สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา – บทที่ 288 ไฟโทสะที่ลุกโชน

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

กลางดึกสงัด กู้ฉางฉิงถูกขย้ำจนถึงเช้ากว่าจะได้หลับไป

เมื่อเธอตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ท้องฟ้าสว่างมากแล้ว เฟิงจิ่งเหยาก็ไม่อยู่ข้างกายเช่นกัน

เธอลุกขึ้นอย่างยากลำบาก รู้สึกเหมือนร่างกายถูกรถบรรทุกทับอย่างไรอย่างงั้น

ปกติเขาก็แรงเยอะอยู่แล้ว ใครจะรู้ตอนเขาดื่มเหล้าเมานั้น ยิ่งเหมือนคนตะกละกินไม่รู้จักอิ่ม ขย้ำเธอเอาเป็นเอาตายแบบนี้

ถ้ารู้แบบนั้นคงให้มั่วหลีไปดูแลเขาแทนแล้ว คงไม่ถูกเขาขย้ำจนร่างแทบฉีก

โกรธเคืองอยู่ในใจ ขณะเดียวกันค่อยๆค้ำกำแพงพยุงตัวเองขึ้นจากเตียง

พอเท้าสัมผัสกับพื้นเรียวขาทั้งสองข้างสั่นระริก

หลายนาทีกว่าจะทรงตัวได้ ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า

สิบกว่านาที เธอถึงจะแต่งตัวเดินออกมา สั่งแม่บ้านให้เตรียมอาหารให้เรียบร้อย และเดินลงข้างล่างไป

มั่วหลีนั่งดูกู้ฉางฉิงที่เพิ่งจะลงมา สีหน้าไม่พอใจ

ยิ่งเห็นรอยจ้ำตามลำคอของกู้ฉางฉิง สายตานั้นแทบจะกินหัวกู้ฉางฉิงอยู่แล้ว

ไม่ยากที่จินตนาการว่าพวกเขาทำอะไรกันบ้างเมื่อคืน

ทันใดนั้น ไฟโทสะปะทุขึ้นในใจ

กู้ฉางฉิงรับรู้ถึงสายตาไม่เป็นมิตรของเขา เพียงแค่กวาดตาไปแวบหนึ่งแล้วแกล้งทำเป็นไม่เห็นซะ เดินตรงเข้าไปยังห้องอาหาร

และท่าทางเมินเฉยของเธอยิ่งทำให้มั่วหลีกัดฟันแน่นด้วยความโกรธ แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้ ทำได้เพียงจดมันเอาไว้ในใจเท่านั้น คิดว่าหลังจากนี้จะต้องมีโอกาสได้แก้แค้นอย่างแน่นอน

แน่นอนว่ากู้ฉางฉิงไม่รู้ความคิดชั่วร้ายพวกนั้น

หลังเธอทานอาหารเสร็จ ยังคงรู้สึกล้าอยู่ไม่น้อย แต่ก็คิดว่าคงไม่เป็นอะไร เลยถือโอกาสนี้กลับห้องไปนอนต่อ

แต่พอได้นอนก็นอนจนถึงบ่าย จนกระทั่งโทรศัพท์หัวเตียงดังขึ้น เธอถึงจะตื่นขึ้น

“ฮัลโหล?”

น้ำเสียงงัวเงีย นั่นก็ทำให้จี้อี้ที่อยู่ในสายไม่พอใจอย่างมาก

“กู้ฉางซิน ถึงแม้ว่าบริษัทเราจะให้อิสระแก่ดีไซเนอร์ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะให้เธอนอนในเวลางานนะ”

หล่อนพูดเสียงเย็น นั่นทำให้กู้ฉางฉิงตื่นเต็มที่ทีเดียว

กู้ฉางฉิงรู้ว่าจี้อี้มักจะจับผิดเธอตลอด เพียงแค่เขาเจอปัญหาเล็กๆ ก็จะรีบตำหนิเธอทันที ดังนั้นเธอถึงไม่ได้ตอบโต้ไป ฟังเงียบๆ

จี้อี้ที่พูดไปยาวยืดแต่ก็ไม่ได้รับคำตอบนั้นรู้สึกเหมือนพูดอยู่คนเดียว

พูดออกไปด้วยความโมโห “กู้ฉางซิน ทางที่ดีเธออย่าให้ฉันจับได้อีกว่าเธอขี้เกียจ ไม่อย่างนั้นอย่าโทษฉันถ้าจะหักผลงานเธอ”

กู้ฉางเบื่อหน่ายอย่างมากแต่ก็ตอบรับกลับไป “ค่ะ ทราบแล้ว แล้วผู้จัดการแผนกจี้โทรมามีธุระอะไรไหมคะ?”

พอจี้อี้ได้ยินเธอถามเรื่องธุระ ถึงจะเพิ่งนึกได้ถึงจุดประสงค์ที่ตัวเองโทรไปหาเธอในครั้งนี้ เรียวตาคู่นั้นหรี่ลงเล็กน้อย พูดเสียงเข้ม “เธอรีบมาบริษัทตอนนี้เลย”

พูดจบ ไม่ให้โอกาสกู้ฉางฉิงถามอะไร กดวางสายในทันที

กู้ฉางฉิงได้ยินน้ำเสียงไม่เป็นมิตรของเธอ เดาไปว่าที่บริษัทคงจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นแน่ๆ แต่หล่อนก็ยังติดอารมณ์ที่ไม่พอใจต่อเธออยู่

แต่เธอก็ไม่เสียเวลา รีบลุกขึ้นมาจัดการตัวเอง

แค่ครู่เดียวก็จัดการตัวเองเรียบร้อย รีบไปบริษัททันที

หลังถึงบริษัท เธอไม่ได้ไปหาจี้อี้ในทันที แต่กลับเรียกชีเสี่ยวจิ่วมาสอบถามถึงเรื่องราวก่อน

“วันนี้ที่บริษัทเกิดอะไรไหม?”

ชีเสี่ยวจิ่วนิ่งไปครู่หนึ่ง ตอบกลับไปว่า “ไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น ทำไมอาจารย์กู้ถามแบบนี้ล่ะ?”

กู้ฉางฉิงได้ยินแบบนี้จึงถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างโล่งใจ

แต่เธอก็ยังคิดว่าโครงการที่เธอรับผิดชอบมีปัญหา

แน่นอนว่าเธอไม่ได้บอกอะไรชีเสี่ยวจิ่ว

“ไม่มีอะไร ก็ถามไปงั้นแหละ เธอไปทำงานเถอะ ฉันจะไปห้องผู้จัดการแผนกสักหน่อย”

พูดจบ เธอก็ตรงไปยังห้องทำงานของจี้อี้

ตอนนี้เธอรู้สึกกระวนกระวายจิตใจไม่น้อย

ถึงแม้ว่าจะรู้ว่าตัวเองไม่มีปัญหาอะไร แต่ก็อดไม่ได้ที่จะกังวล จี้อี้อาจจะเจอปัญหา

ขณะที่เธอกำลังคิดไปต่างๆนานา ก็มาถึงห้องทำงาน

เธอเคาะประตูแล้วเดินเข้าไป

“ผู้จัดการจี้ ฉันมาแล้ว”

เธอเดินเข้าไปยืนอยู่ในห้องทำงานโอ่อ่ามองจี้อี้

“นั่งลงสิ!”

พอจี้อี้เห็นเธอ อารมณืดีขึ้นจากตอนที่คุยโทรศัพท์เมื่อสักครู่ไม่น้อย

เธอทักทายกู้ฉางฉิงแล้วเชิญนั่ง และไม่รอให้กู้ฉางฉิงถามอะไร รีบพูดจุดประสงค์ในการเรียกเธอมา

“ที่เรียกเธอมาครั้งนี้ก็เพราะว่าอีกสองบริษัทเราจะจัดงานแถลงข่าว และเธอก็เป็นหนึ่งในดีไซเนอร์ที่มีความสามารถ อยากให้เธอเข้าร่วมงานแถลงนี้ แล้วก็โชว์สินค้าใหม่ด้วย”

กู้ฉางฉิงฟังหล่อนพูดด้วยความกังวล รอจนหล่อนพูดจบ เมื่อรู้ว่าเขาไม่ได้หาเรื่องเธอ จึงถอนหายใจ ครุ่นคิดเรื่องแถลงข่าว

“นอกจากฉันแล้วยังมีใครเข้าร่วมงานแถลงข่าวครั้งนี้ไหม แนวคิดของสินค้าใหม่คืออะไร? บริษัทมีกฎอะไรไหม?”

เธอถามออกไปหลายข้อ จี้อี้ก็ยังมีความอดทนอธิบายอย่างละเอียด

ในประโยคสุดท้ายก็ยังไม่ลืมเตือน “ในงานแถลงมีนักข่าวจากหลายสำนัก เธอต้องเตรียมตัวไปให้ดีล่ะ สองวันนี้ก็สำรวมหน่อย อย่าก่อเรื่องอะไรที่ส่งผลกระทบต่องานแถลงข่างของบริษัท”

เมื่อกู้ฉางฉิงได้ยินประโยคสุดท้ายของเธอก็รู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก แต่ขี้เกยจจะไปต่อคำกับเธอ

“เข้าใจแล้ว สองวันนี้ฉันจะเตรียมตัวให้ดี”

จี้อี้เห็นแบบนี้ ก็ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว สบัดมืออย่างสื่อความหมายว่าให้เธอออกไปได้

กู้ฉางฉิบลุกขึ้นออกไป จี้อี้มองแผ่นหลังของเธอ เปลี่ยนสีหน้าที่ไม่อาจคาดเดาได้

โดยเฉพาะสายตาประกายไปด้วยแผนการ ยิ่งทำให้คนหวาดกลัวได้ไม่ยาก

เธอสลัดสายตานั้นทิ้ง หยิบโทรศัพท์บนโต๊ะออกมาต่อสายหาใครสักคน

“ฉันจัดการเรื่องกู้ฉางซินต้องไปงานแถลงเรียบร้อยแล้ว”

“ดีมาก”

ในสายได้ยินเสียงครึมของลู่ซือยวี่

“เรื่องที่เธอสัญญากับฉัน เมื่อไหร่จะสำเร็จล่ะ?”

จี้อี้หลุบตาลงถามเสียงเย็น

ลู่ซือยวี่ยิ้มน้อยๆพูด “รอเธอเก็บกู้ฉางซินให้ได้ก่อน สิ่งที่ฉันรับปากก็จะสำเร็จแน่นอน”

เธอพูดไปเน้นเสียงไป น้ำเสียงเฉียบขาด “เข้าใจล่ะ ฉันต้องทำให้กู้ฉางซินย่อยยับ…”

จี้อี้ฉายแววไม่พอใจ แต่ก็ตกปากรับคำไป

“วางใจเถอะ ไม่ทำให้คุณลู่ผิดหวังแน่นอน”

เธอพูดไป สีหน้าเย็นชา

“คราวนี้ ไม่ว่ายังไงก็ต้องให้กู้ฉางซินออกจากบริษัทให้ได้!”

ลู่ซือยวี่ฟังคำรับประกันของเธอ ครางรับเบาๆ “แบบนี้น่ะดีที่สุด ฉันจะรอข่าวดีของผู้จัดการแนกจี้”

พูดจบ เธอก็วางสายไป

จี้อี้บีบโทรศัพท์ที่เพิ่งถูกตัดสายเมื่อสักครู่ ใบหน้าเย็นชาไร้ความรู้สึก

เหอะ ให้เธอได้ใจไปก่อน รอจัดการกู้ฉางซินเสร็จ คนต่อไปก็จะเป็นหล่อน

ลู่ซือยวี่ไม่ได้รับรู้ควมคิดของจี้อี้ วางสายเธอเสร็จ นั่งสบายจิตสบายใจอยู่ตรงระเบียง

เธอจิบไวน์ชิลๆ สายตาเย็นชา

เพียงแค่กู้ฉางซินเสื่อมเสียชื่อเสียงย่อยยับ เธอก็ไม่เชื่อว่าพี่จิ่งเหยาจะไม่ฟังความเห็นส่วนมากของคนตระกูลเฟิงแล้วเดินหน้าปกป้องยัยผู้หญิงชั่วนั้นต่อ

รอยัยชั่วนั่นถูกพี่จิ่งเหยาเฉดหัวทิ้งก่อนเถอะ เธอจะต้องจับมันมาลิ้มรสกับการตกนรกทั้งเป็น

เธอคิดไป สายตาฉุนเฉียวจิบไวน์ไป

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

Status: Ongoing
ก่อนแต่งงานแทนน้องสาวเข้าไปในตระกูลเฟิง กู้ฉางชิงได้ยินว่าเฟิงจิ่งเหยาเป็นคนที่เฉยเมย ต่อมาถึงได้รู้ว่าข่าวลือล้วนเป็นเรื่องโกหก คุณเฟิงไม่เพียงแต่ไม่เย็นชา กลับเป็นคนที่อบอุ่น แต่กระตือรือร้นเป็นพิเศษในการมีทายาท มีคนพูดเป่าหูต่อหน้าเขา “คุณเฟิง ก่อนคุณจะกลับประเทศ ในทุกๆคืนภรรยาของคุณจะไม่กลับบ้าน เพราะออกไปเมาข้างนอก” เฟิงจิ่งเหยา “หลังจากฉันกลับประเทศ ตอนค่ำภรรยาของฉันจะมาอยู่ที่ห้องฉัน ปรนนิบัติฉันไม่นอนทั้งคืน” มีคนพูดอีกว่า “ก่อนคุณจะกลับมา ภรรยาของคุณช้อปปิ้งทั้งวัน เปลี่ยนรถยี่ห้อหรูไม่หยุด แถมยังมีหนุ่มคอยอยู่เธอตลอดเวลา” เฟิงจิ่งเหยา พูดต่อว่า “หลังจากฉันกลับประเทศ บัตรเครดิตทุกใบของฉัน ฉันก็อยากให้ภรรยาฉันใช้ แต่เธอไม่ต้องการ ไปกลับจากที่ทำงานก็ให้ฉันไปรับแค่คนเดียว” สำหรับคนที่เย็นชา เมื่อมีภรรยาจะคลั่งรักเป็นพิเศษ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท