สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา – บทที่ 302 ตกหลุมพรางลึกลงเรื่อยๆแล้ว

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

กู้ฉางฉิงไม่รู้ว่าจี้อี้เกลียดเธออย่างมากไปแล้ว

เธอออกมาจากห้องทำงานผู้จัดการใหญ่ รู้สึกผ่อนคลายอย่างมาก

ความกังวลในใจของฉันได้ถูกขจัดไปแล้วในเวลานี้

เธอคิดถึงเฟิงจิ่งเหยาที่ยุ่งเป็นระวิงกับเรื่องนี้ ก็ตื้นตันใจ

ภายใต้แรงกระตุ้น เธอก็หยิบโทรศัพท์โทรออกไปโดยไม่รู้ตัว

จนได้ยินเสียงอ่อนโยนของเฟิงจิ่งเหยาในโทรศัพท์ เธอจึงสะดุ้งตกใจสติกลับมา

“มีอะไรหรอ?”

กู้ฉางฉิงได้ยินเสียงหนานุ่มราวกับเชลโล่ ก็สติกลับมา

“เปล่า ไม่มีอะไร”

เธอปกปิดอารมณ์ของตนเองด้วยความหงุดหงิด เพิ่งรู้สึกว่าสิ่งที่ตนเองพูดไปนั้นไม่ถูกต้อง จึงพูดเยียวยาว่า : “เอ่อ ก็ไม่ใช่ว่าไม่มีอะไร ฉัน……”

“หื๊ม?”

เฟิงจิ่งเหยาถามแล้วยิ้มเบาๆ

กู้ฉางฉิงสูดหายใจเข้าลึกๆ บังคับไม่ให้ในใจสั่นไหว กัดปากพูดว่า : “เย็นนี้คุณว่างไหม? ฉันอยากเลี้ยงข้าวคุณ”

เฟิงจิ่งเหยาเลิกคิ้ว เพียงแต่ว่ายังคงตอบกลับ

“ได้ หลังเลิกงานฉันจะมารับคุณ”

กู้ฉางฉิงพยักหน้า ไม่นานก็วางสายไป

เธอเรียกรถกลับตระกูลเฟิง ไม่รู้ทำไมเย็นนี้ถึงนึกอยากไปทานอาหารเย็นด้วยกันกับเฟิงจิ่งเหยา เริ่มเลือกชุดโดยไม่รู้ตัว

มั่วหลีผ่านมาพอดี จ้องมองกู้ฉางฉิงที่เลือกเสื้อผ้าอยู่ไม่ขาด แววตาก็เต็มไปด้วยความริษยาและโกรธแค้น

ไม่สบายใจจริงๆ จึงหยุดลงเล็กน้อย ก็อดรนทนไม่ไหวอยากจะออกไป

พอคิดถึงตรงนี้ เธออดไม่ได้ที่จะสงสารคุณผู้ชายที่ยุ่งอยู่กับงานในหลายวันมานี้ ก็ยืนอยู่หน้าประตูพูดเตือนสติด้วยความโกรธ : “คุณกู้ ฉันจะเตือนคุณให้นะ ความวุ่นวายที่นี่ผ่านไปแล้ว คุณอยู่บ้านอย่างสงบๆดีกว่า อย่าออกไปสร้างความเดือดร้อนให้คุณผู้ชายอีก”

ฉับพลันที่กู้ฉางฉิงได้ฟังคำพูดนี้ รอยยิ้มบนใบหน้าก็แข็งทื่อไปชั่วขณะ เดิมทีหัวใจที่สั่นไหวก็สงบลงทันที จนถึงขั้นสับสนอลหม่านเล็กน้อย

เธอมองในกระจกยังมีความดีใจที่เหลืออยู่เมื่อกี้นี้ ในแววตาเต็มไปด้วยความอันตราย

เพียงเพราะเธอพบว่าไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ เดิมทีเธอตัดสินใจแล้วว่าเธอจะอยู่ห่างๆ ก็ตกหลุมพรางลึกลงเรื่อยๆแล้ว

แม้ว่าจะเป็นมื้ออาหารหนึ่ง ก็เริ่มแต่งตัวเองไว้ล่วงหน้า อยากสวยที่สุดต่อหน้าเฟิงจิ่งเหยา

ทันใดนั้น หัวใจเธอก็สั่นไหวไม่หยุด

เพียงแต่ถูกปกปิดไว้เป็นอย่างดี

เธอเงยหน้ามองมั่วหลีที่มีสีหน้าเกลียดชังเธอ ยิ้มพูดว่า : “คุณมั่ววางใจเถอะ ฉันจะออกไปกับคุณผู้ชายของคุณ ดูเหมือนว่าคุณผู้ชายของคุณจะไม่ให้ฉันก่อเรื่องอย่างแน่นอน”

ถึงแม้ว่าเธออยากจะห่างเหินจากเฟิงจิ่งเหยา แต่สถานะของเธอในเวลานี้ไม่สามารถที่จะให้ใครยั่วยุได้ง่ายๆ

มั่วหลีถูกคำพูดของเธอทำให้จนปัญญาที่จะโต้แย้งกลับ ท้ายที่สุดก็ได้แต่จากไปด้วยสีหน้าไม่พอใจ

รอเธอออกไป กู้ฉางฉิงก็เก็บสายตากลับมาแล้วยิ้มเจื่อนๆ

เห็นบนเตียงถูกปกคลุมไปด้วยเสื้อผ้าที่เธอหยิบออกมาลอง

เธออดกลั้นความแปลกใจไว้ในใจ แล้วเก็บเสื้อผ้าเหล่านี้กลับไปในตู้ใหม่ ในเวลาเดียวกันก็บอกตนเองไม่หยุด เธอเป็นเจ้ามือในการเลี้ยงอาหาร เพราะเป็นการขอบคุณเฟิงจิ่งเหยาที่ช่วยเหลือเธอในหลายวันมานี้

เย็นในวันนั้น เฟิงจิ่งเหยาเลิกงานกลับมา กู้ฉางฉิงก็จัดการตนเองเสร็จเรียบร้อยแล้ว

แม้เธอจะไม่ได้ตั้งใจแต่ตัวตัวเองให้สุดความสามารถก็ตาม แต่เสน่ห์ที่อ่อนโยนสง่างามเฉพาะตัวนั้นทำให้ปราศจากปัญหา ทำให้คนเจริญหูเจริญตา

เฟิงจิ่งเหยาเห็นเธอนั่งอยู่ที่ห้องรับแขก ดูเหมือนว่ารอตนเองอยู่ หัวใจก็ดูเหมือนว่าถูกยัดด้วยปุยฝ้าย ทั้งอบอุ่นทั้งอ่อนโยน

เขาไม่ได้พบว่าตัวเขาเอง อารมณ์ที่แสดงออกบนใบหน้าของเขาอ่อนโยนขึ้นมาก

“ฉันกลับมาแล้ว รอฉันอาบน้ำแป๊ปหนึ่งนะ แล้วเราออกไปกัน”

เขาชี้แจงเบาๆ กู้ฉางฉิงพยักหน้า

ไม่นาน เขาก็เปลี่ยนชุดสูทแล้วเดินลงมา

“ไปกันเถอะ”

เขายื่นมือออกมาที่กู้ฉางฉิง ดูเหมือนว่าคิดจะจับมือเธอเดินออกไป

กู้ฉางฉิงมองมือตรงหน้าอย่างตกตะลึง เพียงแต่ยังคงยื่นมือตนเองออกไป

เฟิงจิ่งเหยากุมมือของเธอ อารมณ์บนใบหน้าอ่อนโยนมากขึ้น

แต่ไม่รู้ว่าฉากนี้สะเทือนใจมั่วหลีอย่างมาก

เธอมองคุณผู้ชายของตนเองพากู้ฉางฉิงหญิงชั่วคนนั้นขึ้นรถออกไปข้างนอก ก็อดไม่ได้ที่จะตามไป

ใครจะรู้ว่า ไม่รอให้เธอได้เอ่ยปาก ก็ถูกเฟิงจิ่งเหยาระงับไว้

“มั่วหลี คุณอยู่ที่บ้าน ไม่ต้องติดตามพวกเรา”

พูดจบ เฟิงจิ่งเหยาก็พากู้ฉางฉิงขึ้นรถ

มั่วหลีมองคนทั้งสองขับรถออกจากตระกูลเฟิง ใบหน้าก็บิดเบ้เสียโฉม

แต่ทว่าสิ่งเหล่านี้กู้ฉางฉิงพวกเขาไม่เห็น

หลังจากที่พวกเขาออกจากตระกูลเฟิง ก็ไปที่ร้านอาหารจีนร้านหนึ่งที่มีชื่อเสียงอย่างมากในเขตเมือง

การตกแต่งของร้านอาหารจีนร้านนี้สามารถพูดได้ว่าเป็นการตกแต่งที่ฉีกแนวจะร้านอาหารจีนแบบดั้งเดิม

มีทั้งหมดสามชั้น แต่ตรงกลางกลวง ตรงกลางเป็นต้นไม่มงคล และแต่ละชั้นมีระเบียงนอกชาน อีกทั้งโดยรอบยังประดับด้วยโคมไฟสีรุ้งไม่น้อย เป็นสถานที่ที่เหมาะกับมาออกเดทรับประทานอาหารกันอย่างมาก

เฟิงจิ่งเหยาเห็นการตกแต่งของร้านอาหารนี้ รวมทั้งคนที่รับประทานอาหารก็มาเป็นคู่ๆ ก็มองกู้ฉางฉิงอย่างแปลกใจ

กู้ฉางฉิงสังเกตได้ถึงสาบตาของเขา ว่าเข้าใจผิดแล้ว ก็เหวอไปเล็กน้อย

“ฉันได้ยินเพื่อนบอกว่าที่นี่เปิดร้านอาการที่มีคุณลักษณะพิเศษ ดังนั้นเลยอยากจะพาคุณมาชิมอาหารอร่อยๆ ถ้าคุณไม่ชิน เราก็เปลี่ยนร้านกัน”

เฟิงจิ่งเหยาได้ยิน ก็มองความผิดปกติบนใบหน้าของเธอ ก็ขมวดคิ้วขึ้นมาโดยไม่ได้ตั้งใจ

“ใครบอกว่าไม่ชิน?”

เขาพูดพลาง ก็บอกใบ้ให้บริกรพาเขาไปนั่ง

กู้ฉางฉิงมองเงาด้านหลังของเขาที่นั่งลง ก็รีบตามเข้าไป

คนทั้งสองนั่งตรงข้ามกัน ไม่นานก็สั่งอาหารเสร็จ

กู้ฉางฉิงนึกถึงจุดประสงค์ที่ตนเองจะเลี้ยงข้าว ก็ยกแก้วเหล้าข้างๆขึ้น กล่าวอย่างตื่นเต้นว่า: “เรื่องครั้งนี้ รบกวนคุณแล้ว”

เฟิงจิ่งเหยามองเธอ รับรู้โดยธรรมชาติว่าเธอพูดเรื่องอะไร ขมวดคิ้วขึ้นมาอีกครั้ง

“อันดับแรก นี่ฉันไม่ได้ช่วยคุณ รองลงมา ระหว่างพวกเราจำเป็นต้องแยกแยะให้ชัดเจนขนาดนี้เลยหรอ?”

เขามองกู้ฉางฉิงอย่างไม่ค่อยพอใจ

กู้ฉางฉิงนิ่งอึ้งไป จิตใต้สำนึกอยากจะตอบกลับตามความต้องการ

โชคดีที่สุดท้ายเธอก็ตอบสนอง เก็บคำพูดนี้กลับไป

ไม่เช่นนั้นเกรงว่ามื้ออาหารค่ำดีๆจะต้องถูกเธอทำลาย

เวลานี้เธอพูดไม่ออกว่าในใจรู้สึกอย่างไร ในความดีใจแฝงไปด้วยความเศร้าใจ แต่เธอก็ไม่อยากไปคิดชั่วคราว คิดเพียงว่าทานอาหารมื้อนี้กับเฟิงจิ่งเหยาให้เสร็จไปได้ด้วยดี

นี่คือเธอในฐานะกู้ฉางฉิงที่กล่าวขอบคุณเขาอย่างสุดซึ้ง ถึงเขาจะไม่รับรู้

“คุณพูดถูก พวกเราไม่ควรห่างเหินแบบนี้”

เธอพูดพลาง ก็รินเหล้าให้เฟิงจิ่งเหยาอย่างสนิทสนม

หลังจากนั้นคนทั้งสองก็พูดคุยกันเรื่อยเปื่อย ไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องนี้ บรรยากาศเข้ากันได้ดีอย่างมาก

เฟิงจิ่งเหยาก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความอ่อนโยนที่หาได้ยากของกู้ฉางฉิงหรือไม่ คืนนี้จึงดื่มเหล้าไปไม่น้อย เวลาผ่านไปครก็เมาเล็กน้อย

โชคดีที่กู้ฉางฉิงไม่ได้ดื่มเหล้าไปมาก ยังสามารถขับรถพาเขากลับไปได้

เธอประคองเฟิงจิ่งเหยาที่เดินโซเซกลับถึงบ้านใหม่ นำคนวางลงบนโซฟาอย่างหอบแฮ่กๆ จึงมีเวลาพักกายใจ

“พ่อบ้าน ให้ในครัวทำซุปแก้เมาค้างมาหน่อยค่ะ”

เธอผ่อนคลายครู่หนึ่งแล้ว ก็สั่งพ่อบ้านที่อยู่ด้านข้าง

พ่อบ้านพยักหน้า ไปห้องครัวทันที

พอเขาออกมา ในมือก็ถือถ้วยลายครามถ้วยหนึ่ง

“คุณนายรอง ซุปแก้เมาค้างเสร็จแล้วครับ”

กู้ฉางฉิงพยักหน้าแล้วรับมา วางแผนที่จะป้อนให้เฟิงจิ่งเหยาดื่มด้วยตนเอง

เธอใช้ริมฝีปากทดลองอุณหภูมิก่อน ทำให้เดิมทีริมฝีปากที่แดงระเรื่อยิ่งสวยหยาดเยิ้ม ปรารถนาอยากจะขย้ำอย่างมาก

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

Status: Ongoing
ก่อนแต่งงานแทนน้องสาวเข้าไปในตระกูลเฟิง กู้ฉางชิงได้ยินว่าเฟิงจิ่งเหยาเป็นคนที่เฉยเมย ต่อมาถึงได้รู้ว่าข่าวลือล้วนเป็นเรื่องโกหก คุณเฟิงไม่เพียงแต่ไม่เย็นชา กลับเป็นคนที่อบอุ่น แต่กระตือรือร้นเป็นพิเศษในการมีทายาท มีคนพูดเป่าหูต่อหน้าเขา “คุณเฟิง ก่อนคุณจะกลับประเทศ ในทุกๆคืนภรรยาของคุณจะไม่กลับบ้าน เพราะออกไปเมาข้างนอก” เฟิงจิ่งเหยา “หลังจากฉันกลับประเทศ ตอนค่ำภรรยาของฉันจะมาอยู่ที่ห้องฉัน ปรนนิบัติฉันไม่นอนทั้งคืน” มีคนพูดอีกว่า “ก่อนคุณจะกลับมา ภรรยาของคุณช้อปปิ้งทั้งวัน เปลี่ยนรถยี่ห้อหรูไม่หยุด แถมยังมีหนุ่มคอยอยู่เธอตลอดเวลา” เฟิงจิ่งเหยา พูดต่อว่า “หลังจากฉันกลับประเทศ บัตรเครดิตทุกใบของฉัน ฉันก็อยากให้ภรรยาฉันใช้ แต่เธอไม่ต้องการ ไปกลับจากที่ทำงานก็ให้ฉันไปรับแค่คนเดียว” สำหรับคนที่เย็นชา เมื่อมีภรรยาจะคลั่งรักเป็นพิเศษ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท