สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา – บทที่ 293 เป็นเธอที่เผยความลับ

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

พร้อมกับส่งต้นฉบับออกไป บนอินเตอร์เน็ตก็ดังขึ้นมา

เดิมทีพวกแฟนคลับKimiต้องจ้องมองการพัฒนาของเรื่องนี้ ตอนนี้เห็นประกาศอันนี้ของเฟิงซื่อกรุ๊ป ก็ระเบิดอารมณ์เลย

พวกเขาต่างหลั่งใหลเข้าสู่เว็บไซต์ของเฟิงซื่อกรุ๊ป ปกป้องนักออกแบบที่ตนเองชื่นชอบ

“เฟิงซื่อกรุ๊ปยังต้องให้ความสำคัญอะไรอีก? ชัดเจนแล้วว่าเป็นการขโมยผลงาน พวกคุณยังบอกว่ามีคนใส่ร้ายป้ายสี”

“ใช่ ก็อย่ามองว่าพวกคุณนั้นเป็นนักออกแบบ”

“ข้างบน คุณหมายความว่าอย่างไร คุณกู้ของพวกเราไม่ได้ขโมยผลงานนะ!”

“อย่าพูดพล่อยๆ ฉันไม่เชื่อว่าคุณกู้จะขโมยผลงาน อีกทั้งตั้งแต่คุณกู้เริ่มทำผลงานฉันก็ซื้อเสื้อผ้าที่เธอออกแบบมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นจากองค์ประกอบการออกแบบหรือรูปแบบการวาดภาพ ก็เป็นไสตล์ของคุณกู้”

“คำพูดนี้ฉันเห็นด้วย รูปแบบการวาดภาพของKimiฉันก็ไปดูมาเมื่อกี้นี้ การออกแบบที่เธอเผยแพร่ในครั้งนี้แตกต่างจากรูปแบบการออกแบบก่อนหน้านี้ของเธออย่างสิ้นเชิง นี่เป็นเรื่องที่น่าพิจารณาอย่างมาก”

เห็นได้ชัดว่ามันนี่เป็นแฟนคลับของกู้ฉางฉิงที่ต่อต้านคัดค้าน

พวกเธอชอบผลงานของกู้ฉางฉิงด้วยใจจริง ตั้งแต่กู้ฉางฉิงเปิดตัวก็ได้รับความสนใจมาตลอดถึงทุกวันนี้

รู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้ที่นักออกแบบที่มีพรสวรรค์เช่นนี้จะทำในเรื่องที่เลวร้ายแบบนี้

แต่ในการเปรียบเทียบเหตุผลอย่างรอบคอบของพวกเขานี้ ทางด้านแฟนคลับของKimiก็โกรธ

เพราะในความคิดของพวกเขา แฟนคลับเหล่านี้ของกู้ฉางฉิงดูเหมือนกับจะบอกว่าKimiของพวกเขาขโมยผลงานของกู้ฉางซิน

“พวกนั้นเชื่อว่าขโมยผลงาน น่าตลกจริงๆ Kimiของพวกเรามีฐานะอะไร จำเป็นต้องไปอยากได้ผลงานของเด็กรุ่นใหม่ด้วยหรอ?”

“ใช่ อย่ามองที่ฐานะของทั้งสองฝ่าย!”

เมื่อพวกเขาโต้เถียงกันทางออนไลน์ ลู่ซื่อกรุ๊ปก็ทำการโต้แย้งกลับเช่นกัน

“ตามที่บริษัทรับทราบ สงสัยว่าบุคคลที่ขโมยผลงานการออกแบบจะมีปัญหากับสไตล์ของตนเอง ถึงแม้จะไม่รู้ว่าเฟิงซื่อกรุ๊ปทำไมต้องปกป้องคนเช่นนี้ไปทุกหนทุกแห่ง แต่ส่วนเรื่องการขโมยผลงานในครั้งนี้ บริษัทจะดำเนินการตรวจสอบให้ถึงที่สุด ทั้งหมดเป็นไปตามขั้นตอนทางกฎหมายอย่างเคร่งครัด หวังว่าเฟิงซื่อกรุ๊ปจะส่งมองคนที่ขโมยผลงานออกมาให้เร็วที่สุด”

ทางลู่ซื่อกรุ๊ปพูดออกมา ทางด้านแฟนคลับKimiนั้นก็ยิ่งหยิ่งผยอง

คนในนั้นก็สนับสนุนกันไม่ขาด ให้คนสนใจความคิดเห็นของลู่ซื่อกรุ๊ปเพื่อขะได้ไปตรวจสอบกู้ฉางฉิง

ภายใต้ตัวผลักดันเหล่านี้ ไม่นานบนอินเตอร์เน็ตก็ปรากฏเรื่องอื้อฉาวของกู้ฉางฉิง

ไม่เกรงใจผู้อาวุโส เย่อหยิ่งอวดดี เรื่องราวนี้ลู่ซือหยี่เธอก็ถูกใส่ร้ายมาก่อน เลยออกมารายงานในส่วนที่แย่ๆ

สรุปได้ว่าสามารถทำชื่อเสียงคนอื่นให้เสื่อมเสียอย่างไร พวกเขาก็พยายามอย่างเต็มที่ที่จะทำให้ผู้อื่นเสียชื่อเสียงเช่นกัน

ต้องบอกว่า ในขณะนี้ กู้ฉางฉิงถูกโจมตีอย่างถึงที่สุด คงไม่ต้องพูดถึงชื่อเสียง

กู้ฉางฉิงอยู่บ้านก็ให้ความสนใจตลอด เห็นสถานการณ์พัฒนาจนกลายเป็นเช่นนี้ ทั้งกังวลใจทั้งไม่รู้จะทำอย่างไร?

เธอมั่นใจได้ว่าตนเองไม่ได้ส่งข่าว แต่มันเกิดขึ้นก่อนเธอหนึ่งก้าวในการเผยแพร่ผลงาน

ท้ายที่สุดเป็นใครกันที่เผยแพร่ผลงานของเธอออกไป

เธอคาดเดาในใจอย่างกระวนกระวาย เลือกคนที่น่าจะเป็นไปได้ แต่ก็โต้แย้งกันอยู่

ท้ายที่สุดก็ไม่มีเป้าหมายเลยสักคน

เฟิงจิ่งเหยากลับมาก็เห็นการแสดงออกที่กดดันของเธอ รู้ว่าเธอสนใจกับเรื่องบนอินเตอร์เน็ต อดพูดให้คลายกังวลไม่ได้ : “เรื่องบนอินเตอร์เน็ตไม่ต้องไปสนใจหรอก เป็นนักเลงคีย์บอร์ดบางคนที่ไม่รู้เรื่องอะไร”

กู้ฉางฉิงได้ฟังคำนี้ เดิมทีที่กังวลใจอยู่มาก ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา

“คุณรู้จักนักเลงคีย์บอร์ดด้วยหรอ?”

ก็ไม่โทษหรอกที่เธอประหลาดใจเช่นนี้ จะรู้ว่าในสายตาของเธอ เฟิงจิ่งเหยาเปรียบเสมือนเทพเจ้า ลูกชายคนรวยที่สูงส่ง

“นี่ทำไมจะไม่รู้ล่ะ นอกจากนี้ยังมีบริษัทสื่อมวลชนหลายแห่งภายใต้การบริหารของเฟิงซื่อกรุ๊ป”

เฟิงจิ่งเหยาไม่สนใจเกี่ยวกับการหยอกล้อในน้ำเสียงของเธอ เห็นสีหน้าเธอไม่ได้เคร่งขรึมเหมือนเมิ่กี้นี้ จึงกลับมาพูดหัวข้อนี้

“ทางด้านฉันนี้ให้คนไปตรวจสอบกล้องวงจรปิด ก็ไม่พบความผิดปกติ คุณลองคิดอย่างถี่ถ้วนหรือยัง ตอนที่ไปเจอจี้อี้ ระหว่างทางพบอะไรหรือเกิดอุบัติเหตุอะไรหรือเปล่า?”

ก็ฉางฉิงได้ยินเขาวกเข้าประเด็นเดิม ก็ครุ่นคิดขึ้นมาอีกครั้ง

ก็เพราะการเตือนสตินี้ของเฟิงจิ่งเหยา สุดท้ายก็ทำให้เธอนึกเรื่องๆหนึ่งออก

“ฉันนึกออกแล้ว ตอนที่ฉันไปพบจี้อี้ ระหว่างทางฉันก็เจอชวี่ชิงหยุน เวลานั้นต้นฉบับการออกแบบหล่นลงไป……ฉันไม่แน่ใจว่าเธอเห็นหรือไม่เห็นต้นฉบับการออกแบบ”

เธอพูดพลาง ก็มองไปยังเฟิงจิ่งเกยาอย่างลังเลใจ

เฟิงจิ่งเหยาก็คิดถึงความเป็นไปได้ทั้งหมดขึ้นมา

ไม่นาน เขาก็หยิบมือถือออกมาติดต่อไปที่ชวี่ยี่ให้ตรวจสอบ

ชวี่ยี่วางสายแล้วก็ไปตรวจสอบทันที เวลาไม่ถึงสิบนาที ทันใดชวี่ยี่ก็ได้ข่าว

“ท่านประธาน ตรวจสอบแล้ว เรื่องราวเป็นแบบนั้นเหมือนที่คุณนายรองพูด เธอเจอกับชวี่ชิงหยุน ทำต้นฉบับการออกแบบหล่น เรากาผู้เชี่ยวชาญให้สังเกตดูอย่างละเอียดแล้ว พบว่าชวี่ชิงหยุนจงใจชนคุณนายรอง”

เฟิงจิ่งเหยาฟังถึงคำพูดนี้ สีหน้าก็เย็นชาลงมาเล็กน้อย

“ดังนั้นต้นฉบับการออกแบบคือเธอที่เป็นคนเปิดเผยหรอ?”

เขากล่าวถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา แต่ทำให้ชวี่ยี่ลังเลใจขึ้นมา

“อันนี้ไม่แน่ใจ หลังจากตรวจสองชวี่ชิงกยุนแล้ว ฉันก็ให้คนตรวจสอบการเคลื่อนไหวช่วยหลายวันมานี้ของเธอ ก็ไม่พบความเคลื่อนไหวที่ผิดปกติใดๆ”

เฟิงจิ่งเหยาหรี่ตาอย่างอันตราย

“คุณตรวจสอบต่อไป ขณะเดียวกันก็ส่งคนไปจับตาดูเธอ”

ชวี่ยี่รับคำสั่งแล้ววางสายไป

กู้ฉางฉิงเห็นเขาสนทนาจบแล้ว ก็อดไม่ได้ที่จะกล่าวถาม: “เป็นยังไงบ้าง? ใช่เธอไหม?”

เฟิงจิ่งเหยาส่ายหน้า: “ไม่แน่ใจว่าเป็นเธอ แต่ฉันให้คนจับตาดูเธอแล้ว”

กู้ฉางฉิงฟังจบ ก็อดไม่ได้ที่จะงุนงง

ไม่ใช่ชวี่ชิงหยุน งั้นยังมีใครที่ต้องการมุ่งเป้ามายัดเยียดสิ่งนี้ให้กับเธอ?

เธอกัดริมฝีปากแน่น คิดฟุ้งซ่าน

เฟิงจิ่งเหยาเห็น ไม่รู้เพราะอะไร ในใจก็สงสารเธออย่างมาก

“ไม่ต้องคิดแล้ว เรื่องนี้ฉันสามารถจัดการได้ สองสามวันนี้คุณก็อยู่บ้านไม่ต้องไป”

กู้ฉางฉิงฟังคำพูดปลอบโยนของเขา ถึงแม้ว่าในใจจะไม่ยินยอมเล็กน้อย แต่ก็จนปัญญา

ทำได้เพียงหวังว่าเฟิงจิ่งเกยาจะสามารถตรวจสอบได้ชัดเจนและเร็วที่สุด

แต่ความจริงเรื่องนี้ก็ปั่นป่วนจนเกินความคาดหมาย

ถึงวันที่สอง อินเตอร์เน็ตทั้งหมดล้วนต่อต้านกู้ฉางฉิง ชาวเน็ตโจมตีแม้แต่เว็บไซต์ปฏิบัติการโดยตรงของบริษัทและเฟิงซื่อกรุ๊ป

ลู่ซื่อกรุ๊ก็เห็นโอดาสที่เหมาะสม บีบบังคับต่อZARY ให้พวกเขาออกมาชี้แจง ปลดกู้ฉางฉิงออก

เผชิญหน้ากับความกดดันภายนอกมากมาย ในบริษัทก็ขัดแย้งกันไม่หยุด

คนทั้งหมดรู้สึกว่าเวลานี้วิธีทำที่ดีที่สุดก็คือปลดกู้ฉางฉิงออกจากบริษัท เพื่อรักษาบริษัทไว้

แต่ไม่มีใครกล้าพูดต่อหน้าเฟิงจิ่งเหยา

แต่ไม่รู้ว่า ถึงแม้ว่าพวกเขาไม่พูด แต่เฟิงจิ่งเหยาก็รับรู้ได้

เขานั่งอยู่ที่ห้องทำงาน สีหน้าก็มืดมนราวกับหมึก ด้านหน้าคือชวี่ยี่ที่ไม่กล้าหายใจแรงเลยสักนิด

ชั่วขณะ ทั้งห้องทำงานเงียบจนได้ยินเสียงปลายเข็มตกลงบนพื้น

ก็ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน ในที่สุดสีหน้าท่าทางของเฟิงจิ่งเหยาก็เปลี่ยนแปลงไป

“ชวี่ยี่ คุณไปตรวจสอบทางด้านของลู่ซื่อกรุ๊ป ดูว่าสองวันมานี้บริษัทมีใครเคยยกเลิกคนของพวกเขา”

ชวี่ยี่ได้ยิน ถึงแม้ว่าจะงุนงง แต่ก็ยังรับคำสั่งแล้วไปตรวจสอบ

และเมื่อเขาออกไป เฟิงจิ่งเหยาก็หรี่ตามองอย่างอันตราย

ถ้าจะบอกว่าเมื่อวานเขาสับสนงุนงงแล้ว วันนี้ฟังถึงคำกล่าวโทษของเจ้าหน้าที่ของบริษัทแล้ว รวมทั้งความต้องการอย่างเด่นชัดที่จะให้ปลดกู้ฉางฉิงออก ในใจของเขาก็เดาได้ว่านี่อาจจะเป็นจุดประสงค์หลักของผู้ที่อยู่เบื้องหลังการออกแบบนี้

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

Status: Ongoing
ก่อนแต่งงานแทนน้องสาวเข้าไปในตระกูลเฟิง กู้ฉางชิงได้ยินว่าเฟิงจิ่งเหยาเป็นคนที่เฉยเมย ต่อมาถึงได้รู้ว่าข่าวลือล้วนเป็นเรื่องโกหก คุณเฟิงไม่เพียงแต่ไม่เย็นชา กลับเป็นคนที่อบอุ่น แต่กระตือรือร้นเป็นพิเศษในการมีทายาท มีคนพูดเป่าหูต่อหน้าเขา “คุณเฟิง ก่อนคุณจะกลับประเทศ ในทุกๆคืนภรรยาของคุณจะไม่กลับบ้าน เพราะออกไปเมาข้างนอก” เฟิงจิ่งเหยา “หลังจากฉันกลับประเทศ ตอนค่ำภรรยาของฉันจะมาอยู่ที่ห้องฉัน ปรนนิบัติฉันไม่นอนทั้งคืน” มีคนพูดอีกว่า “ก่อนคุณจะกลับมา ภรรยาของคุณช้อปปิ้งทั้งวัน เปลี่ยนรถยี่ห้อหรูไม่หยุด แถมยังมีหนุ่มคอยอยู่เธอตลอดเวลา” เฟิงจิ่งเหยา พูดต่อว่า “หลังจากฉันกลับประเทศ บัตรเครดิตทุกใบของฉัน ฉันก็อยากให้ภรรยาฉันใช้ แต่เธอไม่ต้องการ ไปกลับจากที่ทำงานก็ให้ฉันไปรับแค่คนเดียว” สำหรับคนที่เย็นชา เมื่อมีภรรยาจะคลั่งรักเป็นพิเศษ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท