สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา – บทที่ 292 ขับไล่ความหายนะนี้

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

เฟิงยิ่งเหยาได้ฟังถึงตรวนี้ สีหน้าก็เคร่งเครียด

“เรื่องนี้ฉันเข้าใจแล้ว ฉันจัดการได้ ตอนนี้ฉันต้องการจะรู้ว่า ในการตรวจสอบต้นฉบับของพวกคุณ มีคนที่ไม่เกี่ยวข้องปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหัน!”

จี้อี้มองสีหน้าที่เคร่งขรึมของเขา ก็หวาดหวั่นเล็กน้อย แต่ถูกเธอปกปิดไว้อย่างรวดเร็ว

“ไม่มีนะ หลังจากที่ทุกคนส่งต้นฉบับ ฉันก็หยิบไปที่ห้องทำงานของผู้จัดการใหญ่ด้วยตนเอง ระหว่างทางก็ไม่มีใคร”

เธอตอบกลับอย่างใจเย็น เฟิงจิ่งเหยาฟังจบ สีหน้าก็ไม่ดีอย่างมาก

เพราะนี่เท่ากับว่าไม่มีเบาะแสใดๆ ทำให้เขาลงมือไม่ได้เลย

แววตาที่เคร่งขรึมของเขา ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่

เป็นเวลานานหลังจากนั้น เขาจึงโบกมือให้จี้อี้ออกไป

จี้อี้เห็นเช่นนี้ มีเจตนาอยากจะพูดอะไรต่อ

แต่เฟิงจิ่งเหยาไม่ให้โอกาสเธอ กดโทรศัพท์บนโต๊ะ สั่งชวี่ยี่ว่าจะเดินทางต่อ

ตอนนี้เขาต้องไปเซ็นต์สัญญาของทั้งสองบริษัทนั้นด้วยตนเอง

คำสั่งทั้งหมดนี้ เขาดูเหมือนว่าไม่เห็นว่าจี้อี้ยังไม่ออกไป ก็มุ่งตรงออกไปเลย

และทั้งสองบริษัทเห็นเฟิงจิ่งเหยามา ก็ตกใจอย่างมาก

เฟิงจิ่งเหยามีนิสัยรวดเร็วและเฉียบขาด ช่วงเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ปลอบขวัญทั้งสองบริษัทเสร็จแล้ว

“เรื่องครั้งนี้มีคนตั้งใจวางแผนใส่ร้าย ฉันจะตรวจสอบเรื่องนี้ให้ชัดเจนโดยเร็วที่สุด ไม่ให้ส่งผลกระทบต่อบริษัทเรา”

เขาพูดให้คนที่รับผิดชอบของสองบริษัทวางใจ

แม้ว่าทั้งสองบริษัทจะยังคงไม่พอใจในเรื่องนี้ก็ตาม เพียงแต่เห็นแก่หน้าเฟิงจิ่งเหยา ยังคงเต็มใจที่จะให้เวลา

เช่นนี้เฟิงจิ่งเหยาก็พอใจมาก

และทั้งสองบริษัทก็พูดคุยเกี่ยวกับปัญหากันสักพัก แล้วก็ออกไปจัดการเรื่องราว

เขากลับขึ้นรถกับชวี่ยี่อีกครั้ง นวดหัวคิ้วของเหนื่อยล้า

ชวี่ยี่มองผ่านกระจกมองหลัง พูดอย่างระมัดระวังว่า : “ท่านประธาน เราจะไปไหนต่อ?”

เฟิงจิ่งเหยาได้ยิน ก็ไม่ได้ตอบกลับในทันที แต่ถามว่า : “คุณเห็นว่าอย่างไรกับเรื่องในครั้งนี้?”

ชวี่ยี่รู้ว่าเขาถามเกี่ยวกับการขโมยผลงาน ครุ่นคิดสักพัก ก็พูดความคิดเห็นของตนเองออกมา

“หากพูดถึงการขโมยผลงาน ฉันไม่เชื่อว่าคุณนายรองจะขโมยผลงานคนอื่น สิ่งที่เป็นไปได้มากที่สุดคือมีใครบางคนพุ่งเป้าไปที่คุณนายรอง เพียงแต่คนที่มุ่งเป้าไปก็ยังสรุปไม่ได้”

เฟิงจิ่งเหยาฟังคำพูดของเขา ก็ขมวดคิ้วแน่น

“คุณไปที่สำนักงานย่อย นำภาพกล้องวงจรปิดเกี่ยวกับผู้บริหารระดับสูงออกมาให้หมด แต่ดำเนินการอย่างลับๆหน่อยนะ”

ดูเหมือนว่าเขาจะนึกอะไรได้ กำชับด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า : “แล้วก็ ตรวจสอบอีเมลล์การทำงานภายในของพนักงานทุกคน ดูว่าจะหาต้นตอการรั่วไหลของต้นฉบับการออกแบบได้หรือไม่”

ชวี่ยี่พยักหน้ารับคำสั่ง

“รับทราบ”

เฟิงจิ่งเหยาได้ยิน จึงสั่งให้เขากลับไปที่สำนักงานใหญ่

และในขณะที่เขากำลังตรวจสอบเรื่องนี้อย่างลับๆ จี้อี้เดาได้จากท่าทีของเขาว่าเขากำลังปกป้องกู้ฉางฉิงอยู่

พูดได้ว่า นี่เป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามกับจุดประสงค์ของเธอ

เธอไม่ยอมให้กู้ฉางฉิงอยู่ขวางหูขวางตาในบริษัทต่อไปอีกเด็ดขาด!

คิดจบ เธอหยุดหมุนปากกา หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเบอร์โทรออกไป

ในคืนนั้น ที่คลับเฮาส์ระดับไฮเอนด์แห่งหนึ่ง

จี้อี้พาพนักงานไปที่ห้องวีไอพี

เวลานี้ผู้เชี่ยวชาญสวมสูทหนังทั้งสามท่านได้นั่งอยู่ในห้องวีไอพีแล้ว

ถ้ากู้ฉางฉิงอยู่ จะรู้จักว่าพวกเขาเป็รผู้บริหารระดับสูงของบริษัทอื่น

ทุกท่าน ครั้งนี่ที่เชิญพวกท่านมา จนปัญญาจริงๆ จำใจต้องทำวิธีการที่โง่เขลานี้”

หลังจากจี้อี้เข้าไป ก็ไม่ได้พูดอ้อมค้อม พูดถึงเจตนาที่เธอมาหาพวกเขาออกมาโดยตรง

“ครั้งนี้ที่เชิญทั้งสามท่านออกมา ฉันหวังว่าทั้งสามท่านจะสามารถทำงานร่วมกับฉันเพื่อเกลี้ยกล่อมให้ท่านประธานไล่กู้ฉางซินซึ่งสร้างความเสียหายให้กับบริษัทออกไป”

เธอพูดพลาง ก็บิดเบือนความจริงเพื่อใส่ร้ายป้ายสีกู้ฉางฉิง ยิ่งความสัมพันธ์ที่ครุมเครือของกู้ฉางฉิงและเฟิงจิ่งเหยา ทำให้ผู้บริหารระดับสูงทั้งสามเข้าใจผิดคิดว่ากู้ฉางฉิงอาศัยอุบายเพื่อเข้าบริษัท

“แน่นอนว่าการทำแบบนี้ฉันต้องทำให้ท่านประธานของพวกเราผิดหวัง แต่ฉันคิดเพื่อบริษัทของพวกเรา และก็เพื่อผลประโยชน์ของทุกคน ไม่ทราบว่าทั้งสามท่านจะยิมยอมช่วยเหลือหรือไม่?”

พูดจบ เธอก็หยิบบัตรสามใบออกมาจากในกระเป๋าแล้วดันไปบนโต๊ะไปยังตรงหน้าคนทั้งสาม

“นี่เป็นการขอบคุณเล็กๆน้อยๆ ในบัตรแต่ละใบมีหนึ่งล้าน หวังว่าทั้งสามท่านจะรับ”

ผู้บริหารระดับสูงทั้งสามท่านได้ยิน แววตาแห่งความโลภก็ปรากฎในดวงตา

พวกเขามองหน้ากันไปมา คล้ายกับตัดสินใจแล้วมองไปยังจี้อี้

“ผู้จีดการแผนกจี้พูดไม่ผิด มีผู้หญิงคนนี้อยู่ในบริษัท บริษัทก็ไม่มั่นคงปลอดภัยสักวัน ความหายนะแบบนี้ไม่ควรเอาไว้โดยเด็ดขาด”

“ใช่ นี่ก็นานมากแล้ว ความเสียหายของบริษัทที่เป็นเพราะเธอก็เกือบจะร้อยล้านแล้ว”

“ผู้จัดการแผนกจี้วางใจ เรื่องนี้พวกเราจะช่วยสนับสนุนคุณอย่างแน่นอน”

จี้อี้ฟังคำรับรองของพวกเขาแล้วหางตาก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม

……

วันต่อมา บริษัทเรียกประชุมด่วน

เฟิงจิ่งเหยาพูดถึงวิธีจัดการเรื่องครั้งนี้

“ทั้งสองบริษัทฉันได้พะเน้าพะนอลงมาแล้ว ตอนนี้ฉันต้องการให้พวกคุณตรวจสอบให้ชัดเจนว่าตกลงเรื่องนี้มันเกิดอะไรขึ้น?”

จี้อี้ฟังถึงคำพูดนี้ ทันทีก็ยกมือแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง

“ท่านประธาน เรื่องนี้ฉันไม่คิดว่าจำเป็นต้องตรวจสอบ ก่อนอื่นคนอื่นที่เผยแพร่ผลงานก่อนหน้าพวกเราก้าวหนึ่ง ช่วงเวลาก็ห่างจากจากพวกเรามาก รองลงมา ก็คือนักออกแบบอีกฝ่ายเป็นนักออกแบบอาวุโสในแวดวง ไม่ว่าจะเป็นชื่อเสียงในสังคมหรือศักยภาพล้วนเหนือชั้นกว่ากู้ฉางซิน ถึงแม้ว่าฉันจะไม่อยากเชื่อ แต่ความจริงก็วางอยู่ตรงหน้า ว่านักออกแบบกู้ฉางซินของพวกเราขโมยความคิดผลงานของอีกฝ่าย”

เฟิงจิ่งเหยาฟังคำพูดของเธอ สีหน้าก็เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม

ถึงแม้ว่าจี้อี้จะถูกทำให้กลัว แต่ก็ยังยืนหยัดที่จะพูดในสิ่งที่ตนเองอยากพูดจนจบ

“ท่านประธาน ฉันในนามบริษัทหวังว่าจะใช้สาเหตุนี้ในการเลิดจ้างกู้ฉางซิน ไม่เพียงแต่จะกอบกู้ชื่อเสียงของบริษัท ยังเป็นความรับผิดชอบของบริษัทต่อคนอื่นๆด้วย”

เพียงพูดคำนี้ออกมา ใบหน้าของเฟิงจิ่งเหยาก็ดำคร่ำเครียดเหมือนกับหมึก

เขาเงียบไม่พูดจา จี้อี้เห็นความไม่สะทกสะท้านในสายตาก็หงุดหงิดเล็กน้อย

ปกป้องกู้ฉางซินหญิงชั่วคนนั้นขนาดนี้เลยหรอ?

เธอกำหมัดแน่น กวาดสายตามองผู้บริหารระดับสูงสองสามคนที่เธอพบเมื่อวาน

สองสามคนนั้นได้รับสัญญาณ ก็แสดงความคิดเห็นตามๆกันมา

“ท่านประธาน ฉันคิดว่าคำพูดนี้ของผู้จัดการแผนกจี้ไม่ผิดนะ นักออกแบบกู้มาบริษัทเราหลายวันขนาดนี้แล้ว เรื่องที่เธอเป็นคนจัดการ ไม่มีสักเรื่องที่มั่นคงแลอดภัย ด้วยเหตุนี้บริษัทต้องเสียหายทั้งเงินทุนและชื่อเสียงไปไม่น้อย”

“คำพูดนี้ฉันเห็นด้วย ถึงแม้ว่าความเสียหายของบริษัทจะกอบกู้กลับมาในภายหลังแล้ว แต่ก็ยังส่งผลกระทบมาโดยตลอด ต่อไปลูกค้าจะเจรจากับพวกเราก็จะเอ่ยถึงเรื่องเหล่านี้ ในการเจรจาพวกเราก็จะขาดความมั่นใจไปส่วนหนึ่ง”

เฟิงจิ่งเหยามองพวกเขาอย่างไม่แสดงออก ความเย็นชารวมอยู่ในสายตา

“ฉันเข้าใจความหมายของพวกคุณ แต่เรื่องนี้ไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆกับนักออกแบบกู้ อีกอย่างนักออกแบบกู้เป็นบริษัทฉันที่เชิญเข้ามา และเป็นนักออกแบบที่ฉันให้ความสำคัญมากที่สุด เธอขโมยหรือไม่ขโมยความคิด ฉันก็รู้ชัดเจนกว่าคนอื่นๆ!”

เขาพูดจบ ก็ไม่ให้โอกาสทุกคนได้โต้แย้ง เรียกชวี่ยี่เข้ามาโดยตรง

“ในนามของเฟิงซื่อกรุ๊ป ตอนนี้ประกาศออกไปต่อสาธารณชนว่า แบบร่างการออกแบบนี้เป็นของนักออกแบบของบริษัทZARYของพวกเรา การใส่ร้ายตลอดจนการขโมยทุกสิ่งอย่างในที่สุดจะถูกสอบสวนโดยเฟิงซื่อกรุ๊ปของเรา!”

“ครับ!”

ชวี่ยี่รับคำสั่ง เขียนแบบร่างทันที

จี้อี้เห็นการกระทำของเขา หน้าดำคร่ำเครียดอย่างมาก

ไม่นาน ต้นฉบับแถลงการณ์ฉบับนี้ก็ถูกส่งออกไปในนามเฟิงซื่อกรุ๊ป

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

Status: Ongoing
ก่อนแต่งงานแทนน้องสาวเข้าไปในตระกูลเฟิง กู้ฉางชิงได้ยินว่าเฟิงจิ่งเหยาเป็นคนที่เฉยเมย ต่อมาถึงได้รู้ว่าข่าวลือล้วนเป็นเรื่องโกหก คุณเฟิงไม่เพียงแต่ไม่เย็นชา กลับเป็นคนที่อบอุ่น แต่กระตือรือร้นเป็นพิเศษในการมีทายาท มีคนพูดเป่าหูต่อหน้าเขา “คุณเฟิง ก่อนคุณจะกลับประเทศ ในทุกๆคืนภรรยาของคุณจะไม่กลับบ้าน เพราะออกไปเมาข้างนอก” เฟิงจิ่งเหยา “หลังจากฉันกลับประเทศ ตอนค่ำภรรยาของฉันจะมาอยู่ที่ห้องฉัน ปรนนิบัติฉันไม่นอนทั้งคืน” มีคนพูดอีกว่า “ก่อนคุณจะกลับมา ภรรยาของคุณช้อปปิ้งทั้งวัน เปลี่ยนรถยี่ห้อหรูไม่หยุด แถมยังมีหนุ่มคอยอยู่เธอตลอดเวลา” เฟิงจิ่งเหยา พูดต่อว่า “หลังจากฉันกลับประเทศ บัตรเครดิตทุกใบของฉัน ฉันก็อยากให้ภรรยาฉันใช้ แต่เธอไม่ต้องการ ไปกลับจากที่ทำงานก็ให้ฉันไปรับแค่คนเดียว” สำหรับคนที่เย็นชา เมื่อมีภรรยาจะคลั่งรักเป็นพิเศษ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท