สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา – บทที่ 303 ตอนกลางคืนยังถูกคนรบกวนอีก

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

เฟิงจิ่งเหยาเห็นความงามเช่นนี้ ชั่วขณะก็ปากคอแห้งขึ้นมา

เขาดึงกู้ฉางฉิงเข้ามาในทันที กู้ฉางฉิงร้องอย่างตกใจ เอวของเธอถูกโอบกอด ให้อยู่ในอ้อมกอดอย่างแนบชิด ในขณะเดียวกันก็จับริมฝีปากคู่นั้นที่รบกวนความคิดไว้อย่างแม่นยำ

น้ำซุปแก้เมาค้างในมือของกู้ฉางฉิงหกแต่ก็ไม่สามารถหลุดพ้นจากการกักขังของชายตรงหน้าได้ ได้แต่คล้อยตามเขา

ทั้งสองจูบกันอย่างดูดดื่มบนโซฟา มั่วหลีเฝ้าดูอยู่ไม่ไกล ในแววตาก็อิจฉาจนไฟลุกโชน

เธอกำหมัดแน่น จนเล็บจิกเข้าเนื้อ นี่จึงไม่สูญเสียความสงบไป

และทั้งสองคนที่จูบกันอยู่นี้เดิมทีก็ไม่รู้ด้วยซ้ำ

ก็ไม่รู้ว่านานแค่ไหน เฟิงจิ่งเหยาดูเหมือนว่ายังไม่พอใจกับความหวานบนริมฝีปาก เขาปล่อยกู้ฉางฉิงด้วยอาการหายใจหอบเบาๆ กู้ฉางฉิงสติยังไม่กลับมา ลุกขึ้นมาจากโซฟา อุ้มเธอขึ้นมาราวกับเจ้าหญิง

ราตรียังอีกยาวนาน

……

วันต่อมา เมื่อกู้ฉางฉิงตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ดวงอาทิตย์อยู่สูงบนท้องฟ้าแล้ว

ข้างๆเธอก็ไม่มีเฟิงจิ่งเหยาแล้ว

เธอกัดฟันลุกขึ้นมาจากที่นอนทาทามิ รู้สึกราวกับว่ากระดูกทั้งตัวถูกรื้อออกมาแล้วประกอบเข้าไปใหม่ ก็โกรธเคืองอยู่ชั่วขณะ

รู้อย่างนี้เมื่อคืนจะไม่ให้เฟิงจิ่งเหยาดื่มเหล้า ดื่มเหล้าแล้วไม่มีความพอดีเลย

เธอบ่นไปด้วยอาบน้ำไปด้วย

ครึ่งชั่วโมงต่อมา แล้วคิดจะลงไปทานอาหารข้างล่าง

มั่วหลีเห็นว่ากู้ฉางฉิงตื่นสาย ยังเห็นได้ชัดว่าสีหน้านั้นดูสดชื่นขึ้นมา ในใจก็ริษยาอย่างมาก

“เป็นไปอย่างที่คิด นี่คือลูกสะใภ้ที่ดี ตะวันโด่งแล้ว เพิ่งจะตื่น ลำบากคุณผู้ชายของเราจริงๆ เหนื่อยล้าในตอนกลางวัน ตอนกลางคืนยังถูกคนรบกวนอีก”

เธอโมโห นั่งพูดอยู่บนโซฟา

กู้ฉางฉิงได้ยิน ก็หยุดฝีเท้าลง ทว่าขี้เกียจจะสนใจเธอ จึงหันกลับไปที่ห้องอาหาร

มั่วหลีมองกู้ฉางฉิงที่ออกไป ก็กัดฟันแน่น

นังสารเลวหน้าไม่อาย!

เธอด่าอยู่ในใจ กู้ฉางฉิงก็ไม่รู้

หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จ เธอก็ได้รับโทรศัพท์จากกู้หงเซิน ในแววตาหงุดหงิด แต่ยังคงรับสาย

“มีธุระอะไร?”

เธอถามออกไปอย่างเย็นชา

ก็ได้ยินเสียงที่เคร่งขรึมของกู้หงเซินดังขึ้น : “กู้ฉางฉิง ฉันต้องการให้คุณไปบอกเฟิงจิ่งเหยาให้หยุดควบคุมตัวลู่ซือหยี่ในตอนนี้เลย!”

กู้ฉางฉิงได้ฟังคำพูดนี้ ก็คิ้วขมวด สีหน้าเคร่งขรึม

“คุณหมายความว่ายังไง?”

“ฉันต้องการให้คุณหยุดก็คือหยุด จะถามมากมายทำไม?”

กู้หงเซินไม่พอใจ พูดอย่างหงุดหงิด

กู้ฉางฉิงแทบจะถูกคำพูดนี้ของเขาทำให้หัวเราะออกมา

“ขอโทษนะ ฉันทำไม่ได้หรอก ฉันไม่ใช่นักปราชญ์!”

เธอปฏิเสธด้วยน้ำเสียงเย็นชา รู้สึกว่ามีสิทธิ์อะไรที่เธอถูกรังแก แล้วจะต้องปล่อยตัวลู่ซือหยี่ไป

อีกทั้งตอนที่เธอถูกรังแก เขาผู้เป็นพ่อไม่ได้พูดออกหน้าเพื่อปกป้อง ตอนนี้ยังมาพูดประชดประชันอีก

กู้หงเซินได้ฟังคำพูดปฏิเสธของเธอ ชั่วขณะก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ รู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้เริ่มไม่เชื่อฟังมากขึ้นเรื่อยๆ

“กู้ฉางฉิง เรื่องนี้ คุณไม่ทำฉันก็จะทำ คุณไม่มีอำนาจตัดสินใจ!”

เขาทิ้งคำพูดดุเดือดไว้ แล้วก็วางสายไป

กู้ฉางฉิงมองโทรศัพท์ ก็โกรธอย่างมาก

เธอทำเสียงไม่พอใจ ไม่คิดจะสนใจ กลับไปที่ห้อง

เธอกลับไปที่ห้อง ยังคงเหนื่อยล้านิดหน่อย กลับมานอนอยู่บนที่นอนทาทามิสักพัก ดูข่าวบนมือถืออย่างเบื่อๆ

เวลานี้ ข่าวเศรษฐกิจก็ทำมห้เธอตกใจจนลุกขึ้นนั่ง

เห็นในข่าวเขียนว่า หุ้นของกู้ซื่อกรุ๊ปเริ่มตกลงตั้งแต่เมื่อวานนี้ จนถึงวันนี้ก็เกือบจะเลยขีดความปลอดภัยแล้ว

ในฉับพลันกู้ฉางฉิง มิน่าล่ะกู้หงเซินถึงอยากให้เธอช่วยขนาดนี้ เกรงว่าตระกูลู่จนปัญญาที่จะควบคุมเฟิงจิ่งเหยา ไม่สามารถจัดการเธอได้ จึงระบายความแค้นกับกู้หงเซิน

เธอเห็นสิ่งนี้ ยิ่งไม่คิดจะสนใจเรื่องนี้เลย

หลังจากพักผ่อนเสร็จ เธอก็ลุกขึ้นอีกครั้ง แล้วเข้าสู่สภาวะการทำงาน

ถึงตอนบ่าย เธอมองภาพวาดต้นฉบับการออกแบบสองสามชิ้น ก็วางแผนที่จะไปบริษัทนำผ้ากลับมาเขียนแบบ

แต่ไม่คาดคิดว่าเมื่อเธอเดินจะไปนั่งรถ ทันใดตรงหน้าก็มีรถตู้คันหนึ่งมาจอด

เสียง’ตึง’ ประตูรถถูกเปิดออก บอดี้การ์ดชุดดำสองคนลงมาจากด้านใน

“พวกคุณเป็นใคร?”

ชัดเจนว่ากู้ฉางฉิงมองออกว่าพวกเขามุ่งเป้ามายังตนเอง กล่าวถามด้วยสีหน้าที่เปลี่ยนไปเล็กน้อย

“คุณกู้ คุณนายของพวกเราอยากเชิญคุณดื่มชา เชิญขึ้นรถกับพวกเราเถอะ!”

ชายที่เป็นหัวหน้าจ้องมองกู้ฉางฉิงอย่างเคร่งขรึม

กู้ฉางฉิงจะสามารถตามพวกเขาไปได้ยังไง เห็นได้ชัดว่าไม่เป็นผลดี

เวลาเดียวกัน มั่วหลีที่อยู่ด้านหลังที่ตามกู้ฉางฉิงมาก็พบความผิดปกตินี้

แต่เธอก็ไม่ได้เข้ามาทันที แต่ยืนมองอยู่ข้างๆ

ไม่ใช่เธออยากจะฝ่าฝืนคำสั่งของเฟิงจิ่งเหยา แต่เธออยากให้กู้ฉางฉิงต้องทุกข์ทรมาน

กู้ฉางฉิงไม่รู้ความคิดนี้ของเธอ เห็นเธอไม่เคลื่อนไหวอยู่นาน ก็เข้าใจว่าผู้หญิงคนนี้ไม่คิดจะยุ่งเรื่องนี้

เวลาเดียวกันในใจก็โมโหขึ้นมา ก็ระงับให้ตนเองใจเย็น

เธอเริ่มคิดที่จะช่วยเหลือตนเอง พบว่านี่เธออออกจากตระกูลเฟิงมาได้ไม่ไกล เพียงแค่วิ่งก็ถึงหน้าประตูแล้ว คาดว่าคนเหล่านี้ก็ไม่กล้าจี้เอาตัวไป

“ได้ ฉันจะไปกับพวกคุณ”

เธอแสร้งทำเป็นพูดเห็นด้วยกับคนเหล่านั้น หยิบกระเป๋าเตรียมจะขึ้นรถ

แต่ชั่วพริบตาที่เข้าใกล้ประตูรถ ทันใดก็นำกระเป๋าในมือฟาดไปยังบอดี้การ์ด แล้วหันตัววิ่งหนี

เพราะให้วิ่งได้เร็ว เธอก็ถอดรองเท้าทิ้ง

บอดี้การ์ดเหล่านั้นไม่คาดคิดว่าเรื่องราวจะกลายเป็นแบบนี้ นิ่งอึ้งเล็กน้อยแล้วจึงตอบสนองกลับมา

“ตามไป!”

หัวหน้าบอดี้การ์ดโยนกระเป๋าถือทิ้งด้วยความโมโห แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด

กู้ฉางฉิงได้ยินเสียงนี้ ก็มองบอดี้การ์ดสองสามคนด้านหลังอีกครั้ง ใบหน้าก็ตื่นตระหนกขึ้นมาอย่างฉับพลัน พยายามวิ่งหนีสุดชีวิต

อย่างไรก็ตามความแข็งแกร่งทางกายภาพของชายและหญิงนั้นถูกกำหนดไว้แล้ว

ไม่ว่ากู้ฉางฉิงจะแข็งแรงมากแค่ไหน ก็ยังถูกบอดี้การ์ดมืออาชีพเหล่านั้นจับได้อย่างสบายๆ

“คุณกู้ นี่คุณพูดดีดีไม่ฟังต้องให้บังคับ ก็อย่าหาว่าพวกเราลงมือไปไม่เหมาะสมแล้วกัน”

สีหน้าของหัวหน้าบอดี้การ์ดจ้องมองกู้ฉางฉิงอย่างเคร่งขรึม

พูดจบ เขาก็ส่งสายตาให้ลูกน้อง

เห็นกู้ฉางฉิงจะถูกจับตัวไป ในที่สุดเวลนี้มั่วหลีก็ปฏิบัติการ

เธอต้องการให้กู้ฉางฉิงซวย แต่ไม่ได้หมายความว่าจะยอมให้เธอถูกคนอื่นพรากจากไป

เธอถีบออกไปแล้วคว้ากู้ฉางกู้ฉางฉิงจากบอดี้การ์ด คว้ากู้ฉางฉิงแล้ววิ่งไปยังตระกูลเฟิง

“ขวางพวกเขาไว้!”

ชายหัวหน้าสั่งการอย่างเคร่งขรึม

ทันใดนั้น ชายร่างใหญ่สี่ห้าคนก็ปิดล้อมคนทั้งสอง

“หาทางหนี!”

มั่วหลีเห็นบอดี้การ์เที่เข้ามาล้อม ก็ผลักกู้ฉางฉิงแล้วสั่งด้วยน้ำเสียงเย็นชา

กู้ฉางฉิงมองด้านหลังของเธอ ในสายตาก็เต็มไปด้วยความสับสน

เธอคิดว่าผู้หญิงคนนี้ไม่สนใจเธอ แต่เหมือนกับเธอจะมองในแง่ร้ายมากเกินไป

เพื่อไม่เพิ่มภาระให้กับมั่วหลี เธอวางแผนที่จะไปที่ตระกูลเฟิงเพื่อขอความช่วยเหลือ

ใครจะคาดคิด บอดี้การ์เหล่านั้นก็แยกคนออกมาสองคน

พวกเขาส่วนหนึ่งพัวพันอยู่กับมั่วหลี แล้วคนสองคนก็ไปจับตัวกู้ฉางฉิง

มั่วหลีสังเกตเห็นถึงเจตนาของบอดี้การ์ดเหล่านี้ แต่ก็สายไปแล้ว

บอดี้การ์ดเหล่านั้นไล่ตามไปคว้ากู้ฉางฉิงได้อย่างง่ายดาย และยังจับคนไปอีก

“ปล่อยฉัน!”

กู้ฉางฉิงต่อสู้ดิ้นรน แต่ก็เปล่าประโยชน์

มั่วหลีเห็น ในสายตาก็กระวนกระวาย

ในที่สุดกู้ฉางฉิงก็ถูกจับตัวไป เธอจนปัญญาที่จะชี้แจ้งกับคุณผู้ชายโดยสิ้นเชิง

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

Status: Ongoing
ก่อนแต่งงานแทนน้องสาวเข้าไปในตระกูลเฟิง กู้ฉางชิงได้ยินว่าเฟิงจิ่งเหยาเป็นคนที่เฉยเมย ต่อมาถึงได้รู้ว่าข่าวลือล้วนเป็นเรื่องโกหก คุณเฟิงไม่เพียงแต่ไม่เย็นชา กลับเป็นคนที่อบอุ่น แต่กระตือรือร้นเป็นพิเศษในการมีทายาท มีคนพูดเป่าหูต่อหน้าเขา “คุณเฟิง ก่อนคุณจะกลับประเทศ ในทุกๆคืนภรรยาของคุณจะไม่กลับบ้าน เพราะออกไปเมาข้างนอก” เฟิงจิ่งเหยา “หลังจากฉันกลับประเทศ ตอนค่ำภรรยาของฉันจะมาอยู่ที่ห้องฉัน ปรนนิบัติฉันไม่นอนทั้งคืน” มีคนพูดอีกว่า “ก่อนคุณจะกลับมา ภรรยาของคุณช้อปปิ้งทั้งวัน เปลี่ยนรถยี่ห้อหรูไม่หยุด แถมยังมีหนุ่มคอยอยู่เธอตลอดเวลา” เฟิงจิ่งเหยา พูดต่อว่า “หลังจากฉันกลับประเทศ บัตรเครดิตทุกใบของฉัน ฉันก็อยากให้ภรรยาฉันใช้ แต่เธอไม่ต้องการ ไปกลับจากที่ทำงานก็ให้ฉันไปรับแค่คนเดียว” สำหรับคนที่เย็นชา เมื่อมีภรรยาจะคลั่งรักเป็นพิเศษ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท