สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา – บทที่ 306 แลกเปลี่ยนตัวประกัน

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

ู้ฉางฉิงนอนอยู่บนเบาะด้วยใบหน้าซีดเซียว ในแววตาสิ้นหวัง

เวลานี้ บนหัวของเธอมีเสียงหัวเราะเบาๆ

“ใคร?”

เธอเอ่ยถามอย่างตื่นตระหนก ตามองไปรอบๆ ในที่สุดก็พบจ่านสิงเทียนใกล้ๆประตูรถ

เมื่อกี้เธอคิดแต่จะสังเกตุดูภายนอก เลยไม่ได้สนใจคนรอบข้าง

ยังไม่รอให้เธอได้พูดอีกครั้ง จ่านสิงเทียนก็แย่งพูดก่อนว่า : “คุณกู้ ถ้าฉันเป็นคุณ เวลานี้จะประหยัดพละกำลังอันน้อยนิดนี่ไว้”

กู้ฉางฉิงเม้มปาก ถามว่า : “คุณจะพาฉันไปไหน?”

จ่านสิงเทียนยับยั้งไว้ ยิ้มพูดว่า : “อีกสักครู่ คุณกู้ก็จะรู้”

เขาพูดจบ ก็ไม่ได้สนใจกู้ฉางฉิง เอนหลังบนเบาะหลับตาพักผ่อน

กู้ฉางฉิงรู้สึกได้ถึงอันตรายที่แผ่ออกมาจากชายคนนี้ ชั่วขณะก็ไม่กล้าถามมาก

บวกกับความเจ็บปวดบนร่างกายทำให้เธอต้องอดทนจนถึงที่สุด อยู่ในอาการสะลึมสะลือหมดสติอีกครั้ง

เธอหมดสติไปไม่นาน รถคันก็จอดอยู่ในโรงงานร้างชานเมือง

“Boss พวกเฟิงจิ่งเหยาอยู่ที่โรงงานแล้ว”

ลูกน้องคนหนึ่งรีบมารายงานหลังจากตรวจสอบสถานการณ์โดยรอบแล้ว : “โดยรอบไม่ทีการดักซุ่มโจมตี เฟิงจิ่งเหยาพาบอดี้การ์ดมาสองสามคน”

จ่านสิงเทียนพยักหน้า โบกมือให้ลูกน้องออกไป แล้วหันมองกู้ฉางฉิงที่หมดสติอยู่บนเบาะ

เขาไม่ได้อ่อนโยนต่อผู้หญิงเลย ลากกู้ฉางฉิงที่ไม่ได้สติลงจากรถ เดินไปทางโกดัง

ในโกดัง ลู่ซือหยี่อยากจะพูดคุยกับเฟิงจิ่งเหยาหลายครั้ง แต่เฟิงจิ่งเหยาไม่ได้สนใจเธอเลย

เธอถูกบอดี้การ์ดสองคนควบคุมไว้ จนปัญญาที่จะเดินไปตรงหน้าเฟิงจิ่งเหยา ได้แต่ยืนโมโหอยู่กับที่

ไม่นาน เธอก็เห็นว่ามีคนเดินมาจากนอกโกดัง

เมื่อเธอเห็นชายคนนั้นเดินเข้ามา บนใบหน้าก็มีความตกตะลึงและตื่นตระหนก

เฟิงจิ่งเหยาก็สังเกตเห็นว่ามีคนมา

แต่สายตาของเขาไม่ได้อยู่ที่ชายคนนั้น แต่เป็นร่างของกู้ฉางฉิงที่ถูกเขาจับอยู่ในมือ

แค่เห็นกู้ฉางฉิงกระอักกระอ่วนไปทั้งตัว เดิมทีแก้มที่มีเลือดฝาดตอนนี้ก็ซีดเผือดอย่างผิดปกติ หน้าผากเต็มไปด้วยเหงื่อ ขมวดคิ้วแน่น ดูเหมือนอดทนต่อความเจ็บปวดทรมาน

เขาเห็นสีหน้าก็เคร่งขรึมลง ความดุร้ายค่อยๆรวบรวมกันในแววตา

“ตอนนี้ก็แลกเปลี่ยนตัวประกันได้!”

เขาไม่สนใจตัวตนของจ่านสิงเทียน เสนอข้อตกลงทันที

จ่านสิงเทียนแปลกใจเล็กน้อย แต่ไม่ได้คัดค้าน

เขาส่งสายตาให้ลูกน้องที่อยู่ข้างๆ ให้เขาพากู้ฉางฉืงไปส่ง

ในเวลาเดียวกันมั่วหลีกํนำลู่ซือหยี่มาส่งให้พวกเขาเช่นกัน

ช่วงเวลาไม่ถึงสามนาที ก็แลกเปลี่ยนกันเสร็จ

เฟิงจิ่งเหยาประคองกู้ฉางฉิงที่ถูกส่งกลับมา ตบๆแก้มเธอเบาๆ “ฉางซิน ตื่นตื่น”

กู้ฉางฉิงไม่มีปฏิกิริยาใดๆตอบกลับ หัวก็เอียงไปด้านข้าง ในขณะเดียวกันก็เผยให้เห็นบาดแผลจากแส้ที่ซ่อนอยู่ภายใต้เสื้อผ้า

เฟิงจิ่งเหยาอดไม่ได้ที่จะตกใจ ก็ต้องการตรวจสอบโดยจิตใต้สำนึก ทว่าทำมห้กู้ฉางฉิงเจ็บปวด ทำให้เธอร้องออกมาทั้งๆที่หมดสติ

เขาเยือกเย็นลงในชั่วพริบตา อุ้มกู้ฉางฉิงขึเนแล้วเดินไปด้านนอก

“มั่วหลี ออกรถ ไปโรงพยาบาล

ในน้ำเสียง นำพาด้วยความกังวลใจโดยที่เขาเองไม่ทันสังเกตเห็น

ลู่ซือหยี่เห็นเขาออกไป ใบหน้าก็เต็มไปด้วยความริษยาและไม่ยินยอม

เวลานี้ ใบหน้าของเธอก็ถูกบีบจนแน่น

“เจ็บ——”

เธอร้องด้วยดวงตาที่แดงกล่ำ แก้มขาวๆถูกบีบจนเปลี่ยนรูปร่าง

“คุณผู้หญิง คุณลืมคำเตือนของฉันไปแล้วใช่ไหม?”

จ่านสิงเทียนสีหน้าเคร่งขรึม ถามด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด : “ใครให้คุณใจกล้า มองผู้ชายคนอื่นต่อหน้าฉัน?”

ลู่ซือหยี่เห็นเช่นนี้ ในใจก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัว

เธออดไม่ได้ที่จะโมโหในใจ รีบส่ายหัวซ้ำๆ

“ฉันเปล่า ฉันแค่ไม่ยินดีที่จะปล่อยนังสารเลวนั่นไปเช่นนี้!”

ใจเธอรู้ว่าผู้ชายคนนี้ไม่เชื่อ จึงหาข้ออ้างปิดบัง

จ่านสิงเทียนจ้องมองเธอ เห็นในสายตาเธอไม่ได้ปกปิดอะไร จึงปล่อยเธอ

“จำไว้ ตอนนี้คุณเป็นผู้หญิงของฉัน ถ้าฉันเห็นคุณมองผู้ชายคนอื่นอีก ฉันจะควักดวงตาคุณออกมา!”

ลู่ซือหยี่ได้ฟัง ก็อดตัวสั่นไม่ได้ ในใจยิ่งเดือดดาลไม่หยุด แต่ไม่กล้าโต้แย้ง

เพราะเธอรู้ว่าผู้ชายคนนี้พูดจริงทำจริง

ช่วงเวลาหนึ่ง เธอรู้สึกอัดอั้นตันใจ

แน่นอนว่าจ่านสิงเทียนสังเกตเห็นได้ โอบเธอเดินเดินไปยังด้านนอกอย่างตบหัวแล้วลูบหลัง

“คุณไม่ต้องรู้สึกน้อยใจ แม่ของคุณสั่งสอนผู้หญิงคนนั้นแทนคุณแล้ว!”

เขาพูดพลาง ก็เอ่ยเรื่องที่แม่ลู่ใช้แส้ตีกู้ฉางฉิงเล่าให้ฟังเล็กน้อย ลู่ซือหยี่จึงคลายความอาฆาตแค้นไปเล็กน้อย

……

ทางด้านเฟิงจิ่งเหยารีบไปโรงพยาบาลทันที

เพราะรถขับเร็วมาก ทำให้โคลงเคลงเล็กน้อย บาดแผลบนร่างกายที่ถูกตีด้วยแส้ของกู้ฉางฉิงฉีกขาดเล็กน้อย มีเลือดซิบๆซึมออกมา

เฟิงจิ่งเหยียนสังเกตเห็น สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที

“ขับเร็วหน่อย แล้วเอาฉากกั้นลงมา”

เขาสั่งด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม ในขณะเดียวกันก็ปลดเสื้อผ้าของกู้ฉางฉิงออกด้วยความกังวลใจที่เขาไม่ทันสังเกต

รอยตีด้วยแส้ที่ลายพร้อยปรากฎต่อสายตาของเขาในชั่วพริบตา ทำให้เขาต้องตกตะลึง ความดุร้ายในใจก็ทะยานขึ้น

“ตระกูลลู่ ดีมาก ดีอย่างมาก!”

เขากัดเขี้ยวเคี้ยวฟัน แล้วสวมเสื้อผ้าให้กู้ฉางฉิงใหม่อีกครั้ง

กู้ฉางฉิงไม่รู้เรื่องเหล่านี้ แล้วก็ไม่รู้ว่าเพราะได้กลิ่นที่คุ้นเคยบนร่างกายของเขาหรือไม่จึงคว้ามุมเสื้อของเขาไว้แน่น พูดพึมพำเบาๆอย่างเจ็บปวดทรมาน “เฟิงจิ่งเหยา ฉันเจ็บ”

เฟิงจิ่งเหยามองใบหน้าที่ซีดเผือดของเธอ หัวใจก็เจ็บปวด

“เชื่อฟังนะ เดี๋ยวก็ไม่เจ็บแล้ว อดทนอีกหน่อยนะ”

เขาสัมผัสที่ศีรษะของเธอ กล่าวปลอบโยนเบาๆ

กู้ฉางฉิงสะลึมสะบือฟังไม่ชัดเจนว่าเขาพูดอะไร แต่สังเกตเห็นว่าคนที่อยู่ข้างกายคือเฟิงจิ่งเหยา จึงผ่อนคลายลงมาแล้วอิงซบอยู่ในอ้อมกอดของเขา

เฟิงจิ่งเหยาได้ยินลมหายใจที่มั่นคงของเธอแล้ว ก็รู้ว่าปลอบขวัญได้แล้ว จึงหยิบมือถือโทรไปยังชวี่ยี่

“ชวี่ยี่ ฟ้องร้องลู่ซื่อกรุ๊ปทันทีในข้อหาลักพาตัวและฆาตกรรมโดยเจตนา!”

“ครับ!”

ชวี่ยี่ได้ฟังคำพูดที่เต็มไปด้วนความโกรธแค้นของเฟิงจิ่งเหยา ก็ไม่กล้าเบนความสนใจแม้แต่น้อย ตอบรับด้วยเสียงเคร่งขรึม

เฟิงจิ่งเหยากล่าวต่อไปว่า: “ทำเรื่องเหล่านี้เสร็จ ส่งข้อมูลที่รวบรวมไว้ก่อนหน้านี้ให้กระทรวงยุติธรรม รายงานลู่หงกั๋วต่อทางรสชการโดยไม่ออกนาม ฉันต้องการให้หลังจากวันนี้ไป ไม่มีตระกูลลู่ในเมืองหลวงอีกต่อไป!”

ชวี่ยี่ตกตะลึง ในสายตาเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ แต่ก็ดึงสติกลับมาอย่างรวดเร็วแล้วตอบรับว่า: “ครับ!”

เฟิงจิ่งเหยาจัดการเรื่องเหล่านี้เสร็จ ก็ถึงโรงพยาบาลแล้ว

เขาอุ้มกู้ฉางฉิงลงจากรถอย่างรวดเร็ว มุ่งตรงไปยังห้องฉุกเฉิน

หลี่ม่านที่ตามหลังมา เห็นความกังวลจากด้านหลังของเขา ก็อดกลั้นไฟอิจฉาในใจไว้ไม่อยู่

น่ารังเกียจจริงๆ ทำไมผู้หญิงคนนั้นถึงไม่ตายที่ตระกูลลู่นะ!

เฟิงจิ่งเหยาไม่ได้สังเกตเห็นถึงสายตาที่ดุร้ายของเธอ อุ้มกู้ฉางฉิงไปให้หมอตรวจทันที

“ประธานเฟิง คุณผู้หญิงท่านนี้มีบาดแผลแส้บนร่างกายอย่างมาก บาดแผลก็ลึกอย่างมาก อาจจะมีการติดเชื้อได้ เห็นว่าต้องนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล”

ก็ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน หมอก็ตรวจเสร็จ เดินออกมาบอกอาการด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

เฟิงจิ่งเหยาได้ยิน สีหน้าก็ไม่น่าดูถึงที่สุด

มั่วหลี อดไม่ได้ที่จะยิ้มมุมปาก แต่ก็ถูกเธอซ่อนเร้นอย่างรวดเร็ว

“คุณผู้ชาย ฉันจะไปช่วยทำขั้นตอนการนอนโรงพยาบาลให้คุณนายรอง”

เธอเอ่ยปาก เฟิงจิ่งเหยาพยักหน้า

“จัดการขั้นตอนเสร็จ คุณก็กลับไปเอาเสื้อที่ใช้เปลี่ยนของกู้ฉางฉิงมาด้วย”

มั่วหลีตกตะลึง ในใจก็ขัดขืนอย่างมาก แต่ยังพยักหน้าตอบรับ

กู้ฉางฉิงถูกส่งไปยังห้องผู้ป่วย

เฟิงจิ่งเหยาเห็นกู้ฉางฉิงหลับสนิท ก็หยิบมือถือวางแผนที่จะติดต่อชวี่ยี่ถามถึงเรื่องแผนการทำงาน

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

Status: Ongoing
ก่อนแต่งงานแทนน้องสาวเข้าไปในตระกูลเฟิง กู้ฉางชิงได้ยินว่าเฟิงจิ่งเหยาเป็นคนที่เฉยเมย ต่อมาถึงได้รู้ว่าข่าวลือล้วนเป็นเรื่องโกหก คุณเฟิงไม่เพียงแต่ไม่เย็นชา กลับเป็นคนที่อบอุ่น แต่กระตือรือร้นเป็นพิเศษในการมีทายาท มีคนพูดเป่าหูต่อหน้าเขา “คุณเฟิง ก่อนคุณจะกลับประเทศ ในทุกๆคืนภรรยาของคุณจะไม่กลับบ้าน เพราะออกไปเมาข้างนอก” เฟิงจิ่งเหยา “หลังจากฉันกลับประเทศ ตอนค่ำภรรยาของฉันจะมาอยู่ที่ห้องฉัน ปรนนิบัติฉันไม่นอนทั้งคืน” มีคนพูดอีกว่า “ก่อนคุณจะกลับมา ภรรยาของคุณช้อปปิ้งทั้งวัน เปลี่ยนรถยี่ห้อหรูไม่หยุด แถมยังมีหนุ่มคอยอยู่เธอตลอดเวลา” เฟิงจิ่งเหยา พูดต่อว่า “หลังจากฉันกลับประเทศ บัตรเครดิตทุกใบของฉัน ฉันก็อยากให้ภรรยาฉันใช้ แต่เธอไม่ต้องการ ไปกลับจากที่ทำงานก็ให้ฉันไปรับแค่คนเดียว” สำหรับคนที่เย็นชา เมื่อมีภรรยาจะคลั่งรักเป็นพิเศษ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท