่งฉันจะจัดการแล้วกัน”

เธอหยุดดูจี้อี้เล็กน้อยแล้วค่อยพูดต่อ “ฉันสามารถแนะนำการค้าขายให้ผู้จัดการแผนกจี้ได้นะ มันจะทำให้รักษาตำแหน่งในบริษัทไว้ได้”

จี้อี้ฉายแววความพอใจออกมา

เธอไม่ได้พูดตัดลู่ซือยวี่ รอเธอพูดต่อให้จบ

“ส่วนเรื่องจัดการกู้ฉางฉิง ก็ต้องดูความบริสุทธิ์ใจของผู้จัดการแผนกจี้แล้วล่ะ สิ่งที่ฉันต้องการจะทำก็คือให้คุณมั่นคงในตำแหน่ง แน่นอนว่าถ้าผู้จัดการแผนกจี้ต้องการความช่วยเหลือ ฉันยินดีช่วยอย่างเต็มที่”

……

ในขณะเดียวกัน บ้านตระกูลกู้

ภายในคฤหาสน์หรูล้วนถูกตกแต่งดูแลเอาใจใส่จากเจ้าของ

ทว่าต่อให้คฤหาสน์แห่งนี้สวยอีกเท่าไหร่ กลับเต็มด้วยบรรยากาศเย็นชืด

แต่กู้หงเซินกลับไม่ได้รู้สึกถึงเลย

ในเวลานี้เขานั่งอยู่หน้าตู้เหล้าที่แสนโอ่อ่า มุมปากมีรอยยิ้มถือแก้วแอลกอฮอล์สีสวยเอาไว้ในมือ

จากสีหน้าอ่อนโยนนี้สามารถดูออกได้ว่าเวลานี้เขารู้สึกดีไม่น้อย

นั่นก็เพราะว่าเขาเพิ่งจะวางสายจากกู้ฉางซิน

และในขณะเดียวกัน ผู้ช่วยของเขาก็เดินเข้ามา

“ประธานกู้ วันนี้กู้ฉางฉิงไปบ้านตระกูลเฟิงเพื่อที่จะคุยเรื่องธุรกิจมูลค่าสิบล้านแล้วล่ะ”

กู้หงเซินได้ยินประโยคนี้ เขาวางมือจากการชิมเหล้า สายตาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ

“เหอะ คิดไม่ถึงว่าลูกสาวคนนี้จะมีลูกเล่นในการค้าเยอะแยะขนาดนี้”

เขาพูดไปก็คิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนที่กู้ฉางซินจะกลับมา อดไม่ได้ที่จะตะโกนออกมา

“คงจะช่วยตระกูลเฟิงได้เยอะ ถ้าหากว่าก่อนหน้าฉางซินมีเรื่องซะก่อน เธอคงจะสร้างผลประโยชน์ให้เราไม่น้อย ทว่าพวกนั้นล้วนเป็นประโยชน์ต่อตระกูลเฟิง”

พูดจบ เขายังคงไม่ดื่มเหล้าในมือให้หมด “ดูถูกผู้หญิงคนนั้นเกินไปจริงๆ ไม่รู้ว่าหลังจากนี้มันจะกลายเป็นสิ่งที่ขัดขวางความเจริญก้าวหน้าของฉางซินหรือเปล่า”

ไม่แปลกที่เขาจะกังวล กู้ฉางฉิงยิ่งอยู่ยิ่งโดดเด่น เขากังวลว่าจะควบคุมเธอไม่ได้

ผู้ชายพอจะเดาความคิดเขาออก พูดยกยอไปว่า “คุณหนูคนนั้นมีเลือดเนื้อเชื้อไขของท่านอยู่ ย่อมเก่งเกาจเป็นธรรมดา แต่ว่าต่อให้เธอเก่งกาจยังไงก็เทียบไม่ติดกับคุณหนูฉางซินของพวกเราหรอกครับ”

กู้หงเซินฟังแบบนี้ สบายใจขึ้นเยอะ

“แน่นอน ยัยเด็กป่าเถื่อนคนนั้นไม่มีทางเทียบกับหงส์ที่ฉันเลี้ยงดูมาอย่างดีได้หรอก แต่ว่ายังไงตอนนี้เธอก็เป็นตัวแทนของฉางซิน งั้นก็ต้องใช้ประโยชน์จากเธอให้ได้”

เขาพูดจบ วางแก้วเหล้าในมือลงบนโต๊ะ สายตาเต็มไปด้วยแผนการ

ผู้ช่วยเห็นแบบนี้ ถามอย่างนอบน้อม

“ประธานกู้มีความคิดอะไรไหมครับ?”

กู้หงเซินใช้ตาเย็นชาจ้องมองไปที่เขา พูดน้ำเสียงเย็น “ช่วงนี้คนในตระกูลกู้เริ่มเคลื่อนไหวแล้ว โดยเฉพาะฝั่งอาสาม เริ่มลงมือถี่ขึ้น”

ผู้ช่วยพยักหน้า ถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยเข้าใจความหมายของประธานกู้ ยังคงติดตามหัวข้อและรายงาน

“เป็นแบบนี้ไม่ผิดแน่ ที่พวกเราได้รับข้อมูลมา ทางด้านคุณสามเหมือนจะสนใจซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นคนอื่นๆ พวกเราควรเตรียมป้องกันล่วงหน้า อบ่าให้พวกเขาประสบความสำเร็จ ไม่อย่างนั้นตำแหน่งของคุณก็จะสั่นคลอน”

กู้หงเซินได้ยินแบบนั้น เส้นเลือดขึ้นหน้าผาก

“ตาเฒ่านี่ เจ้าแผนการจริงๆ”

เขาก่นด่า นัยน์ลุกโชนด้วยไฟโทสะ

“ยังมีเฟิงจิ่งเหยาแสนเจ้าเล่ห์นั่นอีก ที่ไม่เคยเห็นหัวฉันที่เป็นพ่อตา”

เดิมทีเขาเพียงแค่อยากจะร่วมมือทางธุรกิจกับตระกูลเฟิง ยังไงตำแหน่งของเขาไม่ทางที่จะสั่นคลอนได้ แต่ดันเกิดเรื่องขึ้นมา ผู้ชายคนนี้ที่สมควรตายก็เริ่มยหยิ่งผยอง ทำให้เขาหมดหนทาง

ผู้ช่วยได้ยินแบบนี้ พูดด้วยน้ำเสียงนอบน้อม “ให้พูดแล้วคุณหนูนั่นจัดการเรื่องไม่สำเร็จเอง ถ้าคุณหนูใหญ่ยังอยู่ เฟิงจิ่งเหยาคงจะถูกคุณหนูใหญ่จัดการจนเป็นลูกไก่ในกำมือไม่ยาก”

กู้หงเซินได้ยินแบบนี้หันไปมองผู้ช่วยด้วยสาตาเย็นๆ

ผู้ช่วยเห็นแบบนี้ รู้ได้ทันทีว่าการพูดประจบประแจงครั้งนี้ไม่เป็นผล รีบเก็บปากเงียบ ยืนยิ้มประจบอยู่ข้างๆ

กู้หงเซินเหลือบตามอง ครางในลำคอ เริ่มวางแผนเหตุการณ์ต่อไป

วันนี้เขาหมดหนทางกับเฟิงจิ่งเหยาแล้ว ไม่มีแต้มต่ออะไรจะไปต่อรองกับเขา

เขาคิดถึงตรงนี้ ยังต้องการให้กู้ฉางฉิงทำเรื่องนี้ให้สำเร็จ

แต่ว่าเรื่องนี้จะต้องไตร่ตรองให้ดีเสียก่อน

เพราะว่าก่อนหน้านี้เรื่องยัยผู้หญิงจลต่ำช้าคนนั้นมาจัดการเรื่องนี้ทีไรเธอก็มักจะผลัดวันประกันพรุ่งอยู่เรื่อย จนกระทั่งคุกคามเขา

คิดไป ไฟโทสะก็ลุกโชนขึ้นในใจ

เขาจะต้องคิดวิธีที่จะทำให้กู้ฉางฉิงเชื่อฟังเขาให้ได้

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

Status: Ongoing
ก่อนแต่งงานแทนน้องสาวเข้าไปในตระกูลเฟิง กู้ฉางชิงได้ยินว่าเฟิงจิ่งเหยาเป็นคนที่เฉยเมย ต่อมาถึงได้รู้ว่าข่าวลือล้วนเป็นเรื่องโกหก คุณเฟิงไม่เพียงแต่ไม่เย็นชา กลับเป็นคนที่อบอุ่น แต่กระตือรือร้นเป็นพิเศษในการมีทายาท มีคนพูดเป่าหูต่อหน้าเขา “คุณเฟิง ก่อนคุณจะกลับประเทศ ในทุกๆคืนภรรยาของคุณจะไม่กลับบ้าน เพราะออกไปเมาข้างนอก” เฟิงจิ่งเหยา “หลังจากฉันกลับประเทศ ตอนค่ำภรรยาของฉันจะมาอยู่ที่ห้องฉัน ปรนนิบัติฉันไม่นอนทั้งคืน” มีคนพูดอีกว่า “ก่อนคุณจะกลับมา ภรรยาของคุณช้อปปิ้งทั้งวัน เปลี่ยนรถยี่ห้อหรูไม่หยุด แถมยังมีหนุ่มคอยอยู่เธอตลอดเวลา” เฟิงจิ่งเหยา พูดต่อว่า “หลังจากฉันกลับประเทศ บัตรเครดิตทุกใบของฉัน ฉันก็อยากให้ภรรยาฉันใช้ แต่เธอไม่ต้องการ ไปกลับจากที่ทำงานก็ให้ฉันไปรับแค่คนเดียว” สำหรับคนที่เย็นชา เมื่อมีภรรยาจะคลั่งรักเป็นพิเศษ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท